Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่3 การส่งเสริมสุขอนามัยและการพักผ่อนนอนหลับ ( 2 การส่งเสริมการพักผ่อ…
บทที่3
การส่งเสริมสุขอนามัยและการพักผ่อนนอนหลับ
( 2 การส่งเสริมการพักผ่อนนอนหลับ )
2.1 ความหมายและความสำคัญการพักผ่อนนอนหลับ
ความหมาย
การพักผ่อน
การผ่อนคลาย และมีความสงบทั้งจิตใจ และร่างกาย ความไม่วิตกกังวล สงบหรือผ่อนคลายโดยไม่มีความเครียดทางอารมณ์
แบ่งออกเป็น
Bed rest
เป็นการพักผ่อนโดยให้ผู้ป่วยนอนอยู่บนเตียง สามารถทำกิจกรรมประจำวันได้ตามความสามารถของผู้ป่วย
Absolute bed rest
เป็นการพักผ่อนโดยให้ผู้ปุวยนอนอยู่บนเตียง ไม่ให้ ร่างกายออกแรงในกิจกรรมใด ที่จะทำให้รู้สึกเหนื่อย
การนอนหลับ
เป็นกระบวนการทางสรรีรวิทยาพื้นฐานที่สอดประสานกับจังหวะ การท างานของร่างกายด้านอื่นๆ โดยมีการเปลี่ยนแปลงของ อวัยวะต่าง ๆ ของร่างกายในทางผ่อนคลาย
2.4 วงจรของการนอนหลับ
1) ช่วงหลับธรรมดา (Non-rapid eye movement sleep: NREM)
ระยะที่ 1 (เริ่มมีความง่วง)
เป็นช่วงเริ่มหลับที่เปลี่ยนจากการตื่นไปสู่ การ นอน ในคนทั่วไปใช้เวลาตั้งแต่ 30 วินาที - 7 นาทีเป็นสภาพที่แม้จะได้รับการกระตุ้นเพียงเล็กน้อยก็ จะตื่น
ระยะที่ 3 (หลับปานกลาง)
ทั้งคลื่นสมองและชีพจรจะเต้นช้าลง ความมีสติ รู้ตัวจะหายไป การเคลื่อนไหวของตาจะหยุดลง แม้ได้รับสิ่งเร้าจากภายนอกก็จะไม่ตื่นโดยง่าย ขั้นนี้จะ ใช้เวลาประมาณ 20 - 30 นาที
ระยะที่ 2 (หลับตื้น)
การหลับในช่วงต้น เป็นสภาพที่ไม่ได้ยินเสียงรบกวน จากภายนอก เป็นระยะแรกที่มีการหลับอย่างแท้จริง แต่ยังไม่มีการฝัน ระยะนี้จะถูกปลุกให้ตื่นได้ โดยง่าย
ระยะที่ 4 (หลับลึก)
เป็นช่วงหลับสนิทของการนอน ใช้เวลา 30 - 50 นาที หากว่าร่างกายนอนหลับโดยปราศจากระยะที่ 4 นี้ อาจมีการนอนละเมอหรือฝันร้ายได้ ระยะนี้ อุณหภูมิร่างกายและความดันโลหิตจะลดลง อัตราการเต้นของหัวใจลดลง 60 ครั้งต่อนาที growth hormone จะมีการหลั่งในระยะนี้
2) ช่วงหลับฝัน (Rapid eye movement sleep: REM)
ช่วงเวลาหลับฝันนี้จะกินเวลาประมาณ 30 นาที หลังจากผ่านช่วงหลับฝันไปแล้ว ก็จะกลับเริ่ม ที่ระยะที่ 1 ของ NREM ใหม่ หมุนเวียนอย่างนี้ไปเรื่อย โดยแต่ละรอบจะใช้เวลา 80-120 นาที ใน คืนหนึ่งที่เรานอนจะหมุนผ่านวงจรแบบนี้ไปหลายรอบ
2.5 ปัจจัยที่มีผลต่อการพักผ่อนและการนอนหลับ
