Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่ 2 การดำเนินชีวิตและการดูแลสุขภาพตามความเชื่อของศาสนาคริสต์ (คริสตชน)…
บทที่ 2 การดำเนินชีวิตและการดูแลสุขภาพตามความเชื่อของศาสนาคริสต์ (คริสตชน)
สามพระภาคของพระเจ้า
พระบิดาเป็นพระผู้สร้างทุกสิ่ง
พระเยซูคริสต์คือพระบุตรที่เสด็จลงมาเกิดเป็นมนุษย์
พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงสถิตย์อยู่กับผู้เชื่อทุกคน
พระคัมภีร์
นธสัญญาเดิม (Old Testament) = 39 เล่ม
พันธสัญญาใหม่ (New Testament) = 27 เล่ม
พระบัญญัติ 10 ประการ
จงถือวันสะบาโต (วันเข้าโบสถ์หรือหมายถึงวันอาทิตย์[1] หรือวันเสาร์[2]) เป็นวันบริสุทธิ์
จงให้เกียรติบิดามารดาของเจ้า
ห้ามใช้พระนามของพระยาห์เวห์ไปใช้ในทางที่ผิด
ห้ามฆ่าคน
อย่าทำรูปเคารพและอย่าเคารพรูปเคารพ
ห้ามล่วงประเวณีสามีภรรยาของเขา
อย่ามีพระเจ้าอื่นใดนอกเหนือจากเรา คือ พระยาห์เวห์
ห้ามลักขโมย
ห้ามเป็นพยานเท็จและห้ามใส่ร้ายเพื่อนบ้าน
ห้ามโลภในของของผู้อื่น
หลักข้อเชื่อของคริสเตียน
เสด็จลงใต้บาดาล วันที่สามกลับคืนชีพจากบรรดาผู้ตาย
เสด็จขึ้นสวรรค์ประทับเบื้องขวาพระเป็นเจ้า พระบิดาทรงสรรพานุภาพ
รับทรมานสมัยปอนซีโอ ปีลาโต ถูกตรึงกางเขน ตายและฝังไว้
แล้วจะเสด็จมาพิพากษาผู้เป็นและผู้ตาย
ปฏิสนธิเดชะพระจิต บังเกิดจากพระนางมารีอา พรหมจารี
ข้าพเจ้าเชื่อถึงพระจิต
เชื่อถึงพระเอกบุตรเยซูคริสต์สวามีของเรา
พระศาสนจักรศักดิ์สิทธิ์ สากล สหพันธ์นักบุญ
ข้าพเจ้าเชื่อถึงพระเป็นเจ้า พระบิดาทรงสรรพานุภาพ สร้างฟ้าดิน
การยกบาป
การคืนชีพของเนื้อหนัง
และชีวิตนิรันดร
อาแมน
หลักการดำเนินชีวิตตามคำสอนหลักของพระเยซูคริสต์
"จงรักองค์พระผู้เป็นเจ้าของท่านด้วยสุดใจของท่านด้วยสุดจิตของท่าน และด้วยสุดความคิดของท่าน " นั่นแหละเป็นพิระบัญญัตนข้อสำคัญอันดับแรกข้อที่สองก็เหมือนกันคือ " จงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง" มัทธิว 22:37-39
พระมหาบัญชาของพระเยซูคริสต์
“เพราะฉะนั้นท่านทั้งหลายจงออกไปและนำชนทุกชาตินมาเป็นสาวกของเราจงบัพิตนศมาพวกเขาในพระนามของพระบิดา พระบุตร และพระวิญญาณบริสุทธิ์และสอนพวกเขาให้ถือรักษาสิ่งสารพัดที่เราสั่งพวกท่านไว้ และนี่แน่ะเราจะอยู่กับท่านทั้งหลายเสมอไปจนกว่าจะสิ้นยุค” มัทธิว 28:19-20
หลักการดูแลสุขภาพตามความเชื่อของศาสนาคริสต์
“ท่านรู้แล้วไม่ใช่หรือว่าร่างกายของพวกท่านเป็นวิหารของพระวิญญาณบริสุทธิ์ผู้สถิตในท่านผู้ซึ่งพวกท่านได้รับจากพระเจ้าและท่านทั้งหลายไม่ใช่เจ้าของตัวท่านเอง”( 1 โครินธ์ 6:19)
