Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลสตรีตั้งครรภ์ที่มีความผิดปกติของรก น้ำคร่ำ และความผิดปกติของทารก…
การพยาบาลสตรีตั้งครรภ์ที่มีความผิดปกติของรก
น้ำคร่ำ และความผิดปกติของทารกในครรภ์
ภาวะน้ำคร่ำผิดปกติ
(Polydramnios/ Oligohydramnios
หมายถึง
การตั้งครรภ์ที่มีน้ำคร่ำมากผิดปกติ
เกินเปอร์เซ็นไทล์ที่ 95 หรือ 97.5 ของแต่ละอายุครรภ์
ปริมาณน้ำคร่ำมากกว่า 2,000 มล.
วัดค่า AFI ได้ 24-25 ซม. ขึ้นไป
อุบัติการณ์
การเกิดครรภ์แฝดน้ำ พบประมาณร้อยละ 1 ของการตั้งครรภ์
พยาธิสรีรวิทยา
ความผิดปกติของปริมาณน้ำคร่ำจะสัมพันธ์กับคามสมดุลของปริมาณของเหลวที่เข้าและออกจากถุงน้ำคร่ำ มากหรือน้อยขึ้นกับความรุนแรงที่เกิดขึ้น
สาเหตุ
ด้านมารดา
มารดาเป็นโรคเบาหวานระหว่างตั้งครรภ์
การตั้งครรภ์แฝด
ด้านทารก
ความผิดปกติของระบบประสาท
การอุดกั้นของระบบทางเดินอาหาร
ความพิการของทารกในครรภ์
ภาวะอุดตันของระบบทางเดินอาหาร (GI tract obstruct)
ทารกหัวบาตร (anencephalus)
ครรภ์แฝดที่เป็น Twin-twin transfusion syndrome (TTTS)
ครรภ์แฝดที่มีภาวะแทรกซ้อน twin-to-twin transfusion syndrome
การจำแนกชนิด
ภาวะน้ำคร่ำมากอย่างเฉียบพลัน (acute hydramnios)
พบได้ตั้งแต่อายุครรภ์ 20-24 สัปดาห์
มีปริมาณน้ำคร่ำเพิ่มขึ้นมากอย่างรวดเร็วภายใน 2-3 วัน
หญิงตั้งครรภ์มีอาการไม่สุขสบาย
ปวดหลังและหน้าขา
แน่นอึดอัดในช่องท้อง
หายใจลำบาก
ภาวะน้ำคร่ำมากเรื้อรัง (chronic hydramnios)
พบเมื่ออายุครรภ์ 30 สัปดาห์ขึ้นไป
น้ำคร่ำจะค่อย ๆ เพิ่มขึ้น
หญิงตั้งครรภ์อาจมีอาการหายใจลำบาก อึดอัด
ผลต่อการตั้งครรภ์
ผลต่อมารดา
ระยะตั้งครรภ์ เกิดความไม่สุขสบายจากการกดทับของมดลูกที่มีขนาดใหญ่
อาจเกิดการคลอดก่อนกำหนด
ช็อคจากความดันในช่องท้องลดลงอย่างรวดเร็ว
ตกเลือดหลังคลอด
ติดเชื้อหลังคลอด
ผลต่อทารก
เสี่ยงต่อการเกิดภาวะพิการ และคลอดก่อนนกำหนด
เกิดภาวะ fetal distress จากการเกิดสายสะดือย้อย (prolapsed umbilical cord)
ทารกอยู่ท่าผิดปกติและไม่คงที่
อาการและอาการแสดง
แน่นอึดอัด หายใจลำบาก เจ็บชายโครง
มีอาการบวมบริเวณเท้า ขา และปากช่องคลอด
น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น
การวินิจฉัย
การซักประวัติอาการและอาการแสดงของภาวะครรภ์แฝดน้ำ
การตรวจร่างกาย
ขนาดมดลูกโตกว่าอายุครรภ์มากปกติ
