Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ภาพยนตร์สั้น A beautiful mind, นางสาววรรณรดา ทาศรีทอง ปี2A เลขที่ 67…
ภาพยนตร์สั้น A beautiful mind
สาเหตุ
ด้านครอบครัว
ด้านสังคมและวัฒนธรรม
เป็นคนเก็บตัว ไม่มีเพื่อนสนิท
ชอบอยู่คนเดียว
ไม่มีสัมพันธภาพกับผู้อื่น
ด้านพันธุกรรม
สารสื่อประสาทในสมอง
ด้านจิตใจ
ความขัดแย้งภายในจิตใจ
ความเครียด
ความสามารถในการปรับตัว
ประสบการณ์ในอดีต
โดนเพื่อนแกล้งเป็นประจำ
อาการและอาการแสดง
ประสาทหลอน
หูแว่ว ได้ยินเสียงคนสั่งให้ทำตาม
คิดว่ามีคนอยู่ด้วยตลอดเวลา
คิดว่าจะมีคนมาทำร้าย
ควบคุมตนเองไม่ได้
ทำร้ายตนเอง
ทำร้ายบุคคลรอบตัว
หวาดระแวง
คิดว่ามีคนจะทำร้าย
มีคนสะกดรอยตาม
ไม่ชอบเข้าสังคม
ไม่มีเพื่อน
เป็นคนเก็บตัว
ชอบอยู่คนเดียว
ด้านพฤติกรรม
เดินหลังค่อม
มองซ้าย ขวา ตลอดเวลา
กระสับกระส่าย เดินไปมา
พยายามโต้ตอบกับใครบางคน
นั่งกุมมือและบีบมือตัวเองเกือบตลอดเวลา
ประวัติทั่วไป
ข้อมูลส่วนบุคคล
อายุ 24 ปี
เชื้อชาติอเมริกัน สัญชาติอเมริกัน
ผู้ป่วยชื่อ นายจอห์น ฟแบส์ แนช จูเนียร์ (Mr. John Forbes Nash, Jr)
ประวัติครอบครัว
มีภรรยาชื่อ นางอลิเซีย (Mrs. Alicia)
มีน้องสาว 1 คน
ความสัมพันธภาพในครอบครัว
ผู้ป่วยมีความคิดหมกมุ่นเกือบทำร้ายภรรยาและลูก
ผู้ป่วยไม่มีความรู้สึกอยากมีเพศสัมพันธ์กับภรรยา
ผู้ป่วยเป็นคนเก็บตัว
ผู้ป่วยมีความคิหมกมุ่นและมีพฤติกรรมที่แปลกๆ
คาดการณ์โรคที่เกี่ยวข้อง
โรคจิตเภท (Schyzophrenia)
เป็นโรคความผิดปกติทางจิตที่รุนแรงและเรื้อรัง ส่งผลต่อการพูด การคิด การรับรู้ ความรู้สึก และการแสดงออกของผู้ป่วย ทำให้ผู้ป่วยมีอาการต่าง ๆ อย่างประสาทหลอน หลงผิด ปลีกตัวจากสังคม หรือไม่สามารถใช้ชีวิตในสังคมได้ตามปกติ
โรคจิตเภทชนิดหวาดระแวง (Schizophrenia paranoid)
คือภาวะผิดปกติทางความคิดที่ทำให้เคลือบแคลงสงสัยหรือระแวงผู้อื่นอย่างไม่มีเหตุผล ผู้ป่วยอาจรู้สึกว่ามีคนจ้องทำร้ายอยู่ตลอดเวลา คิดว่าคนรอบข้างไม่ชอบตนเอง หรือไม่ไว้ใจผู้อื่น อาการเหล่านี้เรียกอีกอย่างหนึ่งว่าอาการหลงผิด ซึ่งจะส่งผลให้ผู้ป่วยมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นหรือเข้าสังคมได้ยาก
ประเด็นที่สงสัย
ทำไมผู้ป่วยจึงเก็บตัวอยู่คนเดียวและคิดว่าตนโดนแกล้งเพราะเพื่อนอิจฉา
ทำไมผู้ป่วยพูดตะกุกตะกัก แต่จะพูดรัวเร็วในเรื่องที่ตนเองสนใจ
พัฒนาการในวัยเด็ฏส่งผลกระทบหรือไม่
ผู้ป่วยได้รับการรักษาด้วยยา แล้วยานั้นคือยาอะไร
ผู้ป่วยรายนี้สมควรได้รับการรักษาที่โรงพยาบาลหรือควรได้รับการรักษาที่บ้านโดยคนในครอบครัว
ผู้ป่วยได้รับการรักษาอย่างไร
ครอบครัวจะมีส่วนช่วยในการรักษาผู้ป่วยอย่างไรบ้าง
เกิดผลกระทบอะไรบ้างกับผู้ป่วยรายนี้
ผู้ป่วยสามารถจัดการกับอาการที่เกิดขึ้นอย่างไร
การรักษา
การรักษาด้วยไฟฟ้า
การรักษาด้วยยา
ยารับประทาน
ยาฉีด
จิตบำบัด
ฝึกทักษะในการเผชิญความเครียด
พัฒนาการตามช่วงวัย
ในวัยเด็ก
ผู้ป่วยเป็นคนเรียนเก่ง
ไม่ชอบกิจกรรมนันทนาการแต่มีตวามสนใจในด้านวิทยาศาสตร์และทำการทดลองด้วยตนเองตั้งแต่อายุ 12 ปี
ไม่มีเพื่อนสนิทและมักมีปัญหาในการปรับตัวให้เข้ากับเพื่อน
ช่วงวัยรุ่น
ผู้ป่วยเริ่มมีบุคลิกที่ดูแตกต่างจากผู้อื่นอย่างเห็นได้ชัด