เราคืออวัยวะของพระกายของพระคริสต์
เพราะว่าเราเป็นอวัยวะของพระกายของพระองค์ เอเฟซัส 5:30 (THSV11)
แต่พระเจ้าทรงตั้งอวัยวะแต่ละอวัยวะไว้ในร่างกายตามชอบพิระทัยของพระองค์ 1 โครินธิ์ 12:18 (THSV11)
เพราะว่าร่างกายไม่ได้ประกอบด้วยอวัยวะเดียว แต่ด้วยหลายอวัยวะ1 โครินธิ์ 12:14 (THSV11)
ถ้าอวัยวะหนึ่งทกข์อวัยวะทั้งหมดก็ร่วมทกข์ด้วย ถ้าอวัยวะหนึ่งได้รับเกียรตนอวัยวะทั้งหมดก็ร่วมชื่นชมยนนดีด้วย1 โครินธิ์ 12:26 (THSV11)
เราต้องดูแลร่างกายของเรา
อวัยวะของร่างกายที่เราคนดว่าไร้เกียรติเราก็ยังทำให้มีเกียรติยิ่งขึ้นและอวัยวะที่ควรปกปนดเราก็ทำด้วยความสุภาพเป็นพิเศษ 1 โครินธิ์12:23 (THSV11)
ท่านที่รักข้าพเจ้าอธิษฐานขอให้ท่านมีสุขภาพแข็งแรงและมีความสุขความเจริญทุกอย่าง ดังที่จิตวิญญาณของท่านกำลังเจริญอยู่นั้น3 ยอห์น1:2 (THSV11)
พระเจ้าทำให้เกิดภัยพิบัติและโรคร้าย
พระยาห์เวห์จะทรงเฆี่ยนตีท่านด้วยฝีอียิปต์ ด้วยแผลร้าย ด้วยโรคกลากและด้วยโรคคัน ซึ่งจะรักษาไม่ได้ เฉลยธรรมบัญญัติ 28:27 (THSV11)
ภายหลังเหตุการณ์นี้ พระยาห์เวห์ทรงทำให้ลำไส้ของเยโฮรัมเป็นโรคที่รักษาไม่ได้ 2 พงศาวดาร 21:18 THSV11
พันธสัญญาเดิม เลวีนิติ บทที่ 13 กฎหมายเรื่องโรคเรื้อน
1 พระยาห์เวห์ตรัสกับโมเสสและอาโรนว่า2“ถ้าผู้ใดเกิอาการบวมหรือผื่นหรือด่างขึ้นที่ผิวหนัง แล้วผิวหนังของเขามีอาการของโรคเรื้อนก็ให้พาผู้นั้นมาหาอาโรนผู้เป็นปุโรหิต
18“ถ้าร่างกายของคนใดมีแผลฝีซึ่งหายแล้ว19ถ้าที่แผลเป็นนั้นบวมขึ้นมามีสีขาวหรือมีรอยสีแดงเรื่อๆปรากฏก็ให้ผู้นั้นไปแสดงตัวต่อปุโรหิต
45“ให้บุคคลที่เป็นโรคเรื้อนสวมเสื้อผ้าที่ขาดให้ปล่อยผมและให้เขาปิดริมฝีปากบนไว้แล้วร้องว่า ‘มลทิน มลทิน’46เขาจะเป็นมลทินอยู่ตลอดเวลาที่เขาเป็นโรคเขาเป็นมลทิน เขาจะต้องอยู่แต่ลำพังภายนอกค่าย
พระเจ้าผู้ดูแลรักษา
ผู้ทรงอภัยความชั่วทั้งสิ้นของเจ้าผู้ทรงรักษาโรคทั้งสิ้นของเจ้าสดุ ดี 103:3 (THSV11)
เพราะเราจะคืนสุขภาพดีแก่เจ้า และเราจะรักษาบาดแผลของเจ้าให้หาย” พิระยาห์เวห์ตรัสดังนี้แหละ เยเรมีย์30:17 (THSV11)
เพราะว่าพระองค์ทรงรักษาคนมากมายให้หายโรค จนบรรดาคนที่เป็นโรคต่างๆเบียดเสียดกันเข้ามาเพื่อสัมผัสพระองค์ มาระโก 3:10 (THSV11)
แต่กิตติศัพท์ของพระองค์ยิ่งเลื่องลือไปและมหาชนมาชุมนุมกันเพื่อจะฟังพระองค์และรับการรักษาโรคต่างๆ ลูกา5:15 (THSV11)
