Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่ 9 การพยาบาลแบบองค์รวมในทารกแรกเกิดที่มีภาวะเสี่ยงและปัญหาสุขภาพ
3…
บทที่ 9 การพยาบาลแบบองค์รวมในทารกแรกเกิดที่มีภาวะเสี่ยงและปัญหาสุขภาพ
3.ทารกแรกเกิดติดเชื้อ
4.ทารกแรกเกิดจากมารดาติดสารเสพติด
5.ภาวะขาดออกซิเจนแรกคลอด
- ภาวะสูดสำลักขี้เทาเข้าปอด
-
-
3.การติดเชื้อในระยะคลอด
ทารกจะได้รับเชื้อที่ปนเปื้อนอยู่บริเวณช่องคลอดและเลือดของมารดา ทำ
ให้ติดเชื้อได้ เชื้อที่พบได้บ่อย ได้แก่ หนองใน เริม เอดส์ ตับอักเสบบี เป็นต้น
-
การติดเชื้้อ
โรคหัดเยอรมัน (Rubella)
-
-
▪ การติดเชื้อไตรมาสแรก พบว่า ทารกมีโอกาสติดเชื้อถึงร้อยละ 80และส่งผลให้เกิด congenital rubella syndrome(CRS)
-
-
-
แนวทางการรักษา
1) ทารกแรกเกิดจากมารดาที่ติดเชื้อหัดเยอรมันในระยะตั้งครรภ์ แม้ไม่มีอาการแสดงใด ๆ ควรได้รับการแยกจากทารกปกติ เพื่อสังเกตอาการและประเมินความผิดปกติที่อาจเกิดขึ้นภายหลัง
-
โรคซิฟิลิส (Syphilis)
-
-
แนวทางการรักษา
- ทารกที่คลอดจากมารดาที่เป็นโรคซิฟิลิส พยาบาลจะต้องสังเกตภาวะ congenital syphilis และส่ง cord blood for VDRL ติดตามผลเลือด
-
• ดูแลให้ยา Aqueous penicillin G 50,000 ยูนิต/กก.ทางหลอดเลือดดำ และให้Procaine penicillin G 50,000 ยูนิต/กก. ทางกล้ามเนื้อ
• ดูแลให้ยา Benzathine penicillin G 50,000 ยูนิต/กก.ฉีดเข้ากล้ามเนื้อ ๑ ครั้ง
โรคสุกใส (Chickenpox)
-
แนวทางการรักษา
- ทารกแรกเกิดจากมารดาเป็นโรคสุกใสและมีอาการขณะคลอด มารดาและทารกควรได้รับการแยกกันดูแลจนกระทั่งมารดามีการตกสะเก็ดของตุ่มสุกใสจนหมด และทารกที่คลอดจากมารดาที่ติดเชื้อควรได้รับการแยกจากทารกที่คลอดจากมารดาปกติด้วย
- ทารกที่คลอดจากมารดาที่ติดเชื้อสุกใสภายใน 5 วันก่อนคลอดหรือ 2 วันหลังคลอดมีโอกาสติดเชื้อได้ร้อยละ 10 - 25 จึงควรได้รับ varicella-zoster immunoglobulin (VZIG) ทันทีที่คลอด
โรคหนองในแท้ (Gonorrhea)
- เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Neisseria gonorrhea
- ทารกจะได้รับเชื้อโดยตรงหลังจากมีถุงน้ำคร่ำแตก หรือผ่านช่องทางคลอดที่ติดเชื้อ พบใน1-4วันหลังคลอด
- เชื้อจะเข้าสู่ตาทารกเป็นส่วนใหญ่ ทำให้ติดเชื้อ
บริเวณตาของทารก (gonococcal ophthalmia neonatorum) ทำให้ทารกมีอาการตาบอดได้
- ป้องกันได้โดยการป้ายตาภายหลังทารกคลอดทันทีเช่น 0.5% erythromycin หรือ1% tetracyclin oinment หรือหยอดตาด้วย 1% silver nitrate
แนวทางการรักษา
- ดูแลให้ได้รับยา Cefixin 1 mg/kg ฉีดเข้าทางหลอดเลือดดำหรือฉีดเข้าทางกล้ามเนื้อของทารกวันละ 1 ครั้งติดต่อกัน 7 วัน
- ต้องเช็ดตาของทารกด้วย NSS หรือล้างตาทุก 1 ชั่วโมงจนกว่าหนองจะแห้ง
โรคเริม (Herpes)
-
อาการของทารก
มีไข้อ่อนเพลีย การดูดนมไม่ดีตัวเหลือง ตับ ม้ามโต ชัก หรือบางรายพบมีตุ่มน้ำพองใสเล็ก ๆ ที่ผิวหนังตามร่างกาย
แนวทางการรักษา
1.ทารกที่คลอดจากมารดาที่เป็นโรคเริม จะต้องถูกแยกจากทารกคนอื่น ๆ และดูแลอย่างใกล้ชิดเพื่อดูอาการของการติดเชื้อเริม อย่างน้อย 7-10 วัน
-
โรคเอดส์(AIDS)
-
การติดต่อจากมารดาไปสู่ทารกสามารถติดต่อได้โดยผ่านทางรก การสัมผัสเลือดและสารคัดหลั่งจากมารดาขณะคลอด และหลังคลอด และการเลี้ยงบุตรด้วยนมมารดา
การให้ยาต้านไวรัสและการผ่าตัดคลอดก่อนการเจ็บครรภ์สามารถป้องกันการถ่ายทอดเชื้อไวรัส HIV จากมารดาสู่ทารกได้
แนวทางการรักษา
