Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การบาดเจ็บจากการคลอด(Birth Injury) - Coggle Diagram
การบาดเจ็บจากการคลอด(Birth Injury)
การบาดเจ็บของกระดูก(Bone injuries)
Fracture humurus
สาเหตุ
การคลอดท่าศีรษะที่ไหล่คลอดยาก
การคลอดท่าก้น
การตรวจร่างกาย
เมื่อจับแขนขยับทารกจะร้องไห้เนื่องจากรู้สึกเจ็บ
ทดสอบโมโรรีเฟลกซ์(moro reflex) พบว่าทารกจะไม่งอแขน
อาการและอาการแสดง
แขนข้างที่หักจะมีอาการบวมและทารกไม่เคลื่อนไหวได้
ในรายที่มีกระดูกหักสมบูรณ์ (complete) อาจได้ยินเสียงกระดูกหักขณะคลอด
แนวทางการรักษา
กระดูกแขนหักสมบูรณ์ จะรักษาโดยการจับแขนตรึง
ถ้าเป็นเพียงกระดูกแขนเดาะ จะรักษาโดยการตรึงแขนให้แนบกับลำตัวเพื่อไม่ให้แขนเคลื่อนไหว 1-2 สัปดาห์
Fracture clavicler
สาเหตุ
ทารกตัวโตหรือคลอดท่าก้น
การคลอดทารกท่าศีรษะที่ไหล่คลอดยาก
อาการและอาการแสดง
กระดูกไหปลาร้าหักน้อยหรือไม่เคลื่อนไหวเลย
มีอาการบวมห้อเลือด (ecchymosis)
brachial plexus ของทารกอาจได้รับอันตรายร่วมด้วย
การตรวจร่างกาย
คลำบริเวณที่หักอาจได้ยินเสียงกรอบแกรบ
ทดสอบmoro moro reflex แขนทั้งสองข้างของทารกเคลื่อนไหวไม่เท่ากัน
แนวทางการรักษา
ส่วนใหญ่หายได้เอง
รักษาโดยให้แขนและไหล่ด้านที่กระดูกไหลปลาร้าหักอยู่นิ่งๆ โดยการกลัดแขนเสื้อติดกับตัวเสื้อ
Fracture femur
สาเหตุ
ผู้ทาคลอดดึงขาทารกขณะที่ติดอยู่ที่ทางเข้าเชิงกราน
การคลอดท่าก้น
อาการและอาการแสดง
ได้ยินเสียงกระดูกหักขณะทารกคลอด
ขาทารกมีอาการบวม
เมื่อจับทารกเคลื่อนไหวหรือถูกบริเวณที่กระดูกต้นขาหักทารกจะร้องไห้
การตรวจร่างกาย
สังเกตว่าทารกจะไม่เคลื่อนไหวขาข้างที่หัก
ทดสอบโมโรรีเฟลกซ์ทารกไม่ยกขาข้างที่กระดูกหัก
แนวทางการรักษา
ถ้ากระดูกไม่หักแยกจากกัน (incomplete) รักษาโดยการใส่เฝือกขายาว
ถ้ากระดูกหักแยกจากกัน (complete) รักษาโดยการห้อยขาทั้งสองข้างไว้กับราวที่ขวางปลายเตียง
บทบาทการพยาบาลทารกที่มีอาการบาดเจ็บของกระดูก
6.ดูแลบรรเทาความวิตกกังวลของมารดาและบิดา
6.ดูแลให้ความอบอุ่นทางด้านจิตใจแก่ทารก
5.ดูแลการขับถ่าย ป้องกันการระคายเคืองจากอุจจาระและปัสสาวะ
4.ดูแลให้ทารกได้รับอาหารและน้าอย่างเพียงพอ
3.ดูแลให้ได้รับความสุขสบายและป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นเพิ่ม
2.จัดกิจกรรมการพยาบาลไม่ให้เคลื่อนไหวร่างกายทารกบ่อย ๆ
1.ดูแลไม่ให้กระดูกส่วนที่หักเคลื่อนไหว และจัดให้บริเวณที่หักอยู่ในท่าที่ถูกต้องตามแผนการรักษา
การบาดเจ็บของเส้นประสาท(Nerve injury)
facial nerve injury
สาเหตุ
การใช้คีมช่วยคลอดทำให้กดเยื่อประสาทสมองคู่ที่ 7
การคลอดยาก
การตรวจร่างกาย
จากสังเกตสีหน้าของทารกเวลานอน เวลาร้องไห้หรือแสดงสีหน้าท่าทาง
อาการและอาหารแสดง
รูปหน้าทั้ง 2 ด้านจะไม่เท่ากัน เห็นได้ชัดเจนเมื่อทารกร้องไห้
ทารกจะลืมตาได้เพียงครึ่งเดียว ตาปิดไม่สนิท
ปากข้างที่เป็นจะถูกดึงลงมาทำให้มุมริมฝีปากล่างตก
