Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ภาพยนต์สั้น A beautiful mild, นางสาวพิมพ์ชนก กองจรูญ 2A เลขที่ 59…
ภาพยนต์สั้น A beautiful mild
ประวัติทั่วไป
ข้อมูลส่วนบุคคล
ผู้ป่วยชื่อ นายจอห์น ฟอบส์ แนซ จูเนียร์ (Mr. John Forbes Nash, Jr.)
อายุ 24 ปี
เชื้อชาติอเมริกัน สัญชาติอเมริกัน
ประวัติครอบครอบครัว
มีภรรยาชื่อ อลิเซีย และมีลูกด้วยกัน 1 คน
มีน้องสาว 1 คน
ความสัมพันธภาพในครอบครัว
ผู้ป่วยเป็นคนเก็บตัว
ผู้ป่วยมีความคิดหมกหมุ่นเกือบทำร้ายภรรยาและลูก
ผู้ป่วยไม่มีความรู้สึกอยากมีเพศสัมพันธกับภรรยา
ผู้ป่วยมีความคิดหมกหมุ่นและพฤติกรรมที่แปลกๆ
สาเหตุ
ด้านพันธุกรรม
สารสื่อประสาทในสมอง
ด้านครอบครัว
ครอบครัวตำหนิ
สภาพครอบครัวไม่เหมาะสมในการแก้ไขให้ดี
ด้านสังคมและวัฒนะธรรม
สภาพแวดล้อมรอบตัว
เป็นคนเก็บตัว ไม่มีเพื่อนสนิท
ไม่มีสัมพันธภาพกับผู้อื่น
ด้านจิตใจ
ความขัดแย้งภายในจิตใจ
ความเครียด
ความสามารถในการปรับตัว
ประสบการณ์ในอดีต
โดนเพื่อนแกล้งเป็นประจำ
อาการและอาการแสดง
หวาดระเเวง
คิดว่าจะมีคนทำร้าย
มีคนสะกดรอยตาม
ประสาทหลอน
หูแว่ว ได้ยินเสียงคนสั่งให้ทำ
คิดว่ามีคนอยู่ด้วยตลอดเวลา
คิดว่าจะมีคนมาทำร้าย
ควบคุมตนเองไม่ได้
ทำร้ายตนเอง
ทำร้ายบุคคลรอบครัว
ไม่ชอบเข้าสังคม
ไม่มีเพื่อน
ชอบอยู่คนเดียว
ด้านพฤติกรรม
เดินหลังค่อม
มองซ้าย ขวา ตลอดเวลา
กระสับกระส่าย เดินไปเดินมา
พยายามโต้ตอบกับใครบางคน
เฉยเมย ไร้ความรู้สึก
พัฒนาการตามช่วงวัย
ในวัยเด็ก
ชอบเก็บตัว
ไม่มีเพื่อนสนิทและมักมีปัญหาในการปรับตัวเข้ากับเพื่อน
ผู้ป่วยเรียนเก่ง
ไม่ชอบกิจกรรมนันทนาการแต่มีความสนใจในด้านวิทยาศาสตร์และทำการทดลองด้วยตนเองตั้งแต่อายุ 12 ปี
ช่วงวัยรุ่น
ผู้ป่วยหันมาสนใจทางด้านคณิตศาสตร์และมุ่งมั่นในการเรียน
ผู้ป่วยเริ่มมีบุคลิกที่ดูแตกต่างจากผู้อื่นอย่างเห็นได้ชัด
เริ่มทำงาน
ชาร์ลอยู่กับเขาตลอดและเป็นเพื่อนคนเดียวที่สามารถพูดคุย
เรียนปริญญาเอก
มีความโดดเด่นทางด้านการเรียนในระดับอัจฉริยะ
เริ่มมีความคิดหมกหมุ่นและมีพฤติกรรมแปลกๆเพิ่มมากขึ้น
พบว่าชาร์ลเริ่มเข้ามามีบทบาทในชีวิตเขา
ให้กำลังใจและคอยอยู่เป็นเพื่อนผู้ป่วยเสมอ
ประเด็นที่สงสัย
ผลกระทบอะไรบ้างที่เกิดกับผู้ป่วยรายนี้
ตกงาน
ทะเลาะกับภรรยา
ทำกิจกรรมต่างๆได้ช้าลง
ไม่มีใครอยากคุยกับผู้ป่วย
การเลี้ยงดูของครอบครัวเป็นอย่างไร
ไม่ได้รับความอบอุ่นเท่าไหร่ เนื่องจากต้องมาอยู่บ้านเลี้ยงเด็กกำพร้า
พ่อกับแม่ทิ้งไปตั้งแต่เด็ก
