Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ :silhouettes:,…
กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ :silhouettes:
วิวัฒนาการของกฎหมายวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ :smiley:
การประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ในประเทศไทยได้มีพัฒนาการมากกว่า100 ปีและมีกฎหมายที่มีความสัมพันธ์กันหลายฉบับ
การประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ในประเทศไทยได้มีพัฒนาการมากกว่า100 ปีและมีกฎหมายที่มีความสัมพันธ์กันหลายฉบับ
ได้รับเลือกจากกรรมการสภาการพยาบาล การสอบขอขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ และการต่ออายุใบอนุญาตประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ทุก 5 ปี
กฎหมายแพ่งและพาณิชย์สำหรับพยาบาลและการกระทำความผิดที่พบบ่อย :smiley:
ความหมายและลักษณะของกฎหมายแพ่ง
กฎหมายแพ่งเป็นส่วนหนึ่งในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ปพพ.) ที่กำหนดสิทธิ หน้าที่ และความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล
กฎหมายพาณิชย์:เป็นกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการค้าขายหรือกิจการใดๆ ที่ได้กระทำในเรื่องหุ้นส่วนบริษัท ประกันภัยตั๋วเงิน เป็นต้น
กฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง:เป็นกฎหมายที่เกี่ยวกับวิธีการดำเนินพิจารณาพิพากษาคดีในกรณีที่เกิดข้อพิพาทในทางแพ่งขึ้น
นิติกรรม
ปพพ. มาตรา149“นิติกรรม หมายความว่า การใดๆ อันทำลงโดยชอบด้วยกฎหมายและด้วยใจสมัคร มุ่งโดยตรงต่อการผูกนิติสัมพันธ์ขึ้นระหว่างบุคคล เพื่อจะก่อเปลี่ยนแปลง โอน สงวน หรือระงับซึ่งสิทธิ”
นิติกรรมหมายถึง การกระทำของบุคคลด้วยใจสมัครและถูกต้องตามกฎหมาย มุ่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลง โอน สงวนหรือระงับสิทธิระหว่างบุคคล
องค์ประกอบของนิติกรรม
1.ผู้กระทำต้องแสดงออกในฐานะที่เป็นเอกชน
2.การกระทำโดยเจตนา
การแสดงเจตนาโดยชัดแจ้ง
การแสดงเจตนาโดยปริยาย
3.การกระทำที่ชอบด้วยกฎหมาย
4.ทำให้เกิดการเคลื่อนไหวสิทธิ
ประเภทของนิติกรรม
1.นิติกรรมที่พิจารณาแบ่งตามจำนวนคู่กรณี
-นิติกรรมฝ่ายเดียวได้แก่ นิติกรรมที่เกิดผลโดยการแสดงเจตนาของบุคคลเพียงฝ่ายเดียว
-นิติกรรมหลายฝ่ายได้แก่ นิติกรรมที่เกิดขึ้นโดยการแสดงเจตนาของบุคคลตั้งแต่สองฝ่ายขึ้นไป
2.นิติกรรมที่พิจารณาแบ่งตามการมีผลของนิติกรรม
-นิติกรรมที่มีผลขณะผู้แสดงเจตนายังมีชีวิต
