Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่ 3 การส่งเสริมสุขอนามัยและการพักผ่อนนอนหลับ - Coggle Diagram
บทที่ 3 การส่งเสริมสุขอนามัยและการพักผ่อนนอนหลับ
การดูแลสุขภาพอนามัยส่วนบุคคล
2.ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อสุขอนามัยส่วนบุคคล
3.ภาวะสุขภาพ
4.การศึกษา
2.เพศ
5.เศรษฐกิจ
1.อายุ
6.อาชีพ
7.ถิ่นที่อยู่
8.ภาวะเจ็บปุวย
9.สิ่งแวดล้อม
10.ขนบธรรมเนียมประเพณีและความเชื่อ
11.ความชอบ
3.การดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคล
พยาบาลจะให้การดูแลเพื่อตอบสนองความต้องการขั้นพื้นฐานของผู้ปุวยในเรื่องความสะอาดของร่างกาย ความสุขสบาย
2.การพยาบาลตอนเช้า (Morning care/A.M care)
3.การพยาบาลตอนบ่ายหรือตอนเย็น (Afternoon care/P.M.care)
1.การพยาบาลตอนเช้าตรู่หรือเช้ามืด(Early morning care)
4.การพยาบาลตอนก่อนนอน (Evening care/Hour of sleep care/ H.S.care)
5.การพยาบาลเมื่อจ าเป็นหรือเมื่อผู้ปุวยต้องการ (As neededcare/P.r.N.care)
การส่งเสริมสุขอนามัย
ความหมาย
สุขอนามัย (Hygiene)หมายถึง หลักการและความรู้ของการคงไว้หรือรักษาไว้ซึ่งสุขภาพและการปูองกันโรค
สุขอนามัยส่วนบุคคล (Personalhygiene)คือ การดูแลตนเอง
การอาบน้ำ
การขับถ่ายปัสาวะ อุจจาระ
การแต่งตัว สวมใส่เสื้อผ้า
ความสำคัญของการส่งเสริมสุขอนามัย
พฤติกรรมสุขภาพขั้นพื้นฐานที่ต้องได้รับการดูแลเอาใจใส่ทุกวัน เพื่อสร้างความมั่นใจ ในการอยู่รวมกับสังคมได้อย่างมีความสุข พยาบาลใช้บทบาทอิสระในการดูแลสุขวิทยาส่วนบุคคลของผู้ปุวยได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยใช้กระบวนการพยาบาลเป็นเครื่องมือในการจัดกิจกรรมการพยาบาล
4.การดูแลความสะอาดร่างกาย
4.การดูแลความสะอาดของตา
จุดประสงค์
2.ความสุขสบายของผู้ป่วย
3.ส่งเสริมภาพลักษณ์ของผู้ป่วย
1.กำจัดขี้ตา ทำให้ดวงตาสะอาด
เครื่องใช้
1.ถาดใส่อับสำลีชุบ 0.9% NSS และชามรูปไต
2.ถุงมือสะอาดและmask
5.การดูแลทำความสะอาดของหู
จุดประสงค์
1.กำจัดสิ่งสกปรกภายในช่องหู
2.ทำความสะอาดใบหูและหลังใบหู
เครื่องใช้
1.0.9%NSSหรือน้ำสะอาด
2.สำลีสะอาดหรือไม้พันส าลี 4 อัน
3.ผ้าสะอาด
4.ชามรูปไต
5.กระดาษเช็ดปาก
3.การดูแลความสะอาดของเล็บ
จุดประสงค์
1.ให้เล็บสะอาด และสุขสบาย
2.ป้องกันการเกิดเล็บขบ
เครื่องใช้
2.อ่างใส่น้ำอุ่น
3.ถุงมือสะอาด และmask
1.ถาดใส่สบู่ ผ้าถูตัว ผ้าเช็ดตัว กรรไกรตัดเล็บ ตะไบเล็บ กระดาษรอง