วัดเส้นรอบท้องได้มากว่า 100 เซนติเมตร
คลำหาส่วนต่าง ๆ ของทารกได้ลำบาก
ฟังเสียง FHS ไม่ได้หรือได้ยินไม่ชัดเจน
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ
การวัด AFI ได้ค่ามากกว่า 24 เซนติเมตรขึ้นไป
ชนิดรุนแรงน้อย (mild) คือ วัด AFI ได้>24 เซนติเมตร
ชนิดรุนแรงปานกลาง (moderate) คือ วัด AFI ได้>32 เซนติเมตร
ชนิดรุนแรงมาก (severe) คือ วัด AFI ได้>44 เซนติเมตรขึ้นไป
การดูแลรักษา
การเจาะดูดน้ำคร่ำออก (aminioreduction)
การรักษาด้วยยา prostaglandin synthetase inhibitors
รับประทานอาหารที่มีโปรตีนสูง
ให้ยาขับปัสสาวะหากพบมีภาวะบวม
การพยาบาล
ระยะตั้งครรภ์
ซักประวัติอาการและอาการแสดง
ดูแลเพื่อบรรเทาอาการอึดแน่นท้อง
จัดท่ามารดานอนตะแคง ยกศีรษะสูงเล็กน้อยประมาณ 30 องศา
สังเกตอาการและอาการแสดงของภาวะ congestive heart failure
แนะนำให้มารดารับประทานอาหารที่ย่อยง่าย
ระยะคลอด
ให้นอนพักบนเตียง เพื่อป้องกันภาวะน้ำคร่ำแตกก่อนกำหนด
ประเมินการหดรัดตัวของมดลูก
ฟัง FHS ในระยะ latent ทุก 30 นาที และระยะ active ทุก 15 นาที
ระยะหลังคลอด
ให้การพยาบาลเหมือนกับหญิงตั้งครรภ์แฝด โดยเฉพาะดูแล การหดรัดตัวของมดลูกเพื่อป้องกันการตกเลือดหลังคลอด
ภาวะน้ำคร่ำน้อย (Oligohydramnios)
ความหมาย
การตั้งครรภ์ที่มี้ำคร่ำน้อยกว่า 300 มิลลิลิตร
สาเหตุ
ถุงน้ำคร่ำแตกก่อนกำหนด
ทารกในครรภ์มีภาวะผิดปกติ
ระบบของไตและระบบทางเดินปัสสาวะ
ไตตีบ (renal agenesis)
มีถุงน้ำในท่อไต (Cystic kidneys)
มีการอุดตันของทางออกกระเพาะปัสสาวะ (bladder outlet obstruction)
รกเสื่อมสภาพ
การตั้งครรภ์เกินกำหนด
ผลกระทบต่อการตั้งครรภ์
ผลต่อมารดา
มีโอกาสผ่าตัดคลอดทารกทางหน้าท้อง
ผลต่อทารก
มีโอกาสคลอดก่อนกำหนด
ภาวะปอดแฟบ (Pulmonary htpoplasia)
ทารกอยู่ในภาวะคับขัน (Fetal distress)
ทารกเจริญเติบโตช้าในครรภ์ (IUGR)
ข้อวินิจฉัย
การวัดโพรงน้ำคร่ำที่ลึกที่สุดในแนวดิ่ง (MVP)
หากพบว่า MVP มีค่าน้อยกว่า 1 หรือ 2 เซนติเมตร
ให้ถือว่าเป็นภาวะน้ำคร่ำน้อย
การวัดค่าดัชนีน้ำคร่ำ (AFI)
มีค่าน้อยกว่า 5 เซนติเมตร
การรักษา
การเติมน้ำคร่ำ (amnioinfusion) ด้วย normal saline/ ringers lactate 5% hlucrose
เพื่อลดการเกิดภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ เช่น ปอดแฟบ ความพิการผิดรูปของใบหน้าและแขนขา
การดื่มน้ำมาก ๆ ทำให้ปริมาณน้ำคร่ำเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
การประเมินภาวะความผิดปกติแต่กำเนิด
การพยาบาล
อธิบายถึงสาเหตุการเกิดภาวะดังกล่าว และแนวทางการรักษา
ดูแลให้ได้รับการใส่สารน้ำเข้าไปในถุงน้ำคร่ำตามแผนการรักษาของแพทย์
รับฟังปัญหา แสดงความเห็นอกเห็นใจ
ทารกในครรภ์เจริญเติบโตช้า
(Intra Uterine Growth Restriction: IUGR)
หมายถึง
ทารกที่มีการเจริญเติบโตช้าในครรภ์ ไม่เป็นไปตามปกติ
น้ำหนักแรกคลอดของทารกต่ำหว่าเปอร์เซนไทล์ที่ 10 ที่อายุครรภ์นั้น ๆ
ทารกที่มีขนาดเล็กกว่าอายุครรภ์ (SGA)
ทารกที่มีขนาดเล็กตามธรรมชาติ (Constitutionally small)
ทารกที่มีขนาดเล็กเนื่องมาจากมารดาตัวเล็ก
ปัจจัยทางพัรธุกรรม
ทารกเจริญเติบโตช้าในครรภ์ (IUGR)
ทารกที่มีการเจริญเติบโตช้าผิดปกติ
:เกิดจากภาวะทุพโภชนาการ
สาเหตุ
ด้านมารดา
มารดามีรูปร่างเล็ก
ภาวะขาดสารอาหาร
ภาวะโลหิตจางรุนแรง
การตั้งครรภ์แฝด
ด้านทารก
ความพิการแต่กำเนิด
การติดเชื้อในระยะตั้งครรภ์
Cytomegalovirus
rubella
วัณโรค
ความผิดปกติของโครโมโซม
trisomy 21
yrisomy 13
trisomy 18
การจำแนกประเภทของ IUGR
ทารกโตช้าในครรภ์แบบได้สัดส่วน (symmetrical IUGA)
มีการเจริญเติบโตช้าทุกระบบของร่างกาย
สตรีตั้งครรภ์มีภาวะทุพโภชนาการ
การได้รับสารเสพติด
ทารกโตช้าในครรภ์แบบไม่ได้สัดส่วน (asymmetrical IUGR)
ทารกที่มีการเจริญเติบโตช้าแบบไม่ได้สัดส่วน
สตรีตั้งครรภ์มีประวัติเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด
สตรีตั้งครรภ์เป็นโรคเกี่ยวกับเม็ดเลือดแดงในการจับออกซิเจน
การวินิจฉัย
การซักประวัติ
โรคประจำตัวมารดา
โรคเบาหวาน
โรคความดันโลหิตสูง
การตรวจร่างกาย
การตรวจครรภ์
ขนาดมดลูกเล็กกว่าอายุครรภ์ 3 เซนติเมตรขึ้นไป
การชั่งน้ำหนักของสตรีตั้งครรภ์
น้ำหนักเพิ่มขึ้นน้อยหรือไม่เพิ่มขึ้นของน้ำหนัก
การตรวจคลื่นความถี่สูง
การรักษา
ค้นหาและลดปัจจัยเสี่ยงในการเกิดอันตราย
ตรวจเฝ้าระวังสุขภาพของทารกในครรภ์อย่างใกล้ชิด
กำหนดเวลาการคลอดที่เหมาะสม
การพยาบาล
ระยะตั้งครรภ์
แนะนำมารดาเกี่ยวกับการรับประทานอาหาร
แนะนำให้มารดาพักผ่อนมาก ๆ
ติดตามสุขภาพของทารกในครรภ์
ระยะคลอด
ควรติดตาม ประเมินสุขภาพของทารกในครรภ์อย่างใกล้ชิด
ติดตามประเมินความก้าวหน้าของการคลอดอย่างใกล้ชิด
หลีกเลี่ยงการให้ยาแก้ปวด
ระยะหลังคลอด
ให้การดูแลเพื่อเฝ้าระวัง และป้องกันการเกิดภาวะ hypoglycemia, hypothermia, polycythemia เป็นต้น
การตั้งครรภ์ทารกมีจำนวนมากกว่า 1 คน (Mulyiple/ Twins pregnancy)
ความหมาย
การตั้งครรภ์ที่มีทารกในโพรงมดลูกมากกว่า 1 คนขึ้นไป
ชนิดและสาเหตุการตั้งครรภ์แฝด
แฝดที่เกิดจากไข่ใบเดียวหรือแฝดแท้ (monozygotic/ identical twins)
เป็นแฝดที่เกิดจากการปฏิสนธิจากไข่ 1 ใบ และตัวอสุจิ 1 ตัว
ทารกแฝดชนิดนี้จะมีรูปร่าง หน้าตา เพศ และพันธุกรรมเหมือนกัน
แฝดที่เกิดจากไข่คนละใบ หรือแฝดเทียม
(dizygotic/ fratermal)
เป็นการตั้งครรภ์แฝดที่เกิดจากไข่ 2 ใบผสมกับอสุจิ 2 ตัว amnion 2 อัน และ chorion 2 อัน มีรก 2 อัน
สาเหตุ
เชื้อชาติ (race) พบมากในคนผิวดำ
พันธุกรรม (heredity)
อายุมารดา (maternal age) มารดามีอายุมากกว่า 35 ปี
ผลกระทบต่อารตั้งครรภ์
ผลต่อมารดา
ระยะตั้งครรภ์
มีอาการคลื่นไส้อาเจียนมาก
มีภาวะโลหิตจาง
การตกเลือดก่อนคลอด
ตั้งครรภ์แฝดน้ำ
ระยะคลอด
กล้ามเนื้อมดลูกหดรัดตัวผิดปกติเนื่องจากมีการยืดขยายมากเกินไป
รกลอกตัวก่อนกำหนด
ระยะหลังคลอด
ตกเลือดหลังคลอด
การติดเชื้อหลังคลอด
การเลี้ยงลูกด้วยนมมารดาอาจเกิดความยากลำบาก
ผลต่อทารก
การแท้ง
ทารกตายในครรภ์
ภาวะคลอดก่อนกำหนด
ข้อวินิจฉัย
การซักประวัติ
ประวัติการตั้งครรภ์แฝดในครอบครัว
ประวัติการใช้เทคโนโลยีการช่วยเจริญพันธุ์
การตรวจร่างกาย
ขนาดของมดลูกโตมากกว่าอายุครรภ์
คลำได้ small part มากกว่าปกติ
ฟังเสียงหัวใจทารกในครรภ์ได้ 2 แห่ง
การตรวจพิเศษ
ตรวจด้วยอัลตราซาวด์เป็นวิธีวินิจฉัยภาวะครรภ์แฝด
ระดับฮอร์โมน estriol, HCG, HPL สูงกว่าปกติ
การถ่ายภาพรังสีทางหน้าท้อง
แนวทางการดูแลรักษา
ต้องวินิจฉัยให้เร็วที่สุด เพื่อสามารถวางแผนการอย่างเหมาะสม
ป้องกันการคลอดก่อนกำหนด
ดูแลการเจริญเติบโตของทารกอย่างใกล้ชิด
หลักการพยาบาล
ระยะตั้งครรภ์
ดูแลให้ได้รับอาหารอย่าเพียงพอ
เฝ้าระวังการเกิดภาวะโลหิตจางอาจให้โฟลิคเสริม
เฝ้าระวังการความดันโลหิตสูงในระหว่างตั้งครรภ์
ระยะคลอด
การพิจารณาวิธีการคลอด
การคลอดทางช่องคลอด
ทารกแฝดมีส่วนนำกลุ่มท่าหัว-ท่าหัว
การผ่าตัดคลอดทางหน้าท้อง
มีภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ เช่น fetal distress
ในรายที่ได้รับการประเมินจากสูติแพทย์ให้คลอดทางช่องคลอด
ตรวจความเข้มข้นของเลือด และเตรียมเลือดให้พร้อม