ปัจจัยภายใน
ปัจจัยภายในส่วนบุคคล
เพศ
อายุ
ความไม่สุขสบาย
ความเจ็บปวด
การใส่สายยางและท่อระบายต่าง ๆ
ท่านอนที่ไม่เหมาะสม
อาการคลื่นไส้ อาเจียน
ภาวะไข้หลังผ่าตัด
ความวิตกกังวล
ปัจจัยภายนอก
เสียง
อุณหภูมิ
แสง
ความไม่คุ้นสถานที่
กิจกรรมพยาบาล
อาหาร
ยา
2.6 ประเมินคุณภาพการนอนหลับ และการนอนหลับที่ผิดปกติ
การประเมินคุณภาพการนอนหลับเชิงปริมาณ
Insomnia
นอนหลับไม่เพียงพอแบบเรื้อรัง
มีสาเหตุจาก
โรคทางจิตเวช เช่น โรคซึมเศร้า, และภาวะวิตกกังวล
โรคทางอายุรกรรม เช่น โรคสมองเสื่อม
อาการข้างเคียงของยา
โรคของการนอนหลับโดยตรง เช่น อาการขากระตุกเป็นพักระหว่างหลับ
การนอนหลับไม่เพียงพอระยะสั้น
เป็นระยะเวลาไม่เกิน 3 สัปดาห์ ส่วนใหญ่มีสาเหตุเดียวกับการนอนหลบัไม่เพียงพอ ชั่วคราวแต่มีเวลานานกว่า
การนอนหลับไม่เพียงพอชั่วคราว
เป็นการนอนหลบัไม่เพียงพอเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ 3- 5 วัน ร่างกายปรับตัว ได้อาการนอนไม่หลับก็จะหายไป
Hypersomnia
เป็นการนอนหลับมาก หรือง่วงนอนมากกว่าปกติ
หลับขณะขับรถยนต์ หรือรอรถติดไปแดง หลับ ในห้องประชุม หลับขณะรับประทานอาหาร
Parasomnia
เกิดขึ้นในช่วงจากหลับมาตื่น หรือจากตื่นมาหลับ
อาการขากระตุกขณะกำลังหลับ,ละเมอพูด, ศีรษะโขกกำแพง
กลุ่มอาการที่เกิดขึ้นขณะหลับชนิดที่มีการกรอกตา
ภาวะฝันร้าย,ภาวะผีอำ
ความผิดปกติของการตื่น
อาการ สับสน ,ละเมอเดิน ,ฝันร้าย
กลุ่มอื่น ๆ
การปัสสาวะรดที่นอนขณะหลับ,การกรน ,การไหลตาย
ประเมินคุณภาพการนอนหลับ
เชิงคุณภาพ
1 ใช้การประเมินความรู้สึกต่อการนอนหลับ
2 ใช้แบบประเมินแบบแผนการนอนหลับ
เชิงปริมาณ
2 ระยะเวลาการนอนหลับในแต่ละคืน
3 จำนวนครั้งที่ถูกรบกวนขณะนอนหลับ
4 ประสิทธิภาพในการนอน
1 ระยะเวลาตั้งแต่เข้านอนจนกระทั่งหลับ
ผลที่เกิดจาการนอนหลับผิดปกติ
ผลจากการนอนไม่เพียงพอในการนอนชนิด REM
เกิดขึ้นหลังจากการเริ่มนอนหลับชนิดไม่มีการเคลื่อนไหวของลูกตาอย่างรวดเร็ว ลักษณะ ประมาณ 90 นาที หรืออาจมากกว่าในวัยผู้ใหญ่ จะมีการเข้าสู่ระยะที่มีการเคลื่อนไหวลูก ตาอย่างรวดเร็ว ลักษณะคลื่นไฟฟ้าสมองคล้ายตอนตื่นนอน
กล้ามเนื้อต่าง ๆ รวมทั้งใบหน้า และคอจะหย่อน เพราะร่างกายไม่ได้เคลื่อนไหว
มีการกลอกลูกตามอย่างรวดเร็ว
การนอนหลับระยะนี้จะมีช่วงเวลายาวนาน การฝันจะพบประมาณ 80% ในช่วงระยะนี้