-นิติกรรมที่มีผลขณะผู้แสดงเจตนาไม่มีชีวิต
3.นิติกรรมที่พิจารณาแบ่งตามค่าตอบแทน
-นิติกรรมที่มีค่าตอบแทนอาทิ สัญญาจ้างงาน สัญญาซื้อขาย
-นิติกรรมที่มีค่าตอบแทนอาทิ สัญญาจ้างงาน สัญญาซื้อขาย
ความสามารถของบุคคลในการให้การยินยอมรักษาพยาบาล
ความสามารถของบุคคล (Capacity)หมายถึง สภาพที่กฎหมายกำหนดขอบเขตให้บุคคลมีสิทธิหรือใช้สิทธิ ความสามารถของบุคคลเป็นสิ่งส าคัญต่อการพิจารณาความรับผิดทางกฎหมาย
บุคคล
1.บุคคลธรรมดาหมายถึง มนุษย์ที่มีชีวิตรอดภายหลังการคลอดจากครรภ์มารดา ในทางกฎหมายกำหนดให้สภาพบุคคลเริ่มตั้งแต่เมื่อคลอดและอยู่รอดเป็นทารก และสิ้นสุดลงเมื่อตาย
2.นิติบุคคล หมายถึง สิ่งซึ่งกฎหมายสมมติให้เป็นบุคคล เพื่อให้มีสิทธิและหน้าที่ตามกฎหมาย
บุคคลบางประเภทที่กฎหมายจำกัดสิทธิในการทำนิติกรรม
1.ผู้เยาว์(Minor)หมายถึง บุคคลที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ
2.คนไร้ความสามารถ(Incompetence)หมายถึง คนวิกลจริต (Unsound mind)
3.คนเสมือนไร้ความสามารถ(Quasi –incompetence)หมายถึง บุคคลที่ไม่สามารถจัดทำการงานโดยตนเอง หรือจัดกิจการไปในทางเสื่อมเสียแก่ทรัพย์สินของตนเองหรือครอบครัว เช่น กายพิการ จิตฟั่นเฟื่อน ติดสุรายาเมา
4.ลูกหนี้ที่ถูกศาลสั่งเป็นบุคคลล้มละลาย
5.สามีภริยาเป็นผู้จัดการสินสมรสร่วมกัน จึงต้องให้ความยินยอมซึ่งกันและกันเป็นการทำนิติกรรมบางประเภท เช่น การซื้อขาย แลก เปลี่ยน
สภาพบังคับทางแพ่ง
1.โมฆะกรรม
1.1นิติกรรมที่มีวัตถุประสงค์ต้องห้ามชัดแจ้งโดยกฎหมาย
1.2นิติกรรมที่ไม่ได้ทำให้ถูกต้องตามแบบที่กฎหมายกำหนด
1.3การแสดงเจตนาโดยสำคัญผิดในสาระสำคัญแห่งนิติกรรม
2.โมฆียกรรม
2.1ความสามารถของบุคคล
2.2การแสดงเจตนาโดยวิปริต
3.การบังคับชำระหนี้เป็นการชำระเงิน ส่งมอบทรัพย์สิน
4.การชดใช้ค่าเสียหายหรือค่าสินไหมทดแทน
ความรับผิดทางแพ่งที่เกี่ยวกับการประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์
สัญญาหมายถึง การกระทำของบุคคลตั้งแต่สองฝ่ายขึ้นไป ที่แสดงเจตนาด้วยใจสมัครถูกต้องตรงกันที่จะกระท าหรืองดเว้นการกระทำ และตกลงกันทุกข้อโดยไม่มีข้อสงสัย
ความรับผิดจากการละเมิด
1.การกระทำต่อบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมาย
2.การกระทำโดยจงใจหรือประมาท
การกระทำโดยจงใจ
การกระทำโดยประมาทเลินเล่อ
3.ทำให้บุคคลอื่นเสียหาย
บุคคลต้องร่วมรับผิดกับผู้กระทำ
1.นายจ้างต้องร่วมรับผิดกับลูกจ้างในผลแห่งการละเมิด ซึ่งลูกจ้างได้กระทำไปตามที่ว่าจ้าง