ผลข้างเคียงของการรักษามีอะไรบ้าง
ทำงานไม่ได้จะง่วงตลอดเวลา
ไม่มีอารมณ์ทางเพศ
ผู้ป่วยรายนี้สมครวได้รับการรักษาที่โรงพยาบาลหรือควรได้รับการรักษาที่บ้านโดยคนในครอบครัว
ควรได้รับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาล เพราะเขาเห็นภาพหลอน และเผลอทำร้ายภรรยา
ทำไมถึงเก็บตัวอยู่คนเดียวและคิดว่าเพื่อนไม่ชอบเกิดจากอะไร
ผู้ป่วยคิดว่าทุกคนอิจฉาที่ตนเก่งกว่า
คิดว่าทุกคนชอบล้อเลียนเขา
จะทำวิจัยตลอดเวลา เพื่อให้ทุกคนยอมรับว่าเขาเป็นอัจฉริยะ
พัฒนาการในวัยเด็กส่งผลกระทบหรือไม่
ส่งผลกระทบเพราะการที่เขาไม่มีพ่อแม่คอยดูแล จึงต้องพยายามสู้ชีวิตด้วยตนเอง ทำให้ผูู้ป่วยต้องการการยอมรับจากสังคม จึงพยายามศึกษาค้นคว้าตลอดเวลาจนไม่ทันสังเกตอาการผิดปกติที่เกิดขึ้น
ความคิดหลงผิดกับภาพหลอนต่างกันอย่างไร
หลงผิด(Delution) เป็นความผิดปกติในด้านความคิด เช่น คิดว่าตนเป็นสายลับ แต่ภาพหลอน (Hallucination) เป็นความผิดปกติของการรับรู้ เช่น ยืนคุยคนเดียว ได้ยินเสียงคนคุยกัน โดยที่คนอื่นไม่ได้ยิน
ทำไมคิดว่าตนเองทำงานให้กับหน่วยราชการลับ
ผู้ป่วยคิดว่าตนเองเป็นอัจฉริยะ และเห็นภาพหลอนเป็นวิลเลียมมาชวนเข้าไปทำงาน
ทำไมผู้ป่วยไม่กินยาต่อเนื่อง
ทำให้เขาทำงานถอดรหัสไม่ได้
ไม่มีอารมณ์ทางเพศ
ผู้ป่วยได้รับการรักษาด้วยยา ควรได้รับยาชนิดใด
Thorazine 30 mg IM q 6 hrs เพื่อลดอาการวิตกกังวล
ครอบครัวจะมีส่วนช่วยในการรักษาผู้ป่วยอย่างไรบ้าง
ดูแลเรื่องให้ผู้ป่วยทานยาให้ต่อเนื่องและตรงเวลา
คอยสังเกตพฤติกรรมของผู้ป่วย
บอกให้ผู้ป่วยทราบว่าอะไรคือ ภาพจริงหรืออันไหนเป็นภาพหลอน
เข้าใจและให้กำลังใจเพื่อให้ผู้ป่วยมีกำลังใจในการสู้กับโรค
โรคจิตเภท (Schyzophrenia)
โรคจิตเภท (Schizophrenia) หมายถึง เป็นโรคที่มีความผิดปกติของความคิด (thought) เป็นอาการเด่น แต่มี
ผลถึงการรับรู้(perception) อารมณ์(affect) และพฤติกรรม(behavior) Eugen Bleuer
สาเหตุ
ปัจจัยด้านพันธุกรรม (Genetic factors) เช่น ฝ่าแฝด
ปัจจัยด้านชีวเคมีของสมอง (Biological factors) เช่น มี Dopamine มากเกินไป
ปัจจัยด้านจิตใจ (Psychological factors)เป็นความผดิปกติจากพัฒนาการทาง
บุคลิกภาพของบุคคลในวยัเด็ก
ไม่มีสัมพันธภาพกับผู้อื่น :star:
ไม่ชอบเข้าสังคมชอบอยู่คนเดียว :star:
ไม่มีเพื่อนสนิทและมักมีปัญหาในการปรับตัวเข้ากับเพื่อน :star:
ปัจจัยด้านสังคมและวัฒนธรรม (Sociocultural factors)
ครอบครัวตำหนิ :star:
มีฐานะยากจน จึงต้องเป็นเด็กนักเรียนทุน : :star:
อาการและอาการแสดง
มีความผิดปกติของความคิด
รูปแบบความคิดผิดปกติ(Disorder of form)
เนื้อหาความคิดผิดปกติ (Disorder of content)
Delusion of persecution
คิดว่าถูกปองร้ายจากทหารรัสเซีย :star:
มีความผิดปกติของการรับรู้ (Hallucination)
Auditory hallucination
ได้ยินเสียงของวิลเลียมสั่งให้ถอดรหัสให้ได้ ทั้งที่ไม่มีใครได้ยิน :star:
Visual hallucination
เห็นชาร์ลอยู่กับเขาตลอดเวลา บางครั้งเห็นวิลเลียมและโรซี่ด้วย ทั้งที่ไม่มีใครเห็น :star:
Gastatory hallucination
อาการประสาทหลอนทางการรับรส รู้สึกรสแปลกๆ
Tactile hallucination
อาการประสาทหลอนทางการสัมผัส
Alfactory hallucination
อาการประสาทหลอนทางการไดก้ลิ่น รู้สึกกลิ่นแปลกๆ
มีความผิดปกติของอารมณ์(Disorder of affect)
มีความผิดปกติของพฤติกรรมการเคลื่อนไหว (Disorder of motor behavior)
การรักษา
Psychotherapy จิตบำบัด
Milieu Therapy เน้น ที่การจัดสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสม ลดภาวะเครียด
การรักษาด้วยยา
Thorazine 30 mg IM q 6 hrs : :star:
Diazepam 10 mg IM q 4 hrs prn :star:
Somatic or Electroconvulsive Therapyการบำบัดทางร่างกายหรือไฟฟ้า
ECT 1 course (5 times per week/ 10 weeks) :star:
การวินิจฉัยโรค
อาการของโรคเริ่มเป็นก่อนอายุ40 ปี
ผู้ป่วยอายุ 24 ปี :star:
อาการเกิดข้ึนช้าๆค่อยเป็นค่อยไป เป็นเดือนหรือเป็นปีระยะเวลาไม่สบายต้องไม่น้อยกว่า2 สัปดาห์
เริ่มหูแว่วและเห็นภาพหลอนตั้งแต่ตอนที่เรียนอยู่ปริญญาตรี :star:
มีอาการดังต่อไปนี้
1) มีความผิดปกติของรูปแบบของความคิด
คิดว่าถูกปองร้ายจากทหารรัสเซีย :star:
2) มีอาการหลงผิด (Delusion)
คิดว่าตนเป็นสายลับระดับประเทศ :star:
3) มีอาการประสาทหลอน (Hallucination)
Visual hallucination : :star:
Auditory hallucination : :star:
4) พฤติกรรมของผู้ป่วยผิดปกติ
5) มีอารมณ์แบบ apathyหรือ
inappropriate
6) insight เสีย
ถ้ามีอาการSchneider’s first rank symptom เช่น ผู้ป่วยคิดว่า คนอื่นได้ยินความคิดของตน
ผู้ป่วยมี consciousness ดีและความจำไม่เสีย
ไม่มีโรคทางกายหรือพิษจากยา ซึ่งจะเป็นสาเหตุของอาการโรคจิตดังกล่าว
ตรวจร่างกายแล้วเป็นปกติดี :star:
ถ้ามีญาติสนิทเป็นโรคจิตเภท
ชนิด
Simple Type : ผู้ป่วยขาดความสัมพนัธ์กับบุคคล บุคลิกภาพเปลี่ยนไปในทางเสื่อม เก็บตัวอยู่ตามลำพังคนเดียวละเลยกิจวัตรประจำวัน อารมณ์เฉยเมยไม่คิดว่าตนผิดปกติไม่มีความคิดหลงผิด มักเกิดในวัยรุ่น ค่อยเป็นค่อยไป
