Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

A Beautiful mind, นางสาวสรินญา มานิตย์ ห้อง 2B เลขที่ 77 รหัส 613601186…

- - - - Erotomanic Type
        
        คิดว่าบุคคลมีชื่อเสียงมาหลงรักตัวเอง
      - Grandiose Type
        
        เชื่อว่าตนเองมีความสามารถเหนือกว่าผู้อื่น มีความหยั่งรู้พิเศษ
      - Jealous Type
        
        คู่ครองของตนนอกใจ
      - Persecutory Type
        
        ระแวงว่าตนเองถูกกลั่นแกล้ง สะกดรอย หมายเอาชีวิต
      - Somatic Type
        
        หลงผิดเกี่ยวกับร่างกายของตนเอง
    - - ระแวงว่าตนถูกกลั่นแกล้ง หรือถูกปองร้าย
    - - คนที่มีความเครียดสูง
      - มีฐานะไม่ดี
      - ผู้อพยพย้ายถิ่นฐาน
      - พบได้ตั้งแต่ช่วงอายุ 18-90 ปี และพบมากในคนอายุ 40 ปีขึ้นไป
    - - ด้านจิตใจ
        
        การเลี้ยงดูที่ไม่ได้รับความอบอุ่น
        
        ทำให้ไม่เชื่อใจใคร
        
        มีความรู้สึกไวต่อท่าทีของผู้อื่น
      - ด้านสังคม
        
        สังคมที่มีความเครียด กดดัน การแข่งขันสูง การเอารัดเอาเปรียบ
        
        ทำให้รู้สึกว่าถูกผู้อื่นคุกคาม
        
        รู้สึกว่าได้รับการกระทำที่ไม่ดีจากผู้อื่น
        
        มีความระแวงมากขึ้น
      - ด้านชีวภาพ
        
        ไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด
        
        สัมพันธ์กับสมองส่วนที่ควบคุมความเป็นเหตุผลและอารมณ์ความรู้สึก
  - - - Auditory hallucination
        
        หูแว่วได้ยินเสียงจากภายนอกอาจเป็นคำพูดหรือเสียง
      - Visual hallucination
        
        เห็นภาพเป็นคนหรือ
        สิ่งของ บางรายเห็นภาพคนจะมาทำร้าย
      - Gustatory hallucination
        
        การรับรส รู้สึกรสแปลกๆ
      - Tactile hallucination
        
        รู้สึกเหมือนมีอะไรมาไต่ตามตัว
        
        บางครั้งรู้สึกปวดแสบปวดร้อน หรือซู่ซ่าตามผิวหนัง แขน ขา
      - Olfactory hallucination
        
        ได้กลิ่นแปลกๆ มักจะเป็นกลิ่นเหม็น
  - - - โรคที่มีความผิดปกติของความคิด (thought) เป็นอาการเด่น แต่มี
        ผลถึงการรับรู้(perception) อารมณ์(affect) และพฤติกรรม(behavior)
      - Eugen Bleuer เป็นผู้ตั้งชื่อโรค
    - - เกิดในเพศชายมากกว่าเพศหญิง
      - พบได้มากในครอบครัวที่มีฐานะยากจน
      - เกิดในผู้ที่มีอายุ
        ระหว่าง 15-34 ปี
      - พบในคน
        ทุกเชื้อชาติ
    - - ปัจจัยด้านพันธุกรรม (Genetic factors)
        
        มีการถ่ายทอดทาง
        พันธุกรรม
      - ปัจจัยด้านชีวเคมีของสมอง (Biological factors)
        
        มีความสัมพนัธ์กับ dopamine ในสมอง
      - ปัจจัยด้านจิตใจ (Psychological factors)
        
        เป็นความผิดปกติจากพัฒนาการทาง
        บุคลิกภาพของบุคคลในวัยเด็ก
      - ปัจจัยด้านสังคมและวัฒนธรรม (Sociocultural factors)
        
