Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

A beautiful mind, บรรณานุกรม กรมสุขภาพจิต.(2562).รู้ใช้ พรบ.สุขภาพจิต…

- - - - ทำร้ายตนเอง
      - ทำร้ายผู้อื่น
  - - - คิดว่าตนเองเป็นบุคคลสำคัญ เป็นสายลับ
      - คิดว่าเพื่อนเข้าหาเพื่อต้องการจะกลั่นแกล้ง
  - - - เกิดภาพหลอนคิดว่าตนเองมีรหัสลับฝังไว้ที่ข้อมือ
      - เกิดเพื่อนในจิตนาการ
      - คิดว่ามีคนสะกดรอยตาม
- - - - ระบบการทำงานของสมอง
      - การถ่ายทอดทางพันธุกรรม
      - วิธีการเลี้ยงดูของพ่อแม่
      - การเผชิญเหตุการณ์เลวร้ายที่ทำให้ฝังใจตั้งแต่วัยเด็ก
      - บุคลิกภาพส่วนตัวที่เสี่ยงทำให้เกิดโรคกลัวการเข้าสังคม
    - - ทางอารมณ์และความคิด
        
        รู้สึกประหม่าและหวาดกลัวทุกครั้งที่ต้องพูดคุยกับคนอื่น
        
        วิตกกังวลเป็นอย่างมากว่าคนรอบตัวจะคิดอย่างไรกับตนเอง เช่น วิพากษ์วิจารณ์ตนเอง
        
        มเครียดล่วงหน้าเป็นวัน หรือเป็นสัปดาห์ เมื่อรู้ว่า ต้องปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณชน
      - การแสดงออกทางร่างกาย
        
        อาย หน้าแดง เขินจนบิด
        
        ไม่กล้าสบตา
        หายใจหอบถี่และเร็ว
        
        รู้สึกปั่นป่วนในท้อง บางรายถึงกับอาเจียน
        
        แน่นหน้าอก
    - - จิตบำบัด
        
        การบำบัดแบบปรับเปลี่ยนความคิดและพฤติกรรม (Cognitive Behavior Therapy: CBT)
        
        ผู้ป่วยสามารถระบุสาเหตุของอาการกลัวได้ รวมถึงเรียนรู้วิธีแก้ไขปรับเปลี่ยนความคิด และการกระทำที่ก่อให้เกิดความวิตกกังวล
      - ยา
        
        ลดอาการซึมเศร้า (Antidepressants) และยาระงับความวิตกกังวล (Anti Anxiety)อาจส่งผลให้ผู้ป่วยเกิดภาวะติดยา และเมื่อหยุดใช้ยาก็อาจกลับมาเป็นโรคนี้ซ้ำ
  - - - อาการหลงผิด
        
        ปักใจเชื่อในบางสิ่งบางอย่างอย่างฝังแน่น ไม่ว่าจะมีใครมาชี้แจงหรือมีหลักฐานคัดค้านที่เห็นชัดว่าสิ่งที่เขาเชื่อนั้นผิด
        
        เช่น เชื่อว่าตนเองถูกกลั่นแกล้ง มีคนปองร้าย
      - อาการประสาทหลอน
        
        เกิดในชีวิตประจำวัน
        
        ห็นคนที่คุ้นเคยมาพูดด้วย หรือได้ยินแต่เสียง หรืออาจเป็นภาพแปลกๆ เช่น เห็นเทพ
        
        ด้าน รูป รส กลิ่น เสียง และสัมผัส
        
        หูแว่ว ภาพหลอน หรือรู้สึกว่ามีอะไรมาชอนไชตามผิวหนัง
      - ลักษณะอาการ
        
        ระยะเริ่มมีอาการ
        
        กมีปัญหาในด้านหน้าที่ความรับผิดชอบ หรือด้านสัมพันธภาพ
        
        เก็บตัวมากขึ้น อาจขลุกตัวอยู่แต่ในห้อง
        
        หันไปสนใจเรื่องทางด้านปรัชญา ศาสนา จิตวิทยา หรือเรื่องของไสยศาสตร์
        
        มกมุ่นกับบางสิ่งบางอย่างอย่างมาก
        
        เหม่อลอย
        
        มีความคิด คำพูด หรือบางครั้งมีพฤติกรรมที่ดูแล้วแปลกๆ แต่ก็ไม่ถึงกับผิดปกติชัดเจน
        
        ระยะอาการกำเริบ
        
        อาการหลงผิด หูแว่ว วุ่นวาย ก้าวร้าว หรือพูดแล้วคนอื่นฟังไม่เข้าใจ
        
        จะกำเริบเมื่อผู้ป่วยเผชิญกับความกดดันทางจิตใจ
    - - กรรมพันธุ์
      - ระบบสารเคมีในสมอง
        