เมื่อเริ่มทำงาน
ผู้ป่วยบอกว่าชาร์ลอยู่กับเขาตลอดและเป็นเพื่อนสนิทคนเดียวของเขา
ผุ้ป่วยหันมาสนใจทางด้านคณิตศาสตร์และมุ่งมั่นในการเรียน
เรียนปริญญาเอก
เริ่มมีความคิดหมกมุ่นและมีพฤติกรรมแปลกๆเพิ่มมากขึ้น
พบว่าชาร์ลเริ่มเข้ามามีบทบาทในชีวิตเขา
ชาร์ลให้กำลังใจและคอยอยู่เป็นเพื่อนผู้ป่วยเสมอ
มีความโดดเด่นทางด้านการเรียนในระดับอัจฉริยะ
พระราชบัญญัติสุขภาพจิต พ.ศ. ๒๕๕๑
การนำบุคคลที่มีภาวะอันตรายหรือมีความจำเป็นต้องได้รับการบำบัดรักษาให้ได้รับการบำบัดรักษา ภาวะอันตรายที่กล่าวถึงคือ อันตรายที่เกิดขึ้นจากความผิดปกติทางจิต ที่แสดงออกมาทางพฤติกรรม อารมณ์ ความคิดหลงผิดหรือพฤติกรรมที่เป็นเหตุให้เกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือทรัพย์สินของตนเองหรือผู้อื่น เช่น เมื่อมีผู้ป่วยทางจิตมีพฤติกรรมอาละวาด ทำร้ายคนรอบข้าง ผู้ที่พบเห็นสามารถแจ้งพนักงานเจ้าหน้าที่ พนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจ ให้ดำเนินการพาบุคคลนั้นไปยังโรงพยาบาลหรือสถานพยาบาลของรัฐ หรือสถานบำบัด เพื่อให้บุคคลผู้นั้นได้เข้ารับการรักษาอาการทางจิต หรือพฤติกรรมผิดปกตินั้นในโรงพยาบาล แม้ว่าผู้ป่วยจะไม่ยินยอมเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลก็ตาม กล่าวโดยสรุปคือ พระราชบัญญัติสุขภาพจิต พ.ศ. ๒๕๕๑ เน้นการบังคับรักษาผู้ป่วยทางจิต แม้ผู้ป่วยจะไม่ยินยอม ถือเป็นการให้ความคุ้มครองเจ้าพนักงานตำรวจ หรือเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลที่เอาตัวผู้ป่วยไว้รักษาในโรงพยาบาล โดยไม่ถือว่าเป็นการกักขังหน่วงเหนี่ยวแต่อย่างใด
การพยาบาล
พยาบาลต้องให้ความสำคัญกับการสร้างสัมพันธภาพเพื่อการบำบัดอย่างสม่ำเสมอเพื่อเป็นแนวทางให้ผู้ป่วยได้พูดถึงความคิดของเขาได้อย่างอิสระและเพื่อได้รับฟังความคิดของผู้ป่วย
พยาบาลต้องประเมินความคิดของผู้ป่วยว่ามีผลอย่างไรต่อพฤติกรรมและการกระทำของผู้ป่วยเช่นผู้ป่วยคิดว่าเขาควรจะตายผู้ป่วยจะพยายามฆ่าตัวตายพยาบาลจึงควรระมัดระวังในประเด็นนี้
พยาบาลต้องประเมินอาการประสาทหลอนที่เกิดขึ้นกับผู้ป่วยว่าเกี่ยวข้องกับระบบรับสัมผัสใดผู้ป่วยแสดงปฏิกิริยาอย่างไรต่อการรับรู้นั้นๆและอาการประสาทหลอนเกิดขึ้นในช่วงเวลาใด
ถ้าพยาบาลพบผู้ป่วยที่กำลังแสดงอาการประสาทหลอนพยาบาลควรบอกสิ่งที่เป็นจริง(Present reality) กับผู้ป่วยในขณะนั้นเช่นผู้ป่วยบอกว่าเห็นแม่มาหาซึ่งขณะนั้นไม่มีแม่ผู้ป่วยพยาบาลควรบอกให้ผู้ป่วยรู้ว่าพยาบาลไม่เห็นแม่ของเขา
เปิดโอกาสให้ผู้ป่วยพูดถึงอาการประสาทหลอน และหาวิธีที่จะให้ผู้ป่วยเผชิญอาการประสาทหลอนของเขาอย่างเหมาะสมเช่นใช้เสียงของเขาเองที่จะโต้ตอบกับเสียงที่เขาได้ยินหรือรีบมาบอกพยาบาลถ้าเขาเห็นภาพบางอย่างที่ไม่เป็นจริง
ให้ผู้ป่วยแยกแยะว่าอาการประสาทหลอนที่เกิดขึ้นนั้นเขารู้สึกอย่างไรอาการเกิดขึ้นในช่วงเวลาใดหรือมีเหตุการณ์อะไรนามาก่อนเพราะผู้ป่วยจะได้รู้จักป้องกันตนเองไม่ให้เกิดอาการรุนแรงขึ้นพยาบาลต้องตระหนักว่ามีอาการประสาทหลอนบางประเภทมีแนวโน้มจะทาให้ผู้ป่วยมีปฏิกิริยาโต้ตอบรุนแรง
นางสาววรรณรดา ทาศรีทอง ปี2A เลขที่ 67 รหัสนักศึกษา 613601072