Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ภาพยนต์สั้น เรื่อง A beautiful mind, อ้างอิง มาโนช หล่อตระกูล.(2554)…
ภาพยนต์สั้น เรื่อง A beautiful mind
เห็นปัญหาอะไรบ้าง
ความเครียด
เครียดแล้วมักทำร้ายตัวเอง
เครียดมากจนเห็นเป็นภาพหลอน
Delusional
incoherence ผู้ป่วยพูดไม่ต่อเนื่อง ขาดเป็นห้วงๆ
grandiose delusion เป็นความหลงผิดคิดว่าตนเองมีความสำคัญ (สายลับ)
presecutory คิดไปเองว่าถูกปองร้าย
thought broadcasting คิดว่าผู้อื่นสามารถล่วงรู้ความคิดของตน
พฤติกรรม
พยายามโต้ตอบกลับใครบางคน
การเห็นภาพหลอน / ความคิดที่หลงผิด
หวาดกลัว คนแปลกหน้า
แยกตัว ไม่พูดคุยกับใคร
กระสับกระส่าย เดินไปเดินมา
การรักษา
ยา Clozapine
Insulin shock therapy
รักษาให้ผู้ป่วยเป็นศูนย์กลาง
ด้านสังคมและครอบครัว
การเอาชนะคนรอบข้าง สังคมที่เขาเป็นอยู่
พัฒนาตอนเด็กที่ไม่เข้าสังคม
ปมในตอนเด็กจากครอบครัว
ความผิดปกติของการรับรู้
auditory hallucination มีหูแว่วได้ยินเสียงจากภายนอก อาจเป็นเสียงรูปแบบต่างๆหรือเสียงคนคุยกัน
visual hallucination มีภาพหลอนโดยอาจเห็นเป็นคน สัตว์ สิ่งของ
ปัญหาที่สงสัย
“ผู้ป่วยรายนี้สมควรได้รับการรักษาในโรงพยาบาล
หรือสมควรได้รับการดูแลที่บ้านโดยคนในครอบครัว”
การรับผู้ป่วยไว้ในโรงพยาบาลจะช่วยลดความเครียดที่มีในผู้ป่วยและครอบครัวลง ผู้ป่วยได้รับการดูแลภายจากบุคลากรด้านจิตเวชซึ่งจะช่วยในด้านอื่นๆ ที่มีปัญหานอกเหนือ ไปจากเรื่องยาระยะเวลาที่อยู่ในโรงพยาบาลโดยเฉลี่ย ประมาณ 3-6 สัปดาห์
ความคิดหลงกับภาพหลอนต่างกันอย่างไร
ความคิดหลงผิดคืออะไร
การปักใจเชื่อในบางสิ่งบางอย่างอย่างฝังแน่น ไม่ว่าจะมีใครมาชี้แจงหรือมีหลักฐานคัดค้านที่เห็นชัดว่าสิ่งที่เขาเชื่อนั้นผิด เขาก็ยังฝังใจเชื่อเช่นนั้น อาการหลงผิดนี้บางครั้งก็เกิดขึ้นโดยที่ไม่มีเหตุการหรือสถานการณ์ชวนให้เกิดมาก่อน
ภาพหลอน
เกิดการรับรู้สิ่งต่าง ๆ ทั้งที่ตามจริงแล้วไม่มีสิ่งที่รับรู้นั้นเกิดขึ้น อาการประสาทหลอนเกิดขึ้นได้กับการรับรู้ทั้งในด้าน รูป รส กลิ่น เสียง และสัมผัส ตัวอย่างเช่น หูแว่ว ภาพหลอน หรือรู้สึกว่ามีอะไรมาชอนไชตามผิวหนัง สิ่งที่เกิดขึ้นนี้อาจเป็นสิ่งในชีวิตประจำวัน เช่น เห็นคนที่คุ้นเคยมาพูดด้วย หรือได้ยินแต่เสียง หรืออาจเป็นภาพแปลกๆ เห็นเทพ เห็นองค์ต่างๆ ก็ได้
ทำไมถึงว่ามีคนทำร้าย
หวาดระแวง
การวินิจฉัย
ต้องอาศัยการซักประวัติ ตรวจร่างกาย ตรวจสภาพจิต ตรวจทางห้องทดลอง และการทดสอบทางจิตวิทยา ฯลฯ