2.ตัวการต้องรับผิดชอบผลแห่งการละเมิดของตัวแทนที่ได้กระทำไปภายในของเขตอำนาจของตัวแทน ซึ่งกระทำตามที่ตัวการมอบหมาย
3.บิดามารดาของผู้เยาว์หรือผู้อนุบาลของผู้วิกลจริต ต้องร่วมรับผิดในผลแห่งการละเมิดที่ผู้เยาว์หรือผู้วิกลจริตกระทำ เว้นแต่พิสูจน์ได้ว่า ได้ใช้ความระมัดระวังตามสมควรในหน้าที่การดูแล
4.ครูบาอาจารย์นายจ้างหรือบุคคลอื่น ซึ่งรับดูแลผู้ไร้ความสามารถอยู่เป็นนิตย์ หรือชั่วครั้งคราว จะต้องร่วมรับผิดกับผู้ไร้ความสามารถในการละเมิด
อายุความ
คือ ระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดให้บุคคลมีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด ถ้าผู้เสียหายใช้สิทธินั้นร้องเรียนต่อศาลเกินระยะเวลาที่กำหนด ศาลจะมีค่าสั่งยกฟ้องได้ เนื่องจากคดีขาดอายุความ
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ที่เกี่ยวข้อง
มาตรา ๑๕ สภาพบุคคลย่อมเริ่มแต่เมื่อคลอดแล้วอยู่รอดเป็นทารกและสิ้นสุดลงเมื่อตาย
มาตรา ๑๙บุคคลย่อมพ้นจากภาวะผู้เยาว์และบรรลุนิติภาวะเมื่อมีอายุยี่สิบปีบริบูรณ์
มาตรา ๒๐ผู้เยาว์ย่อมบรรลุนิติภาวะเมื่อท าการสมรส
แาตรา ๒๑ผู้เยาว์จะทำนิติกรรมใดๆ ต้องได้รับความยินยอมของผู้แทนโดยชอบธรรมก่อน การใดๆ ที่ผู้เยาว์ได้ทำลงปราศจากความยินยอมเช่นว่านั้นเป็นโมะียะ เว้นแต่จะบัญญัติไว้เป็นอย่างอื่น
มาตรา ๒๒ ผู้เยาว์อาจทำการใด ๆ ได้ทั้งสิ้น หากเป็นเพียงเพื่อจะได้ไปซึ่งสิทธิอันใดอันหนึ่ง หรือเป็นการเพื่อให้หลุดพ้นจากหน้าที่อันใดอันหนึ่ง
มาตรา ๒๓ผู้เยาว์อาจทำการใดๆ ได้ทั้งสิ้น ซึ่งเป็นการต้องทำเองเฉพาะตัว
มาตรา ๒๔ผู้เยาว์อาจทำการใดๆ ได้ทั้งสิ้น ซึ่งเป็นการสมแก่ฐานานุรูปแห่งตนและเป็นการอันจำเป็นในการด ารงชีพตามสมควร
ตัวอย่าง
กฎหมายอาญาสำหรับพยาบาลและการกระทำความผิดที่พบบ่อย :smiley:
ความหมายและวัตถุประสงค์ของกฎหมายอาญา
กฎหมายอาญาเป็นกฎหมายมหาชน ซึ่งบัญญัติว่าการกระทำใดเป็นความผิดและกำหนดโทษอาญาแก่ผู้ฝ่าฝืน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อควบคุมความประพฤติของบุคคลให้อยู่ในสังคมด้วยความสงบเรียบร้อย
ประเภทของความรับผิดทางอาญา
1.ความผิดต่อแผ่นดินเป็นความผิดที่สำคัญและร้ายแรง มีผลกระทบต่อผู้เสียหายและสังคมส่วนรวม
2.ความผิดต่อส่วนตัวเป็นความผิดที่ไม่ร้ายแรงมีผลกระทบต่อผู้เสียหายฝ่ายเดียว และกฎหมายบัญญัติประเภทไว้ชัดเจน
ลักษณะสำคัญของความรับผิดทางอาญา
1.ต้องมีบทบัญญัติความผิด และกำหนดโทษไว้โดยชัดแจ้ง
2.ต้องตีความเคร่งครัดตามตัวอักษร
