Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลเด็กที่มีปัญหาเซลล์ผิดปกติ, นางสาวณัฏฐ์ดารินทร์ นิลศรีสนิท…
การพยาบาลเด็กที่มีปัญหาเซลล์ผิดปกติ
การดูแลเด็กที่ได้รับยาเคมีบำบัด
ยาเคมีบำบัดเป็นยาที่มีฤทธิ์ในการทำลาย และควบคุมการเจริญเติบโตของเซลล์ต่างๆ
ทำให้เกิดผลข้างเคียงจากยา
ผลต่อระบบเลือด
ทำให้ไขกระดูกผลิตเซลล์เม็ดเลือดต่างๆ ได้น้อยลง
1.1 เม็ดเลือดแดง : RBC ผู้ป่วยที่ได้รับยาเคมีบำบัดจะมีภาวะซีด (Anemia)
1.2 เม็ดเลือดขาวต่ำ(Leukopenia) ประเมินได้จากค่า ANC : absolute neutrophil count
แบ่งภาวะเม็ดเลือดขาวต่ำ(Leukopenia) เป็น 3 ระดับ
เม็ดเลือดขาวต่ าเล็กน้อย ANC 1000-1500 เซลล์/ลบ.มม.เป็นภาวะที่เม็ดเลือดขาวต่ำเล็กน้อย
เม็ดเลือดขาวต่ำปานกลาง ANC 500-1000 เซลล์/ลบ.มม.
เม็ดเลือดขาวต่ ารุนแรง ANC ต่ ากว่า 500 เซลล์/ลบ.มม.ผู้ป่วยจะเสี่ยงต่อการติดเชื้อที่รุนแรงมากขึ้น
1.3 เกร็ดเลือดต่ำ (thrombocytopenia)
ยาเคมีบำบัดแต่ละชนิด ทำให้เกิดผลข้างเคียงแตกต่างกัน
ผลต่อระบบทางเดินอาหาร
ทำให้มีอาการเบื่ออาหาร คลื่นไส้อาเจียน แผลในปากและคอ ปวดท้อง
ท้องเดิน ท้องผูก
ผลต่อระบบผิวหนัง
ทำให้ผมร่วง หลังจากได้ยาไปแล้ว 2-3 สัปดาห์และจะงอกขึ้นมาใหม่หลังหยุดยา2-3 เดือน
ระบบทางเดินปัสสาวะ ระบบทางเดินปัสสาวะ
ยาเคมีบำบัดส่วนใหญ่จะถูกขับออกทางไตเช่น Cyclophosphamide, Methotrexate, Ifosfamide และ Streptozocin
ตับ
ยาเคมีบำบัดส่วนใหญ่จะถูกย่อยสลายที่ตับและยาเคมีบำบัดบางชนิดมีฤทธิ์ทำลายตับ
การวางแผนการดูแลผู้ป่วยที่ได้รับยาเคมีบำบัด
1.การดูแลผู้ป่วยหลังได้รับยาเคมีบ าบัดผ่านเข้าทางช่องไขสันหลัง( Intrathecal:IT)
การดูแลป้องกันการเกิดแผลในปาก
3 รับประทานอาหารที่สุกใหม่
4.การดูแลปัญหาซีด
การดูแลป้องกันเลือดออกง่ายหยุดยาก
Tumorlysis Syndrome : TLS
TLS เกิดจากการสลายของเซลล์มะเร็งจำนวนมากอย่างรวดเร็ว
ส่วนใหญ่มักเป็นผลจากการได้รับยา
เคมีบำบัดครั้งแรก
การสลายของเซลล์มะเร็ง เหล่านี้ทำให้เกิดการปลดปล่อยส่วนประกอบของเซลล์
ความผิดปกติของ electrolyte ที่พบบ่อยได้แก่
1.ภาวะโพแทสเซียมในเลือดสูง
2.ภาวะฟอสเฟตในเลือดสูง
3.ภาวะกรดยูริกในเลือดสูง
สาเหตุ และ ปัจจัยเสี่ยงของการเกิด TLS
เกิดขึ้นบ่อยที่สุดระหว่างการรักษามะเร็งด้วยยาเคมีบำบัด
TLS เกิดขึ้นบ่อยที่สุดในผู้ป่วยที่มีปริมาณเซลล์มะเร็งจำนวนมาก และเป็นมะเร็งชนิดที่มีความไวต่อเคมีบำบัด
โดยปกติ TLS มักเกิดภายใน 72 ชั่วโมง ภายหลังการ
รักษาด้วยเคมีบำบัดในผู้ป่วย leukemia และ lymphoma
อาการและอาการแสดง
อาการและอาการแสดงมีความแตกต่างกันตามความผิดปกติทางเมตาบอลิก
ภาวะกรดยูริกในเลือดสูงอาจพบภาวะง่วงซึม (lethargy)
อาการและอาการแสดงของภาวะทางเดินปัสสาวะอุดตัน (obstructive uropathy) หรือไตวาย
ภาวะโพแทสเซียมในเลือดสูง อาจพบอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง ชา (paresthesia)
หัวใจเต้นผิดจังหวะ ซึ่งอาจรุนแรงขึ้นจึงชั้นเสียชีวิตได้
ภาวะฟอสเฟตในเลือดสูงและภาวะแคลเซียมในเลือดต่ำอาจพบกล้ามเนื้อตะคริว ชักเกร็ง ชัก ไตวาย
การวินิจฉัย
ปัจจุบันไม่มีเกณฑ์การวินิจฉัย
ภาวะ Febrile neutropenia
คือ ภาวะที่ผู้ป่วยมีจำนวนของเม็ดเลือดขาวนิวโทรฟิล (neutrophil)ในเลือดน้อยกว่า 500 เซลล์/ลบ.มม.หรือมีANC น้อยกว่า 1000 เซลล์/ลบ.มม. แต่มีแนวโน้มว่าจะลดลงจนน้อยกว่า 500 เซลล์/ลบ.มม.