ไม่มีรอยย่นที่หน้าฝาก
กล้ามเนื้อด้านที่เป็นอัมพาตจะไม่เคลื่อนไหว ทาให้หน้าเบี้ยวไปข้างที่ดี
มีอาการอัมพาตชั่วคราวของกล้ามเนื้อใบหน้า มักเป็นด้านเดียว
แนวทางการรักษา
แต่ถ้าเส้นประสาทขาดต้องได้รับการทาศัลยกรรมซ่อมประสาท
ปกติถ้าประสาทที่เลี้ยงใบหน้าเพียงถูกกดอาจหายไปได้เองภายใน 2-3 วัน ถึงสัปดาห์
บทบาทการพยาบาล
การให้นมแก่ทารกนมมารดา
มารดาควรอุ้มทารกให้ศีรษะสูงตลอดเวลาขณะให้นม
สอนวิธีให้มารดาบีบบริเวณลานหัวนมเพื่อช่วยให้น้านมไหลได้ดี
เมื่อทารกสำลักให้รีบจับทารกตะแคงหน้าหนีทันที เพื่อให้นมไหลออกจากปาก และรีบทาทางเดินหายใจให้โล่ง โดยใช้ลูกสูบยางแดงดูดออก
แต่ถ้าทารกไม่สามารถดูดนมมารดาจากเต้าได้โดยตรง มารดาควรบีบนมใส่ขวดให้กับทารก
การให้นมแก่ทารกนมผสม
อุ้มทารกให้นมท่าศีรษะสูง ถ้าสาลักจับตะแคงหน้าทันที และทาทางเดินหายใจให้โล่
เตรียมอุปกรณ์ช่วยดูดเสมหะให้พร้อมใช้เสมอ จะได้ช่วยเหลือได้ทันเมื่อสาลัก ป้องกันการสาลักเข้าปอด
ถ้าทารกไม่สามารถดูดนมจากขวดได้เอง อาจใช้วิธีหยอดนม/ใช้ syringe หยอดเข้าปากบริเวณกระพุ้งแก้มข้างที่ไม่มีอาการ
แนะนำให้ใช้หัวนมยางนุ่มขนาดพอเหมาะ
ข้อควรจำ :forbidden: : การให้นมกับทารกต้องให้ทีละน้อย ๆ รอให้ทารกกลืนนมให้หมดก่อนแล้วจึงให้ต่อ
Brachial nerve injury
สาเหตุ
พบในทารกที่คลอดโดยมีส่วนนาเป็นก้นหรือคลอดยาก
เกิดจากข่ายประสาท Brachial ถูกดึงหรือกด
ชนิด
Erb-Duchenne paralysis
บริเวณข้อมือยังขยับ :check:
แขนจะอยู่ในท่าชิดตัวและหมุนเข้าข้างใน
แขนข้างนั้นส่วนบนไม่ขยับ
เป็นการบาดเจ็บที่เส้นประสาทจากc5-c6
Klumpke ’ s paralysis
เป็นการบาดเจ็บที่เส้นประสาทจากc7-c8 และ T1
แขนข้างนั้นส่วนล่างไม่ขยับ
แขนอยู่ในท่าชิดตัวและหมุนเข้าข้างใน
กามือไม่ได้
บริเวณข้อมือไม่ขยับ :red_cross:
การตรวจร่างกาย
Erb-Duchenne paralysis
การเคลื่อนไหวและการงอของแขนลดลง
การตอบสนองต่อการกำมือ (grasp reflex) ปกติ :check:
ทดสอบ moro reflex พบว่า แขนข้างที่เป็นยกขึ้นไม่ได้หรือยกได้น้อย
Klumpke ’ s paralysis
ทดสอบmororeflex ไหล่และแขนส่วนบนเหยียดกางออกเป็นปกติ แต่ข้อมือ นิ้วมือตกไม่มีแรง
การตอบสนองต่อการกามือ (grasp reflex) :red_cross: ผิดปกติ
แนวทางการรักษา
ทำกายภาพบำบัด
ถ้าไม่หายอาจต้องทาศัลยกรรมซ่อมประสาท
ให้แขนไม่เคลื่อนไหว ในท่ากางหมุนแขนออก ข้อศอกตั้งฉากกับลำตัว
การบาดเจ็บที่ศีรษะทารก(Skull injuries)
caput succedaneum
แนวทางการรักษา
ถ้าเกิดจากV/E จะหายได้ช้ากว่า
หายไปได้เองประมาณ 2 -3 วันหลังคลอด
สาเหตุ
vacuum extraction
เกิดจากแรงดันที่กดลงบนศีรษะทารกระหว่างการคลอดท่าศีรษะ
ลักษณะ
มีขอบเขตไม่แน่นอน
ก้อนบวมโนนี้จะข้ามรอยต่อ (suture) ของกระดูกกะโหลกศีรษะ
บทบาทการพยาบาล
อธิบายให้มารดาและบิดาเข้าใจถึงอาการ
บันทึกอาการและการพยาบาล
สังเกตอาการเปลี่ยนแปลงทางระบบประสาทของทารก
