Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลเด็กที่มีปัญหาระบบประสาท, นางสาวกนกวรรณ เนียมพลู เลขที่ 5 …
การพยาบาลเด็กที่มีปัญหาระบบประสาท
การพยาบาลระบบประสาท
ชักจากไข้สูง (Febrile convulsion)
ชนิดของการชักจากไข้สูง
Primary febrile convulsion(ไม่มีความผิดปกติของสมอง)
Secondary febrile convulsion(มีความผิดปกติของสมอง)
การรักษา
ระยะที่กำลังมีอาการชัก
ให้ยาลดไข้ ร่วมกับ เช่น ตัวลดไข้ (เน้นขณะชักห้ามให้ยาชนิดรับประทาน)
มีการชักเกิน 5 นาที ต้องทำให้หยุดชักเร็วที่สุด โดยให้ยาระงับอาการชัก เช่นdiazepam ทางหลอดเลือดดำหรือทางทวารหนัก
ระยะหลังชัก
1.ซักประวัติตรวจร่างกายโดยละเอียด ให้ยาป้องกันการชัก รับประทานทุกวันนาน 1-2ปี เช่น Phenobarbital , Depakine
โรคลมชัก (Epilepsy)
แบ่งชนิดตามลักษณะอาการชัก 2 ชนิด
Partial seizure ชักกระตุกเฉพาะที่
Generalized seizure
Secondary febrile convulsion(มีความผิดปกติของสมอง)
Primary febrile convulsion(ไม่มีความผิดปกติของสมอง)
สาเหตุการชัก
Developmental and degenerative disorders
โรคติดเชื้อของสมอง
พันธุกรรม
รอยโรคในสมองที่ทำให้เซลล์ประสาทหลั่งคลื่นไฟฟ้าสมองผิดปกติ
ได้รับอันตรายจากการคลอด
Metabolic และ Toxic etiologies
การรักษา
รักษาตามสาเหตุที่วินิจฉัยได้ เช่น ผ่าตัดเอารอยโรคที่สมองออก
รักษาด้วยอาหาร Ketogenic diet คือการจัดอาหารสัดส่วนที่มีปริมาณไขมันสูง คาร์โบไฮเดรตต่ำ โปรตีนต่ำ
รักษาโดยการใช้ยาระงับอาการชักและยาป้องกันการชักซ้ำ
คำแนะนำสำคัญสำหรับผู้ปกครองคือ
ให้เด็กรับประทานยากันชักต่อเนื่องทุกวันนาน อย่างน้อย 2 ปีห้ามหยุดยาเอง แนะนำวิธีการป้องกันอุบัติเหตุขณะชัก
มาตรวจตามนัดเพื่อแพทย์ประเมินอาการและปรับระดับยากันชักให้เหมาะสม
ชักจากการติดเชื้อของเยื่อหุ้มสมอง
หรือเนื้อสมอง
เยื่อหุ้มสมองอักเสบ
(Meningitis)
สาเหตุ
เชื้อไวรัส (Viral หรือ Asepitc meningitis)
พยาธิ (Eosinophilic meningitis)
เชื้อแบคทีเรีย (Bacterial meningitis)
เชื้อรา (Fungal memingitis)
Cerebrospinal fluid test
Red cellsและWhite cell count ไม่พบ
Glucose 50-75 mg/dl(ครึ่งหนึ่งของน้ำตาลในเลือด)
Pressure เด็กโต = 110-150 mmH2O ทารก 100 mmH2O
Protein 14-45 mg/dl
อาการและอาการแสดง
อาการที่แสดงว่ามีการติดเชื้อ เช่น มีไข้ปวดศีรษะมาก ซึมลง กระหม่อมโป่งตึง อาเจียน ชัก
อาการแสดงของการระคายเคืองของเยื่อหุ้มสมอง คือ
คอแข็ง (Stiffness of neck)