3.ไม่มีผลย้อนหลังที่เป็นโทษ
หลักเกณฑ์ความรับผิดทางอาญา
1.การกระทำหมายถึง การเคลื่อนไหวร่างกาย หรือไม่เคลื่อนไหวร่างกาย โดยรู้สำนึกและอยู่ภายใต้การบังคับของจิตใจ
2.กฎหมายบัญญัติว่าการกระทำนั้นเป็นความผิดและกำหนดโทษ
3.กระทำโดยเจตนา ประมาท หรือไม่เจตนา
4.เหตุยกเว้นความรับผิดทางอาญา
4.1เหตุยกเว้นความรับผิดหมายถึง การกระทำที่โดยทั่วไปกฎหมายบัญญัติว่าเป็นความผิด แต่ถ้ามีเหตุการณ์หรือสภาพแวดล้อมบังคับให้ผู้กระทำต้องกระทำเช่นนั้น
4.2เหตุยกเว้นโทษ เช่น กระทำด้วยความจำเป็น การกระทำผิดเพราะความบกพร่องทางจิต
4.3เหตุลดหย่อนโทษ เช่น การกระทำความผิดโดยไม่รู้ว่ากฎหมายบัญญัติว่าเป็นความผิด การกระทำโดยบันดาลโทสะ
5.อายุความ
5.1อายุความฟ้องคดีทั่วไป
5.2อายุความฟ้องคดีความผิดอันยอมความได้
โทษทางอาญา
1.โทษประหารชีวิตเป็นโทษสูงสุด สำหรับลงโทษผู้กระทำความผิดคดีอุกฉกรรจ์
2.โทษจำคุกเป็นโทษจำกัดเสรีภาพของนักโทษที่ถูกควบคุมไว้ในเรือนจำ ตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ในคำพิพากษา
3.โทษกักขังเป็นโทษที่เปลี่ยนจากโทษอย่างอื่นมาเป็นโทษกักขัง ได้แก่ เปลี่ยนโทษจำคุกไม่เกิน 3เดือน
4.โทษปรับการเสียค่าปรับ คือ การชำระเงินต่อศาลตามจำนวนที่ศาลกำหนดไว้ในคำพิพากษา
5.โทษริบทรัพย์สิน เช่น ทรัพย์สินซึ่งบุคคลได้ใช้หรือมีไว้ใช้ในการกระทำความผิด
ลหุโทษหมายถึง ความผิดที่ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1เดือนหรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
การทำงานเพื่อบริการสังคม
1)ผู้นั้นกระทำความผิดและต้องโทษปรับ แต่ไม่มีเงินชำระค่าปรับ
2)ในคดีที่ศาลพิพากษาปรับไม่เกิน 200,000 บาท และผู้กระทำผิดมีความประสงค์จะขอทำงาน เพื่อบริการสังคมหรือทำงานสาธารณะประโยชน์แทนค่าปรับ
3)ผู้ที่ถูกลงโทษโดยการทำงานบริการสังคม จะต้องอยู่ภายใต้การดูแลของพนักงานคุมประพฤติ เจ้าหน้าที่ของรัฐหน่วยงานของรัฐหรือองค์การ
4)ผู้ที่จะทำงานบริการสังคมต้องปฏิบัติตามเงื่อนไข เช่น เข้าร่วมโครงการฝึกอบรมทางศีลธรรม วินัย
5)ให้ผู้ดูแลรายงานเกี่ยวกับการทำงานให้ศาลทราบ
ความรับผิดทางอาญาที่เกี่ยวกับการปฏิบัติการพยาบาล
1.ความประมาทในการประกอบวิชาชีพ(Malpractice / Professional negligence / Professional misconduct)
1)ไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานวิชาชีพ(Failure to follow standard of care)
2)ใช้เครื่องมือ/อุปกรณ์การแพทย์ไม่ถูกต้อง(Failure to use equipment in a responsible manner)