        ประชากรที่มีฐานะยากจนป่วยเป็นโรคจิตเภทมากกว่าประชากรที่มีฐานะดี
        
        บิดามารดาที่มีความขัดแย้งกัน พยายามดึง
        เด็กมาเป็นพวกของตน
        
        บิดามารดาที่เลี้ยงลูกแบบปกป้องมากเกินไป
    - - เริ่มเป็นในวัยหนุ่มสาว พบบ่อยในอายุระหว่าง 20-30 ปี พบได้น้อยมากในอายุ 40 ปีขึ้นไป
      - ความผิดปกติของความคิด
        
        1.1 รูปแบบความคิดผิดปกติ (Disorder of form)
        
        ขาดการเชื่อมโยงเหตุผล ไม่สามารถลำดับความคิดตาม
        ขั้นตอนของเหตุการณ์
        
        รูปแบบความคิดผิดปกติ
        
        incoherence :พูดไม่ต่อเนื่องกันขาดเป็น
        ช่วงๆ อาจพูดเป็นคำ เป็นพยางค์หรือเป็นประโยคที่ไม่มีควาสัมพันธ์กันเลย
        
        Blocking คือ กระแสความคิดหยุดชงักทันทีเพราะความคิดขาดหายไปเฉยๆ
        
        Perseveration คือ คำพูด (หรือการกระทำ) ซ้าๆติดต่อกัน โดยไม่มีความหมาย
        
        Circumstantiality ผู้ป่วยพูดอ้อมค้อมไม่ตรงจุด แต่สุดท้ายก็จบลง
        ได้ใจความตามต้องการ
        
        Tangentantiality ผู้ป่วยพูดออกนอกเรื่อง ไม่ตรงกับเรื่องราว
        
        1.2 เนื้อหาความคิดผิดปกติ (Disorder of content)
        
        ขาดการเชื่อมโยงกับสิ่งที่เป็นจริงและเหตุผล ผู้ป่วยจะมีความคิด
        เข้าหาตนเอง (autism) ไม่มองสิ่งแวดล้อม
        
        1.2.1 Delusion of persecution หลงผิดคิดว่าผู้อื่นปองร้าย
        
        1.2.2 Delusion of reference หลงผิดคิดว่าผู้อื่นพูด เรื่องราวเกี่ยวกับตนว่าร้ายนินทา
        
        1.2.3 Delusion ofbeing controlled หลงผิดคิดว่าการกระทำของตนถูกควบคุมโดยอำนาจ
        ภายนอก
        
        1.2.4 Delusion of somatic หลงผิดคิดว่าตนเจ็บป่วยทางร่างกาย
        
        1.2.5 Delusion of grandeur หลงผิดคิดว่าตนเป็นใหญ่
        
        1.2.6 Delusion ofnihilistic หลงผิดคิดว่าส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายขาดหายไป
      - ความผิดปกติของการรับรู้ (Disorder of perception)
        
        2.1 Auditory hallucination อาการประสาทหลอนทางการได้ยิน หรือหูแว่ว
        
        2.2 Visual hallucination เห็นภาพหลอน
        
        2.3 Gustatory hallucination อาการประสาทหลอนทางการรับรส
        
        2.4 Tactile hallucination อาการประสาทหลอนทางการสัมผัส
        
        2.5 Olfactory hallucination อาการประสาทหลอนทางการได้กลิ่น
      - ความผิดปกติด้านอารมณ์ (Disorder of affect)
        
        3.1 Apathy ผู้ป่วยจะมีอารมณ์เฉยเมย ไม่แสดงความรู้สึกใดๆ
        
        3.2 Appropriate mood แสดงอารมณ์ไม่สอดคล้องกับเหตุการณ์
        ขณะนั้น
      - ความผิดปกติของพฤติกรรมการเคลื่อนไหว (Disorder of motor behavior)
        