ในเวลานั้นพระเยซูทรงรักษาคนจำนวนมากให้หายจากโรคภัยต่างๆและพ้นจากพวกวิญญาณชั่วและทรงรักษาคนตาบอดหลายคนให้เห็นได้ ลูกา7:21 (THSV11)
พระองค์ทรงเรียกสาวกสิบสองคนของพระองค์มา แล้วประทานสิทธิอำนาจให้พวกเขาขับผีโสโครกออกได้ และทรงให้รักษาโรคและความเจ็บป่วยทุกอย่างให้หายได้ มัทธิว 10:1 (THSV11)
พร้อมกับผู้หญิงบางคนที่ได้รับการรักษาให้พิ้นจากวิญญาณชั่วและโรคภัยต่างๆได้แก่มารีย์ที่เรียกกันว่าชาวมักดาลา คนที่มีผีเจ็ดตนออกจากตัว ลูกา8:2 (THSV11)
เพราะฉะนั้นท่านจงสารภาพบาปต่อกันและกันและจงอธิษฐานเผื่อกันและกันเพิื่อท่านทั้งหลายจะได้รับการรักษาโรคคำวิงวอนของผู้ชอบธรรมนั้นมีพลังมากและเกิดผล ยากอบ 5:16 (THSV11)
พันธสัญญาเดิม เลวีนิติ บทที่ 15 สิ่งอันเป็นมลทินที่ไหลออกจากร่างกาย
19“หญิงใดมีสิ่งไหลออกเป็นโลหิตประจำเดือน เธอจะต้องเป็นมลทินไปเจ็ดวัน และผู้ใดแตะต้องเธอจะต้องเป็นมลทินจนถึงเวลาเย็น 20ขณะเมื่อเธอมีมลทิน เธอไปนอนทับสิ่งใดสิ่งนั้นก็มีมลทินสิ่งใดที่เธอไปนั่งทับสิ่งนั้นก็เป็นมลทิน 21คนที่ไปแตะต้องที่นอนของเธอต้องซักเสื้อผ้าและอาบน้ำและเป็นมลทินไปจนถึงเวลาเย็น
“ถ้าหญิงใดมีโลหิตไหลออกหลายวันทั้งที่ไม่ใช่เวลามลทินประจำของเธอหรือถ้าเธอมีโลหิตไหลออกเลยกำหนดการเป็นมลทินประจำของเธอทุกวันที่มีโลหิตไหลออกเธอต้องเป็นมลทินอย่างเดียวกับเวลาที่เป็นมลทินประจำของเธอ 26ที่นอนที่เธอนอนระหว่างเธอมีสิ่งไหลออกที่นอนนั้นเป็นดังที่นอนมลทินประจำของเธอ
นิกายต่างๆในศาสนาคริสต์
Roman Catholic
Church of England
Church of Scotland
Anglican
Lutheran
Methodist
Greek orthodox
Jesuit
Mormon
Seven Day Adventist
พันธสัญญาเดิม เลวีนิติ บทที่ 17 ห้ามการรับประมานเลือด
เราได้ให้เลือดแก่เจ้าทั้งหลายเพื่อใช้บนแท่นบูชาเพื่อจะลบมลทินของเจ้าทั้งหลายเพราะว่าโลหิตเป็นสิ่งที่ใช้ลบมลทิน ฮบ.9:22
2เพราะฉะนั้นเราจึงได้พูดกับคนอิสราเอลว่าห้ามคนใดในพวกเจ้ารับประทานเลือด หรือคนต่างด้าวผู้อาศัยท่ามกลางเจ้าก็ห้ามรับประทานเลือด 13เมื่อคนอิสราเอลคนใดหรือคนต่างด้าวที่อาศัยอยู่ท่ามกลางพวกเขาไปล่าสัตว์หรือนกเพื่อนามารับประทานก็ให้หลั่งเลือดของมันออกแล้วเอาดินกลบ
• 10“ถ้าคนอิสราเอลหรือคนต่างด้าวคนใดผู้อาศัยอยู่ท่ามกลางพวกเจ้ารับประทานเลือดเราจะตั้งหน้าต่อสู้บุคคลผู้รับประทานเลือดนั้นและจะไล่เขาออกจากชนชาติของตน เพราะว่าชีวิตของสัตว์ทุกตัวอยู่ในเลือด ปฐก.9:4; ลนต.7:26-27; 19:26; ฉุบ.12:16,23; 15:23