Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่ 5 การพยาบาลผู้ป่วยวิกฤตที่ใช้เทคโนโลยี และยาที่ใช้บ่อยใน ICU -…
บทที่ 5
การพยาบาลผู้ป่วยวิกฤตที่ใช้เทคโนโลยี
และยาที่ใช้บ่อยใน ICU
การพยาบาลผู้ป่วยที่ใช้เครื่องช่วยหายใจและการหย่าเครื่องช่วยหายใจ
ข้อบ่งชี้การใช้เครื่องช่วยหายใจ
ภาวะพร่องออกซิเจน (oxygenation failure)
ความล้มเหลวของการระบายอากาศ (ventilation failure)
กล้ามเนื้อกะบังลมไม่มีแรง (diaphragm fatigue)
ระบบไหลเวียนโลหิตในร่างกายผิดปกติ
ภาวะแทรกซ้อนจากการใช้เครื่องช่วยหายใจ
ผลต่อระบบหัวใจและไหลเวียนเลือด
การบาดเจ็บของปอดจากการใช้ปริมาตรการหายใจที่สูงเกินไป(Pulmonaryvolutrauma)
ภาวะถุงลมปอดแตก(Pulmonarybarotrauma)
การบาดเจ็บของทางเดินหายใจ(Artificialairwaycomplication)
ภาวะปอดแฟบ(Atelectasis)
การเกิดปอดอักเสบจากการใช้เครื่องช่วยหายใจ (Ventilator Associated Pneumonia; VAP)
ภาวะพิษจากออกซิเจน(Oxygentoxicity)
ระบบทางเดินอาหาร พบได้บ่อย ได้แก่ การเกิดแผลหรือภาวะเลือดออกในทางเดินอาหาร
ผลต่อภาวะโภชนาการเน
การพยาบาลผู้ป่วยที่ใช้เครื่องช่วยหายใจ
การดูแลด้านจิตใจ ผู้ป่วยที่ใส่เครื่องช่วยหายใจขณะที่ยังรู้สึกตัว
การดูแลด้านร่างกาย
1) ประเมินสภาพผู้ป่วยและภาวะแทรกซ้อน
2) การดูแลท่อหลอดลมและความสุขสบายในช่องปากของผู้ป่วย
3) การป้องกันไม่ให้เกิดการอุดกั้นของทางเดินหายใจ
4) การดูแลให้เครื่องช่วยหายใจทํางานอย่างมีประสิทธิภาพ
5) การป้องกันภาวะปอดแฟบ
6) การติดตามผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการที่สําคัญ
วิธีการหย่าเครื่องช่วยหายใจ
ผู้ป่วยหายใจเองทางTpieceหรือหายใจเองสลับกับเครื่องช่วยหายใจเป็นพักๆ
การใช้เครื่องช่วยหายใจ mode SIMV,PSV,CPAP
2.1 Synchronized Intermittent mandatory ventilation (SIMV) เป็นรูปแบบการหายใจที่ นิยมมากในอดีต ใช้สําหรับผู้ป่วยที่ใส่เครื่องช่วยหายใจมานานและใช้แบบ T piece ไม่ได้ผล
2.2 Pressuresupportventilation(PSV)เป็นรูปแบบการช่วยหายใจที่ได้รับความนิยมใน ปัจจุบัน เป็นวิธีลดงานในการหายใจของผู้ป่วย
2.3ContinuousPositiveAirwayPressure(CPAP)
เป็นการหย่าเครื่องช่วยหายใจโดย เครื่องช่วยหายใจปล่อยแรงดันบวกเข้าปอดตลอดเวลาเพื่อลดการออกแรงในการหายใจ
การพยาบาลผู้ป่วยที่มีสายสวนหลอดเลือด (central line monitor)
การพยาบาลผู้ป่วยที่ใส่สายหลอดเลือดแดง (arterial line)
ตรวจสอบความแม่นยําของการปรับเทียบค่า (Accuracy
ดูแลระบบของ arterial line ให้มีประสิทธิภาพ ใช้ continuous flush system โดยใช้สารน้ํา 0.9%NSS 500 cc ผสมกับ Heparin 2,000-2,500 ยูนิต ซึ่งใส่ความดัน (pressure bag) ขนาด 300 มม.ปรอท เพื่อให้มีแรงดันในการ flush ที่ต่อเนื่องสม่ําเสมอ
ป้องกันภาวะแทรกซ้อน
การป้องกันการติดเชื้อ(Infection)
เมื่อมีการเก็บตัวอย่างเลือดส่งตรวจทาง arterial line ต้อง flush สาย ไม่ให้มีเลือดหรือฟองอากาศ ค้างในสาย
ตรวจสอบข้อต่อต่าง ๆ ให้แน่นอย่างสม่ําเสมอ ป้องกันการหัก งอ ของสาย arterial line
การป้องกันการเลื่อนหลุด ควร immobilized arm โดยใช้ arm broad ที่เหมาะสม บริเวณ insert site ต