การวินิจฉัยโรคอาศัยหลักเกณฑ์ต่อไปนี้ (dsm-iii)
มีความหลงผิดว่าตนถูกปองร้าย
อารมณ์และพฤติกรรมสอดคล้องกับความหลงผิดนั้น
มักไม่มีอาการประสาทหลอนอย่างชัดเจน
ไม่มีอาการของโรคจิตเภทที่ได้กล่าวแล้ว เช่น ความหลงผิดแบบแปลกประหลาด การพูดไม่รู้เรื่อง ความคิดขาดความต่อเนื่องและสัมพันธ์กัน และไม่มีอาการที่เข้าหลักเกณฑ์ของโรคจิตทางอารมณ์
ไม่มีอาการของโรคจิตเภทที่ได้กล่าวแล้ว เช่น ความหลงผิดแบบแปลกประหลาด การพูดไม่รู้เรื่อง ความคิดขาดความต่อเนื่องและสัมพันธ์กัน และไม่มีอาการที่เข้าหลักเกณฑ์ของโรคจิตทางอารมณ์
สาเหตุ
ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพจิต
โรคบุคลิกภาพผิดปกติแบบหวาดระแวง ผู้ป่วยจะไม่ไว้ใจบุคคลรอบข้างง่าย ๆ เพราะคิดว่าคนอื่นหวังผลประโยชน์จากตน อีกทั้งกังวลว่าจะมีคนทำร้ายหรือหักหลังอยู่เสมอ
ปัญหาสุขภาพกาย ผู้ที่ประสบปัญหาสุขภาพบางอย่างอาจมีอาการหวาดระแวงร่วมด้วย เช่น โรคสมองเสื่อม พาร์กินสัน อัลไซเมอร์ ภาวะเครียด เป็นต้น
สิ่งแวดล้อมภายนอก ผู้ที่อาศัยอยู่ในที่ห่างไกลจากผู้คนหรือชอบแยกตัวออกจากสังคม
ประสบการณ์หรือเหตุการณ์ที่พบเจอ
ภาวะพักผ่อนไม่เพียงพอ การนอนน้อยมักกระตุ้นให้เกิดความรู้สึกไม่ปลอดภัย หวาดระแวง หรือมีอาการหลอนได้
อาการ
ไม่ไว้ใจใครง่าย ๆ ระแวดระวังผู้อื่นตลอดเวลา
คิดว่าคนอื่นจะทำร้ายหรือพูดถึงตนเองในทางเสียหาย
มีพฤติกรรมก้าวร้าว ประพฤติตัวไม่เป็นมิตรกับบุคคลรอบข้าง
อ่อนไหวและรับไม่ได้กับการถูกวิจารณ์
มองโลกในแง่ร้าย
ชอบแยกตัวอยู่คนเดียว
เข้าสังคมหรือมีปฏิสัมพันธ์กับผู้คนยาก
การรักษา
การใช้ยา ผู้ป่วยที่รู้สึกหวาดกลัวหรือวิตกกังวลบ่อย ๆ จำเป็นต้องได้รับการรักษาด้วยยาต้านโรคจิตเพื่อบรรเทาอาการหวาดระแวง
จิตบำบัด เป็นวิธีรักษาผู้ป่วยที่มีอาการหวาดระแวงในระดับไม่รุนแรง ช่วยให้ผู้ป่วยเรียนรู้ที่จะยอมรับข้อบกพร่องของตน เพิ่มความเชื่อมั่นในตนเองและความเชื่อใจต่อผู้อื่น
ฝึกทักษะในการเผชิญความเครียด เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยรู้จักผ่อนคลายจากความเครียด รู้วิธีรับมือกับอาการวิตกกังวล รวมทั้งปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตนเองให้อยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้
การพักรักษาในโรงพยาบาล ผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง จำเป็นต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลจนกว่าอาการจะดีขึ้นและทรงตัว
พัฒนาวัยเด็กมีผลกระทบต่ออาการที่เป็นหรือหรือไม่