Kernig’s sign ได้ผลบวก
Brudzinski’s sign ได้ผลบวก
การรักษา
การรักษาเฉพาะ คือ ให้ยาปฏิชีวนะที่สอดคล้องกับผลการเพาะเชื้อน้ำไขสันหลังที่เป็นสาเหตุ
การรักษาตามอาการ ให้ยาลดไข้ ให้ยานอนหลับ ให้ยากันชัก ให้ยาลดอาการบวมของสมอง ให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำรักษาภาวะไม่สมดุลย์สารน้ำและอิเล็คโทรลัยท์อาจต้องเจาะคอหรือใช้เครื่องช่วยหายใจในรายที่มีปัญหาการหายใจหรือหมดสติ
การป้องกัน ควรฉีดวัคซีน เช่น Hib vaccine , JE vaccine,BCG
สมองอักเสบ (Encephalitis)
สาเหตุ
เชื้อไวรัส เชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา เชื้อปาราสิต
ปฏิกิริยาต่อวัคซีน เช่น วัคซีนป้องกันโรคไอกรน หรือวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้า
อาการและอาการแสดง
ไข้สูง ปวดศีรษะ ปวดบริเวณต้นคอ คอแข็ง (Stiffness of neck)
ซึมลง จนถึงขั้นโคม่าได้ภายใน 24 – 72 ชั่วโมง
ชัก มีการเคลื่อนไหวผิดปกติ การหายใจไม่สม่ำเสมอ
กระสับกระส่าย อารมณ์ผันแปร เพ้อ คลั่ง อาละวาด
การรักษา
การให้ยา ระงับชัก ลดอาการบวมของสมอง นอนหลับ ให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ
รักษาสมดุลของปริมาณน้ำเข้า – ออก ของร่างกาย
ให้ออกซิเจน, เจาะคอ หรือใช้เครื่องช่วยหายใจ
โรคไข้สมองอักเสบ
Japanese encephalitis (JE)
อาการและอาการแสดง
เริ่มด้วยมีไข้ ปวดเมื่อย อ่อนเพลีย ปวดศีรษะมากขึ้น
อาการอาเจียน ง่วงซึมจนไม่รู้สึกตัว บางรายอาจมีอาการเกร็งชักกระตุก
อาจมีอาการหายใจไม่สม่ำเสมอ ในรายที่เป็นรุนแรงมากจะถึงแก่กรรมประมาณวันที่ 7-9 ของโรค ถ้าพ้นระยะนี้แล้วจะผ่านเข้าระยะฟื้นตัว และมักจะมีความพิการเหลืออยู่
การตรวจวินิจฉัย
การวินิจฉัยที่ใช้อยู่ในปัจจุบันคือตรวจหาIgM antibody เฉพาะต่อไวรัส เจอี ในน้ำไขสันหลังและในเลือด
การรักษา
ดูแลรักษาเฉพาะใน Intensive care unit ให้ยาลดไข้ลดการบวมของสมอง ระงับอาการชัก
ดูแลทางเดินหายใจให้โล่งโดยการดูดเสมหะบ่อยๆ ถ้ามีเสมหะมากอาจต้องทำtracheostomy บางครั้งจำเป็นต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ
การป้องกัน
หลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกยุงกัด ยุงนี้จะกัดเวลาพลบค่ำ
ไม่ควรเลี้ยงหมูในบริเวณใกล้บ้านที่อยู่อาศัย
ป้องกันโดยการฉีดวัคซีน 3 ครั้ง ครั้งแรกเมื่ออายุ 1 ปีครึ่งครั้งที่ 2 ห่างจากครั้งแรก 2-4 wk แล้วฉีดครั้งที่ 3 หลังจากฉีดเข็มที่ 2 ได้ 1 ปี ควรจะเริ่มให้วัคซีนนี้พร้อมกับการให้ booster dose DTP และ OPV