6.การดูแลทำความสะอาดของจมูก
จุดประสงค์
2.ป้องกันสารคัดหลั่งแห้งยึดขนจมูกกับสายที่คาไว้
3.ป้องกันการเกิดแผลกดทับที่ด้านในรูจมูกจากสายที่คาไว้
1.กำจัดสิ่งขับถ่ายและสิ่งสกปรกภายในจมูก
เครื่องใช้
2.ไม้พันสำลีขนาดเล็ก4-8 อัน
3.ผ้าก๊อซ
1.ถาดใส่แก้วใส่น้ำสะอาดหรือ 0.9%NSS
4.ชามรูปไต
5.กระดาษเช็ดปาก
6.อับสำลีชุบแอลกอฮอล์70% สำลีชุบเบนซินและสำลีชุน้ำเกลือใช้ภายนอก
7.พลาสเตอร์ ถุงมือสะอาดและmask
2.การดูแลความสะอาดปากและฟัน
วัตถุประสงค์
2.กำจัดกลิ่นปาก ลมหายใจสดชื่่น ป้องกันฟันผุ
3.ลดการอักเสบของเหงือก กระพุ้งแก้ม
1.ปากและฟันสะอาด มีความชุ่มชื้น
4.สังเกตฟัน เหงือก กระพุ้งแก้มลิ้น มีแผล หรือการติดเชื้อ หรือเลือดออกหรือฝ้าในช่องปาก
หลักการทำความสะอาดปากและฟัน
1.แปรงฟันทุกซี่ ทุกด้าน นาน 5นาที เพื่อขจัดคราบหินปูน และเศษอาหารในเวลาเช้า หลังอาหารทุกมื้อและก่อนนอน
2.ผู้ปุวยที่มีปัญหาในช่องปาก มีแผล ปากแห้ง ไม่สามารถรับประทานอาหารและน้ำทางปากได้ ต้องทำความสะอาดปากและฟันให้ทุก2ชั่วโมง
3.ผู้ป่วยที่ไม่รู้สึกตัว พยาบาลต้องท าความสะอาดปากและฟันให้เป็นพิเศษ สำลีที่ใช้เช็ดทำความสะอาดต้องเปลี่ยนบ่อย
7.การดูแลความสะอาดของเส้นผมและหนังศีรษะ
จุดประสงค์
2.ความสุขสบายและสดชื่นของผู้ป่วย
3.ส่งเสริมภาพลักษณ์ของผู้ปุวยและรู้สึกมีความมั่นใจ
1.ขจัดความสกปรกและสารที่ใส่บนผม และหนังศีรษะเพื่อการตรวจรักษา
เครื่องใช้
1.ถาดใส่ยาสระผมหวีหรือแปรงผม ที่หนีบผ้า (ถ้าใช้ผ้ายางเป็นอุปกรณ์รองรับน้ำจากศีรษะ)ผ้าเช็ดตัว 2 ผืนสำลี 2ก้อน ผ้าเช็ดหน้าผืนเล็ก 1 ผืนแก้วน้ำและน้ำมันมะกอก (ถ้ามี)
2.รถเข็นสระผมเคลื่อนที่ พร้อมถังรองน้ำทิ้ง
3.ผ้ายางรองสระผม
4.เครื่องเป่าผม
5.ถุงมือสะอาดและmask
1.การดูแลความสะอาดของผิวหนัง/การอาบน้ำ(Bathing)
จุดประสงค์
1.กำจัดสิ่งสกปรก ที่สะสมบนผิวหนังและส่งเสริมความมั่นใจในตนเอง
2.ให้ผู้ป่วยรู้สึกสบาย สดชื่นและผ่อนคลาย
3.ประเมินการเคลื่อนไหวของร่างกายและส่งเสริมการออกกำลังกายของข้อต่างๆ
4.สังเกตความผิดปกติของผิวหนัง
5.กระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตและป้องกันแผลกดทับ
เครื่องใช้
1.ครีมหรือโลชั่นทาตัวหรือแป้ง
2.ผ้าห่ม 1 ผืน และผ้าเช็ดตัว 1ผืน
ชนิดของการอาบน้ำ
2.การอาบน้ำผู้ป่วยบนเตียงเฉพาะบางส่วน
ทำความสะอาดร่างกายผู้ปุวยที่ช่วยเหลือตัวเองได้บ้าง
3.การอาบน้ำผู้ป่วยบนเตียงชนิดสมบูรณ์