Disorganized Type (Hebephenic) ผู้ป่ วยจะมีอาการประสาทหลอน และความคิดหลงผิดมี
ความคิด และคา พดู ไม่สอดคลอ้งกนั (incoherence) อารมณ์เฉยเมย apathy
Catatonic Type มีความผิดปกติที่พฤติกรรมการเคลื่อนไหว อาจ
เป็นได้ ้ทั้งแบบไม่เคลื่อนไหว
Paranoid Type มีความหมกมุ่นอยู่กับอาการหลงผิด หรือหูแว่ว
หลงผิด (Delusion)คิดว่าตนเป็นสายลับระดับประเทศ :star:
Auditory hallucination ได้ยินเสียงของวิลเลียมสั่งให้ถอดรหัสให้ได้ ทั้งที่ไม่มีใครได้ยิน :star:
Schizoaffective มีอารมณ์เศร้าร่วมกับอาการ
เบื่ออาหาร นอนไม่หลับ คิดช้า รู้สึกว่า ตนมีความผิด เบื่อชีวต คิดอยากตาย
Undifferentiated Type มีอาการของโรคจิตเภทไม่ชัดเจน ไม่สามารถจัดเข้า
ประเภทอื่น ๆ ได้มีอาการหลงผดิ ประสาทหลอน ความคิดไม่ปะติดปะต่อกน
Residual Type เก็บตัว เฉือยชา ไม่สนใจตัวเอง
กิจกรรมการพยาบาล
ประมาณการรับรู้ของผู้ป่วยว่าผู้ป่วยมีระดับการรับรู้เพียงใดมีอาการประสาทหลอนเกิดขึ้นบ้างหรือไม่และเกิดขึ้นตอนใดมีการตอบสนองอย่างไรโดยการประเมินการรับรู้เกี่ยวกับประสาทสัมผัสทั้ง 5 คือตาหูจมูกลิ้นและสัมผัสทางกายเพื่อกำหนดแนวทางการช่วยเหลือผู้ป่วยได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม
แสดงการยอมรับอาการประสาทหลอนของผู้ป่วยซึ่งทำได้โดยการรับฟังและไม่โต้แย้งและบอกความเป็นจริงให้กับผู้ป่วยได้รู้เพื่อให้ผู้ป่วยได้เลือกคิดและตัดสินใจด้วยตัวเองจากความจริงที่บอกแก่ผู้ป่วย
3.เปิดโอกาสให้ผู้ป่วยได้เข้าร่วมกิจกรรมกลุ่มกับผู้อื่นเพื่อกระตุ้นให้ผู้ป่วยได้มีปฏิสัมพันธ์และการสื่อสารการแนะนำตนเองให้ผู้อื่นได้รู้จัก เช่น กิจกรรมนันทนาการเป็นต้นเพื่อให้ผู้ป่วยเบี่ยงเบนความสนใจจากอาการประสาทหลอน
4.หากพบว่าผู้ป่วยปฏิบัติพฤติกรรมที่เหมาะสมให้การชื่นชมผู้ป่วยเพื่อส่งเสริมความมั่นใจให้ผู้ป่วยรู้สึกภาคภูมิใจตัวเองและมั่นใจในการอยู่ร่วมกันกับผู้อื่นมากยิ่งขึ้น
5.ดูแลให้ผู้ป่วยได้รับยา Thorazine 30 mg IM q 6 hrs เพื่อช่วยลดอาการหูแว่วประสาทหลอน ตามแผนการรักษาของแพทย์
ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาลเสี่ยงต่อการทำร้ายตนเองและผู้อื่นเนื่องจากประสาทหลอน
โรคจิตหลงผิด (Delusional disorder)
เป็นโรคจิตชนิดหนึ่งซึ่งมีอาการหลงผิดเป็นอาการเด่น โดยอาการหลงผิด (delusion) คือความผิดปกติของความคิด ซึ่งผู้ป่วยมีความเชื่ออย่าสนิทใจ ในเรื่องที่ไม่เป็นความจริง