สังเกตลักษณะ ขนาด การเปลี่ยนแปลงของก้อนบวมโนที่ศีรษะ
Cephalhematoma
ภาวะแทรกซ้อน
ในรายที่มีอาการรุนแรง ก้อนโนเลือดมีขนาดใหญ่ จะเกิดภาวะhyperbilirubinemia ได้
อาจเกิดการติดเชื้อจากการดูดเลือดออกจากก้อนโนเลือดในกรณีมีแผนการรักษา
การวินิจฉัย
ตรวจพบศีรษะมีก้อนบวมโนบนกระดูกกะโหลกศีรษะชิ้นใดชิ้นหนึ่งลักษณะแข็งหรือค่อนข้างตึง คลาขอบเขตได้ชัดเจน กดไม่บุ๋ม
แนวทางการรักษา
ถ้ามีภาวะตัวเหลืองร่วมด้วยและมีระดับบิลลิรูบินในเลือดสูงจาเป็นต้องได้รับการส่องไฟ
ในรายที่ก้อนเลือดขนาดใหญ่อาจรักษาโดยการดูดเลือดออก
ถ้าไม่มีภาวะแทรกซ้อน จะค่อยๆหายไปเองภายใน 2 เดือน
สาเหตุ
ศีรษะทารกถูกกดจากช่องทางคลอด
การใช้ V/E
ระยะเวลาการคลอดยาวนาน
อาการและอาการแสดง
อาการจะชัดเจนหลัง 24 ชั่วโมงไปแล้วเนื่องจากเลือดจะค่อย ๆ ซึมออกมานอกหลอดเลือด
ในรายที่รุนแรงอาจพบทันทีหลังเกิดและพบว่าก้อนโนเลือดมีสีผิดปกติ
บทบาทการพยาบาล
ให้ทารกนอนตะแคงด้านตรงข้ามกับก้อนโนเลือด
แนะนำไม่ใช้ใช้ยาทา ยานวด ประคบหรือเจาะเอาเลือดออกเอง
Subgaleal hematoma
Subgaleal hematomaอันตรายมากกว่าCephalhematoma เนื่องจากสามารถขยายขนาดได้ตั้งแต่ขอบกระดูกเบ้าตาจนถึงชายผม ทาให้ทารกเสียเลือดมากจนเกิด hypovolemia
อาการและอาการแสดง
มีขอบเขตจากหน้าไปหลังเริ่มจากขอบเบ้าตา ไปยังท้ายทอย และด้านข้างจากหูไปยังหูอีกข้าง
ก้อนมีลักษณะน่วม และข้ามแนวประสานกระดูก ก้อนมีขนาดเพิ่มขึ้นช้า ๆ ในหลายชั่วโมงหรือวัน หรือเพิ่มขนาดอย่างรวดเร็ว อาจทาให้ทารกช็อกจากการเสียเลือดได้
สาเหตุ
มักพบในการคลอดโดยใช้ V/E
Intracranial hemorrhage
สาเหตุ
Preterm
การได้รับอันตรายรุนแรงจาการคลอด
ภาวะแทรกซ้อน
ทารกอาจเกิดปัญญาอ่อน
เลือดออกกดศูนย์หายใจทาให้ทารกหายใจลำบาก
อาการและอาการแสดง
Reflex ลดน้อยลงหรือไม่มี โดยเฉพาะ moro reflex จะเสียไป
กาลังกล้ามเนื้อไม่ดี มีอาการอ่อนแรง
มีภาวะซีด หรือมีอาการเขียว
ซึม ดูดนมไม่ดี หรือไม่ยอมดูดนม
ร้องเสียงแหลม
ชัก
แนวทางการรักษา
ดูแลให้ได้รับยาระงับการชักและให้วิตามินเค
ดูแลให้ออกซิเจนถ้าทารกมีภาวะพร่องออกซิเจน
ให้ความอบอุ่นแก่ร่างกายทารกถ้าตัวเย็น
ดูแลให้ได้รับนมและน้าอย่างเพียงพอ
ถ้ามีความดันในกะโหลกศีรษะสูง อาจได้รับการรักษาโดยเจาะน้าไขสันหลังเพื่อบรรเทาอาการความดันในสมอง
บทบาทการพยาบาล
ให้ทารกอยู่ในตู้อบ (incubator)
เตรียมเครื่องมือในการให้ความช่วยเหลือทารกไว้ให้พร้อม
ดูแลให้ได้รับนมและน้ำที่เพียงพอ
ป้องกันและไม่ให้ทารกได้รับอันตรายจากการชัก
ดูแลให้ทารกหายใจสะดวกและได้รับออกซิเจนอย่างเพียงพอ
กรณีที่ให้ออกซิเจน ควรสารวจปริมาณออกซิเจนที่ทารกได้รับความควรเกิน 40 %
ดูดสิ่งคัดหลั่งจากปากและจมูกให้หมด
จัดให้นอนราบ ศีรษะตะแคงไปด้านใดหน้าหนึ่ง
ดูแลให้ทารกได้พักผ่อน รบกวนทารกให้น้อยที่สุด
ดูแลฉีดวิตามินเคจานวน 1 มิลลิกรัม เข้ากล้ามเนื้อ
สาเหตุ : มักพบในการคลอดโดยใช้ V/E