Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การส่งเสริมสุขอนามัยและการพักผ่อนนอนหลับ - Coggle Diagram
การส่งเสริมสุขอนามัยและการพักผ่อนนอนหลับ
การส่งเสริมสุขอนามัย
ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อสุขอนามัยส่วนบุคคล
อาชีพ
บุคคลที่มีอาชีพเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพจะมีความรู้
ถิ่นที่อยู่
การดำเนินชีวิตภายใต้ถิ่นที่อยู่ที่แตกต่างกัน
เศรษฐกิจ
บุคคลที่มีฐานะดี ย่อมมีโอกาสเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ผม ปาก ฟัน และให้เวลากับดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคลมากขึ้น
ภาวะเจ็บป่วย
ในภาวะการเจ็บปุวย อาจส่งผลในการดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคลลดลง
การศึกษา
บุคคลที่มีการศึกษา มักจะศึกษาค้นคว้า และมีความรู้ในการดูแลรักษา ความสะอาดของร่างกายและสิ่งแวดล้อม
สิ่งแวดล้อม
ในฤดูร้อนอุณหภูมิจะสูงท าให้รู้สึกร้อนอบอ้าว บุคคลที่อาศัยอยู่ในที่ อากาศร้อนก็จะอาบน้ า หรือลูบตัวบ่อยครั้ง อากาศร้อนทำให้คนเรามีเหงื่อไคลและกลิ่นตัวที่ต้องได้รับ การดูแลเอาใจใส่เรื่องสุขอนามัยเพิ่มมากขึ้น
ภาวะสุขภาพ
เมื่อมีการเจ็บปุวยที่รุนแรงหรือเรื้อรัง หรือเจ็บปวดหรือมีการเจ็บปุวย ทางสุขภาพจิต ทำให้ขาดความสนใจ หรือละเลยการดูแลสุขวิทยาส่วนบุคคล
ขนบธรรมเนียมประเพณีและความเชื่อ และวัฒนธรรมของแต่ละบุคคล
จะเป็นผล ต่อการดูแลตนเองเกี่ยวกับสุขอนามัยส่วนบุคคล
เพศ
ความแตกต่างของเพศจะมีความต้องการดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคลที่แตกต่างกัน
ความชอบ
เป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละบุคคลที่ได้รับการฝึกอบรมด้านการดูแล สุขวิทยาส่วนบุคคลมาจากครอบครัว โรงเรียน และปลูกฝังจนเป็นอุปนิสัยในการดูแลตนเองด้าน ความสะอาดร่างกาย และความชอบของแต่ละบุคคล อาจไม่เหมือนกัน
อายุ
ความแตกต่างของอายุจะมีความต้องการดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคลที่แตกต่าง กัน
การดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคล
การดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคลของผู้ปุวย เป็นบทบาทอิสระของพยาบาลที่สามารถ พิจารณากระท าได้ทันทีโดยไม่ต้องมีค าสั่งของแพทย์เมื่อผู้ปุวยเข้านอนรักษาโรงพยาบาลจนถึง จำหน่ายกลับบ้าน