ผลในภาพรวมจะทำให้การทำงานของร่างกายขาดประสิทธิภาพจาก ร่างกายอ่อนล้า และขาดสมาธิ
ผลจากการนอนไม่เพียงพอในการนอนชนิด NREM
เมื่อยล้า คลื่นไส้อาเจียน ท้องผูก เวียนศีรษะ ทนต่อความเจ็บปวดได้ลดลง กล้ามเนื้อคออ่อนแรง ภูมิต้านทานลดลง ระดับความรู้สึกตัวบกพร่อง
ประกอบไปด้วย 4 ระยะ
ระยะที่ 3 เป็นการหลับลึกปานกลาง
ระยะที่ 2 การนอนยังเป็นแบบไม่ลึกหรือเป็นระยะที่เริ่มหลับ และการกลอก ลูกตาช้าๆ จะหายไป คลื่นไฟฟ้าสมองจะช้าลงในผู้ใหญ่ ร้อยละ 50 ของคนปกติ อาจใช้เวลาในระยะนี้ประมาณ 20 นาที หรือมากกว่า
ระยะที่ 1 จะมีความถี่ของคลื่นไฟฟ้าสมองอย่างช้าๆ เเต่ปรากฏคลื่นมียอดแหลมลูกตา จะกลอกช้าๆ จากด้านหนึ่งไปยังอีกด้านหนึ่ง ความตึงตัวของกล้ามเนื้อจะลดลงยกเว้นหน้า และคอ
ระยะที่ 4 เป็นการหลับลึกที่สุด
2.7 การส่งเสริมการพักผ่อนและการนอนหลับ
การจัดสิ่งแวดล้อมให้เหมาะสม และมีความปลอดภัย
เสียง แหล่งกำเนิดเสียงจากภายนอกห้อง
กลิ่น
อุณหภูมิ มีความเหมาะสมของอุณหภูมิระหว่าง 20-25 องศา เซลเซียส
แสงสว่าง สภาพแวดล้อมที่ดีต้องไม่มืดสลัวหรือสว่างจ้าจนเกินไป
ความพร้อมของอุปกรณ์ เครื่องใช้ และเครื่องอำนวยความสะดวก
ความเป็นส่วนตัว และมิดชิดอย่างปลอดภัย
ความสะอาด ความเป็นระเบียบเรียบร้อย สวยงามและน่าอยู่อาศัย
ความอบอุ่น และความประทับใจในบุคลิกภาพของพยาบาล
การจัดท่าทางสำหรับผู้ป่วยเพื่อความสุขสบาย
ท่านอนคว่ำ (Prone position)
ท่านอนตะแคง (Lateral position)
ท่านอนราบศีรษะสูง (Fowler’s position)
ท่านอนหงายราบ Dorsal position (supine position)
Sitting position
2.8 การทำเตียง
มี 4 ชนิด คือ
2) การทำเตียงผู้ป่วยลุกจากเตียงได้ (Open/unoccupied bed)
จุดประสงค์
ให้เตียงและสิ่งแวดล้อมสะอาด เรียบร้อย สวยงาม
ให้ผู้ป่วยได้รับความสุขสบาย
วิธีปฏิบัติ
เตรียมเครื่องใช้ไปที่เตียง พาดผ้าที่พนักเตียง วางถังน้ำใต้เตียง
ไขเตียงลงให้ราบ เก็บที่ไขเตียงเข้าที่
ถอดนาฬิกา ใส่ mask ผ้ากันเปื้อนพลาสติก และสวมถุงมือสะอาด
เริ่มรื้อผ้าเหมือนการทำเตียงว่าง โดยม้วนด้านนอกไว้ด้านใน พาดผ้าที่รื้อออกไว้ที่ พนักเตียงด้านล่าง หรือทิ้งลงถังผ้าเปื้อน
ฉีดน้ำผสมผงซักฟอก แล้วเช็ดทำความสะอาดหมอน ที่นอน เตียง ตู้ข้างเตียงและ เก้าอี้ เช็ดตามด้วยน้ำสะอาด รอให้น้ำแห้ง