คิดว่าพัฒนาการในวัยเด็กมีผลกระทบต่อการเเสดงออกของผู้ป่วย เนื่องจากในวัยเด็กผู้ป่วยเป็นคนเก็บตัว ชอบอยู่คนเดียว ไม่มีเพื่อน คิดว่าผู้อื่นไม่ชอบตนเอง เมื่อโตขึ้นมีความสนใจด้านคณิตศาสตร์ โดยให้ความสนใจมากจนถึงขั้นหมกมุ่น บุคลิกภาพเปลี่ยนไป เเละไม่สนใจสิ่งรอบข้าง
โรคที่คาดว่าจะเป็น
จิตเภท(Schizophrenia)
อุบัติการณ์
ผู้ป่วยส่วนใหญ่เริ่มมีอาการในช่วง 20-30 ปี
พบในคนทุกเชื้อชาติ
เกิดในเพศชายมากกว่าเพศหญิง
พบได้มากในครอบครัวที่มีฐานะยากจน
ชนิดของโรคจิตเภท
Simple Type ขาดความสัมพันธ์กับบุคคลภายนอกและสิ่งแวดล้อมภายนอกโดยสิ้นเชิง เก็บตัว ละเลยกิจวัตรประจำวัน ประสาทหลอน มักเกิดกับวัยรุ่น
Disorganized Type (Hebephenic) มีอาการประสาทหลอน และความคิดหลงผิดมีความคิดและคำพูดไม่สอดคล้องกัน
Catatonic Type ผิดปกติที่พฤติกรรมการเคลื่อนไหว
Paranoid Type มีอาการหวาดระแวง
Schizoaffective มีอาการเฉียบพลัน อาการเข้าได้กับโรคจิตเภท มีอารมณ์เศร้าร่วมกับอาการเบื่ออาหาร นอนไม่หลับ คิดช้า รู้สึกว่าตนมีความผิด
Undifferentiated Type มีอาการหลงผิด ประสาทหลอน ความคิดไม่ปะติดปะต่อกัน
Residual Type เป็นโรคจิตเภทชนิดใดชนิดหนึ่งมาก่อนแล้วอาการดีขึ้นแต่ยังมีอาการบางอย่างหลงเหลือ
อาการ
กลุ่มอาการที่เพิ่มมากกว่าคนปกติ
อาการหลงเชื่อผิด เป็นความเชื่อของผู้ป่วยที่ผิดไปจากความเป็นจริง เช่น คิดว่าคนอื่นจะมาทำร้าย
ความผิดปกติ ผู้ป่วยคิดแบบมีเหตุผลอย่างต่อเนื่องไม่ได้ ทำให้พูดคุยกับคนอื่นไม่เข้าใจ ผู้ป่วยมักพุดไม่เป็นเรื่องเป็นราว พูดไม่ต่อเนื่อง
ประสาทหลอน ผู้ป่วยคิดว่ามีบางสิ่งเกิดขึ้นทั้งที่ความเป็นจริงไม่มีสิ่งเหล่านั้นเกิดขึ้น
มีพฤติกรรมผิดปกติ โดยมักเกี่ยวข้องกับความคิดและความเชื่อที่ผิดปกติ ทำร้ายคนอื่น อยู่ในท่าแปลกๆ ซ้ำๆ หัวเราะหรือร้องไห้สลับกันเป็นพักๆ
กลุ่มอาการที่ขาดหรือบกพร่องไปจากคนปกติทั่วไป
เก็บตัว ซึม ไม่อยากพบปะกับผู้คน แยกตัวเอง
ไม่ดูแลตนเอง ไม่สนใจเรื่องการแต่งกาย
ไม่มีความคิดริเริ่ม เฉื่อยชาลง
พูดน้อย ใช้เวลานานกว่าจะตอบ พูดจาไม่รู้เรื่อง เนื้อหามีความไม่ปะติดปะต่อกัน
การรักษา
การบำบัดเพื่อเสริมทักษะทางสังคม
การรักษาด้วยยา
การบำบัดทางจิต
การบำบัดภายในครอบครัว
การส่งเสริมสุขภาพร่างกาย
การวินิจฉัยโรค
A. มีอาการต่อไปนี้ตั้งแต่ 2 อาการขึ้นไปนาน 1 เดือน
disorganized speech
grossly disorganized behavior หรือ catatonic behavior
อาการประสาทหลอน
อาการด้านลบ ได้แก่flat affect, alogia หรือ avolition