อาการและอาการแสดง
อาการหลงผิดซึ่งอาจเป็นเรื่องเดียวหรือหลายเรื่องที่ เกี่ยวข้องกัน อาการหลงผิดในโรคนี้ไม่มีลักษณะแปลกประหลาดอย่างที่พบในโรคจิตเภท เรื่องราวอาจไม่น่าจะเป็น แต่ไม่ถึงกับเป็นไปไม่ได้ อาการมักคงอยู่นานเป็นเดือนเป็นปีหรือบางรายเป็นอยู่ตลอดชีวิต
คิดว่าตนเป็นสายลับระดับประเทศ :star:
ชนิด
Erotomanic type หลงผิดว่าบุคคลอื่นหลงรักตนหรือเป็นคู่รักของตน
Grandiose type หลงผิดว่ามีความสามารถเกินความเป็นจริง มีคุณค่า มีอำนาจ มีความรู้สูง มีทรัพย์สินเงินทองมาก หรือมีความสัมพันธ์พิเศษกับบุคคลสำคัญ
คิดว่าตนเป็นสายลับระดับประเทศ :forbidden :star:
Jealous type หลงผิดว่าคู่ของตนนอกใจ
Pdrsecutory type หลงผิดว่าถูกปองร้าย ผู้ป่วยอาจมีอาการหลงผิดว่าตนเองหรือบุคคลใกล้ชิดถูกปองร้าย
คิดว่าตนและภรรยาถูกปองร้ายจาการ ตามล่าของรัสเซีย :star:
Somatic type หลงผิดว่าร่างกายมีความผิดปกติหรือป่วยเป็นโรคบางอย่าง เช่น มะเร็ง
สาเหตุ
ยังไม่เป็นที่ทราบชัด
แยกตัวเองออกจากสังคม :star:
โรคทางกาย
โรคสมองเสื่อม
เนื้องอกในสมอง
การใช้สารเสพติด
ประสบความ สำเร็จในชีวิตน้อยกว่าที่ควรจะเป็น
การรักษา
การใช้จิตบำบัดเพื่อช่วยให้ผู้ป่วยยอมรับว่ามีปัญหา
ยารักษาโรคจิตช่วยลดอาการหลงผิดของผู้ป่วยได้ และเมื่อใช้ร่วมกับจิตบำบัด
การให้ครอบครัวบำบัด (family therapy) ช่วยให้คนในครอบครัวเกิดความเข้าใจในตัวผู้ป่วยและยอมรับผู้ป่วยมากขึ้น
ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล
ขาดการมีสัมพนัธภาพกบัผอู้ื่น เนื่องจากหลงผิดคิด
วา่ มีคนใส่ร้ายและพดู พาดพึงถึงตนเอง
กิจกรรมการพยาบาล
สร้างสัมพันธภาพเพื่อให้ผู้ป่วยเกิดความไว้วางใจตามหลักการพยาบาลจิตเวช
รับฟังความคิดของผู้ป่วยโดยไม่ตัดสินหรือตำหนิผู้ป่วย
ไม่ได้เถียงกับผู้ป่วย หรือให้เหตุผลว่าความเชื่อของผู้ป่วยนั้นผิด
จัดให้เข้าร่วมกลุ่มกิจกรรมบำบัด เพื่อให้ผู้ป่วยไ้ด้ติดต่อกับสิ่งที่เป็นจริง
การสนทนากับผู้ป่วยที่มีความหลงผิดควรนำเทคนิคการสนทนา การให้คำปรึกษาต่าง ๆ มาใช้ดังตัวอย่าง ดังนี้
ใช้เทคนิค Giving general lead ในกรณีผู้ป่วย blocking
ใช้เทคนิค Clarification เพื่อข้อความกระจ่าง โดยให้ผู้ป่วยอธิบายถึงลักษณะของสิ่งที่เห็น
ใช้เทคนิค Presenting reality เพื่อให้ความจริงกับผู้ป่วย ในกรณีที่เห็นภาพหลอน
นางสาวพิมพ์ชนก กองจรูญ 2A เลขที่ 59 รหัสนักศึกษา 61360106