กลับที่นอนอีกด้านและเช็ดให้สะอาดเหมือนข้อ 6
ปูที่นอนใหม่ เหมือนการทำเตียงว่าง
พับผ้าห่มเป็นทับซ้อนกับไปมาคล้ายพัด (fan fold) ไว้ที่ปลายเตียง
จัดเตียงและตู้ข้างเตียงให้เข้าที่ ทิ้งผ้าเก่าที่เปลี่ยนแล้วในถังผ้าเปื้อน
เติมน้ำในเยือกให้ใหม่ เปลี่ยนแก้วน้ำให้ใหม่ (กรณีที่ผู้ป่วยต้องบันทึกสารน้ำดื่มให้ จดปริมาณน้ำที่ดื่มไปก่อน แล้วจึงเติมน้ำ)
ล้างถังน้ำ ผึ่งให้แห้งก่อนเก็บเข้าที่
ถอดถุงมือ ถอด mask และล้างมือให้สะอาดเช็ดให้แห้ง
ลงบันทึกทางการพยาบาล
แนะนำตัวและบอกผู้ป่วยให้ทราบวัตถุประสงค์ของการทำเตียง
เครื่องใช้
เครื่องผ้า เหมือนการทำเตียงว่าง ยกเว้น ผ้าห่มและผ้าคลุมเตียง
ถังใส่ผ้าเปื้อน
เครื่องผ้า เหมือนการทำเตียงว่าง ยกเว้น ผ้าห่มและผ้าคลุมเตียง
ถุงมือสะอาด ผ้ากันเปื้อนพลาสติก และ mask
3) การทำเตียงผู้ป่วยลุกจากเตียงไม่ได้ (Occupied bed)
จุดประสงค์
ให้เตียงและสิ่งแวดล้อมสะอาด เรียบร้อย สวยงาม
ให้ผู้ป่วยได้รับความสุขสบาย
วิธีปฏิบัติ
เตรียมเครื่องใช้ไปที่เตียง พาดผ้าที่พนักเตียง วางถังน้ำใต้เตียง
ไขเตียงลงให้ราบ เก็บที่ไขเตียงเข้าที่
ถอดนาฬิกา ใส่ mask ผ้ากันเปื้อนพลาสติก และสวมถุงมือสะอาด
ทำเตียงที่ละด้าน โดยทำด้านตู้ข้างเตียงก่อน เดินอ้อมไปด้านตู้ข้างเตียงก่อน พลิกตัว ผู้ป่วยให้นอนตะแคง หันหลังให้ตู้ข้างเตียงยกเหล็กกันเตียงกรณีที่ผู้ป่วยไม่รู้สึกตัว
เดินกลับมาด้านตู้ข้างเตียง รื้อเตียงด้านตู้ข้างเตียง โดยดึงชายผ้าที่เหน็บใต้ที่นอนออกทุกชิ้น
ตลบม้วนผ้าปูที่นอนเช่นเดียวกัน
ฉีดน้้ำผสมผงซักฟอก เช็ดที่นอนด้วยน้้ำผสมผงซักฟอก เช็ดให้แห้งด้วยผ้าสะอาด รอ ให้น้ำแห้ง
วางผ้าปูที่นอนตามยาวซีกด้านตู้ข้างเตียง ผ้าอยู่ตรงกลางที่นอน ปล่อยชายผ้าห้อยลง อีกครึ่งหนึ่งม้วนชิดหลังผู้ป่วย
เหน็บผ้าด้านหัวเตียง และปลายเตียงให้เรียบร้อย
ปูผ้ายางให้ม้วนด้านหนึ่งชิดหลังผู้ป่วยเหน็บชายผ้ายางเข้าใต้ที่นอน
ปูผ้าขวางเตียงให้สูงเลยขอบด้านบนของผ้ายางประมาณ 2 นิ้ว และให้ม้วนด้านหนึ่ง ชิดหลังผู้ป่วยเหน็บชายผ้าขวางเตียงเข้าใต้ที่นอน
พลิกตัวผู้ป่วยให้นอนหงายก่อน แล้วค่อยพลิกนอนตะแคง หันหน้าไปทางด้านที่ เปลี่ยนผ้าใหม่ ยกเหล็กกั้นเตียงขึ้น เพื่อป้องกันผู้ป่วยตกเตียง
เดินอ้อมไปด้านตรงข้ามตู้ข้างเตียง พร้อมนำถังเช็ดเตียงไปด้วยรื้อผ้าออกโดยดึงชาย ผ้าที่เหน็บไว้ใต้ที่นอนออกทุกชิ้น