        dopamine ในสมองมากเกินไป
      - ความผิดปกติในส่วนอื่นๆ ของสมอง
        
        มีช่องในสมอง (ventricle) โตกว่าปกติ ทำให้มีอาการด้านลบเป็นอาการเด่น
      - อื่นๆ
        
        สภาพกดดันบางประการทำให้เกิดอาการของโรคจิตเภท
        
        ยาหรือสารต่างๆ รวมกัน
    - - ยากิน
        
        ระยะควบคุมอาการ
        
        การควบคุมอาการให้สงบลงโดยเร็ว
        
        มักเห็นผลภายในสัปดาห์แรก บางรายแค่ 3-4 วันก็ดีขึ้น
        
        ระยะให้ยาต่อเนื่อง
        
        ป้องกันมิให้กลับมามีอาการกำเริบขึ้นมาอีก
      - ยาฉีด
        
        3-4 ครั้ง/สัปดาห์
      - การรักษาด้วยไฟฟ้า
        
        การรักษาจะทำวันเว้นวัน เช่น วันจันทร์-พุธ-ศุกร์ ทำทั้งหมดประมาณ 10-12 ครั้ง อาจมากน้อยกว่านี้ก็ได้ตามแต่ที่แพทย์เห็นว่าผู้ป่วยอาการเป็นอย่างไร
  - - - ไม่ไว้ใจใครง่าย ๆ ระแวดระวังผู้อื่นตลอดเวลา
      - คิดว่าคนอื่นจะทำร้ายหรือพูดถึงตนเองในทางเสียหาย
      - มีพฤติกรรมก้าวร้าว
      - มองโลกในแง่ร้าย
      - หงุดหงิดหรือโกรธง่าย
    - - ปัญหาสุขภาพจิต เช่น รู้สึกวิตกกังวล ซึมเศร้า หรือมีความเชื่อมั่นในตัวเองต่ำ
      - โรคบุคลิกภาพผิดปกติแบบหวาดระแวง
        
        คิดว่าคนอื่นหวังผลประโยชน์จากตน อีกทั้งกังวลว่าจะมีคนทำร้ายหรือหักหลังอยู่เสมอ
      - ผลข้างเคียงจากการใช้ยาและสารเสพติด
      - ภาวะพักผ่อนไม่เพียงพอ
        
        กระตุ้นให้เกิดความรู้สึกไม่ปลอดภัย หวาดระแวง
    - - จิตบำบัด
      - ยา
      - ฝึกทักษะในการเผชิญความเครียด
  - - - หลงผิดว่าถูกปองร้าย
      - หลงผิดว่าตนมีความสามารถเกินความจริง เช่น มีพลัง อำนาจ
      - หลงผิดเกี่ยวกับร่างกายของตนเอง เช่น ร่างกายมีกลิ่นเหม็น
      - หลงผิดว่าคู่รักของตนนอกใจ
    - - สมองทำงานผิดปกติ
      - มีความเครียดสูงหรือผู้ที่มีความโดดเดี่ยว
      - กิดจากการดื่มแอลกอฮอล์และการใช้สารเสพติด
    - - ยา
        
        ระงับจิต
        
        กล่อมประสาท
        
        ต้านเศร้า
      - บัดบัดแบบครอบครัว
      - เข้าร่วมกลุ่มช่วยเหลือตนเอง
- - - - ปรึกษาเจ้าหน้าที่สาธารณสุข โทรสายด่วนสุขภาพจิต 1323
      - พิจรราแล้วยังเสี่ยง ให้ส่งต่อรักษาโรงพยาบาล
    - - อันตรายต่อตนเองและผู้อื่น ควรได้รับการบำบัด
      - โทรแจ้งสายด่วนการแพทย์ฉุกเฉิน 1669 หรือดำรวจ 191