อาการหลงผิด
B. มีความเสื่อมหรือ ปัญหาในด้าน social/ occupational function มาก
ด้านการงาน
สุขอนามัยของตนเอง
สัมพันธภาพต่อผู้อื่น
C. มีอาการต่อเนื่องกันนาน 6 เดือนขึ้นไป โดยต้องมีactive phase (ตามข้อ A) อย่างน้อยนาน 1 เดือน
สาเหตุ
ปัจจัยด้านจิตใจ (Psychological factors)
เป็นความผิดปกติจากพัฒนาการทาง
บุคลิกภาพของบุคคลในวัยเด็ก
ปัจจัยด้านสังคมและวัฒนธรรม (Sociocultural factors)
ประชากรที่มีฐานะยากจนป่วยเป็นโรคจิตเภทมากกว่าประชากรที่มีฐานะดี
บิดามารดาที่มีความขัดแย้งกัน พยายามดึงเด็กมาเป็นพวกของตน
บิดามารดาที่เลี้ยงลูกแบบปกป้องมากเกินไป
ปัจจัยด้านชีวเคมีของสมอง (Biological factors)
มีความสัมพันธ์กับ dopamine ในสมอง
ปัจจัยด้านพันธุกรรม (Genetic factors)
มีการถ่ายทอดทางพันธุกรรม
โรคจิตหลงผิด (Delusional Disorder)
สาเหตุ
อาจเกิดจากการเลี้ยงดู ที่ไม่ได้รับความอบอุ่น ทำให้ไม่เชื่อใจใคร และมีความรู้สึกไวต่อท่าทีของผู้อื่น
เกิดจากสังคมที่มีความเครียด กดดัน การแข่งขันสูง การเอารัดเอาเปรียบ ทำให้รู้สึกว่าถูกผู้อื่นคุกคาม หรือรู้สึกว่าได้รับการกระทำที่ไม่ดีจากผู้อื่น จึงมีความระแวงได้มากขึ้น
ยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด แต่พบว่าสัมพันธ์กับสมองส่วนที่ควบคุมความเป็นเหตุผลและอารมณ์ความรู้สึก
อาการ
ผู้ป่วยมีอาการหลงผิดไปจากความเป็นจริงเป็นเวลามากกว่า 1 เดือน
ผู้ป่วยส่วนใหญ่ดูเป็นปกติและไม่มีพฤติกรรมที่แปลก มีเพียงความเข้าใจผิดในบางเรื่อง
ระแวงว่าตนถูกกลั่นแกล้งหรือถูกปองร้าย
การรักษา
การรักษาด้วยยา
ยาระงับอาการทางจิต
ยากล่อมประสาท
ยาต้านเศร้า
จิตบำบัด
การบำบัดส่วนบุคคล
เป็นการบำบัดเพื่อช่วยให้ผู้ป่วยยอมรับหรือทำความเข้าใจเกี่ยวกับการเข้าใจผิด
การบำบัดเพื่อช่วยปรับทัศนคติต่อสิ่งแวดล้อมและการมีปฏิสัมพันธ์
เป็นการบำบัดโดยให้ผู้ป่วยเรียนรู้ที่จะตระหนักและเปลี่ยนแปลงวิธีคิดหรือพฤติกรรมของตัวเอง
การบำบัดแบบครอบครัว
เป็นการบำบัดที่ช่วยให้ครอบครัวทราบวิธีรับมือกับผู้ป่วยและพัฒนาความสัมพันธ์ของสมาชิกในครอบครัวให้ดียิ่งขึ้น เพื่อเป็นการช่วยเหลือผู้ป่วยอีกทางหนึ่ง
การเข้าร่วมกลุ่มช่วยเหลือตนเอง
เพื่อให้ผู้ป่วยที่เคยมีอาการเดียวกันได้พูดคุยแบ่งปันประสบการณ์ซึ่งกันและกัน
ปัจจัยที่เกี่ยวข้อง
ด้านสังคม
สังคมที่มีความเครียด กดดัน การแข่งขันสูง การเอารัดเอาเปรียบ
รู้สึกว่าได้รับการกระทำที่ไม่ดีจากผู้อื่น
ทำให้รู้สึกว่าถูกผู้อื่นคุกคาม
มีความระแวงมากขึ้น
ด้านจิตใจ
การเลี้ยงดูที่ไม่ได้รับความอบอุ่น
มีความรู้สึกไวต่อท่าทีของผู้อื่น
ทำให้ไม่เชื่อใจใคร
ด้านชีวภาพ
สัมพันธ์กับสมองส่วนที่ควบคุมความเป็นเหตุผลและอารมณ์ความรู้สึก
ไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด
ประเภท
Grandiose Type
เชื่อว่าตนเองมีความสามารถเหนือกว่าผู้อื่น มีความหยั่งรู้พิเศษ
Erotomanic Type
คิดว่าบุคคลมีชื่อเสียงมาหลงรักตัวเอง
Jealous Type
คู่ครองของตนนอกใจ
Persecutory Type
ระแวงว่าตนเองถูกกลั่นแกล้ง สะกดรอย หมายเอาชีวิต
Somatic Type
หลงผิดเกี่ยวกับร่างกายของตนเอง
ผลกระทบ
การอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคม
การระแวงว่าตนเองถูกกลั่นแกล้ง สะกดรอย หมายเอาชีวิต
ทำให้ผู้ป่วยมีพฤติกรรมแยกตัวออกจากสังคม
ส่งผลกระทบต่อการทำงานและคุณภาพชีวิต
หากเป็นอาการหลงผิดคิดว่าคู่ครองของตนนอกใจอาจส่งผลให้เกิดการทำร้ายคู่ครองนำไปสู่ปัญหาครอบครัว
เหตุผลของการรักษา
Diazepam
กลุ่มยา
Benzodiazepine
ข้อบ่งใช้
ใช้รักษาโรควิตกกังวล รวมทั้งใช้รักษาโรคที่เกิดจากความเครียด
ผลข้างเคียง
หายใจลำบาก หรือกลืนลำบาก พูดลำบาก
สับสน มึนงง
วิงเวียน
ซึมเศร้า มีความคิดอยากฆ่าตัวตาย หรือทำร้ายตัวเอง
อาการแพ้ยา เช่น ผื่นขึ้น หายใจติดขัด ใบหน้า ปาก ลิ้น ลำคอ มีอาการบวม
Thorazine
ข้อบ่งใช้
ใช้ควบคุมอาการทางจิตที่สำคัญ ได้แก่ อาการหลงผิด อาการประสาทหลอน
ใช้ในผู้ป่วยที่มีอาการสับสน วุ่นวายเอะอะ อาละวาดหรือพฤติกรรมรุนแรง
ผลข้างเคียง
Acut dystonia
Parkinsonism
Akathisia
Tardive dyskinesia
กลุ่มยา
Neuroleptics กลไกลการออกฤทธิ์ block D2 receptor ยับยั้งการหลั่ง Dopamine
Atypical antipsycsกลไกลการออกฤทธิ์block 5-HT2 ,D2 receptor
สาเหตุของปัญหา
สาเหตุ
ด้านพันธุกรรม
ยิ่งมีความใกล้ชิดทางสายเลือดกับผู้ป่วยมากยิ่งมีโอกาสสูง จากความผิดปกติของสมอง โดยสารเคมีในสมองมีความผิดปกติและจากโครงสร้าง ของสมองบางส่วนที่มีความผิดปกติเล็กน้อย
ด้านจิตใจ
จากความเครียดในชีวิตประจำวัน เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดความเจ็บป่วย การใช้อารมณ์กับผู้ป่วย การตำหนิ มีท่าทีที่ไม่เป็นมิตรหรือจู้จี้ยุ่งเกี่ยวกับผู้ป่วยมากไปก็มีผลต่อการกำเริบของโรคได้
ด้านครอบครัว
ครอบครัวที่มีลักษณะชอบตำหนิวิพากษ์วิจารณ์กัน ด่าทอกัน
ด้านสังคม
สังคมที่ไม่เข้าใจผู้ป่วย มีท่าทีรังเกียจผู้ป่วย หรือ พูดจาด่าว่า
ประวัติทั่วไป
ข้อมูลส่วนบุคคล
นายจอห์น ฟอบส์ แนช จูเนียร์ (Mr. John Forbes Nash, Jr.)