ดึงผ้าปูที่นอน ผ้ายาง และผ้าขวางเตียงชุดเก่าออกม้วนให้เข้าด้านใน ดึงออกม้วนทิ้ง ลงถังผ้าเปื้อน
เช็ดที่นอนซีกที่เหลือด้วยน้ำผสมผงซักฟอกให้สะอาด เช็ดแห้งด้วยน้้ำสะอาด รอให้ น้ำแห้ง
ดึงผ้าปูผ้าบนที่ม้วนชิดหลังผู้ป่วยไว้ทีละชิ้นจากชั้นล่างขึ้นมาทีละชิ้นดึงให้เรียบตึง ทำมุมและเหน็บผ้าเข้าใต้ที่นอนให้เรียบร้อย
พลิกตัวผู้ป่วยให้นอนหงาย
ห่มผ้าให้ผู้ป่วย หรือผ้า upper sheet ทำมุมผ้าปลายเตียงให้เรียบร้อย
ยกศีรษะผู้ป่วย เปลี่ยนปลอกหมอน การถอดและใส่ปลอกหมอน ทำเช่นเดียวกับการ ทำเตียงว่าง ให้ผู้ป่วยหนุนหมอนและจัดให้ผู้ป่วยอยู่ในท่าที่สบาย
นำผ้าเปื้อนทิ้งลงถังผ้าเปื้อน
เช็ด หัวเตียง ตู้ข้างเตียงเก้าอี้ และจัดของให้ เป็นระเบียบเรียบร้อย
เติมน้ำในเยือกให้ใหม่ เปลี่ยนแก้วน้ำให้ใหม่ (กรณีที่ผู้ป่วยต้องบันทึกสารน้ำดื่มให้จด ปริมาณน้ำที่ดื่มไปก่อน แล้วจึงเติมน้ำ)
แนะนำตัวและบอกผู้ป่วยให้ทราบวัตถุประสงค์ของการทำเตียง
ตลบม้วนผ้าขวางเตียงและผ้ายางให้ด้านบนของผ้าอยู่ด้านใน ม้วนชิดหลังผู้ป่วย
ล้างถังน้ำ ผึ่งให้แห้งก่อนเก็บเข้าที่
ถอดถุงมือ ถอดmask และล้างมือให้สะอาดเช็ดให้แห้ง
ลงบันทึกทางการพยาบาล
เครื่องใช้
ถังใส่ผ้าเปื้อน
ถุงมือสะอาด ผ้ากันเปื้อนพลาสติก และ mask
กระบอกฉีดน้้ำผสมผงซักฟอก ถังน้ำสะอาด และผ้าเช็ดเตียง
เครื่องผ้า เหมือนการทำเตียงว่าง ยกเว้น ผ้าห่มและผ้าคลุมเตียง
1) การทำเตียงว่าง (Close bed)
จุดประสงค์
จัดเตรียมความพร้อมเตรียมรับผู้ป่วยใหม่
จัดสิ่งแวดล้อมสะอาดให้ส่งเสริมความสุขสบาย ให้หอผู้ป่วยเป็นระเบียบ เรียบร้อย สวยงามน่าอยู่พักอาศัย
วิธีปฏิบัติ
คลี่ผ้าปูที่นอนให้รอยพับกึ่งกลางตามความยาวของผ้าอยู่ตรงกึ่งกลางที่นอน เพื่อให้ชายผ้าเท่ากันทั้งสองข้างและเหน็บผ้าปูที่นอนเข้าใต้ที่นอนทั้งหัวเตียงและปลายเตียงให้ เรียบร้อยแล้วทำมุมชายธงทั้งสองข้าง
ปูผ้าห่ม แบบเดียวกับผ้าปูที่นอน คลุมหมอนให้มิดชิด แต่ทำชายธงเฉพาะปลาย เตียงไม่ต้องเหน็บผ้าด้านข้าง
ฉีดน้ำผสมผงซักฟอก เพื่อทำความสะอาดที่นอนและเตียงแล้วเช็ดตามด้วย น้ำเปล่าจนสะอาด
ปูผ้ายางในลักษณะขวางกับเตียงบนผ้าปูที่นอนระหว่างกึ่งกลาง ของเตียงโดย ให้ห่างจากหัวเตียงประมาณ 18 นิ้ว เพื่อป้องกันไม่ให้ผ้าปูที่นอนเปื้อน