การพยาบาลตอนบ่ายหรือตอนเย็น (Afternoon care/ P.M. care) เป็นหน้าที่ของ พยาบาลเวรเช้า หากท ากิจกรรมภายในช่วงก่อนเวลา 16.00 น. หากท าในช่วงเวลาตอนเย็น จะเป็น หน้าที่ของเวรบ่ายในการดูแลท าความสะอาดปากและฟัน การล้างมือ ล้างหน้า หวีผม สระผม การ ให้บริการหม้อนอน หรือกระบอกปัสสาวะ ตลอดจนการรักษาพยาบาลอื่น ที่มีในเวรบ่าย
การพยาบาลตอนเช้า (Morning care/ A.M care) เป็นหน้าที่ของพยาบาลเวรเช้า ที่จะให้การพยาบาลภายหลังผู้ปุวยรับประทานอาหารเช้าเสร็จเรียบร้อย เป็นการพยาบาลเพื่อดูแล สุขอนามัยส่วนบุคคลประจำวัน
การพยาบาลตอนก่อนนอน (Evening care/ Hour of sleep care/ H.S. care) เป็นหน้าที่ของพยาบาลเวรบ่าย เป็นการพยาบาลที่ให้การดูแลเรื่องการให้หม้อนอนหรือกระบอก ปัสสาวะ การล้างมือ ล้างหน้าทำความสะอาดปากฟัน การนวดหลัง การจัดท่าให้ผู้ปุวยได้พักผ่อน อย่างสุขสบาย
การพยาบาลตอนเช้าตรู่หรือเช้ามืด (Early morning care) เป็นหน้าที่ความ รับผิดชอบของพยาบาลเวรดึก ที่ให้การพยาบาลตอนเช้าตรู่หรือเช้ามืด เมื่อผู้ปุวยตื่นนอนแล้ว พยาบาลจะดูแลผู้ป่วย
การพยาบาลเมื่อจ าเป็นหรือเมื่อผู้ปุวยต้องการ (As needed care/ P.r.N. care) พยาบาลให้การพยาบาลตามความต้องการของผู้ปุวยตลอด 24 ชั่วโมง เช่น ถ้าผู้ปุวยปัสสาวะรดที่ นอนเปียกทั้งตัว พยาบาลจะช่วยเช็ดตัว ทำความสะอาดอวัยวะสืบพันธุ์ภายนอก การเปลี่ยนเสื้อผ้า ผ้าปูที่นอนให้ผู้ปุวย
ความสำคัญของการส่งเสริมสุขอนามัย
การดูแลสุขภาพตนเองเป็นสิ่งที่มนุษย์ปฏิบัติกันมาช้านาน การทำความสะอาดร่างกาย ตนเองเป็นพฤติกรรมสุขภาพขั้นพื้นฐานที่ต้องได้รับการดูแลเอาใจใส่ทุก วัน เพื่อสร้างความมั่นใจ ในการอยู่รวมกับสังคมได้อย่างมีความสุข
การดูแลความสะอาดร่างกาย
การดูแลทำความสะอาดของหู
การดูแลทำความสะอาดของจมูก
การดูแลความสะอาดของตา
การดูแลความสะอาดของเส้นผมและหนังศีรษะ
การดูแลความสะอาดของเล็บ
การทำความสะอาดอวัยวะสืบพันธุ์ภายนอกของชายและหญิง
การดูแลความสะอาดปากและฟัน
กระบวนการพยาบาลในการส่งเสริมสุขอนามัยส่วนบุคคลของผู้ป่วย
การดูแลความสะอาดของผิวหนัง/ การอาบน้ำ (Bathing)
การส่งเสริมการพักผ่อนนอนหลับ
วงจรการนอนหลับ
ช่วงหลับธรรมดา (Non-rapid eye movement sleep: NREM)
ระยะที่ 2 (หลับตื้น)
ระยะที่ 3 (หลับปานกลาง)
ระยะที่ 1 (เริ่มมีความง่วง)
ระยะที่ 4 (หลับลึก)
ช่วงหลับฝัน (Rapid eye movement sleep: REM)
เป็นช่วงที่กล้ามเนื้อ ต่าง ของร่างกายแทบจะหยุดการท างานกันหมด แต่ระบบการทงานของหัวใจ กระบังลมเพื่อการ หายใจ กล้ามเนื้อตา และกล้ามเนื้อเรียบ