3)ความบกพร่องด้านการสื่อสาร(Failure to communication)
4)ความบกพร่องด้านการบันทึก(Failure to document)
5)ความบกพร่องด้านการประเมินและเฝ้าระวังอาการ(Failure to assess and monitor)
6)ความบกพร่องด้านการไม่พิทักษ์สิทธิของผู้ป่วย(Failure to act as patient advocate)
2.การทอดทิ้งหรือละเลยผู้ป่วย
ความผิดฐานนี้เกี่ยวกับผู้มีหน้าที่ตามกฎหมายหรือสัญญาที่ต้องดูแลผู้ซึ่งพึ่งตนเองไม่ได้ เพราะอายุ ความเจ็บป่วย กายพิการ หรือจิตพิการ ทอดทิ้งบุคคลที่ตนเองรับผิดชอบตามหน้าที่หรือตามสัญญา เป็นเหตุให้อันตรายแก่ชีวิตต้องระวางโทษจeคุกไม่เกิน 3 ปี
3.การเปิดเผยความลับของผู้ป่วย(Confidential disclosure)
1)รู้ความลับผู้อื่นมาเนื่องจากการประกอบอาชีพหรือจากการศึกษาอบรม
2)เปิดเผยความลับนั้น ในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด
3)ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
4.การปฏิเสธความช่วยเหลือผู้ที่ตกอยู่ในอันตรายต่อชีวิต
การไม่ช่วยเหลือหรือปฏิเสธการช่วยเหลือผู้อื่นที่อาจเป็นอันตรายต่อชีวิต ทั้งๆ ที่ตนอาจช่วยได้ การไม่ช่วยเหลือหรือปฏิเสธการช่วยเหลือผู้อื่นที่อาจเป็นอันตรายต่อชีวิต ทั้งๆ ที่ตนอาจช่วยได้
5.ความผิดเกี่ยวกับเอกสาร: การปลอมเอกสารและการทำหรือรับรองเอกสารเท็จ
5.1ความผิดฐานปลอมเอกสาร
5.2ความผิดฐานทำหรือรับรองเอกสารเท็จ
6.การทำให้หญิงแท้งลูก(Induced abortion)
6.1 การทำให้ตนเองแท้งลูก
6.2การทำให้หญิงแท้งลูกโดยผู้เสียหายยินยอม
6.3การทำให้หญิงแท้งลูกโดยผู้เสียหายไม่ยินยอม
6.4การพยายามทำให้หญิงแท้งลูก
6.5การทำให้หญิงแท้งที่ถูกกฎหมาย
ประมวลกฎหมายอาญาที่เกี่ยวข้อง
ตัวอย่าง
มาตรา ๒บุคคลจักต้องรับโทษในทางอาญาต่อเมื่อได้กระทำการอันกฎหมายที่ใช้ในขณะกระทำนั้นบัญญัติเป็นความผิดและกำหนดโทษไว้
มาตรา ๑๘ โทษสำหรับลงแก่ผู้กระท าความผิดมีดังนี้ (๑) ประหารชีวิต (๒) จำคุก (๓) กักขัง (๔) ปรับ (๕) ริบทรัพย์สิน
มาตรา ๑๙ ผู้ใดต้องโทษประหารชีวิต ให้ดำเนินการด้วยวิธีฉีดยาหรือสารพิษให้ตาย
มาตรา ๒๓ ผู้ใดกระทำความผิดซึ่งมีโทษจำคุก และในคดีนั้นศาลจะลงโทษจำคุกไม่เกินสามเดือน
มาตรา ๒๘ ผู้ใดต้องโทษปรับ ผู้นั้นจะต้องชำระเงินตามจำนวนที่กำหนดไว้ในคำพิพากษาต่อศาล
มาตรา ๒๙ ผู้ใดต้องโทษปรับและไม่ชำระค่าปรับภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ศาลพิพากษา ผู้นั้นจะต้องถูกยึดทรัพย์สินหรืออายัดสิทธิเรียกร้องในทรัพย์สินเพื่อใช้ค่าปรับ
1 more item...