การอาบน้ำเช็ดตัวให้ผู้ปุวยที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ทั้งหมด
1.การอาบน้ำที่ห้องน้ำ
ผู้ป่วยสามารถลุกจากเตียงได้ พยาบาลช่วยพยุงเดินไปห้องน้ำ
8.การทำความสะอาดอวัยวะสืบพันธุ์ภายนอกของชายและหญิง
จุดประสงค์
2.ลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อของระบบทางเดินปัสสาวะในผู้ปุวยที่ได้รับ การสวนปัสสาวะคาไว้
เสริมสร้างความสุขบายให้กับผู้ป่วย
1.กำจัดสิ่งขับถ่าย สิ่งสกปรก และกลิ่นไม่พึงประสงค์
เครื่องใช้
2.ถุงมือสะอาด
3.หม้อนอน(bed pan) พร้อมผ้าคลุมหม้อนอน (bed pad)ผ้ายางผืนเล็ก
1.ผ้าปิดตา
ถาดใส่ของ
น้ำสบู่ หรือสบู่เหลว
ชุดชำระ (P-careset)
น้ำเกลือ (0.9% NSS) ใช้ภายนอกหรือน้ำสะอาด
ภาชนะใส่ขยะ หรือกระโถน
กระดาษชำระ 2-3 ชิ้น
9.กระบวนการพยาบาลในการส่งเสริมสุขอนามัยส่วนบุคคลของผู้ป่วย
การวางแผนการพยาบาล (Planning)
-กำหนดวัตถุประสงค์ และเกณฑ์การประเมิน
-เลือกกิจกรรมการดูแล เพื่อแก้ไขปัญหาให้ตรงตามข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล ซึ่งขึ้นอยู่กับปัญหาความต้องการของผู้ป่วย
การปฏิบัติการพยาบาล (Implementation)
ปฏิบัติการดูแลความสะอาดร่างกาย การอาบน้ำ การนวดหลัง การทำความปากและฟัน เส้นผมและหนังศรีษะ และอวัยวะสืบพันธุ์
การวินิจฉัยทางการพยาบาล (Nursing diagnosis)
-การเคลื่อนไหวร่างกายบกพร่องงเนื่องจากเป็นอัมพาต...
-พร่องความสามารถในการดูแลความสะอาดร่างกายเนื่องจาก....
-มีความทนในการท ากิจกรรมลดลงเนื่องจากเหนื่อยง่ายจากการเป็นโรค.....
-ไม่สนใจดูแลความสะอาดร่างกายด้วยตนเองเนื่องจากมีความเครียดเกี่ยวกับ......
การประเมินผลการพยาบาล (Evaluation)
-ประเมินผลลัพธ์การพยาบาล
-ประเมินผลคุณภาพการบริการ
การประเมินผู้ปุวย(Health assessment)
-ประเมินปัญหาและความเสี่ยงของการรักษาและอาการผิดปกติ
-ประเมินผิวหนัง ช่องปาก เส้นผมและหนังศรีษะ ตา หู จมูก
-ประเมินความชอบ ความเชื่อและวัฒนธรรมของผู้ป่วย
-ประเมินระดับความสารถในการดูแลตนเอง
การส่งเสริมการพักผ่อนนอนหลับ
4.วงจรการนอนหลับ
1)ช่วงหลับธรรมดา (Non-rapid eye movement sleep: NREM)
ระยะที่ 2 (หลับตื้น)เป็นระยะแรกที่มีการหลับอย่างแท้จริง แต่ยังไม่มีการฝัน
ระยะที่ 3 (หลับปานกลาง)แม้ได้รับสิ่งเร้าจากภายนอกก็จะไม่ตื่นโดยง่าย ขั้นนี้จะใช้เวลาประมาณ 20 -30 นาที