หลักการพยาบาลผู้ป่วยที่มีอาการชัก
จัดให้ผู้ป่วยนอนราบ ตะแคงหน้าไปข้างใดข้างหนึ่ง เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ป่วยสำลักเสมหะ น้ำลาย
ทำทางเดินหายใจให้โล่ง โดยการดูดเสมหะ
ดูแลให้ได้รับออกซิเจนตรงตามแผนการรักษาในรายที่หายใจขัด เขียว
เตรียมไม้กดลิ้นไว้ที่โต๊ะข้างเตียงในรายที่มีอาการชักเกร็ง
ถ้าผู้ป่วยมีไข้สูง ให้เช็ดตัวด้วยน้ำธรรมดา หรือน้ำอุ่น เพื่อให้ไข้ลด
ดูแลให้ได้รับยากันชัก ยาคลายกล้ามเนื้อตรงตามแผนการรักษา
ช่วยแพทย์ในการเตรียมตรวจ และส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ ตามแผนการรักษา
สังเกตและบันทึกลักษณะการชัก และระดับความรู้สึกตัวขณะชัก
วัดและบันทึกสัญญาณชีพ อย่างน้อยทุก 4 ชั่วโมง
การให้คำแนะนำและเตรียมความรู้แก่บิดา
ให้ความรู้เกี่ยวกับภาวะโรค
แนะนำวิธีการปฏิบัติเมื่อผู้ป่วยมีไข้
แนะนำวิธีปฏิบัติเมื่อผู้ป่วยเกิดอาการชัก
แนะนำการดูแลให้ยากันชัก และผลข้างเคียงของยา
โรคสมองพิการ
(Cerebral Palsy)
สาเหตุ
2.ระยะคลอด
เป็นสาเหตุของสมองพิการร้อยละ 30ได้แก่ สมองขาดออกซิเจน ได้รับอันตรายจากการคลอด คลอดยาก รกพันคอ คลอดท่าก้น การใช้คีมดึงเด็ก
3.ระยะหลังคลอด
เป็นสาเหตุของสมองพิการร้อยละ 5 ได้แก่ การได้รับการกระทบกระเทือนที่ศีรษะ
ตัวเหลืองเมื่อแรกเกิด เส้นเลือดที่สมองมีความผิดปกติ การขาดออกซิเจนจากการจมน้ำ การติดเชื้อบริเวณสมอง
1.ระยะก่อนคลอด
ได้แก่ การมีเลือดออกทางช่องคลอดของมารดาช่วงระหว่างการตั้งครรภ์เดือนที่6-9
มารดาขณะตั้งครรภ์ขาดสารอาหาร มารดามีภาวะชักหรือมีภาวะปัญญาอ่อน การเกิดก่อนกำหนด
ความหมาย
มีปัญหาการเคลื่อนไหวมีการทำงานของสมองทำให้ไม่สามารถควบคุมการเคลื่อนไหวของอวัยวะต่างๆ อย่างเป็นปกติ
เกิดขึ้นก่อนอายุ 8 ปี มีปัญหาการเคลื่อนไหวอวัยวะที่ใช้ในการหายใจและการพูดเช่น พูดไม่ได้
พูดไม่ชัดอาจมีปัญหาทางสายตา และการได้ยินร่วมด้วย
อาการและอาการแสดง
ลักษณะอ่อนปวกเปียก อาจหายใจช้า พัฒนาการช้า เช่น การดูด การกลืน การเคี้ยว ทำให้สำลักนม
ส่วนที่เสียนั้นควบคุมการทรงตัว ภาวะปัญญาอ่อนตั้งแต่ขนาดน้อยถึงมาก พูดไม่ชัดเจน
การรักษา
การให้ยาคลายกล้ามเนื้อ ได้แก่ diazepam,baclofen
การทำกายภาพบำบัดของกล้ามเนื้อแขน ขา หรือลำตัว
การให้ early stimulation เพื่อให้สมองส่วนต่างๆที่ไม่มีความเสียหายได้พัฒนา
การแก้ไขความผิดปกติของการรับรู้ที่สำคัญ
การแก้ไขความผิดปกติของระบบประสาทส่วนอื่น