อายุ 24 ปี
เชื้อชาติอเมริกัน สัญชาติอเมริกัน
ประวัติครอบครัว
มารดาเป็นครูสอนภาษา
มีน้องสาว 1 คน
บิดาเป็นวิศวกร
ภรรยาชื่อนางอลิเซีย และมีลูก 1 คน
พัฒนาการ
วัยรุ่น
สนใจทางด้านคณิตศาสตร์ และมุ่งมั่นในการเรียนจนจบปริญญาโททางด้านคณิตศาสตร์
มีบุคลิกที่ดูแตกต่างจากผู้อื่นอย่างเห็นได้ชัด
ชาร์ลอยู่กับเขาตลอดและเป็นเพื่อนคนเดียวที่สามารถพูดคุย
เรียนปริญญาเอก
มีความโดดเด่นทางด้านการเรียนในระดับอัจฉริยะ
มีเพื่อนชื่อนายชาร์ลส์ (Mr. Charles)
เข้ามาเป็นเพื่อนร่วมห้องพัก
ให้กำลังใจและคอยอยู่เป็นเพื่อนเสมอ
ชาร์ลส์มักมาชวนพูดคุยในสถานการณ์ต่างๆ
เริ่มมีความคิดหมกมุ่นและมีพฤติกรรมแปลกๆเพิ่มมากขึ้น
วัยเด็ก
เด็กเรียนเก่ง สนใจทางด้านวิทยาศาสตร์และทำการทดลองด้วยตนเอง
เป็นคนเก็บตัว ไม่มีเพื่อนสนิท
มักมีปัญหาในการปรับตัวให้เข้ากับเพื่อน
ไม่ชอบกิจกรรมนันทนาการ
ทำงาน
นายชาร์ลส์ยังมาปรากฏตัวอยู่กับเขาในหลายสถานการณ์
เริ่มสร้างห้องทำงานลับที่ใช้ทำงานสายลับถอดรหัส
แต่งงานมีครอบครัว
อาการและอาการแสดง
อาการทางคลินิก
ท่าทีเฉยเมย
การเห็นภาพหลอน / ความคิดที่หลงผิด
กระสับกระส่าย เดินไปเดินมา
แยกตัว ไม่พูดคุยกับใคร
อาการวิทยา
ความผิดปกติของสภาพอารมณ์
ความผิดปกติของการรับรู้
ความผิดปกติของเนื้อหาความคิด
พระราชบัญญัติสุขภาพจิต
มาตรา ๒๔ เมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่หรือตำรวจได้รับแจ้งหรือพบบุคคลซึ่งมีพฤติการณ์ที่น่าเชื่อว่าบุคคลนั้นมีความผิดปกติทางจิตให้ดำเนินการนำตัวผู้นั้นไปยังสถานพยาบาลเพื่อรับการตรวจวินิจฉัยโดยการนำตัวบุคคลดังกล่าว ไปสถานพยาบาลจะไม่สามารถผูกมัดร่างกายของบุคลนั้นได้เว้นแต่ความจำเป็นเพื่อป้องกันการเกิดอันตรายต่อบุคคลนั้นเองบุคคลอื่นหรือทรัพย์สินของผู้อื่น
มาตรา ๒๓ ผู้ใดพบบุคคลซึ่งมีพฤติการณ์ที่น่าเชื่อว่าบุคคลนั้นมีความผิดปกติทางจิตคือมีภาวะอันตรายหรือมีความจำเป็นต้องได้รับการบำบัดรักษาให้แจ้งต่อพนักงานเจ้าหน้าที่หรือตำรวจโดยเร็ว
มาตราที่ ๑๘ การรักษาทางจิตเวชด้วยไฟฟ้า(Electroconvulsive Therapy, ECT) ให้กระทำได้ในกรณีที่ผู้ป่วยให้ความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษร
มาตรา ๑๗ การบำบัดรักษาโดยการผูกมัดร่างกายการกักบริเวณหรือแยกผู้ป่วยจะกระทำไม่ได้ เว้นแต่เป็นความจำเป็นเพื่อป้องกันการเกิดอันตรายต่อผู้ป่วยเองบุคคลอื่นหรือทรัพย์สินของผู้อื่นโดยต้องอยู่ภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิดของผู้บำบัดรักษาตามมาตรฐานวิชาชีพ
การพยาบาล
หลีกเลี่ยงการเข้าไปจับต้องตัวผู้ป่วยก่อน ผู้ป่วยจะรู้ตัวมีแนวโน้มจะตีความ หรือรับรู้ผิด
ไม่ส่งเสริมและลดโอกาสในการเกิดอาการประสาทหลอนต่างๆ โดยการสนทนากับผู้ป่วยด้วยถ้อยคำที่ชัดเจน เรียกชื่อผปู้ป่วยให้ถูกต้องและกระตุ้นให้ผู้ป่วยเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ
พยาบาลต้องแสดงการมรับยอมรับอาการประสาทหลอนของผู้ป่วย ซึ่งทำได้โดยการ รับฟังและไม่โตแย้งแต่ถ้าผู้ป่วยถามว่าพยาบาลเห็นหรือได้ยินเช่นเดียวกับผู้ป่วยหรือไม่พยาบาลควรตอบ ให้ผู้ป่วยรู้ว่า พยาบาลไม่เห็นหรือไม่ได้ยิน หรือกล่าวแต่เพียงว่า “ฉันคิดว่า เสียงที่คุณได้ยินเป็นเสียงจริงสำหรับ คุณ แต่ฉันไม่ได้ยินเสียงที่คุณได้ยิน”
เปิดโอกาสให้ผู้ป่วยพูดถึงอาการประสาทหลอน และหาวิธีที่จะให้ผู้ป่วยเผชิญอาการ ประสาทหลอนของเขาอย่างเหมาะสม เช่น ใช้เสียงของเขาเองที่จะโต้ตอบกลับ เสียงที่เขาได้ยิน หรือรีบมาบอก พยาบาลถ้าเขาเห็นภาพบางอย่างที่ไม่เป็นจริง
ถ้าพยาบาลพบผู้ป่วยที่กำลังแสดงอาการประสาทหลอน พยาบาลควรบอกสิ่งที่เป็นจริง (Present reality)กับผู้ป่วยในขณะนั้น เช่น ผู้ป่วยบอกว่า เห็นแม่มาหา ซึ่งขณะนั้นไม่มีแม่ผู้ป่วยพยาบาลควร บอกให้ผู้ป่วยรู้ว่าพยาบาลไม่เห็นแม่ของเขา
ให้ผู้ป่วยแยกแยะว่า อาการประสาทหลอนที่เกิดขึ้นนั้นเขารู้สึกอย่างไรอาการเกิดขึ้นใน ช่วงเวลาใด หรือมีเหตุการณ์อะไรนา มาก่อน เพราะผู้ป่วยจะได้รู้จักป้องกัน ตนเองไม่ให้เกิดอาการรุนแรงขึ้นพยาบาลต้องตระหนักว่า มีอาการประสาทหลอนบางประเภทมีแนวโน้มจะทำ ให้ผู้ป่วยมีปฏิกิริยาโต้ตอบ รุนแรง
พยาบาลต้องประเมินอาการประสาทหลอนที่เกิดขึ้นกับผู้ป่วยว่าเกี่ยวข้องกับระบบ รับสัมผัสใด ผู้ป่วยแสดงปฏิกิริยาอย่างไรต่อการรับรู้นั้นๆ และอาการประสาทหลอนเกิดขึ้นในช่วงเวลาใด
อาการสำคัญ
1 วันก่อนมาโรงพยาบาลหวาดระแวงว่ามีคนสะกดรอยตามจะมาทำร้ายวิ่งหนีด้วยความหวาดกลัวออกจากที่ทำงาน เพื่อนร่วมงานจึงนำส่งโรงพยาบาลจิตเวช
ประวัติการเจ็บป่วย
