Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่9.3 - Coggle Diagram
บทที่9.3
การบาดเจ็บของเส้นประสาทbrachial
สาเหตุ
ถูกดึงหรือกด
พบในทารกที่คลอดโดยมีส่วนนาเป็นก้นหรือคลอดยากบริเวณแขนหรือไหล่จากการที่ดึงไหล่ออกไปจากศีรษะในระหว่างการคลอด
Erb-Duchenne paralysis
เป็นการบาดเจ็บที่เส้นประสาทจาก
กระดูกสันหลังระดับคอท่อนที่ 5-6(c5-c6)
แขนข้างนั้นส่วนบนไม่ขยับ
แขนจะอยู่ในท่าชิดตัวและหมุนเข้าข้างใน
บริเวณข้อมือยังขยับ
กำมือได้ตามปกติ
Klumpke ’ s paralysis
เป็นการบาดเจ็บที่เส้นประสาทจาก
กระดูกสันหลังตอนคอท่อนที่ 7-8
และเส้นประสาทเลี้ยงทรวงอกคู่ที่ 1
(c7-c8 และ T1)
แขนข้างนั้นส่วนล่างไม่ขยับ
แขนอยู่ในท่าชิดตัวและหมุนเข้าข้างใน
บริเวณข้อมือไม่ขยับ
กำมือไม่ได้
ตรวจร่างกาย
moro reflex
การเคลื่อนไหวและการงอของแขนลดลง
การรักษา
ให้แขนไม่เคลื่อนไหว ในท่ากางหมุนแขนออก ข้อศอกตั้งฉากกับลำตัว
ทำกายภาพบาบัด
ถ้าไม่หายอาจต้องทาศัลยกรรมซ่อมประสาท
การพยาบาล
ดูแลให้ส่วนที่ได้รับอันตรายไม่เคลื่อนไหว โดยจัดแขนให้อยู่ในท่าตามแผนการรักษา ให้มืออยู่ในท่าหงายไม่อุ้มทารกลงจากเตียงบ่อย ๆ
ดูแลให้แขนที่ได้รับอันตรายได้ออกกาลัง หลังจากการรักษาพยาบาลในช่วงแรกดีขึ้น และส่งกายภาพบาบัดโดยพยาบาลมีส่วนร่วม
ดูแลความสุขสบายและการผ่อนคลายให้ทารกที่ต้องตรึงแขนสารวจมือ ปลายนิ้วเพื่อดูว่าเย็นซีดหรือไม่
ทาความสะอาดร่างกายด้วยความนุ่มนวล ถอดเสื้อจากแขนด้านดีก่อนและสวมเสื้อด้านที่เจ็บก่อน
ตอบสนองความต้องการทั้งด้านร่างกายและจิตใจ ควรเพิ่มความรัก แตะต้องสัมผัสมากกว่าทารกปกติ
ช่วยให้มารดาและบิดามั่นใจในการดูแลทารก
การบาดเจ็บของเส้นประสาทที่มาเลี้ยงใบหน้า
สาเหตุ
การคลอดยาก
F/E
การตรวจร่างกาย
จากสังเกตสีหน้าของทารกเวลานอน เวลาร้องไห้หรือแสดงสีหน้าท่าทาง
อาการ
มีอาการอัมพาตชั่วคราวของกล้ามเนื้อใบหน้า มักเป็นด้านเดียว
กล้ามเนื้อด้านที่เป็นอัมพาตจะไม่เคลื่อนไหว ทาให้หน้าเบี้ยวไปข้างที่ดี
รูปหน้าทั้ง 2 ด้านจะไม่เท่ากัน เห็นได้ชัดเจนเมื่อทารกร้องไห้
ทารกจะลืมตาได้เพียงครึ่งเดียว ตาปิดไม่สนิท
ปากข้างที่เป็นจะถูกดึงลงมาทาให้มุมริมฝีปากล่างตก
ไม่มีรอยย่นที่หน้าฝาก
การรักษา