รื้อผ้าทุกชิ้นโดยดึงชายผ้าที่เหน็บไว้ใต้ที่นอนออกมาทั้งหมด เริ่มจากหัวเตียงด้าน ตรงข้าม อ้อมปลายเตียงไปจนจบอีกด้านหนึ่ง พับผ้าทีละชิ้น โดยเริ่มจากผ้าชิ้นบนก่อน เพื่ออำนวย ความสะดวกต่อแผนกซักฟอกและมีโอกาสได้สำรวจสิ่งของของผู้ปุวยที่ตกค้างอยู่ พับผ้าให้ด้าน สกปรกอยู่ด้านใน การถอดปลอกหมอนให้ตลบด้านนอกไว้ด้านในและพับให้ปากหมอนอยู่ด้านใน ไม่ ควรสลัดผ้า แล้วทิ้งผ้าลงในถังผ้าเปื้อน หากไม่มีให้พาดผ้าไว้ที่ปลายเตียง ไม่ทิ้งลงพื้นหรือวางบนเตียง ผู้ป่วย เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อโรค
ปูผ้าขวางเตียงทับบนผ้ายางในลักษณะเดียวกันแล้วเหน็บผ้าส่วนที่ขวางลงใต้ ผ้ายางประมาณ 2 นิ้วเพื่อเป็นการปูองกันผ้ายางถูกผิวหนังผู้ป่วย
วางหมอนที่พนักหัวเตียงหรือบนตู้ข้างเตียง สำรวจรอยชำรุดของที่นอนหากมีส่ง ซ่อมหรือเปลี่ยนใหม่
จัดเตียงและตู้ข้างเตียงให้เข้าที่ ทิ้งผ้าที่เปลี่ยนแล้วในถังผ้าเปื้อน
เก็บเยือกน้ า แก้วน้ำ กระโถน และเครื่องใช้อื่น จัดบริเวณเตียงให้มีที่ว่างพอควร ไขเตียงให้ราบ ปรับเตียงให้สูงพอเหมาะกับผู้ปฏิบัติงาน
เก็บเหยือก และแก้วน้ำทำความสะอาด ผึ่งให้แห้งก่อนเก็บเข้าที่
นำถังที่สะอาด และกระบอกฉีดน้้ำผสมผงซักฟอก และผ้าเช็ดเตียงวางไว้ใต้เตียง
ล้างถังน้ำ ผึ่งให้แห้งก่อนเก็บเข้าที่
นำเครื่องผ้าที่เตรียมไว้ที่เรียงลำดับการใช้ มาพาดไว้ที่ปลายเตียงด้านโต๊ะข้างเตียง หรือบนเก้าอี้ที่สะอาด
เก็บของใช้เข้าที่ให้เรียบร้อย
สวมถุงมือและผ้ากันเปื้อนพลาสติก เพื่อป้องกันสิ่งสกปรกปนเปื้อนเชื้อตนเอง
ถอดถุงมือ ถอดmask และล้างมือให้สะอาดเช็ดให้แห้ง
ถอดนาฬิกา และสวม mask
ลงบันทึกทางการพยาบาล
ล้างมือให้สะอาดก่อนจัดเตรียมเครื่องใช้และสิ่งแวดล้อม เตรียมของใช้ให้พร้อม นำไปที่เตียงผู้ป่วย
เครื่องใช้
ถุงมือสะอาด ผ้ากันเปื้อนพลาสติก และmask
ถังใส่ผ้าเปื้อน
กระบอกฉีดน้้ำผสมผงซักฟอก ถังน้้ำสะอาด และผ้าเช็ดเตียง
เครื่องผ้า โดยเรียงลำดับการปูเตียงก่อนหลัง
ผ้ายางขวางเตียง (ถ้าจำป็น)
ผ้าขวางเตียง
ผ้าปูที่นอน
ปลอกหมอน
ผ้าคลุมเตียง
ผ้าห่ม
4) การทำเตียงรับผู้ป่วยหลังผ่าตัดและผู้ป่วยที่ได้รับยาสลบ (Surgical/ ether/anesthetic bed)
จุดประสงค์
เตรียมความพร้อมในการช่วยเหลือเมื่อผู้ป่วยสำลักหรือลิ้นตก และเมื่อผู้ป่วยอยู่ใน ภาวะอันตราย
