Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
เนื้อเรื่องภาพยนต์สั้น เรื่อง A beautiful mind, นางสาวพรปวีณ์ ศรีโชติ…
เนื้อเรื่องภาพยนต์สั้น
เรื่อง A beautiful mind
สาเหตุ
ครอบครัว
ครอบครัวชอบตำหนิ
สังคมเเละวัฒนธรรม
สภาพเเวดล้อม
ชอบเก็บตัวไม่มีเพื่อนสนิท
ไม่มีสัมพันธภาพกับผู้อื่น
พันธุกรรม
จิตใจ
ความสามารถในการปรับตัว
ประสบการณ์ในอดีต
โดนเพื่อนเเกล้งเป็นประจำ
ความเครียด
ประวัติผู้ป่วย
ประวัติส่วนตัว
อายุ 24
เชื้อชาติอเมริกัน สัญชาติอเมริกัน
ผู้ป่วย เพศชาย ชื่อจอห์น ฟอบส์ แนช จูเนียร์
อาชีพ อาจาร์ย เเละ นักคณิตศาสตร์
ไม่มีประวัติการเเพ้ยา อาหาร
ประวัติครอบครัว
ภรรยาชื่อ อลิเซีย เเละมีลูกด้วยกัน 1 คน
มีน้องสาว 1 คน
บิดาเป็นวิศวกร
มารดาเป็นครูสอนภาษา
สัมพันธภาพในครอบครัว
เป็นคนเก็บตัว
คิดหมกหมุ่นเกือบทำร้ายภรรยาเเละลูก
ไม่อยากมีเพศสัมพันธกับภรรยา
อาการ
อาการประสาทหลอน
(Hallucination)
เห็นภาพหลอน (Hallucination)
ผู้ป่วยเห็นชาร์ลมาปรากฏตัวอยู่กับเขาบ่อยๆในสถานการณ์ต่างๆ
หูแว่ว (Auditory Hallucination)
ผู้ป่วยได้ยินว่าวิลเลียมสั่งให้เขาถอดรหัสลับให้ได้
หมกหมุ่น
ผู้ป่วยพูดถึงเรื่องการถูกสะกดรอย
ตามจะพูดรัวเร็ว
ในการถอดรหัส
แยกตัวจากสังคม
(Dysfunction)
เป็นคนเก็บตัวไม่ค่อยมีเพื่อนสนิท
อาการหลงผิด
(Delusion)
ผู้ป่วยคิดว่าจิตแพทย์เป็น สายลับรัสเซีย จึงไม่ให้ความร่วมมือในการรักษา
ผู้ป่วยคิดว่าตนเป็นสายลับ พยายามที่จะถอดรหัสจากนิตยสารและข่าวตลอดเวลาเเละที่อื่นๆ
ควบคุมตนเองไม่ได้
ทำร้ายคนรอบตัว
ทำร้ายตัวเอง
การรักษา
รักษาด้วยไฟฟ้า
รักษาด้วยยา
ยารับประทาน
ยาฉีด
การรักษาด้านจิตสังคม
การให้คำแนะนำแก่ครอบครัว
กลุ่มบำบัด
การช่วยเหลือด้านจิตใจ
นิเวศน์บำบัด
ประเด็นที่สงสัย
ครอบครัวมีส่วนช่วยในการรักษาผู้ป่วยอย่างไร
ผู้ป่วยได้รับการรักษาด้วยยา ควรได้รับยาชนิดใด หรือมีวิธีรักษาอื่นที่ดีกว่าหรือไม่
ความคิดหลงผิดกับภาพหลอดเเตกต่างกันอย่างไร
ผู้ป่วยควรรักษาที่โรงพยาบาลหรือควรรักษาที่บ้านโเยคนภายในครอบครัว
กฎหมาย พรบ. สุขภาพจิต
มาตรา ๑๘
การรักษาทางจิตเวชด้วยไฟฟ้า การกระทำต่อสมองหรือระบบประสาท หรือการบำบัดรักษาด้วยวิธีอื่นใด ที่อาจเป็นผลทำให้ร่างกาย ไม่อาจกลับคืนสู่สภาพเดิมอย่างถาวร ให้กระทำได้ในกรณีผู้ป่วยได้รับทราบเหตุผลความจำเป็น ความเสี่ยงที่อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนให้ความยินยอมเป็นหนังสือเพื่อการบำบัดรักษานั้น
มาตรา ๒๓
ผู้ใดพบบุคคลซึ่งมีพฤติการณ์อันน่าเชื่อว่าบุคคลนั้น มีลักษณะตามมาตรา ๒๒ ให้แจ้งต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ พนักงานฝ่ายปกครอง หรือตำรวจโดยไม่ชักช้า
มาตรา ๒๗
ให้แพทย์อย่างน้อยหนึ่งคนและพยาบาลอย่างน้อยหนึ่งคน ที่ประจำสถานพยาบาลหรือสถานบำบัดรักษา ตรวจวินิจฉัยและประเมินอาการ เบื้องต้นบุคคลที่มีการนำส่งตามมาตรา ๒๔ มาตรา ๒๕ หรือมาตรา ๒๖ ให้แล้วเสร็จโดยไม่ชักช้า ทั้งนี้ ต้องไม่เกินสี่สิบแปดชั่วโมงนับแต่เวลาที่ บุคคลนั้นมาถึงสถานพยาบาลของรัฐหรือสถานบำบัดรักษา