ระยะที่ 1 (เริ่มมีความง่วง)เป็นช่วงเริ่มหลับที่เปลี่ยนจากการตื่นไปสู่ การนอน ในคนทั่วไปใช้เวลาตั้งแต่ 30 วินาที -7 นาที
ระยะที่ 4 (หลับลึก)เป็นช่วงหลับสนิทของการนอน ใช้เวลา 30 -50 นาที growth hormone จะมีการหลั่งในระยะนี้
2) ช่วงหลับฝัน (Rapid eye movement sleep: REM)
เป็นช่วงที่กล้ามเนื้อต่างของร่างกายแทบจะหยุดการทำงานกันหมด แต่สมองจะยังตื่นตัวอยู่ ระยะนี้นี่เองเป็นระยะที่คนเราจะฝัน แต่ก็จะตื่นง่าย เพราะสมองยังทำงานเหมือนระยะที่ 1 ของ NREM
5.ปัจจัยที่มีผลต่อการพักผ่อนและการนอนหลับ
ปัจจัยภายใน
ปัจจัยส่วนบุคคล
อายุ
เพศ
ความไม่สุขสบาย
ความเจ็บปวด
การใส่สายยางและท่อระบายต่างๆ
ท่านอนที่ไม่เหมาะสม
อาการคลื่นไส้ อาเจียน
ภาวะไข้หลังผ่าตัด
ความวิตกกังวล
ปัจจัยภายนอก
เสียง
อุณหภูมิ
แสง
ความไม่คุ้นเคยต่อสถานที่สิ่งแวดล้อมของโรงพยาบาล
กิจกรรมการรักษาพยาบาล
อาหาร
ยา
3.ผลกระทบจากปัญหาการนอนหลับ
2.ผลกระทบต่อจิตใจและอารมณ์
อาจมีอาการเซื่องซึมและหงุดหงิดโมโหง่าย
3.ผลกระทบต่อสติปัญญาและการรับรู้
ปฏิบัติกิจกรรมในช่วงกลางวันลดลงสมาธิไม่ดี
1.ผลกระทบต่อร่างกาย
อาการเมื่อยล้าคลื่นไส้อาเจียนท้องผูกปวดศีรษะ
4.ผลกระทบทางสังคม
การมีปฏิสัมพันธ์ในครอบครัวและสังคมลดลงความมั่นใจในการท างานลดลง
2.ความสำคัญของการพักผ่อนและการนอนหลับ
สงวนพลังงาน
ส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้และความจำ
ซ่อมแซมและสร้างเนื้อเยื่อขึ้นใหม่
ควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย
ส่งเสริมการเจริญเติบโตซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ
6.การประเมินคุณภาพการนอนหลับและการนอนหลับที่ผิดปกติ
2.Hypersomnia
เป็นการนอนหลับมาก หรือง่วงนอนมากกว่าปกติ ซึ่งจะแสดงออกในแง่การนอนหลับในที่ไม่ควรหลับ
3.Parasomnia
2) ความผิดปกติที่เกิดขึ้นในช่วงจากหลับมาตื่น หรือจากตื่นมาหลับได้แก่ อาการขากระตุกขณะกำลังหลับ
3) กลุ่มอาการที่เกิดขึ้นขณะหลับชนิดที่มีการกรอกตาได้แก่ ภาวะฝันร้าย
1) ความผิดปกติของการตื่น ได้แก่อาการสับสน
4) กลุ่มอื่น ๆ ได้แก่ การนอนกัดฟัน การปัสสาวะรดที่นอนขณะหลับ การกรน
1.Insomnia
2) การนอนหลับไม่เพียงพอระยะสั้น เป็นการนอนหลับไม่เพียงพอเป็นระยะเวลาไม่เกิน 3 สัปดาห์
3) การนอนหลับไม่เพียงพอแบบเรื้อรัง เป็นการนอนหลับไม่เพียงพอเกิดขึ้นนานกว่า 1 เดือนขึ้นไป
สาเหตุ
1) โรคทางจิตเวช เช่น โรคซึมเศร้า
2) โรคทางอายุรกรรม เช่น โรคสมองเสื่อม