ปัจจัยที่มีผลต่อการพักผ่อนและการนอนหลับ
ปัจจัยภายใน
ความไม่สุขสบาย
การใส่สายยางและท่อระบายต่าง
ท่านอนที่ไม่เหมาะสม
ความเจ็บปวด
อาการคลื่นไส้ อาเจียน
ภาวะไข้หลังผ่าตัด
ความวิตกกังวล
ผลงานวิจัยของนงลักษณ์ ทัศเกตุ พบว่า ความกลัวและความวิตกกังวลในเรื่องต่าง เป็นปัจจัยรบกวนคุณภาพของการนอนหลับ อยู่ในระดับ 3.03 จากคะแนนเต็ม 5 คะแนน ความวิตกกังวลมักเกิดจากสิ่งที่คุกคามต่อสวัสดิภาพของร่างกาย และจิตใจ
ปัจจัยส่วนบุคคล
อายุ เป็นปัจจัยพื้นฐานที่ทำให้แบบแผนการนอนหลับ เปลี่ยนแปลง
เพศ โดยธรรมชาติแล้วเพศชายจะมีการเปลี่ยนแปลงแบบ แผนการนอนหลับได้เร็วและมากกว่าเพศหญิง
ปัจจัยภายนอก
ความไม่คุ้นเคยต่อสถานที่สิ่งแวดล้อมของโรงพยาบาล
กิจกรรมการรักษาพยาบาล
แสง
อาหาร
อุณหภูมิ
ยา
เสียง
ผลกระทบจากปัญหาการนอนหลับ
ผลกระทบต่อจิตใจและอารมณ์
ทำให้มีการเปลี่ยนแปลงของ อารมณ์ได้ง่าย อาจมีอาการเซื่องซึมและหงุดหงิด โมโหง่าย
ผลกระทบต่อสติปัญญาและการรับรู้
เมื่อนอนหลับไม่เพียงพอทำ ให้การปฏิบัติกิจกรรมในช่วงกลางวันลดลง สมาธิไม่ดี และแก้ไขปัญหาได้ช้า
ผลกระทบต่อร่างกาย
าให้เกิดอาการเปลี่ยนแปลงต่าง เช่น อาการเมื่อยล้าคลื่นไส้ อาเจียน ท้องผูก ปวดศีรษะ วิงเวียนเหมือนบ้านหมุน (vertigo) ความทนต่อ ความเจ็บปวดลดลง กล้ามเนื้อคออ่อนแรง ความคิดและการรับรู้บกพร่อง
ผลกระทบทางสังคม
บุคคลที่นอนหลับไม่เพียงพอ จะส่งผลทาง สังคม ได้แก่ การมีปฏิสัมพันธ์ในครอบครัวและสังคมลดลง ความมั่นใจในการทำงานลดลง และมีการ ใช้ระบบบริการทางด้านสุขภาพเพิ่มขึ้น
การประเมินคุณภาพการนอนหลับและ การนอนหลับที่ผิดปกติ
Hypersomnia
เป็นการนอนหลับมาก หรือง่วงนอนมากกว่าปกติ ซึ่ง จะแสดงออก ในแง่การนอนหลับในที่ไม่ควรหลับ เช่น หลับขณะขับรถยนต์
Parasomnia
ความผิดปกติที่เกิดขึ้นในช่วงจากหลับมาตื่น หรือจากตื่นมาหลับ
กลุ่มอาการที่เกิดขึ้นขณะหลับชนิดที่มีการกรอกตา
ความผิดปกติของการตื่น (around disorder)
กลุ่มอื่น ๆ ได้แก่ การนอนกัดฟัน (sleep bruxism)
Insomnia
การนอนหลับไม่เพียงพอระยะสั้น (Short term insomnia)
การนอนหลับไม่เพียงพอแบบเรื้อรัง (Chronic insomnia)
การนอนหลับไม่เพียงพอชั่วคราว (Transient insomnia)
ผลที่เกิดจาการนอนหลับผิดปกติ
ผลจากการนอนไม่เพียงพอในการนอนชนิด REM ได้แก่ ความคิดบกพร่อง การรับรู้บกพร่อง ประสาทหลอน
ผลในภาพรวมจะท าให้การท างานของร่างกายขาดประสิทธิภาพจากร่างกาย อ่อนล้า และขาดสมาธิ
