Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
พระราชบัญญัติคุ้มครองเด็กพ.ศ 2546 (ต่อ) - Coggle Diagram
พระราชบัญญัติคุ้มครองเด็กพ.ศ 2546 (ต่อ)
หมวด1 คณะกรรมการคุ้มครองเด็ก
มาตรา 8
ให้สำนักงานปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ทำหน้าที่เป็นสำนักงานเลขานุการของคณะกรรมการ
มาตรา 7 ให้มีคณะกรรมการคุ้มครองเด็กแห่งชาติประกอบด้วย
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เป็นประธานกรรมการ
กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งรัฐมนตรีว่าการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์แต่งตั้งจากผู้เชี่ยวชาญซึ่งมีประสบการณ์ในการทำงานในวิชาชีพสังคมสงเคราะห์ ครูจิตวิทยากฎหมายแพทย์ไม่น้อยกว่า 7 ปีวิชาชีพละ 2 คนและมีผู้แทนจากภาคเอกชนอย่างน้อยวิชาชีพละ 1 คน
ปลัดกระทรวงมหาดไทยปลัดกระทรวงยุติธรรมปลัดกระทรวงศึกษาธิการอัยการสูงสุดผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติอธิบดีกรมการปกครองอธิบดีกรมการพัฒนาสังคมและสวัสดิการอธิบดีกรมสุขภาพจิตอธิบดีผู้พิพากษาศาลเยาวชนและครอบครัวกลางผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมสวัสดิภาพและพิทักษ์เด็กเยาวชนผู้ด้อยโอกาสคนพิการและผู้สูงอายุเป็นกรรมการ
ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เป็นรองประธานกรรมการ
มาตรา 9
กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิมีวาระอยู่ในตำแหน่งคราวละ 3 ปี
มาตรา 10
นอกจากการพ้นจากตำแหน่งตามวาระตามมาตรา 9 กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิพ้นจากตำแหน่งเมื่อ ตายลาออกแล้วทำบุญตีให้ออกเพราะความบกพร่องได้รับโทษจำคุกเป็นบุคคลล้มละลายเป็นคนไร้ความสามารถผ่านการประชุมติดต่อกัน 3 ครั้ง
มาตรา 11
ในกรณีที่กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิดำรงตำแหน่งครบวาระแล้วยังไม่ได้มีการเลือกตั้งให้กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่พ้นจากตำแหน่งตามวาระปฏิบัติหน้าที่ไปพลางก่อน
มาตรา 14 คณะกรรมการมีอำนาจหน้าที่ดังต่อไปนี้
1 เสนอความคิดเห็นต่อรัฐมนตรีเกี่ยวกับนโยบาย
2 เสนอความคิดเห็นต่อรัฐมนตรีในการออกกฎกระทรวง
3 วางระเบียบโดยความเห็นชอบของกระทรวงการคลังเกี่ยวกับการรับเงิน
4 วางระเบียบเกี่ยวกับวิธีการดำเนินการคุ้มครองสวัสดิภาพเด็ก
5 วางหลักเกณฑ์ในการแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่
6 ให้คำปรึกษาแนะนำแก่หน่วยงานของรัฐและเอกชนที่ปฏิบัติงานด้านการศึกษาสวัสดิภาพการสงเคราะห์
7 ติดตามประเมินผล
8 ดำเนินการอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับการสงเคราะห์คุ้มครองสวัสดิภาพเด็ก
มาตรา 15 คณะกรรมการมีอำนาจแต่งตั้งอนุกรรมการ
มาตรา16 ให้มีคณะกรรมการคุ้มครองเด็กกรุงเทพฯ
มาตรา 17 ให้มีคณะกรรมการคุ้มครองเด็กจังหวัด
มาตรา 18
ให้นำบทบัญญัติมาตรา๙มาตรา๑๐มาตรา 11 มาตรา 12 มาบังคับใช้กับการดำรงตำแหน่งการพ้นจากตำแหน่งการแต่งตั้งคณะกรรมการแทนและการปฏิบัติหน้าที่
มาตรา 19 ให้นำบทบัญญัติมาตรา 43 มาตรา 15 มาบังคับใช้ในการประชุมและแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ
มาตรา 20 คณะกรรมการคุ้มครองเด็กกรุงเทพฯและคณะกรรมการคุ้มครองเด็กจังหวัดมีอำนาจหน้าที่ดังนี้
4 จัดหาทุนเพื่อการสงเคราะห์
5 ตรวจสอบหรือเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องมาชี้แจง
3 กำหนดแนวทางการสงเคราะห์
6 เรียกเอกสารหรือพยานหลักฐานใดๆเพื่อประกอบการวินิจฉัย
2 ให้คำปรึกษาแนะนำ
7 ติดตามประเมินผลตรวจสอบการดำเนินงาน
1 เสนอความเห็นต่อกรรมการเกี่ยวกับนโยบาย
8 ดำเนินการอื่นใดตามที่คณะกรรมการมอบหมาย
มาตรา21
ในการปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้ให้กรรมการและอนุกรรมการเป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา