Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลเด็กที่มีปัญหา เซลล์เจริญผิดปกติ, นางสาวณัฐชา เต็มนอง 36/1…
การพยาบาลเด็กที่มีปัญหา
เซลล์เจริญผิดปกติ
มะเร็งไต Wilm TumorหรอNeuroblastoma
ความหมาย
ภาวะที่เนื้อไตชั้นพาเรนไคมา Parenchyma มีการเจริญผิดปกติจนกลายเป็นก้อนเนื้องอกภายในเนื้อไตจะมีขนาดใหญ่กลางได้ทางผนังหน้าท้องมาจะเป็นที่ไตข้างใดข้างหนึ่ง
ไม่ให้ข้ามบ่อยเพราะอาจทำให้กรแตกหรือเกิดการแพร่กระจายของมะเร็ง
Neuroblastoma
เป็นเนื้องอกชนิดร้ายแรงที่พบได้บ่อยในเด็กอายุน้อยกว่าห้าปี
ต่อมหมวกไตในช่องท้อง Adrenal gland มีเซลล์ต้นกำเนิดมาจากเซลล์ของระบบประสาทสามารถเกิดบริเวณใดก็ได้ที่มีเนื้อเยื่อ Sympathetic nerve
อาการ
มีก้อนในท้อง ท้องโต ปวดท้อง ตาโปนมีรอยช้ำรอบดวงตา(raccoon eyes) มีไข้ ปวดกระดูก
ตำแหน่งที่พบก้อนครั้งแรกมากที่สุดคือต่อมหมวกไต
การตอบสนองต่อการรักษาจะไม่ดี
มีอัตราการตายสูง
การรักษาด้วยยาเคมีบำบัด Chemotherapy
ระยะการรักษาเคมีบำบัด
ระยะชักนำให้โรคสงบ (induction phase)
เป็นการให้ยาเพื่อทำลายเซลล์ในเวลาอันสั้นให้มากที่สุด
มีอันตรายต่อเซลล์ปกติให้น้อยที่สุด
ทำให้ไขกระดูกสามารถสร้างเซลล์เม็ดเลือดขาวได้ตามปกติ
ระยะนี้ใช้เวลา 4 – 6 สัปดาห์
ยาที่ใช้ ได้แก่
Vincristine
Adriamycin
L-Asparaginase
Glucocorticoid
ระยะให้ยาแบบเต็มที่
(intensive or consolidation phase)
เป็นการให้ยาหลายชนิดร่วมกันภายหลังที่ผู้ป่วยอยู่ในระยะโรคสงบแล้ว
เพื่อให้ยาท าลายเซลล์มะเร็งให้เหลือน้อยที่สุดระยะนี้จะใช้เวลาประมาณ 4 สัปดาห์
ยาที่ใช้ ได้แก่
Methotrexate
6-MP
Cyclophosphamide
ระยะป้องกันโรคเข้าสู่ระบบประสาทส่วนกลาง
(CNS prophylaxis phase)
ป้องกันไม่ให้โรคลุกลามเข้าสู่ระบบประสาทส่วนกลาง
โดยเฉพาะผู้ป่วยที่มีจำนวนเกล็ดเลือดต่ำ ตับม้ามโต
ยาที่ใช้ ได้แก่
Methotrexate
Hydrocortisone
ARA-C
ระยะควบคุมโรคสงบ
(maintenance phase or continuation therapy)
เป็นการให้ยาเพื่อควบคุม และรักษาโรคอย่างถาวร
ยาที่นิยมใช้
6 – MP
Metrotrexate
การรักษาประคับประคอง
การรักษาทดแทน (Replacement therapy)
การให้เลือดเพื่อให้ระดับฮีโมโกลบินไม่น้อยกว่า 7-8 กรัม/ดล.
ในระยะแรกก่อนโรคสงบ
การรักษาด้วยเกร็ดเลือด
หากผู้ป่วยมีเกร็ดเลือดต่ำ จำเป็นต้องให้เกร็ดเลือดก่อน ก่อนการให้ยา
ซึ่งวิธีนี้จะช่วยรักษาชีวิตผู้ป่วยได้สูง
มีเกร็ดเลือดต่ำมากจะทำให้ผู้ป่วยถึงเสียชีวิตได้รวดเร็วไม่เกิน 24 ชั่วโมง
วิธีการให้ยาเคมีบำบัด
ทางช่องไขสันหลัง intrathecal
ทางกล้ามเนื้อ หลังฉีดต้องระวังเลือดออก
ทางหลอดเลือดดำ vein ต้องระวังการรั่วของยาออกนอกหลอดเลือด ที่ทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง
ยาเคมีบำบัดที่ใช้บ่อย
Cyclophosphamide
รักษามะเร็งเม็ดเลือดขาวโดยออกฤทธิ์จับหรือรวมตัวกับดีเอ็นเอของเซลล์มะเร็ง (Cross link) ส่งผลทำให้เพิ่มจำนวนไม่ได้
Mercaptopurine(6-MP)
รักษามะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดเฉียบพลันโดยยับยั้งการสร้าง Purine ยับยั้งการสร้างกรดนิวคลีอิก
Methotrexate
รักษามะเร็ง Acute leukemiaโดยยับยั้งการสร้างDNA และRNA และมีฤทธิ์กดการเจริญเติบโตของเซลล์
Cytarabine(ARA-C)
รักษามะเร็งชนิด Acute lymphoblastic leukemia (ALL)โดยจะขัดขวางการสร้าง DNA
Mesna
ป้องกันภาวะเลือดออกในผู้ป่วยกระเพาะปัสสาวะอักเสบที่มีสาเหตุมาจากยารักษามะเร็งได้แก่Cyclophosphamide
Ondasetron(onsia)
ป้องกันอาการคลื่นไส้อาเจียนในผู้ป่วยมะเร็งที่ต้องเข้ารับการรักษาด้วยยาเคมีบำบัด
Bactrim
ป้องกันการติดเชื้อฉวยโอกาส เนื่องจากผู้ป่วยมีภูมิต้านทานต่ำ
Ceftazidime(fortum)
ป้องกันการติดเชื้อเนื่องจากมีไข้หลังได้รับยาเคมีบำบัด
Amikin
ป้องกันการติดเชื้อเนื่องจากมีไข้หลังได้รับยาเคมีบำบัด
มะเร็งเม็ดเลือดขาว Acute lymphoblastic leaukemia
เป็นมะเร็งที่พบบ่อยที่สุดในเด็ก
พบมากในช่วงอายุ 2-5 ปี
ความหมาย
Leukemia หมายถึง มะเร็งของระบบโลหิต เกิดจากความผิดปกติของเซลล์ต้นก าเนิด(Stem cell) ที่อยู่ในไขกระดูก (Bone Marrow) เกิดการแบ่งตัวที่ผิดปกติ ไม่สามารถ differentiate ไปเป็นเซลล์ตัวแก่ได้
ส่งผลให้จ านวนเม็ดเลือดขาวตัวอ่อนมีจ านวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วทั่ว
ร่างกายท าให้การสร้างเม็ดเลือดแดงและเกร็ดเลือดลดลง
ผู้ป่วยจึงเกิดอาการซีด เลือดออก และติดเชื้อได้ง่าย
ชนิดที่พบบ่อยที่สุดในเด็กคือมะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดเฉียบพลัน (Acute
lymphoblastic leukemia ,ALL)
acute lymphoblastic leukemia แบ่งได้เป็น 2 ชนิด
T-cell lymphoblastic leukemia
B-cell lymphoblastic leukemia
ส่วนใหญ่จะพบชนิด B-cell
เมื่อมีการแบ่งตัวอย่างรวดเร็วและคุมไม่ได้ในไขกระดูก(Bone marrow)
จึงมีเซลเม็ดเลือดขาวตัวอ่อน (blast cell) เป็นจ านวนมาก ในไขกระดูก
cell ที่ผิดปกติเหล่านั้นจึงถูกปล่อยออกมาในกระแสเลือด
ในรูปของ Blast cell ซึ่งเป็นเซลเม็ดเลือดขาวตัวอ่อน
ผลของการที่มี cell เม็ดเลือดขาวตัวอ่อนจำนวนมาก
ทำให้การสร้างเม็ดเลือดแดง เกร็ดเลือดลดลง ผู้ป่วยจึงมีอาการซีดเหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย เลือดออกง่าย ติดเชื้อได้ง่าย
ชนิดของมะเร็งเม็ดเลือดขาว
มะเร็งเม็ดเลือดขาวเฉียบพลันชนิด ALL
เป็นชนิดที่พบได้ในทุกช่วงอายุ ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่แต่พบได้บ่อยที่สุดในเด็กอายุ2-5 ปี
มะเร็งเม็ดเลือดขาวเฉียบพลันชนิด AML
โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดนี้จึงพบได้ในผู้ใหญ่มากกว่าในเด็ก และพบในผู้ชายบ่อยกว่าผู้หญิง
มะเร็งเม็ดเลือดขาวเรื้อรังชนิด CLL
เป็นชนิดที่พบได้บ่อยในผู้ใหญ่ และมีความชุกของโรคมากขึ้นตามอายุ
มะเร็งเม็ดเลือดขาวเรื้อรังชนิด CML
เป็นชนิดที่พบได้น้อย พบได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ ในผู้ป่วยเด็กนั้นประมาณ 80%มักพบในเด็กอายุมากกว่า 4 ปี
สาเหตุของมะเร็งเม็ดเลือดขาว
ปัจจัยทางด้านพันธุ์กรรม
เด็กที่เป็นดาวน์ซินโดรม (Down’s syndrome) ซึ่งเป็นโรคผิดปกติทางพันธุกรรม พบว่าจะมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวเฉียบพลันชนิด ALL และ AML มากกว่าคนปกติ
ครอบครัวที่มีสมาชิกเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวเฉียบพลันชนิด ALL
พบว่าจะมีโอกาสเป็ นโรคนี้ได้สูงกว่าคนทั่วไปประมาณ 2-4 เท่า
ในฝาแฝดที่เป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวเฉียบพลันชนิด ALL โดยเฉพาะ
เมื่อเป็นโรคตั้งแต่อายุยังน้อย พบว่าจะทำให้ฝาแฝดอีกคนหนึ่งมีโอกาสเป็นโรคนี้ได้ประมาณ 25%
ปัจจัยทางด้านสิ่งแวดล้อม
การมีประวัติได้รับสีไออนไนซ์(Ionizing radiation) ซึ่งเป็นรังสีที่ใช้ในการ
ตรวจและรักษาในปริมาณสูง
ในเด็กที่รับรังสีรักษาในขณะอยู่ในครรภ์จากการตรวจโรคของมารดา
การมีประวัติได้รับยาเคมีบ าบัดในการรักษาโรคมะเร็งชนิดอื่นมาก่อน
การสัมผัสสารเคมีที่เป็นพิษบางชนิด โดยเฉพาะสารเบนซิน (Benzene) สารฟอร์มาลดีไฮด์ (Formaldehyde) พบว่าคนกลุ่มนี้จะมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวได้สูงกว่าคนทั่วไป
อาจเกิดจากการได้รับสารเคมีต่างๆ ที่เป็นพิษจากสิ่งแวดล้อม
หรือจากควันบุหรี่และการสูบบุหรี่
อาการ
อาการแรกที่เป็น คือ เบื่ออาหาร น้ำหนักลด ซีด อ่อนเพลียง่าย
เลือดออกง่าย เพราะมะเร็งเม็ดเลือดขาวจะมีเกร็ดเลือดต่ำ จึงทำให้
เลือดออกง่าย
ออกตามไรฟัน มีจ่ำเขียวขึ้นบนตามตัว หรือมี
ประจำเดือนมากผิดปกติ
มีเม็ดเลือดขาวปริมาณมากแต่ทำหน้าที่ไม่ได้ต่อสู้เชื้อโรคไม่ได้ ผู้ป่วย
จึงติดเชื้อง่าย มีไข้ เป็นอาการสำคัญที่มักจะมารับการรักษา
เม็ดเลือดขาวไปเบียดบังอวัยวะต่างๆ หรือไปสะสมตามอวัยวะต่างๆ
ทำให้มีก้อนขึ้นที่ขาหนีบ ต่อมน้ำเหลือง ขา คอ หรือมีตับ ม้ามโต
การวินิจฉัย
เจาะเลือดตรวจหาเซลล์เม็ดเลือดตัวอ่อนของเม็ดเลือดขาว Blast cell
ทำการยืนยันโดยการเจาะไขกระดูก Bone marrow Transplanted เพื่อ
ดูให้ชัดเจนอีกครั้งว่ามีการแบ่งตัวที่ผิดปกติในไขกระดูกจริงหรือไม่
มะเร็งต่อมน้ำเหลือง Lymphoma
ระบบน้ าเหลือง (Lymphoma System) เป็นส่วนหนึ่งของระบบภูมิคุ้มกัน
ประกอบประด้วยอวัยวะที่เกี่ยวกับน้ำเหลือง
ม้าม
ไขกระดูก
ต่อมทอนซิล
ต่อมไทมัส
ภายในอวัยวะเหล่านี้ ประกอบไปด้วยน้ำเหลืองซึ่งมีหน้าที่นำสารอาหาร และเซลล์เม็ดเลือดขาว(Lymphocyte) ไปยังส่วนต่างๆทั่วร่างกาย
ความผิดปกติของเม็ดเลือดขาวเหล่านี้ ทำให้เกิด
เป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองขึ้น การทำหน้าที่ก็จะผิดปกติ
ตำแหน่งที่พบบ่อย คือต่อมน้ำเหลืองบริเวณคอ(Cervical Lympnode
มะเร็งต่อมน้้าเหลืองชนิดฮอดจ์กิน (Hodgkin Lymphoma) พบต่อม
น้ำเหลืองจะโตมาเป็นปี ไม่มีอาการเจ็บปวดมีลักษณะเฉพาะ
จะพบ Reed-Sternberg cell ซึ่งไม่มีในมะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดอื่น
มะเร็งต่อมน้้าเหลืองชนิดนอนฮอดจ์กิน (Non-Hodgkin Lymphoma)อาการจะเร็วและรุนแรง มักจะมาโรงพยาบาลเมื่อมีการกระจายไปทั่วร่างกายแล้ว อาจมีก้อนที่ช่องท้อง ช่องอกหรือในระบบประสาท
Burkitt Lymphoma มีลักษณะพิเศษคือ มีต้นก าเนิดมาจาก B-cell(Blymphocyte) มีการแทรกกระจายในเนื้อเยื่อ มีก้อนเนื้องอกที่โตเร็วมาก มักพบเฉพาะที่ เช่น ในช่องท้อง รอบกระดูกขากรรไกร
การวินิจฉัย
การตัดชิ้นเนื้อเพื่อตรวจทางพยาธิวิทยา (Biopsy)
การตรวจไขกระดูก เพื่อประเมินว่ามีการกระจายเข้าไปในไขกระดูกหรือไม่
เอกซเรย์คอมพิวเตอร์(CT scan)
เอกซเรย์คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI)
การตรวจกระดูก (Bone scan)
การตรวจ PET scan เป็นการตรวจทางเวชศาสตร์นิวเคลียร์
เพื่อหาเซลมะเร็ง
อาการ
อาการเริ่มต้นที่พบบ่อย
มีไข้ หนาว สั่น เหงื่อออกมากตอนกลางคืน คันทั่วร่างกาย
เบื่ออาหาร น้ำหนักลด อ่อนเพลียไม่ทราบสาเหตุ
ไอเรื้อรัง หายใจไม่สะดวก ต่อทอนซิลโต
ปวดศีรษะ (พบในมะเร็งต่อมน้ำเหลืองในระบบประสาท)
อาการในระยะลุกลาม
ซีด มีเลือดออกง่าย เช่น จุดเลือดออกตามตัว จ้ำเลือด
ในรายที่เป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองเกิดขึ้นภายในช่องท้องผู้ป่วยจะมีอาการแน่นท้อง หรืออาหารไม่ย่อย ท้องโตขึ้นจากการมีน้ำในช่องท้อง
แนวทางการรักษาในปัจจุบัน
การใช้ยาเคมีบำบัด (Chemotherapy)
การฉายรังสี(Radiation Therapy) คือการรักษาด้วยรังสีปริมาณสูง เพื่อทำลายเซลล์มะเร็ง
การรักษาด้วยการปลูกถ่ายเซลล์ต้นเนิด (Transplantation)
นางสาวณัฐชา เต็มนอง 36/1 เลขที่35 612001036