ผลจากการนอนไม่เพียงพอในการนอนชนิด NREM ได้แก่ เมื่อยล้า คลื่นไส้ อาเจียน ท้องผูก เวียนศีรษะ ทนต่อความเจ็บปวดได้ลดลง กล้ามเนื้อคออ่อนแรง ภูมิต้านทานลดลง ระดับความรู้สึกตัวบกพร่อง
ความสำคัญของการพักผ่อนและการนอนหลับ
สงวนพลังงาน
ส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้และความจำ
ซ่อมแซมและสร้างเนื้อเยื่อขึ้นใหม่
ควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย
ส่งเสริมการเจริญเติบโต ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ
การส่งเสริมการพักผ่อนการนอนหลับ
การจัดสิ่งแวดล้อม
เสียง เครื่องอ านวยความ สะดวกที่มีเสียง เช่น ทีวี วีดีโอ
กลิ่น
กลิ่นหอม
กลิ่นเหม็น
อุณหภูมิ มีความเหมาะสมของอุณหภูมิระหว่าง 20-25 องศา เซลเซียส มีการถ่ายเทระบายอากาศดี มีแสงสว่างส่องเพียงพอ
แสงสว่างสภาพแวดล้อมที่ดีต้องไม่มืดสลัวหรือสว่างจ้าจนเกินไป แสงสว่างที่ดีที่สุดควรเป็นแสงธรรมชาติ
ความพร้อมของอุปกรณ์ เครื่องใช้ และเครื่องอ านวยความสะดวก ต่าง
ความเป็นส่วนตัวและมิดชิดอย่างปลอดภัย สภาพหอผู้ปุวยสามัญ ของโรงพยาบาล ส่วนมากมีลักษณะเป็นห้องโถง เตียงจัดเป็นแถวติดต่อกัน
ความสะอาด ความเป็นระเบียบเรียบร้อย
ความอบอุ่น และความประทับใจในบุคลิกภาพของพยาบาล ซึ่ง บุคลิกภาพของพยาบาลที่พึงประสงค์ และสร้างความพึงพอใจในการบริการได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การจัดท่าทางสำหรับผู้ป่วย
Prone position เป็นท่านอนคว่ า เป็นท่านอนที่สุขสบาย ส าหรับ ผู้ปุวย ที่ไม่รู้สึกตัว
Lateral position เป็นท่านอนตะแคง จัดเพื่อความสุขสบายของ ผู้ปุวย
Fowler’s position เป็นท่านอนราบศีรษะสูง 30-90 องศา เป็น ท่านอนที่สุขสบายและเพื่อการรักษา ท่านี้ลักษณะคล้ายท่านั่งบนเตียง
Sitting position เป็นท่านั่งที่สุขสบายส าหรับผู้ปุวยได้เปลี่ยน อิริยาบถ และพักผ่อนได้อย่างมีความสุข เพื่อความปลอดภัย และความสุขสบายควรมีที่เท้าแขน (arm chair)
Dorsal position (supine position) เป็นท่านอนหงายราบ ขา ชิดติดกัน
ความหมายของการพักผ่อนและการนอนหลับ
การพักผ่อนของผู้ปุวยในโรงพยาบาล
Absolute bed rest เป็นการพักผ่อนโดยให้ผู้ปุวยนอนอยู่บนเตียง ไม่ให้ ร่างกายออกแรงในกิจกรรมใด ที่จะทำให้รู้สึกเหนื่อย ห้ามลุกออกจากเตียง
Bed rest เป็นการพักผ่อนโดยให้ผู้ปุวยนอนอยู่บนเตียง สามารถทำ กิจกรรมประจำวันได้ตามความสามารถของผู้ปุวย
การนอนหลับ