        Steriotypy เป็นการกระทำซ้าๆเกิดขึ้นเองเรื่อยๆและสม่ำเสมอ
        
        Catalepsy ผู้ป่วยอยู่ในท่าใดท่าหนึ่งนานๆ
        
        Waxy flexibility คล้าย Catalepsy ถ้าจับให้ผู้ป่วยอยู่ในท่าใด จะอยู่ในท่านั้นนาน
        
        Stupor ผู้ป่วยไม่มีการเคลื่อนไหว
        
        Mutism ผู้ป่วยไม่พูด มักพบร่วมกับอาการstupor
    - - Simple Type ขาดความสัมพันธ์กับบุคคลภายนอกและสิ่งแวดล้อมภายนอกโดยสิ้นเชิง เก็บตัว ละเลยกิจวัตรประจำวัน ประสาทหลอน มักเกิดกับวัยรุ่น
      - Disorganized Type (Hebephenic) มีอาการประสาทหลอน และความคิดหลงผิดมี
        ความคิดและคำพูดไม่สอดคล้องกัน
      - Catatonic Type ผิดปกติที่พฤติกรรมการเคลื่อนไหว
      - Paranoid Type มีอาการหวาดระแวง
      - Schizoaffective มีอาการเฉียบพลัน อาการเข้าได้กับโรคจิตเภท มีอารมณ์เศร้าร่วมกับอาการ
        เบื่ออาหาร นอนไม่หลับ คิดช้า รู้สึกว่าตนมีความผิด
      - Undifferentiated Type มีอาการหลงผิด ประสาทหลอน ความคิดไม่ปะติดปะต่อกัน
      - Residual Type เป็นโรคจิตเภทชนิดใดชนิดหนึ่งมาก่อนแล้ว
        อาการดีขึ้นแต่ยังมีอาการบางอย่างหลงเหลือ
    - - A. มีอาการต่อไปนี้ตั้งแต่ 2 อาการขึ้นไปนาน 1 เดือน
        
        อาการหลงผิด
        
        อาการประสาทหลอน
        
        disorganized speech
        
        grossly disorganized behavior หรือ catatonic behavior
        
        อาการด้านลบ ได้แก่
        flat affect, alogia หรอื avolition
      - B. มีความเสื่อมหรือ ปัญหาในด้าน social/ occupational function มาก
        
        ด้านการงาน
        
        สัมพันธภาพต่อผู้อื่น
        
        สุขอนามัยของตนเอง
      - C. มีอาการต่อเนื่องกันนาน 6 เดือนขึ้นไป โดยต้องมีactive phase (ตามข้อ A) อย่างน้อย
        นาน 1 เดือน
- - - - กลุ่มยาจิตเวช
      - ข้อบ่งใช้
        
        รักษาโรคจิตเภทที่มีอาการประสาทหลอน ก้าวร้าว โรคอารมณ์แปรปรวนสองขั้ว(bipolar)ที่มีอารมณ์คลุ้มคลั่ง
        
        เพื่อการควบคุมอาการให้สงบลง
      - อาการข้างเคียง
        
        ง่วงซึม ปากแห้ง ปวดศีรษะ ผิวหนังไวต่อแสงแดด ตาสู้แสงไม่ได้
    - - กลุ่มเบนโซไดอะซีปีน (Benzodiazepine)
      - ข้อบ่งใช้
        
        เพื่อทำให้จิตใจสงบ และรักษาอาการผิดปกติทางอารมณ์ เช่น ความเครียด ความวิตกกังวล ทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว แก้อาการชัก เป็นต้น
      - อาการข้างเคียง
        
        ง่วงซึม นอนไม่หลับ ฝันร้าย มึนศีรษะ ปวดศีรษะ ตามัว มองเห็นภาพไม่ชัดเจน มองเห็นภาพซ้อน กดการหายใจหรือหายใจผิดปกติ