เตรียมรับผู้ป่วยหลังจากไปรับการผ่าตัด หรือการตรวจพิเศษ
วิธีปฏิบัติ
ถ้าเตรียมรับผู้ป่วยที่ไม่รู้สึกตัว ให้พิงหมอนไวที่พนักหัวเตียง
พับผ้าคลุมเตียงซ้อนผ้าห่มทบไปมาไว้ที่ริมเตียง (fan fold) ด้านตรงข้ามที่จะรับ ผู้ป่วยขึ้นเตียง เพื่อสะดวกในการเคลื่อนย้ายขึ้นเตียง
วางเครื่องใช้ต่าง ใกล้เตียง หากผู้ป่วยต้องงดน้ำและอาหารทางปาก ให้นำป้าย “งด น้ำและอาหารทางปาก” (NPO) ไว้ที่ปลายเตียง
เครื่องใช้
เครื่องวัดความดันโลหิตพร้อมหูฟัง
เครื่องใช้อื่น ตามความจำเป็น เช่น เสาน้ำเกลือ เครื่องดูดเสมหะ เครื่องดูดสารคัดหลั่ง
ชามรูปไต และกระดาษเช็ดปาก
ถังบรรจุน้ำยาฆ่าเชื้อที่มีฤทธิ์ฟอกล้างและผ้าเช็ดเตียง
เครื่องผ้าเหมือนกับการทำเตียงว่าง
หลักปฏิบัติการทำเตียง
ไม่ควรสะบัดผ้าหรือปล่อยให้เสื้อผ้าที่สวมอยู่สัมผัสกับเครื่องใช้ของผู้ป่วย
หากมีปูเตียงที่มีผู้ป่วยควรแจ้งให้ผู้ป่วยทราบก่อนการปฏิบัติ
คลุมผ้าคลุมเตียง วางผ้าห่มและและผ้าเช็ดตัวที่ราวพนักหัวเตียง จัดโต๊ะข้างเตียงให้เรียบร้อย
รักษาท่าทางให้อยู่ในลักษณะที่ดี
ควรทำเตียงให้เสร็จทีละข้าง โดยเริ่มจากผ้าปูที่นอน ผ้ายางขวางเตียง ผ้าขวางเตียง ใส่ปลอก หมอน
หันหน้าไปทิศทางในงานที่จะทำไม่ควรบิดหรือเอี้ยวตัว
วางผ้าให้จุดกึ่งกลางของผ้าทับลงตรงจุดกึ่งกลางของที่นอน
ควรใช้กล้ามเนื้อมัดใหญ่ ในการหยิบของและควรย่อเข่าแทนการก้มทำงานอย่างนุ่มนวลและ สม่่ำเสมอ
จัดบริเวณรอบ ให้สะดวกต่อการปฏิบัติ
ยึดหลักการทำเตียงให้เรียบ ตึง ไม่มีรอยย่น สะอาด ไม่เปียกชื้น
เตรียมของพร้อมใช้ตามลำดับก่อนหลังและวางให้ง่ายในการหยิบใช้สะดวก
2.7 กระบวนการพยาบาลในการดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคลและการส่งเสริมการพักผ่อน นอนหลับ
การประเมินภาวะสุขภาพ (Assessment)
1.2 วิถีชีวิตและพฤติกรรมการนอนหลับ
1.3 สิ่งที่ช่วยให้นอนหลับ
1.1 วิถีชีวิตและพฤติกรรมการนอนกลางวัน
1.4 ปัญหาในการนอนหลับและการแก้ไข
1.5 สาเหตุที่ทำให้นอนไม่หลับ และการแก้ไข
1.6 กิจกรรมหรือพฤติกรรมที่ช่วยลดความเครียด
1.7 สังเกตอาการแสดงของผู้ป่วยว่านอนหลับเพียงพอหรือไม่เพียงพอ
1.8 สัมภาษณ์อาการที่แสดงว่านอนหลับเพียงพอหรือไม่เพียงพอ
2.การวินิจฉัยทางการพยาบาล (Nursing diagnosis)
พักผ่อนไม่เพียงพอกับความต้องการของร่างกายเนื่องจากมีความวิตกกังวล
การวางแผนการพยาบาล (Planning)