ปกติถ้าประสาทที่เลี้ยงใบหน้าเพียงถูกกดอาจหายไปได้เองภายใน 2-3 วัน ถึงสัปดาห์
แต่ถ้าเส้นประสาทขาดต้องได้รับการทาศัลยกรรมซ่อมประสาท
การพยาบาล
ล้างตา หยอดตาตามแผนการรักษาเพื่อป้องกันไม่ให้เยื่อบุตา ตาขาว และกระจกตาของทารกแห้ง
ดูแลให้ได้รับนมให้เพียงพอกับความต้องการของร่างกายและเฝ้าระวังการสาลัก เนื่องจากกล้ามเนื้อใบหน้าเป็นอัมพาต
3.ดูแลให้ทารกได้รับการตอบสนองด้านจิตใจ
การให้นมแก่ทารก
มารดาควรอุ้มทารกให้ศีรษะสูงตลอดเวลาขณะให้นม
สอนวิธีให้มารดาบีบบริเวณลานหัวนมเพื่อช่วยให้น้านมไหลได้ดี
เมื่อทารกสำลักให้รีบจับทารกตะแคงหน้าหนีทันที เพื่อให้นมไหลออกจากปาก และรีบทาทางเดินหายใจให้โล่ง โดยใช้ลูกสูบยางแดงดูดออก
แต่ถ้าทารกไม่สามารถดูดนมมารดาจากเต้าได้โดยตรง มารดาควรบีบนมใส่ขวดให้กับทารก
กรณีให้นมผสม
แนะนำให้ใช้หัวนมยางนุ่มขนาดพอเหมาะ
อุ้มทารกให้นมท่าศีรษะสูง ถ้าสาลักจับตะแคงหน้าทันที และทาทางเดินหายใจให้โล่ง
เตรียมอุปกรณ์ช่วยดูดเสมหะให้พร้อมใช้เสมอ จะได้ช่วยเหลือได้ทันเมื่อสาลัก ป้องกันการสาลักเข้าปอด
ถ้าทารกไม่สามารถดูดนมจากขวดได้เอง อาจใช้วิธีหยอดนม/ใช้ syringe หยอดเข้าปากบริเวณกระพุ้งแก้มข้างที่ไม่มีอาการ
สอนวิธีการให้นมทารกกับมารดาหรือผู้เลี้ยงดู รวมทั้งวิธีการช่วยเหลือเมื่อทารกมีอาการสูดสำลัก
ทารกคลอดก่อนกาหนดและน้ำหนักตัวน้อย
ลักษณะ
น้ำหนักตัวน้อย
รูปร่างรวมทั้งแขนขามีขนาดเล็ก
ศีรษะจะมีขนาดใหญ่เมื่อเทียบกับลาตัว กะโหลกศีรษะนุ่ม รอยต่อกะโหลกศีรษะและขม่อมกว้าง
เปลือกตาบวมและนูนออกมา ตามักปิดตลอดเวลา
ผิวหนังบาวสีแดงและเหี่ยวย่น มองเห็นเส้นเลือดใต้ผิวหนังได้ชัดเจน มักบวมตามมือและเท้า
ไขเคลือบตัว (vernix caseosa ) มีน้อยหรือไม่มีเลย
การพยาบาล
ห่อตัวทารกและให้อยู่ใต้ radiant warmer 36.5 -37 องศาเซลเซียส
เดินหายใจให้โล่ง ให้นอนตะแคงหน้าไปด้านใดด้านหนึ่งหรือนอนศีรษะสูง
ดูแลให้ได้รับนมมารดาหรือนมผสมตามแผนการรักษาที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย
ดูแลและแนะนามารดาบิดาในการป้องกันการติดเชื้อทาความสะอาดร่างกาย ทาความสะอาดสะดือ ป้ายตาด้วยยาปฏิชีวนะ
ดูแลให้วิตามินเค1 มิลลิกรัมฉีดเข้ากล้ามเนื้อเพื่อป้องกันภาวะเลือดออกง่าย