2 ปีก่อนมาโรงพยาบาล หลังจบปริญญาเอกทางด้านคณิตศาสตร์ เขาถูกเจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหม สหรัฐอเมริกาเรียกตัวไปช่วยถอดรหัสทางการทหาร เขาทำงานอย่างลับๆ จนกระทั่งพบว่ามีคนสะกดรอยตามเขาอยู่ตลอดและพยายามจะทำร้ายเขา ผู้ป่วยกลัวถูกทำร้ายมาก แต่พยายามเก็บเป็นความลับไม่ให้ใครรู้เนื่องจากเขาทำงานเป็นสายลับ แม้กระทั่งภรรยาก็ไม่ทราบเรื่องนี้มาก่อน
1วันก่อนมาโรงพยาบาล เขาเห็นกลุ่มคนสะกดรอยตามเขาไปถึงที่ทำงานเขารู้สึกว่ากลัวมากจึงวิ่งหนีจนกระทั่งถูกนำส่งโรงพยาบาล
เทคนิคที่ใช้ในการสนทนา
พวกมันที่คุณพูดถึง หมายถึงใครหรือคะ : การขอความกระจ่าง clarifying or seeking clarification
ดิฉันยังไม่เห็นใครอื่นนอกจากคุณกับดิฉันนะคะ : การให้ความจริง Presenting reality
เล่าต่อสิคะ ดิฉันกำลังฟังอยู่ :Giving general lead เป็นเทคนิคที่กระตุ้นให้ผู้ป่วยเปิดเผย เรื่องราว ความคิด ความรู้สึกตนเอง และเป็นการแสดงให้ผู้ป่วยทราบว่าพยาบาลสนใจ
อ้างอิง
มาโนช หล่อตระกูล.(2554).โรคจิตเภท.สืบค้นจาก
https://med.mahidol.ac.th/ramamental/sites/
นิตยา ศรีจำนง.(2561).การพยาบาล
ผู้ที่มีความผิดปกติทางด้านความ คิดและการรับรู้. สืบค้นจาก
http://www.elnurse.ssru.ac.th/nitaya_si/pluginfile.php
มาโนช หล่อตระกูล.(2554).
จิตเภท
.สืบค้นจาก
https://med.mahidol.ac.th/ramamental/sites/default/files/public/pdf/%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B8%88%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B9%80%E0%B8%A0%E0%B8%97%20%28Schizophrenia%29.pdf
คณะแพทย์ศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล.(2560).
โรคจิตเภทโดยละเอียด
. สืบค้นจาก
https://med.mahidol.ac.th/ramamental/generalknowledge/general/09042014-0855
error
เทอดศักดิ์ เดชคง.(2560).
Paranoid Schizophrenia
.สืบค้นได้จาก
https://sites.google.com/a/samakkhi.ac.th/psychology-human-action-mind/schizophrenia/paranoid
กลุ่มงานเภสัชกรรม โรงพยาบาลสวนปรุง.(2559).
Diazepam
. สืบค้นจาก
http://www.suanprung.go.th/medicine/ap29.php
คณะเภสัชศาสตร์ มหาลัยมหิดล. (2560).
Clozapine เตือนอีกถึงความเสี่ยง
. สืบค้นได้จาก
https://pharmacy.mahidol.ac.th/dic/news_week_full.php?id=1437
error