ติดตั้งเครื่อง EFM ไว้ตลอดระยะเวลาการเจ็บครรภ์คลอด
ให้มารดางดน้ำ งดอาการ และให้สารน้ำ
ระยะหลังคลอด
เฝ้าระวังการตกเลือดหลังคลอด
ป้องกันการติดเชื้อโดยการดูแลให้ได้รับยาปฏิชีวะนะ
แนะนำวิธีการดูแลบุตร
แนะนำวิธีการคุมกำเนิด
ทารกพิการ (Fetal anormaly)
ความหมาย
คือความผิดปกติของร่างกายทารกแรกเกิดที่พบได้
โดยมีความพิการที่สามารถสังเกตได้จากลักษณะภายนอก หรือความพิการที่อยู่อวัยวะภายใน
สาเหตุ
ปัจจัยด้านพันธุกรรม
หญิงตั้งครรภ์อายุมากกว่า 35 ปี
มีประวัติบุคคลในครอบครัวให้กำเนิดทารกพิการ
สิ่งแวดล้อม
การใช้ยา
การติดเชื้อ
ความผิดปกติของทารก
Malformation
ความผิดปกติทางขบวนการของการพัฒนา
หรือขบวนการเจริญเติบโตของอวัยวะนั้น
Disruption
ผลจากปัจจัยภายนอกมาขัดขวางขบวนการเจริญเจิบโต
Deformation
เดิมเคยปกติมาก่อน มีผลมาจากแรงภายนอก
Dysplasia
ความผิดปกติของการจัดระเบียบของเซลล์ที่จะเจริญไปเป็นเนื้อเยื่อ
การป้องกัน
การให้คำแนะนำปรึกษาทางพันธุศาสตร์
เมื่อตั้งครรภ์จะต้องทำการตรวจวินิจฉัยก่อนคลอด
การให้คำปรึกษาภายหลังการตรวจวินิจฉัยก่อนคลอด
หลีกเลี่ยงการสัมผัส Teratogen
ภาวะจิตสังคมของครอบครัวที่ต้องเผชิญกับภาวะบุตรพิการแต่กำเนิด
ระยะตั้งครรภ์
เกิดความเครียด และวิตกกังวลสูง
รู้สึกผิด รู้สึกสองฝักสองฝ่าย
ระยะคลอด
มีความเครียด กลัว วิตกกังวล
อาจส่งผลให้เกิดการคลอดช้า
ระยะหลังคลอด
ครอบครัวอาจจะเข้าสู่ระยะเศร้าโศก
ช็อค ปฏิเสธ และกลัว
ปากแหว่งเพดานโหว่
ความหมาย
เป็นความพิการแต่กำเนิดของเพดาน
โรคปากแหว่ง
โรคที่มีความผิดปกติแต่กำเนิดบริเวณริมฝีปากเพดานส่วนหน้าแยกจากกัน
โรคเพดานโหว่
โรคที่มีความผิดปกติแต่กำเนิด บริเวณเพดานส่วนหลังแยกจากกัน
สาเหตุ
กรรมพันธุ์
สิ่งแวดล้อม
มารดาติดเชื้อหัดเยรมันในช่องตั้งครรภ์ 3 เดือนแรก
พยาธิสภาพ
เมื่อทารกมีความพิการปากแหว่ง เพดานโหว่ การดูดกลืนของทารกจะผิดปกติเนื่องจากการอมหัวนมไม่แนบสนิท มีรูรั่วให้ลมเข้าและสำลักง่ายขณะดูดนม
อาการและอาการแสดง
การได้ยินผิดปกติ
การติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนต้น
การพยาบาลทารกแรกเกิด
ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลทารกแรกเกิดที่พบปัญหาปากแหว่ง เพดานโหว่
ดูแลการให้นมแม่
ท่านอน ให้มารดานอนตะแคง ส่วนท่ารกนอนหงาย และมารดาประคองเต้านม เพื่อให้ทารกงับหัวนมและลานนม
แนะนำมารดาให้ใช้เพดานเทียมปิดเพดานเพื่อปิดไม่่ให้ลมรั่วและป้องกันการสำลัก ช่วยให้ทารกดูดนมมีประสิทธิภาพมากขึ้น
กรณีที่ทารกไม่สามารถดูดนมแม่ได้
ให้ใช้ขวดนมพิเศษที่เป็นพลาสติกอ่อน
ใช้ช้อนหรือแก้ว
ใช้ syringe ต่อกับท่อยางนิ่ม
ภายหัลงการให้ทารกดูดนม ต้องไล่ลมเป็นระยะ ๆ ทุก 15-30 นาที
ดาวน์ซินโดรม
เกิดจากความผิดปกติของโครโมโซมที่มีภาวะปัญญาอ่อนที่พบบ่อยที่สุด
สาเหตุ
เกิดจากการมีโครโมโซมเกินไป 1 แท่ง
โครโมโซมคู่ที่ 21 มี 3 แท่ง แทนที่จะมี 2 แท่งตามปกติ
trisomy 21
อาการ
ศีรษะและตา
ศีรษะแบนกว้างและท้ายทอยแบน
ตายาวรี เฉียงออกด้านนอดและชี้ขึ้นบน
จมูกและหู
จมูกไม่มีสัน
ใบหูเล็กอยู่ต่ำกว่าปกติ
มักพบความพิการอย่างอื่นร่วมด้วย
โรคหัวใจแต่กำเนิด
ปากและคอ
มีเพดานปากโค้งนูน
ท้อง
มีหน้าท้องยื่น
กล้ามเนื้อหน้าท้องหย่อนยาน
มือและเท้า
มือกว้างและสั้น
เส้นลายนิ้วมือตัดขวาง
ปัญญาอ่อน
มี IQ เฉลี่ย 25-50
การรักษา
มุ่งเน้นให้เด็กสามารถช่วยเหลือตัวเองได้
ทารกศีรษะบวมน้ำหรือภาวะน้ำคั่ง
ในโพรงสมอง (Hydrocephalus)
ความหมาย
ภาวะที่มีการคั่งของน้ำไขสันหลังในกะโหลกศีรษะบริเวณเวนตริเคิล (ventricle) ของสมอง และ subarachnoid space มากกว่าปกติ
พยาธิสภาพ
ถ้ามีการปรับเปลี่ยนที่ไม่สมดุล จะส่งผลให้เกิดการเพิ่มขึ้นของความดันในกะโหลกศีรษะ ทำให้ทารกมีขนาดของศีรษะที่ใหญ่กว่าปกติ
การวินิจฉัย
การซักประวัติ
ประวัติการติดเชื้อโรคบางชนิด
Aminophyrine
Amethopterin
ประวัติการได้รับยาขณะตั้งครรภ์
ตรวจพบปริมาณน้ำคร่ำมากผิดปกติ
การตรวจร่างกาย
จากการตรวจหน้าท้องประมาณ 1 ใน 3 ของทารกหัวบาตรจะพบร่วมกับส่วนนำที่เป็นก้น
การตรวจพิเศษ
Skull X-ray
Ultrasound
การรักษา
ขณะตั้งครรภ์
อาจพิจารณายุติการตั้งครรภ์กรณีเป็นรุนแรงมาก
รักษาด้วยการใส่ shunt ในครรภ์
การดูแลทารก
ให้การพยาบาลทารกแรกเกิดโดยทั่วไป
ท่านอน
การหายใจ
ให้การพยาบาลตามอาการ
วัดขนาดของศีรษะทุกวัน
สังเกตอาการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ
ทารกศีรษะเล็ก (Microcephaly)
ความหมาย
เกิดจากสมองเจริญเติบโตช้ากว่าปกติ หรือหยุดการเจริญเติบโต
พยาธิสภาพ
สมองของทารกจะมีขนาดเล็ก น้ำหนักน้อยกว่าปกติ จำนวนและความลึกของคลื่นหรือรอยหยักของเนื้อสมองลดลง สมองส่วน Fronntal lobe จะมีขนาดเล็กและไม่ได้สัดส่วนกับ Cerebellum ซึ่งมีขนาดใหญ่
การวินิจฉัย
การซักประวัติ
มารดามีประวัติเป็น Phenylketonuria
มารดาเป็น Rubella, Syphilis
อาการและอาการแสดง
ขนาดของศีรษะเล็กกว่าปกติ
หน้าผากเล็ก ใบหูใหญ่
ผลการตรวจทางห้องทดลอง
Skull X-ray
Lumbar serologic test
การรักษา
รักษาตามอาการ
การพยาบาล
สังเกตอาการเปลี่นแปลงต่าง ๆ
การเปลี่ยนแปลงทางระบบประสาทเกี่ยวกับระบบ Motor และ Mental retardation
อธิบายให้บิดามารดาเข้าใจเกี่ยวกับสภาพของทารก
ภาวะหลอดประสาทไม่ปิด (neural tube defects: NTDs)
ความหมาย
Open type NTDs
มีการเปิดของ neural tissue กับสิ่งแวดล้อมภายนอก
Closed type NTDs
ผิวหนังภายนอกคลุมไว้ และไม่มี expose ของ neural tissue ออกมาภายนอก
สาเหตุ
Genetic factors
95% ของมารดาที่ให้กำเนิดทารก NTD ไม่มีประวัติในครอบครัวมาก่อน
Enviromental factors
Geography
nutrition
Folate deficiency
เป็นปัจจัยที่ได้รับการศึกษามาเป็นเวลานานพบว่าให้ folate supplementation ในสตรีที่กำลังตั้งครรภ์ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิด NTD ได้
เยื่อหุ่มไขสันหลังยื่น (Spina bifida)
ความหมาย
ความผิดปกติของท่าประสาทตั้งแต่แรกเกิดจากพัฒนาการที่ผิดปกติของระบบประสาทส่วนกลาง
ชนิดของกระดูสันหลังโหว่
Spin bifida occulta
ความผิดปกติของกระดูกสันหลังตรงตำแหน่ง vertebal arches
Spina bifida cystica
Meningocele
มีก้อนยื่นผ่านกระดูกสันหลังที่ผิดปกติออกมา
Myelomeningocele
มีความผิดปกติของกระดูกสันหลัง ที่มีก้อนยื่นผ่านกระดูกสันหลังที่ผิดปกติออกมา
เป็นความผิดปกติของส่วนโค้งกระดูกสันหลัง
การวินิจฉัย
อาการแสดงโดยเฉพาะ
พบมีกระดูกสันหลังแยก
พบ myelomeningocele sac ยื่นออกจากด้านหลังของกระดูกไขสันหลัง
การซักประวัติ
ได้รับยาบางชนิดขณะตั้งครรภ์
Valproic acid
มีภาวะเบาหวานขณะตั้งครรภ์
ตรวจพบปริมาณน้ำคร่ำมากผิดปกติ
อาการและอาการแสดง
พบว่าทารกมีก้อนสีแดง นุ่มตรงบริเวณช่องต่อระหว่างกระดูกของกระดูกสันหลังหรือบริเวณสะโพก (Sacrum) และบริเวณบั้นเอว (Lumbar)
การรักษา
ผ่าตัดซ่อมแซมรอยโรคภายใน 24-48 ชั่วโมง
การพยาบาล
ให้การพยาบาลทารกแรกเกิดโดยทั่วไป
ให้การพยาบาลตามอาการ
สังเกตอาการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ
ดูแลและการพยาบาล
ระยะตั้งครรภ์
ตรวจสอบความพิการของทารกในครรภ์ เพื่อยืนยันภาวะดังกล่าว