3) อาการข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ของยารักษาโรคบางชนิด
4) โรคของการนอนหลับโดยตรง เช่น อาการขากระตุกเป็นพักระหว่างหลับ
1)การนอนหลับไม่เพียงพอชั่วคราวเป็นการนอนหลับไม่เพียงพอเป็นช่วงเวลาสั้น 3-5 วัน
1.ความหมายของการพักผ่อนและการนอนหลับ
การพักผ่อน
ผ่อนคลายและมีความสงบทั้งจิตใจและร่างกายรวมถึงความไม่วิตกกังวล สงบหรือผ่อนคลายโดยไม่มีความเครียดทางอารมณ์ เพราะฉะนั้นการพักผ่อนไม่ได้หมายถึงการไม่มีกิจกรรม ความจริงแล้วการเปลี่ยนอิริยาบถก็เป็นการพักผ่อน
การพักผ่อนของผู้ป่วยในโรงพยาบาล
Absolute bed rest เป็นการพักผ่อนโดยให้ผู้ป่วยนอนอยู่บนเตียง ไม่ให้ร่างกายออกแรงในกิจกรรมใด ที่จะทำให้รู้สึกเหนื่อย
Bed rest เป็นการพักผ่อนโดยให้ผู้ปุวยนอนอยู่บนเตียง สามารถทำกิจกรรมประจำวันได้ตามความสามารถของผู้ป่วย
การพักกิจกรรมการทำงานของร่างกาย หรือการพักการทำงานของอวัยวะต่าง โดยนั่งเฉย ชั่วขณะหนึ่ง อาจทำกิจกรรมเบา
การนอนหลับ
เป็นกระบวนการทางสรรีรวิทยาพื้นฐานที่สอดประสานกับจังหวะการทำงานของร่างกายด้านอื่น โดยมีการเปลี่ยนแปลงของอวัยวะต่าง ของร่างกายไปในทางผ่อนคลาย
7.การส่งเสริมการพักผ่อนการนอนหลับ
การจัดการสิ่งแวดล้อม
เสียง
5.กลิ่น กลิ่นที่เหมาะสำหรับการสร้างความสุข คือ กลิ่นสะอาด และสดชื่น
3.อุณหภูมิมีความเหมาะสมของอุณหภูมิระหว่าง 20-25 องศา
6.แสงสว่างสภาพแวดล้อมที่ดีต้องไม่มืดสลัวหรือสว่างจ้า
2.ความพร้อมของอุปกรณ์เครื่องใช้และเครื่องอำนวยความสะดวก
7.ความเป็นส่วนตัว และมิดชิดอย่างปลอดภัย
1.ความสะอาด ความเป็นระเบียบเรียบร้อย
8.ความอบอุ่น และความประทับใจในบุคลิกภาพของพยาบาล
การจัดท่าทางสำหรับผู้ป่วย
3.Prone position เป็นท่านอนคว่ำ เป็นท่านอนที่สุขสบาย
4 Lateral position เป็นท่านอนตะแคงจัดเพื่อความสุขสบายของผู้ปุวย
2.Fowler’s position เป็นท่านอนราบศีรษะสูง 30-90องศา เป็นท่านอนที่สุขสบายและเพื่อการรักษา
5.Sitting position เป็นท่านั่งที่สุขสบายสำหรับผู้ปุวยได้เปลี่ยนอิริยาบถ
1.Dorsal position (supine position) เป็นท่านอนหงายราบ ขาชิดติดกัน
8.การทำเตียง
การทำเตียง หมายถึง การเปลี่ยนเครื่องผ้าที่ใช้กับเครื่องนอนให้สะอาด เรียบร้อย การทำเตียง
2) การทำเตียงผู้ปุวยลุกจากเตียงได้ (Open/unoccupied bed)
3) การทำเตียงผู้ปุวยลุกจากเตียงไม่ได้ (Occupied bed)
1) การทำเตียงว่าง (Close bed)