อาจจะเกิดขึ้นได้จากโรคมะเร็งเองพบได้ในผู้ป่วยลิวคีเมีย
สาเหตุ
อาจจะเกิดขึ้นได้จากโรคมะเร็งเองพบได้ในผู้ป่วยลิวคีเมีย
การใช้ยาต้านเชื้อรา (antifungal therapy)
ผู้ป่วยที่มีภาวะนิวโทรพีเนียนานกว่า 1 สัปดาห์ มีโอกาสเกิด systemic fungal infectionสูง
การใช้ granulocyte colony-stimulating factor(G-CSF)
การใช้ G-CSF อาจจะช่วยลดระยะเวลาของการเกิดภาวะนิวโทรพีเนีย
มะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดเฉียบพลัน
เป็นมะเร็งที่พบบ่อยที่สุดในเด็ก
พบมากในช่วงอายุ 2-5 ปี
ส่งผลให้จ านวนเม็ดเลือดขาวตัวอ่อนมีจ านวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วทั่วร่างกายทำให้การสร้างเม็ดเลือดแดงและเกร็ดเลือดลดลง
ผู้ป่วยจึงเกิดอาการซีด เลือดออก และติดเชื้อได้ง่าย
ชนิดของมะเร็งเม็ดเลือดขาว
มะเร็งเม็ดเลือดขาวเฉียบพลันชนิด ALL (Acute lymphoblastic leukemia
มะเร็งเม็ดเลือดขาวเฉียบพลันชนิด AML
มะเร็งเม็ดเลือดขาวเรื้อรังชนิด CLL
มะเร็งเม็ดเลือดขาวเรื้อรังชนิด CML
ส่วนใหญ่ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด
ปัจจยัทางด้านพันธุกรรม
ปัจจัยทางด้านสิ่งแวดล้อม
อาการแรกที่เป็น คือ เบื่ออาหาร น้ำหนักลด ซีด อ่อนเพลียง่าย
การวินิจฉัย
เจาะเลือดตรวจหาเซลล์เม็ดเลือดตัวอ่อนของเม็ดเลือดขาว Blast cell
ทำการยืนยันโดยการเจาะไขกระดูก Bone marrow Transplanted
มะเร็งต่อมน้ำเหลือง
ประกอบประด้วยอวัยวะที่เกี่ยวกับน้ำเหลือง
ได้แก่ ม้าม,ไขกระดูก, ต่อมทอนซิล, ต่อมไทมัส,
ต าแหน่งที่พบบ่อย คือต่อมน ้าเหลืองบริเวณคอ
Burkitt Lymphoma มีลักษณะพิเศษคือมีต้นก าเนิดมาจาก B-cell
การวินิจฉัย
การตัดชิ้นเนื้อเพื่อตรวจทางพยาธิวิทยา
การตรวจไขกระดูก
เอกซเรย์คอมพิวเตอร์
เอกซเรย์คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
การตรวจกระดูก
การตรวจ PET scan
อาการเริ่มต้นที่พบบ่อย
มีไข้ หนาว สั่น เหงื่อออกมากตอนกลางคืน คันทั่วร่างกาย
เบื่ออาหาร น้ าหนักลด อ่อนเพลียไม่ทราบสาเหตุ
ไอเรื้อรัง หายใจไม่สะดวก ต่อทอนซิลโต
ปวดศีรษะ
อาการในระยะลุกลาม
ซีด มีเลือดออกง่าย
ในรายที่เป็นมะเร็งต่อมน้ าเหลืองเกิดขึ้นภายในช่องท้องผู้ป่วยจะมีอาการแน่นท้อง
แนวทางการรักษาในปัจจุบัน
การใช้ยาเคมีบ้าบัด
การฉายรังสี
การรักษาด้วยการปลูกถ่ายเซลล์ต้นเนิด
มะเร็งไต
ภาวะที่เนื้อไตชั้นพาเรนไคมา(Parenchyma)มีการ
เจริญผิดปกติจนกลายเป็นก้อนเนื้องอกภายในเนื้อไต
จะไม่ให้คลำบ่อย เพราะอาจทำให้ก้อนแตก
Neuroblastoma
เป็นเนื้องอกชนิดร้ายแรงที่พบได้บ่อยในเด็กอายุน้อยกว่า 5 ปี