วัตถุประสงค์
เพื่อให้ผู้ป่วยได้พักผ่อนได้เพียงพอกับความต้องการของร่างกายและปลอดภัย
การวางแผน
ให้ผู้ป่วยได้นอนหลับพักผ่อนได้เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย
เกณฑ์การประเมินผล
คุณภาพการนอนหลับเชิงคุณภาพ ผู้ป่วยนอนหลับสนิทได้มากขึ้น
คุณภาพการนอนหลับเชิงปริมาณไม่ต่ำกว่า ร้อยละ 80
การพยาบาล (Nursing/Implementation)
จัดกิจกรรมการพยาบาลเป็นช่วง ไม่รบกวนการนอนของผู้ป่วย
ประเมินคุณภาพการนอนหลับทั้งเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ
ประเมินสาเหตุและแบบแผนการนอนตามปกติ
5.แจ้งให้ผู้ป่วยทราบเรื่องแขกผู้มาเยี่ยม เพื่อขอความร่วมมือ
ไม่ให้ดื่มน้ำหลัง 6 โมงเย็น เพื่อไม่ให้ลุกขึ้นถ่ายปัสสาวะตอนกลางคืน
งดกาแฟ ชา โค้ก ก่อนนอน
สร้างสัมพันธภาพให้ผู้ป่วยไว้วางใจและระบายความวิตกกังวล
ให้มีกิจกรรมทำในตอนกลางวัน เช่น การอ่านหนังสือ ดูทีวี
สอนเรื่องเทคนิคการคลายเครียด และการจัดการกับความเครียด
พิจารณาให้ยาคลายเครียด ตามแผนการรักษา และดูแลความปลอดภัย อาจ เกิดอุบัติเหตุ
จัดสิ่งแวดล้อมให้เงียบ แสงสว่างเพียงพอ ขจัดสิ่งรบกวน
การประเมินผลการพยาบาล (Evaluation)
ต้องมีความสอดคล้องกับเกณฑ์การประเมินผล
ผู้ป่วยบอกว่า “นอนหลับสบายดีนอนหลบัเต็มอิ่ม”
สังเกตว่าผู้ป่วยนอนหลับได้มากขึ้น
สังเกตว่าไม่มีอาการอ่อนเพลีย กระสับกระส่าย และสับสน
2.2 ความสำคัญการพักผ่อนนอนหลับ
ความสำคัญ
สงวนพลังงาน
ส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้และความจำ
ซ่อมแซมและสร้างเนื้อเยื่อขึ้นใหม่
ควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย
ส่งเสริมการเจริญเติบโต ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ
2.3 ผลกระทบจากปัญหาการนอนหลับ
ผลกระทบต่อสติปัญญาและการรับรู้
ทำให้การปฏิบัติกิจกรรมในช่วงกลางวันลดลง สมาธิไม่ดี และแก้ไขปัญหาได้ช้า
ผลกระทบทางสังคม
การมีปฏิสัมพันธ์ในครอบครัวและสังคมลดลง ความมั่นใจในการทำงานลดลง และมีการ ใช้ระบบบริการทางด้านสุขภาพเพิ่มขึ้น
ผลกระทบต่อจิตใจและอารมณ์
ทำให้มีการเปลี่ยนแปลงของ อารมณ์ได้ง่าย อาจมีอาการเซื่องซึมและหงุดหงิด โมโหง่าย
ผลกระทบต่อร่างกาย
อาการเมื่อยล้าคลื่นไส้ อาเจียน ท้องผูก ปวดศีรษะ วิงเวียนเหมือนบ้านหมุน (vertigo) ความทนต่อ ความเจ็บปวดลดลง