เป็นกระบวนการทางสรรีรวิทยาพื้นฐานที่สอดประสานกับจังหวะการ ทำงานของร่างกายด้านอื่น โดยมีการเปลี่ยนแปลงของอวัยวะต่าง ของร่างกายไปในทางผ่อน คลาย
การพักผ่อน (Rest) หมายถึง การพักกิจกรรมการทำงานของร่างกาย หรือการพักการ ท างานของอวัยวะต่าง โดยนั่งเฉย ชั่วขณะหนึ่ง อาจทำกิจกรรมเบา นันทนาการ เปลี่ยน อิริยาบท หรือชมวิว เพื่อให้อวัยวะได้ผ่อนคลายความตึงเครียด ลดความกังวล
การทำเตียง
การทำเตียงผู้ป่วยลุกจากเตียงได้
เป็นการท าเตียงให้ผู้ปุวยที่สามารถลุกจากเตียงได้ ไม่จำเป็นต้องนอนอยู่บนเตียงตลอดเวลา อาจเป็นผู้ปุวยที่แข็งแรง ช่วยเหลือตนเองได้ดี หรือต้องพึ่งผู้อื่นในบางส่วน หรือสามารถนั่งได้เป็น เวลานาน
การทำเตียงผู้ป่วยลุกจากเตียงไม่ได้
เป็นการท าเตียงให้ผู้ปุวยที่ไม่สามารถลุกจากเตียงได้ จำเป็นต้องนอนอยู่บนเตียงตลอดเวลา ผู้ปุวยไม่รู้สึกตัว ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ หรือได้ต้องพึ่งผู้อื่นในการท ากิจกรรม จุดประสงค์และเครื่องใช้ เหมือนการทำเตียงผู้ปุวยลุกจากเตียงได้
การทำเตียงว่าง
เป็นการท าเตียงที่ผู้ปุวยจ าหน่ายออกจากหอผู้ปุวย เพื่อเตรียมรับ ผู้ปุวยใหม่ หรือท าเตียงที่ผู้ปุวยสามารถลงเดินช่วยเหลือตนเองได้
การทำเตียงรับผู้ป่วยหลังผ่าตัดและผู้ป่วยที่ได้รับยาสลบ
เป็นการทำเตียงหลังจากส่งผู้ปุวยไปรับการผ่าตัดหรือการตรวจและได้รับยาสลบ
หลักปฏิบัติการทำเตียง
คลุมผ้าคลุมเตียง วางผ้าห่มและและผ้าเช็ดตัวที่ราวพนักหัวเตียง จัดโต๊ะข้างเตียงให้เรียบร้อย
ไม่ควรสะบัดผ้าหรือปล่อยให้เสื้อผ้าที่สวมอยู่สัมผัสกับเครื่องใช้ของผู้ป่วย
ควรท าเตียงให้เสร็จทีละข้าง โดยเริ่มจากผ้าปูที่นอน ผ้ายางขวางเตียง ผ้าขวางเตียง ใส่ปลอก หมอน
หากมีปูเตียงที่มีผู้ปุวยควรแจ้งให้ผู้ปุวยทราบก่อนการปฏิบัติ
วางผ้าให้จุดกึ่งกลางของผ้าทับลงตรงจุดกึ่งกลางของที่นอน
รักษาท่าทางให้อยู่ในลักษณะที่ดี
จัดบริเวณรอบ ให้สะดวกต่อการปฏิบัติ
หันหน้าไปทิศทางในงานที่จะทำไม่ควรบิดหรือเอี้ยวตัว
เตรียมของพร้อมใช้ตามล าดับก่อนหลังและวางให้ง่ายในการหยิบใช้สะดวก
ควรใช้กล้ามเนื้อมัดใหญ่ ในการหยิบของและควรย่อเข่าแทนการก้มทำงานอย่างนุ่มนวลและ สม่ำเสมอ
ยึดหลักการท าเตียงให้เรียบ ตึง ไม่มีรอยย่น สะอาด ไม่เปียกชื้น
กระบวนการพยาบาลในการส่งเสริมการพักผ่อนและการนอนหลับ
การวางแผนการพยาบาล (Planning)
การปฏิบัติการพยาบาล (Implementation)
การวินิจฉัยทางการพยาบาล (Nursing diagnosis)
การประเมินผลการพยาบาล (Evaluation)
การประเมินภาวะสุขภาพ (Health assessment)