4) การทำเตียงรับผู้ป่วยหลังผ่าตัดและผู้ป่วยที่ได้รับยาสลบ(Surgical/ether/anesthetic bed)
หลักปฏิบัติการทำเตียง
ไม่ควรสะบัดผ้าหรือปล่อยให้เสื้อผ้าที่สวมอยู่สัมผัสกับเครื่องใช้ของผู้ป่วย
7.หากมีปูเตียงที่มีผู้ปุวยควรแจ้งให้ผู้ป่วยทราบก่อนการปฏิบัติ
5.คลุมผ้าคลุมเตียง วางผ้าห่มและและผ้าเช็ดตัวที่ราวพนักหัวเตียง จัดโต๊ะข้างเตียงให้เรียบร้อย
รักษาท่าทางให้อยู่ในลักษณะที่ดี
ควรทำเตียงให้เสร็จทีละข้าง โดยเริ่มจากผ้าปูที่นอน
หันหน้าไปทิศทางในงานที่จะทำไม่ควรบิดหรือเอี้ยวตัว
3.วางผ้าให้จุดกึ่งกลางของผ้าทับลงตรงจุดกึ่งกลางของที่นอน
10.ควรใช้กล้ามเนื้อมัดใหญ่ ในการหยิบของและควรย่อเข่าแทนการก้มทำงานอย่างนุ่มนวลและสม่ำเสมอ
2.จัดบริเวณรอบ ให้สะดวกต่อการปฏิบัติ
11.ยึดหลักการทำเตียงให้เรียบ ตึง ไม่มีรอยย่น สะอาด ไม่เปียกชื้น
เตรียมของพร้อมใช้ตามลำดับก่อนหลังและวางให้ง่ายในการหยิบใช้สะดวก
กระบวนการพยาบาลในการส่งเสริมการพักผ่อนและการนอนหลับ
3.การวางแผนการพยาบาล(Planning)
วัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้ปุวยได้พักผ่อนได้เพียงพอกับความต้องการของร่างกายและปลอดภัย
การปฏิบัติการพยาบาล
(Implementation)
4.จัดกิจกรรมการพยาบาลเป็นช่วง ไม่รบกวนการนอนของผู้ป่วย
แจ้งให้ผู้ป่วยทราบเรื่องแขกผู้มาเยี่ยม เพื่อขอความร่วมมือ
3.จัดสิ่งแวดล้อมให้เงียบ แสงสว่างเพียงพอ ขจัดสิ่งรบกวน
6.ไม่ให้ดื่มน้ำหลัง 6โมงเย็น เพื่อไม่ให้ลุกขึ้นถ่ายปัสสาวะตอนกลางคืน
2.ประเมินคุณภาพการนอนหลับทั้งเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ
7.งดกาแฟ ชา โค้ก ก่อนนอน
8.ให้มีกิจกรรมทำในตอนกลางวัน
9.สร้างสัมพันธภาพให้ผู้ปุวยไว้วางใจและระบายความวิตกกังวล
10.สอนเรื่องเทคนิคการคลายเครียด และการจัดการกับความเครียด
ประเมินสาเหตุและแบบแผนการนอนตามปกติ(แบบแผนที่ 5)
11.พิจารณาให้ยาคลายเครียด ตามแผนการรักษา และดูแลความปลอดภัย
2.การวินิจฉัยทางการพยาบาล
(Nursing diagnosis)
พักผ่อนไม่เพียงพอกับความต้องการของร่างกายเนื่องจากมีความวิตกกังวล
5.การประเมินผลการพยาบาล
(Evaluation)
1.ผลการประเมินคุณภาพการนอนหลับเชิงปริมาณไม่ต่ำกว่า ร้อยละ 80
2.ผลการประเมินคุณภาพการนอนหลับเชิงคุณภาพผู้ป่วยนอนหลับสนิทได้มากขึ้น
1.การประเมินภาวะสุขภาพ
(Health assessment)
ประเมินคุณภาพการนอนหลับ พบว่า คุณภาพการนอนหลับเชิงปริมาณ ร้อยละ 50 และคุณภาพการนอนหลับเชิงคุณภาพ พบว่า หลับได้น้อยมากในเวลากลางคืน