มาตรา ๓๐
คำสั่งรับผู้ป่วยไว้บำบัดรักษาตามมาตรา ๒๙ (๑) ให้ คณะกรรมการสถานบำบัดรักษากำหนดวิธีการและระยะเวลาการบำบัดรักษา ตามความรุนแรงของความผิดปกติทางจิต แต่ทั้งนี้ต้องไม่เกินเก้าสิบวัน นับแต่วันที่มีคำสั่ง และอาจขยายระยะเวลาได้อีกครั้งละไม่เกินเก้าสิบวัน นับแต่วันที่มีคำสั่งครั้งแรกหรือครั้งถัดไป
มาตรา ๒๔
เมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่ พนักงานฝ่ายปกครอง หรือตำรวจ ได้รับแจ้งตามมาตรา ๒๓ หรือพบบุคคลซึ่งมีพฤติการณ์อันน่าเชื่อว่าบุคคลนั้น มีลักษณะตามมาตรา ๒๒ ให้ดำเนินการนำตัวบุคคลนั้นไปยังสถานพยาบาล ของรัฐหรือสถานบำบัดรักษาซึ่งอยู่ใกล้โดยไม่ชักช้า เพื่อรับการตรวจวินิจฉัย และประเมินอาการเบื้องต้นตามมาตรา ๒๗ ทั้งนี้ โดยจะมีผู้รับดูแลบุคคล ดังกล่าวไปด้วยหรือไม่ก็ได้
มาตรา ๒๒
บุคคลที่มีความผิดปกติทางจิตในกรณีใดกรณีหนึ่งดังต่อไปนี้ เป็นบุคคลที่ต้องได้รับการบำบัดรักษา คือ มีภาวะอันตราย มีความจำเป็นต้องได้รับการบำบัดรักษา
คาดการณ์โรคที่เกี่ยวข้อง
โรคจิตเภทชนิดหวาดระเเวง (Schyzophrenia paranoid )
ภาวะผิดปกติทางความคิดที่ทำให้เคลือบแคลงสงสัยหรือระแวงผู้อื่นอย่างไม่มีเหตุผล ผู้ป่วยอาจรู้สึกว่ามีคนจ้องทำร้ายอยู่ตลอดเวลา คิดว่าคนรอบข้างไม่ชอบตนเอง หรือไม่ไว้ใจผู้อื่น อาการเหล่านี้เรียกอีกอย่างหนึ่งว่าอาการหลงผิด ซึ่งจะส่งผลให้ผู้ป่วยมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นหรือเข้าสังคมได้ยาก
โรคกลัวสังคม
(Social anxiety disorder)
การที่ผู้ป่วยมีอาการประหม่า รู้สึกไม่สบายใจ อึดอัด กังวลใจ เมื่ออยู่ในสถานการณ์ที่อาจมีผู้อื่นสังเกตจ้องมองตนเอง เช่น การพูดคุยกับคนที่ไม่คุ้นเคย การทำกิจกรรมในที่สาธารณะ หรือนำเสนองานหน้าชั้นเรียน เป็นต้น โดยมีอาการแสดงคือเมื่ออยู่ในสถานการณ์ดังกล่าว มักใจสั่น มือสั่น เสียงสั่น เหงื่อออกมาก อันเกิดจากความตื่นเต้นและความกังวลที่เกิดขึ้นในจิตใจ
โรคจิตหลงผิด (Delusional disorder)
หรือโรคหลงผิด เป็นภาวะทางจิตที่ร้ายแรง โดยผู้ป่วยจะมีอาการหลงผิดไปจากความเป็นจริงเป็นเวลามากกว่า 1 เดือน ซึ่งผู้ป่วยส่วนใหญ่มักดูเป็นปกติและไม่มีพฤติกรรมที่แปลกประหลาด มีเพียงความเข้าใจผิดในบางเรื่อง เช่น เชื่อว่ากำลังถูกปองร้าย
พัฒนาตามช่วงวัย
วัยรุ่นเเละ
วัยผู้ใหญ่
ผู้ป่วยเริ่มมีบุคลิกที่ดูแตกต่างจากผู้อื่นอย่างเห็นได้ชัด
เมื่อทำงานชาร์ลส์อยู่กับเข้าตลอดและ
เป็นคนเดียวที่เขาสามารถพูดคุย
ผู้ป่วยหันมาสนใจทางด้านคณิตศาสตร์และมุ่งมั่นในการเรียนมาก
เรียนปริญญาเอก
เริ่มมีความคิดหมกมุ่นและมีพฤติกรรมแปลกๆเพิ่มมากขึ้น
ผู้ป่วยพบว่าชาร์ลส์เริ่มเข้ามามีบทบาทในชีวิตเขา
ให้กำลังใจและคอยอยู่เป็นเพื่อนผู้ป่วยเสมอ
มีความโดดเด่นทางด้านการเรียนในระดับอัจฉริยะ
วัยเด็ก
ชอบเก็บตัว
ไม่มีเพื่อนสนิทและมักมีปัญหา
ในการปรับตัวให้เข้ากับเพื่อน
ไม่ชอบกิจกรรมนันทนาการแต่มีความสนใจทางด้านวิทยาศาสตร์และทำการทดลองด้วยตนเองตั้งแต่อายุ 12 ปี
นางสาวพรปวีณ์ ศรีโชติ เลขที่57 รหัสนักศึกษา 613601060