การให้คำแนะนำผู้ปกครองในการดูแลเด็กในชีวิตประจำวันและส่งเสริมให้เด็กฝึกทักษะการใช้ส่วนต่างๆของร่างกายตามความสามารถและศักยภาพอย่างเหมาะสม
การพยาบาล
1.ได้รับสารอาหารน้อยกว่าความต้องการของร่างกาย เนื่องจากปัญหาการรับประทานอาหาร
3.เสี่ยงต่อการได้รับบาดเจ็บ เนื่องจากความบกพร้องด้านการเคลื่อนไหว/ระบบประสาท
บิดา มารดาหรือผู้ดูแลเด็กขาดความรู้ในการดูแลเด็ก
2.เสี่ยงต่อพัฒนาการช้ากว่าวัย/มีพัฒนาการช้ากว่าวัย เนื่องจากความบกพร่องของระบบประสาท
Hydrocephalus
ความหมาย
ภาวะน้ำคั่งใน โพรงสมองหมายถึงภาวะที่มีการคั่งของน้ำไขสันหลังในกะโหลกศีรษะบริเวณเวนติดเคิล (ventricle)ของสมองและsubarachnoid space ทำให้เกิดความดันภายในกะโหลกศีรษะเพิ่ม
สาเหตุภาวะน้ำคั่งโพรงสมอง
1.การสร้างหรือการผลิตน้ำไขสันหลังมากผิดปกติ
การอุดกั้นการไหลเวียนของน้ำหล่อสมองและไขสันหลัง
ความผิดปกติในการดูดซึมน้ำไขสันหลัง
อาการและอาการแสดง
ศรีษะโต/ หัวบาตร (cranium enlargement)
กระหม่อมยังไม่เปิดพบว่ากระหม่อมหน้าโป่งตึงกว่าปกติ(fontanelle bulging )
หนังศีรษะบางและมองเห็นหลอดเลือดดำที่บริเวณใบหน้าหรือศรีษะโป่งตึงเห็นชัดมากกว่าปกติ
อาการแสดงของความดันในกะโหลกศีรษะสูง
กล้ามเนื้ออ่อนแรงการเจริญเติบโตและพัฒนาการช้า
สติปัญญาต่ำกว่าปกติหรือปัญญาอ่อน
การวินิจฉัย
การตรวจด้วยการส่องไฟฉาย
( transillumination test)
Transillumination test CT scan Ultrasound
Ventriculography Head Circumference
ความยาวเส้นรอบวงศีรษะปกติ
แรกเกิด35 เซนติเมตร
2 เดือน35+4เซนติเมตร
4 เดือน39+3 เซนติเมตร
6 เดือน42+2 เซนติเมตร
8 เดือน44+1 เซนติเมตร
10เดือน45+1 เซนติเมตร
1 ปี45 เซนติเมตร
2 ปี47 เซนติเมตร
การรักษา
ผ่าตัดเปลี่ยนทางเดินน้ำไขสันหลัง (Shunt)
การให้ยาลดการสร้างน้ำไขสันหลัง (Diamox)
Ventriculo-peritoneal Shunt (V-P Shunt)
ปัญหาแทรกซ้อนของการผ่าตัดใส่ Shunt
Obstruction
Infection
การพยาบาล
การพยาบาลก่อนผ่าตัด
อาจเกิดความดันในกะโหลกศีรษะสูงจาก
การคั่งของน้ำไขสันหลัง
อาจเกิดแผลกดทับบริเวณศีรษะ
อาจเกิดภาวะขาดสารน้ำและอาหารเนื่องจากการสำรอกอาเจียนหรือดูดนมได้น้อย
การพยาบาลหลังผ่าตัด
มีปัญหาเหมือนก่อนผ่าตัดแต่เพิ่มเรื่องการดูแลแผลผ่าตัดและการป้องกันภาวะแทรกซ้อนหลังผ่าตัดได้แก่
1.การติดเชื้อที่แผลผ่าตัด
2.การระบายน้ำไขสันหลังเร็วเกินไป (เน้นนอนราบหลังผ่าตัด ใน 24 ชม.แรก
Spina bifida
ชนิด
Spina bifida occulta
Meningocele