ดูแลให้การสนับสนุนทางด้านจิตใจ เมื่อผลการตรวจวินิจฉัยพบภาวะผิดปกติ
ระยะคลอด
ให้ได้รับการสิ้นสุดการตั้งครรภ์ตามแผนการรักษาของแพทย์
ประเมินสุขภาพของทารกในครรภ์
ฟังเสียงหัวใจ
ประเมินการหดรัดตัวของมดลูก
ระยะหลังคลอด
ประเมินความต้องการสัมผัสทารก
ให้การประคับประคองทางด้านจิตใจ
ทารกตายในครรภ์
ความหมาย
การตายหรือเสียชีวิตเองโดธรรมชาติของทารกในครรภ์ก่อนคลอด โดยไม่คำนึงถึงอายุครรภ์
การตายของทารกในระยะแรก (early fetal death)
การตายก่อนอายุครรภ์ 20 สัปดาห์
การตายของทารกในระยะกลาง (intermediate fetal death)
การตรายตั้งแต่อายุครรภ์ 20-28 สัปดาห์
การตรายของทารกในระยะสุดท้าย (late fetal death)
การตรายตั้งแต่อายุครรภ์ 28 สัปดาห์ขึ้นไป บางครั้งหมายถึงทารกตายคลอด
สาเหตุ
ด้านมารดา
มีภาวะแทรกซ้อนขณะตั้งครรภ์โรคทางอายุรศาสตร์
โรคความดันโลหิตสูง
โรคเบาหวาน
SLE
มารดาอายุมากกว่า 35 ปี
ภาวะทางสูติกรรม
คลอดก่อนกำหนด
ปัญหาระหว่างคลอด
มดลูกแตก
ไม่มาฝากครรภ์ หรือมาฝากครรภ์ไม่ครบตามกำหนด
ด้านทารก
มีภาวะพิการแต่กำเนิด
ความผิดปกติของโครโมโซม
ความพิการอื่น ๆ
spina bifida
gastroschisis
ทารกมีภาวะเจริญเติบโตช้าในครรภ์ (IUGR)
ด้านรก
รกลอกตัวก่อนกำหนด
การติดเชื้อในโพรงมดลูก
การวินิจฉัย
จากการซักประวัติมารดาพบทารกไม่ดิ้นหรือดิ้นน้อยลง
การตรวจร่างกาย
น้ำหนักตัวของมารดาคงที่หรือลดลง
ฟังเสียงหัวใจทารกไม่ได้
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ โดยการ Ultrasound พบ
ทารกไม่มีการเต้นของหัวใจ
มีการหักงอของกระดูกสันหลัง
ฮอร์โมน Estriol: E3 ในปะสสาวะลดลง หัลงจากทารกเสียชีวิตแล้ว 24-48 ชั่วโมง
ผลกระทบต่อสตรีตั้งครรภ์
ด้านร่างกาย
มีโอกาสเกิดภาวะเลือดไม่แข็งตัว
Fetal death syndrome
ด้านจิตใจ
ทำให้เกิดความรู้สึกสูญเสีย
ตกใจ ซึม เศร้า
การรักษา
ไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์
ขนาดของมดลูกโตไม่เกิน 14 สัปดาห์ ทำการ dilatation and curettage
ไตรมาสที่สองของการตั้งครรภ์
เหน็บยา prostaglandin
ไตรมาสที่สามของการตั้งครรภ์
ให้ Oxytocin ปริมาณความเข้มข้นสูง ทางหลอดเลือดดำ
การพยาบาล
ให้การประคับประคองทางด้านจิตใจ
ประเมินความต้อการสัมผัสกับทารกแรกคลอดที่เสียชีวิต
ดูแลให้ได้รับการสิ้นสุดการตั้งครรภ์ ตามแผนการรักษาของแพทย์