เป็นเนื้องอกที่มีต้นก าเนิดมาจากเซลล์ของระบบประสาท(Neural crest)
อาการนำที่มาพบแพทย์
มีก้อนในท้อง
ท้องโต
ปวดท้อง
ตาโปนมีรอยช้ ารอบตา(raccoon eyes)
มีไข้ ปวดกระดูก
ตำแหน่งที่พบก้อนครั้งแรกมากที่สุดคือต่อมหมวกไต
การตอบสนองต่อการรักษาจะไม่ดี
มีอัตราการตายสูง
การรักษาด้วยเคมีบำบัด
ระยะการรักษาด้วยเคมีบำบัด
ระยะชักน าให้โรคสงบ (induction phase)
เป็นการให้ยาเพื่อท าลายเซลล์ในเวลาอันสั้นให้มากที่สุด
และมีอันตรายต่อเซลล์ปกติให้น้อยที่สุด
ทำห้ไขกระดูกสามารถสร้างเซลล์เม็ดเลือดขาวได้ตามปกติ
ระยะนี้ใช้เวลา4 – 6 สัปดาห์
ยาที่ใช้
Vincristine
Adriamycin
L – Asparaginase
Glucocorticoid
ระยะให้ยาแบบเต็มที่ (intensive or consolidation
phase)
เป็นการให้ยาหลายชนิดร่วมกันภายหลังที่ผู้ป่วยอยู่ในระยะโรคสงบแล้ว
เพื่อให้ยาทำลายเซลล์มะเร็งให้เหลือน้อยที่สุด
ใช้เวลาประมาณ 4 สัปดาห์
ยาที่ใช้
Metrotrexate
6 – MP
Cyclophosephamide
ระยะป้องกันโรคเข้าสู่ระบบประสาทส่วนกลาง (CNS
prophylaxis phase)
เป็นการให้ยาเพื่อป้องกันไม่ให้โรคลุกลามเข้าสู่ระบบประสาทส่วนกลาง
ยาที่ใช้
Metrotrexate
Hydrocortisone
ARA – C
ระยะควบคุมโรคสงบ (maintenance phase or
continuation therapy)
เป็นการให้ยาเพื่อควบคุม และรักษาโรคอย่างถาวร
ยาที่นิยมใช้
6 – MP โดยการรับประทานทุกวันร่วมกับการให้ Metrotrexate
การรักษาประคับประคอง
เป็นการรักษาโรคแทรกซ้อน และอาการข้างเคียงจากการให้ยา
การรักษาทดแทน (Replacement therapy)
การรักษาด้วยเกร็ดเลือด
วิธีการให้เคมีบำบัดIT IM IV
ทางช่องไขสันหลังintrathecal
ทางกล้ามเนื้อ หลังฉีดต้องระวังเลือดออก
ทางหลอดเลือดดำ vein ต้องระวังการรั่วของยาออกนอกหลอดเลือดที่ทำ ให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง
ยาเคมีบำบัดที่ใช้บ่อย
Cyclophosphamideรักษามะเร็งเม็ดเลือดขาวโดยออกฤทธิ์จับ
หรือรวมตัวกับดีเอ็นเอของเซลล์มะเร็ง
Mercaptopurine(6-MP) รักษามะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดเฉียบพลัน
Methotrexate รักษามะเร็ง Acute leukemiaโดยยับยั้งการสร้าง
DNA และRNAและมีฤทธิ์กดการเจริญเติบโตของเซลล์
Mesna ป้องกันภาวะเลือดออกในผู้ป่วยกระเพาะปัสสาวะ
อักเสบที่มีสาเหตุมาจากยารักษามะเร็งได้แก่Cyclophosphamide
Ondasetron(onsia) ป้องกันอาการคลื่นไส้อาเจียน
Bactrim ป้องกันการติดเชื้อฉวยโอกาส
Ceftazidime(fortum) ป้องกันการติดเชื้อเนื่องจากมีไข้
หลังได้รับยาเคมีบำบัด
Amikin ป้องกันการติดเชื้อเนื่องจากมีไข้หลังได้รับยาเคมี
บำบัด
นางสาวณัฏฐ์ดารินทร์ นิลศรีสนิท รุ่น36/1 เลขที่44 รหัส612001045