ตรวจดูคลื่นที่แสดงการอุดตัน (damped waveform) และบันทึกตําแหน่งของสายยาง
จดบันทึกค่า Arterial blood pressure ที่ได้ทุก 15-60 นาที ตามความจําเป็น
10.ในกรณีที่แพทย์ถอดสายยางออกแล้วควรกดตําแหน่งแผลไว้นาน อย่างน้อย 10 นาที หรือจนกว่า เลือดจะหยุด ทําความสะอาดแผลและปิดแผลด้วย plaster ที่เหนียวให้แน่น ด้วยหลักปราศจากเชื้อ
การพยาบาลผู้ป่วยที่มีสายสวนหลอดเลือดดําส่วนกลาง (Central venous pressures; CVP)
ความแม่นยําของการเปรียบเทียบค่า
ป้องกันการเลื่อนหลุดของสายสวน
ป้องกันการติดเชื้อในกระแสเลือดจากการใส่สายสวนหลอดเลือดดําส่วนกลา
ป้องกันการอุดตันของสายสวน
การป้องกันฟองอากาศเข้าหลอดเลือดโดยดูแลให้เป็นระบบปิด ป้องกันการเลื่อนหลุดของสาย ป้องกัน ฟองอากาศเข้าสู่หลอดเลือดในขณะวัด CVP
ยาที่ใช้บ่อยในผู้ป่วยวิกฤต (common drugs used in ICU)
ยาที่ใช้ในภาวะ Pulseless Arrest
1.1 Epinephrine หรือ Adrenaline
ใช้เป็นยาตัวแรกในการทําCPRทั้งในภาวะsystole/PEAและVF/pulselessVT
ใช้ในภาวะsymptomaticbradycardiaที่ไม่ตอบสนองต่อการให้atropine
Cardiac arrest
1.2 Amiodarone (Cordarone®)
ยารักษาหัวใจห้องบนเต้นผิดจังหวะชนิดAtrialfibrillationและAtrialflutter
หัวใจห้องล่างเต้นผิดจังหวะชนิด Ventricular fibrillation (VF) และ Ventricular tachycardia (VT)
ยาที่ใช้ในภาวะ Bradyarrhythmia
2.1 Atropine
ใช้แก้ไขภาวะหัวใจเต้นช้าผิดปกติและ AV block
ยาที่ใช้ในภาวะ Tachyarrhythmia
3.1 Adenosine
ใช้เป็น first line drug ในภาวะ Stable narrow complex tachycardia (reentry SVT) หรือใน ภาวะ unstable narrow complex regular tachycardia แต่ต้องเตรียมพร้อมทํา cardioversion ไว้ด้วย
ภาวะ regular monomorphic wide complex tachycardia
3.2 Digoxin (Lanoxin ®)
Heart failure
หัวใจเต้นผิดจังหวะแบบ atrial fibrillation (AF), atrial flutter และ supraventricular Tachycardia (SVT)
ยากระตุ้นความดันโลหิต (Vasopressor)
4.1 Dopamine (Inopin®)
ขนาดต่ำใช้ในผู้ป่วยที่ปัสสาวะออกน้อย เพื่อเพิ่มการไหลเวียนเลือดที่ไต (renal blood flow)และสมอง
ขนาดปานกลาง เพิ่มการบีบตัวของหัวใจ เพิ่ม Cardiac out put
ขนาดสูง ทําให้หลอดเลือดหดตัว เพิ่มความดันโลหิตและอัตราการเต้นของหัวใจใช้รักษาผู้ป่วยที่ มีภาวะ shock จากการติดเชื้อในกระแสเลือด
4.2 Dobutamine
ช่วยลด afterload ทําให้การบีบตัวของหัวใจดีขึ้น
ดังนั้นจึงเพิ่ม Cardiac out put
4.3 Norepinephrine (Levophed®) กลุ่ม Adrenergic agonist
รักษาผู้ป่วยที่มีภาวะ septic shock และ cardiogenic shock ระดับรุนแรง หรือภาวะ shock หลังจากได้รับสารน้ําเพียงพอแล้ว
ยาขยายหลอดเลือด (Vasodilators)
5.1 Nicardipine
ใช้ ในผู้ป่วยที่มีภาวะ Hypertensive crisis
5.2 Sodium Nitroprusside
ใช้ในการลดความดันโลหิตในผู้ป่วย hypertensive emergency
ลด afterload ในภาวะหัวใจวายเฉียบพลัน
5.3 Nitroglycerin (NTG)
Acute coronary syndrome, Chest pain (angina pectoris)
Heart failure โดยช่วยในการลด preload