- หลีกเลี่ยงการใส่สายยางสวนอาหารในกระเพาะอาหารทารกโดยไม่จำเป็น เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดบาดแผล
- การรักษาด้วยยา ทารกที่คลอดจากมารดาที่ติดเชื้อ จะต้องได้รับยา NVP ชนิดน้ำขนาด6 มิลลิกรัมทันทีหรือภายใน 8 -12 ชั่วโมงหลังคลอดร่วมกับ AZT 2 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม หลังจากนั้นจะให้ยา AZT ต่อทุก 2 ชั่วโมง
- ตรวจหาการติดเช้ือเพื่อหา viral load ด้วยวิธี real time PCR assay ถ้าพบเชื้อ HIV-RNA ใน 48 ชวั่ โมงแรกหลงัคลอด แสดงวาทารกติดเชื้อตั้งแต่ในครรภ์ ถ้าตรวจพบใน 6 สัปดาห์ แสดงว่าติดเชื้อในระยะคลอด
- เมื่อทารกครบ 12 เดือน ควรตรวจหาภูมิต้านทานชนิด IgG และ IgMและควรตรวจอีกครงั้เมื่อ 18 เดือน
โรคตับอักเสบบ
-
การถ่ายทอดเชื้อจากบุคคลหนึ่งไปยังบุคคลหนึ่งผ่านทางเลือด น้ำลาย อสุจิ สิ่งคัดหลั่งทางช่องคลอด น้ำนม และผ่านทางรก
-
หญิงตั้งครรภ์ที่มีผล HBeAg positive จะมีอัตราการถ่ายทอดเชื้อไปสู่ทารกสูงถึงร้อยละ 90 และหญิงตั้งครรภ์ที่มผล HBeAg negative จะมีอัตราการถ่ายทอดเชื้อไปสู่ทารกเพียงร้อยละ 10-20
แนวทางการรักษา
1) ทารกแรกคลอดต้องดูดมูกและเลือดออกจากปากและจมูกของทารกออกมาให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และทำความสะอาดทารกทันทีที่คลอด เพื่อช่วยลดปริมาณไวรัสที่จะสัมผัสทารก
2) ทารกสามารถดูดนมมารดาได้ทันทีหลังคลอดโดยไม่จำเป็นต้องรอให้ทารกได้รับวัคซีนก่อน แต่หากมารดามีหัวนมแตกให้งดให้บุตรดูดนมเพราะอาจแพร่การกระจายเชื้อสู่ทารกได้
3) ดูแลให้ทารกแรกเกิดได้รับ (HBIG) เข้ากล้ามเนื้อโดยเร็วที่สุด ร่วมกับ HBV เข็มที่ 1 เข้ากล้ามเนื้อโดยเร็วที่สุด ภายใน 12 ชั่วโมงหลังคลอด โดยฉีดคนละตำแหน่ง แล้วควรนัดให้มารับวัคซีน HBV ตามกำหนดเข็มที่ 2 ตอนอายุ 1 เดือน และให้วัคซีน DTP-HB ตอนอายุ 2, 4, 6 เดือน
-
- ภาวะสูดสำลักขี้เทาเข้าปอด (Meconium aspiration syndrome)
ภาวะหายใจลำบากที่เกิดจากการที่ทารกสูดสำลักขี้เทาซึ่งปนในน้ำคร่ำเข้าทางเดินหายใจ ปอด มีความสัมพันธ์กับการขาดออกซิเจนของทารกขณะอยู่ในมดลูก หรือขณะคลอด
-
อาการและอาการแสดง
- ขี้เทาจะไปอุดตามหลอดลมและถุงลมในปอดของทารก ทำให้ทารกหายใจเร็วกว่าปกติเล็กน้อย เป็ นเวลา 2- 3 วันหลังคลอด หรือบางรายอาจหายใจเร็วมากกว่า 60 ครั้งต่อนาที
- ปลายมือปลายเท้าและรอบปากเขียว
- หน้าอกโป่ ง เวลาหายใจเข้าออกหน้าอกจะบุ๋ม
- ฟังปอดพบเสียง rales และ rhonchi เสียงลมหายใจเข้าเบาลง เสียงหัวใจค่อยลงจาก(pneumothorax
- ภาพรังสีของปอดพบปอดทึบจากพบสารน้ำในเยื่อหุ้มปอด
- สายสะดือมีสีเหลือง(yellowish staining)
- ในรายที่ไม่รุนแรงอาการจะดีขึ้นภายใน 24-72 ชม.
- ในรายที่รุนแรงอาขใช้เวลา 1-2 สัปดาห์
- ในรายที่สูดสำลักขี้เทาเข้าไปมากอาจเสียชีวิตทันทีหลังคลอดหรือภายใน 24ชม.
แนวทางการรักษา
-
2.หากมีขี้เทาในน้ำคร่ำประกอบกับทารกหายใจช้าความตึงตัวของกล้ามเนื้อไม่ดีและ HR < 100 ครั้งต่อนาที พิจารณาใส่ETT
-
-
-
-
-
บทบาทการพยาบาล
-
- ให้ลูกสูบยางแดงหรือสาย suction ขนาดเล็ก ดูดขี้เทาและน้ำคร่ำจนกว่าจะหมด
- กระตุ้นให้ร้องและดูแลให้ออกซิเจน
- รักษาร่างกายทารกให้อบอุ่น โดยจัดให้นอนใน radiant
warmer ที่อุณหภูมิ36.5-37 องศาเซลเซียส
- สังเกตอาการผิดปกติโดยเฉพาะการหายใจ มากกว่า 60 ครั้งต่อนาที ให้รายงานแพทย์
- บอกถึงอาการและความก้าวหน้าของการรักษาพยาบาลทารกให้มารดาและบิดาทราบ
-