Myelomeningocele
การวินิจฉัย
มารดามีประวัติติดเชื้อขณะตั้งครรภ์การตรวจทางห้องปฏิบัติการ พบ Alphafetoprotien
ในน้ำคร่ำสูง
การตรวจร่างกายทารกพบความผิดปกติ
การรักษา
การผ่าตัดเย็บปิดถุงที่ยื่นออกมา
การพยาบาล
อาจเกิดการติดเชื้อ เนื่องจากถุงน้ำแตก
อาจมีการติดเชื้อของระบบทางเดินปัสสาวะ
เนื่องจากการคั่งของน้ำปัสสาวะ
มีกล้ามเนื้อแขนขาอ่อนแรงจากการกดเบียด
เส้นประสาทไขสันหลัง
มีกล้ามเนื้อแขนขาอ่อนแรงจากการกดเบียดเส้นประสาทไขสันหลัง
มีโอกาสติดเชื้อบริเวณแผลผ่าตัดได้ง่ายจากการปนเปื้อนอุจจาระปัสสาวะ
เสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนหลังผ่าตัด
Guillain Barre ‘s Syndrome
ความหมาย
กลุ่มอาการของโรคที่เกิดการบวมอักเสบของระบบประสาทส่วนปลายหลายๆเส้นอย่างเฉียบพลัน (Polyradiculoneuropathy) ที่เกิดขึ้นหลังจากมีการติดเชื้อในร่างกาย
สาเหตุ
เกิดจากระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานผิดปกติ
แอนติบอดีย์ต่อ Myelin sheath ของเส้นประสาทไขสันหลัง ส่วนที่เป็น
spinal nerve roots ทำให้ไขสันหลังไม่สามารถติดต่อสั่งงานมายังกล้ามเนื้อ
อาการและอาการแสดง
motor
กล้ามเนื้ออ่อนแรงทั้งสองข้างสมดุลกัน อาการอัมพาตในGBS จะเริ่มต้นที่ขาเดินลำบาก
เมื่อมีการลุกลามไปที่กล้ามเนื้อที่ช่วยในการหายใจทำให้หายใจล้มเหลว
อาการของประสาทสมอง
โดยเฉพาะส่วนใบหน้า ประสาทสมองคู่ที่ 7 (Facaial nerve)พบความผิดปกติบ่อยที่สุด มีอัมพาตของหน้า ปิดตา และปากไม่สนิทความผิดปกติของการแสดงสีหน้า
ถ้ามีความผิดปกติเส้นประมาทคู่ที่ 7 (Facial nerve),9 (Glossophryngeal
nerve) , และคู่ที่ 10 (Vagus nerve) ผู้ป่วยจะมีอาการกลืน พูด และหายใจลำบาก
Sensation
เริ่มมีอาการเหน็บชา เจ็บ และปวดโดยเฉพาะปลายแขนปลายขา ไหล่ สะโพก
อาการอาจเริ่มด้วยอาการคล้ายเป็นตะคริวที่ส่วนปลาย และอาจรุนแรงต้องให้ยาแก้ปวด
อาการลุกลามของประสาทอัตโนมัติ
ส่วน medulla oblongata ที่ควบคุมการทำงานของอวัยวะสำคัญและเส้นประสาท vagus
เกิดความผิดปกติร่วมด้วยจะเกิดอาการผิดปกติในระบบประสาทอัตโนมัติซึ่งถือเป็นปัญหาที่พบบ่อยในผู้ป่วย GBSได้แก่ การเต้นหัวใจผิดจังหวะ ความดันโลหิตไม่คงที่ หัวใจเต้นช้าหรือเร็ว
วินิจฉัยการพยาบาล
เสี่ยงต่อการเกิดการหายใจไม่เพียงพอจากกล้ามเนื้อช่วยหายใจอ่อนแรงอย่างเฉียบพลัน
เสียงต่อการขาดสารอาหารจากไม่สามารถช่วยตนเองจากกล้ามเนื้ออ่อนแรงอย่างสมบูรณ์
เสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนจากการไม่เคลื่อนไหว จากกล้ามเนื้ออ่อนแรงทำให้สูญเสียความสามารถในการดูแลตนเอง
พักผ่อนไม่เพียงพอ
ทุกข์ทรมานจากอาการปวดกล้ามเนื้อ
ขาดการติดต่อสื่อสารกับบุคคลอื่นๆจากไม่สามารถพูดได้
หลักการพยาบาลในระยะเฉียบพลันและต่อเนื่อง
Check vital sign โดยเฉพาะ RR ต้องมีการตรวจวัด vital capacity , tidal volumeหรือ minute volume
ให้ออกซิเจน ถ้ามีภาวการณ์หายใจไม่พอจำเป็นต้องใส่ท่อช่วยหายใจพร้อมเครื่องช่วยหายใจ
ติดตามประเมินการเคลื่อนไหว กำลังของกล้ามเนื้อ การรับรู้สัมผัส สภาวะของmotor sensory และ cranial nerve
ดูแลปัญหาการขาดสารอาหาร เนื่องจากผู้ป่วยจะมีน้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็ว ต้องการ
พลังงานในการหย่าเครื่องช่วยหายใจ ทำให้ได้รับอาหารไม่เพียงพอ
สังเกตอาการปวดตามกล้ามเนื้อ
ประคับประคองด้านจิตใจ ส่งเสริมการมองโลกในแง่ดีสำหรับผู้ป่วย
การรักษา
การรักษาด้วยการเปลี่ยนถ่ายพลาสมา (Plasma Exchange หรือ Plasmapheresis)
การรักษาด้วย Intravenous Immunglobulin (IVIG)สะดวกและมีความเสี่ยงน้อยกว่าการแลกเปลี่ยนพลาสม่าแต่ราคาแพง
กลุ่มอาการดาวน์ (Down ’s syndrome)
อาการและอาการแสดง
-กล้ามเนื้ออ่อนปวกเปียก (hypotonia)
-หัวแบนกว้าง (brachiocephaly)-หูติดอยู่ต่ำ
-คอสั้นและผิวหนังด้านหลังของคอค่อนข้างมากและนิ่ม
-brush field spot-ปากอ้าและลิ้นมักจะยื่นออก และมีรอยแตกที่ลิ้น
-มือกว้างและสั้น มักจะมี simian crease
-นิ้วก้อยโค้งงอ(clinodactyly)
-ร่องระหว่างนิ้วโป้งเท้าและนิ้วชี้กว้าง
-เส้นลายนิ้วมือมักพบ ulnar loopมากกว่าปกติและพบ distal triradius ในฝ่ามือ
-ทางเดินอาหารอุดตัน ที่พบบ่อยคือ duodenum stenosis
-ความผิดปกติเกี่ยวกับตา เช่น ต้อกระจก ต้อหิน ตาเข สายตาสั้น
-หัวใจพิการแต่กำเนิด
-การติดเชื้อ โดยเฉพาะระบบทางเดินหายใจเกิดง่ายกว่าเด็กทั่วไป
การรักษา
การกระตุ้นและส่งเสริมพัฒนาการให้เหมาะสมตามวัยตั้งแต่อายุยังน้อย(early stimulation)
การรักษาโรคทางกายอื่นๆที่มีร่วมด้วย คือ โรคหัวใจระบบทางเดินอาหารอุดกั้น ภาวะฮัยโปไทรอยด์
การให้คำปรึกษาแนะนำด้านพันธุกรรม
ความหมาย
-เป็นความผิดปกติทางโครโมโซมคู่ที่ 21 และเป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดในกลุ่มโรคพันธุกรรมที่ทำให้เกิดปัญญาอ่อน
-โอกาสเสี่ยงจะสูงถ้ามารดามีอายุมากกว่า 30 ปี และจะสูงขึ้นชัดเจนมากถ้าอายุมากกว่า 35 ปี
นางสาวกนกวรรณ เนียมพลู เลขที่ 5 612001005รุ่น36/1