Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลผู้คลอดที่ทำสูติศาสตร์หัตถการ - Coggle Diagram
การพยาบาลผู้คลอดที่ทำสูติศาสตร์หัตถการ
การพยาบาลผู้คลอดที่ได้รับการทำคลอดโดยใช้คีม
(Forcep extraction)
ข้อบ่งชี้ในการทำคลอดด้วยคีม
การทำเพื่อการรักษาและการป้องกัน
(Prophylactic or Elective) จะทำเมื่อแรกเข้าสู่ระยะเบ่งเพื่อ
ช่วยลดความกดดันบางประการที่เกิดขึ้นกับผู้คลอดทั้งทางร่างกายและอารมณ์
ป้องกันการฉีกขาดหรือยืดขยายมากเกินไปของฝีเย็บ
จำกัดปริมาณการเสียเลือดจากการคลอด
ป้องกันสมองถูกทำลายจากภาวะพร่องออกซิเจน
้ข้อบ่งชี้ด้านแม่
มดลูกหดรัดตัวไม่ดี/มารดาไม่มีแรงเบ่ง
กระดูกเชิงกรานค่อนข้างแคบหรือ Rigid pelvic floor หรือ Rigid perineum
ส่วนนำของทารกค่อนข้างใหญ่ หรือ Occiput อยู่ด้านหลัง หรือ Deep transverse arrest of head
ผู้คลอดมีภาวะความดันโลหิตสูงระหว่างตั้งครรภ์
ผู้คลอดอ่อนเพลีย
ผู้คลอดมีสุขภาพไม่ดีจากโรคเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจ, ไทรอยด์, หลอดลมอักเสบ
มีปัญหาเลือดออกในสมอง
ไส้ติ่งอักเสบ
ข้อบ่งชี้ด้านทารก
Fetal distress, สายสะดือพลัดต่ำ
สภาวะที่เหมาะสมในการทำคลอดด้วยคีม
ปากมดลูกเปิดหมด
ส่วนนำมีสภาวะที่เหมาะสมสามารถคลอดทางช่องคลอดได้
ศีรษะทารกต้อง Deep engaged แล้ว
ไม่พบภาวะผิดสัดส่วนระหว่างส่วนนำกับช่องเชิงกราน
กระเพาะปัสสาวะและทวารหนักต้องว่าง
ถุงน้ำคร่ำแตกแล้ว
ทารกในครรภ์ยังมีชีวิตอยู่
ภาวะแทรกซ้อน
ต่อมารดา
มีการฉีกขาดของหนทางคลอดอันตรายต่อกระดูกเชิงกราน เช่น Symphysis pubis แยก
กระทบกระเทือนต่อกระเพาะปัสสาวะ
ช็อคจากความเจ็บปวด ผู้คลอดไม่ทำด้วยความนุ่มนวล
ใช้คีมไม่ถูกต้อง เกิดการตกเลือด
ติดเชื้อ
อันตรายจากการแพ้ยาระงับความรู้สึก
ต่อทารก
แรงกดที่ศีรษะเกิด Asphyxia
กระทบกระเทือนต่อกระโหลกศีรษะ สมองและหนังศีรษะทารกในครรภ์
คีมกด Clavical plexus จะทำให้เกิด Erb’ s Palsy
คีมกด Facial nerve จะทeให้เกิด Facial Palsy
หูหนวกกระทบกระเทือนต่อ Auditory Organ
ปอดบวมและถุงลมแฟบ
การพยาบาลในการดูแลผู้คลอดที่ได้รับการช่วยคลอดโดยใช้คีม
การซักประวัติได้แก่ ประวัติเกี่ยวกับอาการผิดปกติในการตั้งครรภ์และการคลอดครั้งก่อน
การตรวจร่างกาย ได้แก่
การตรวจทางหน้าท้อง เพื่อประเมินท่า และขนาดของทารก การหดรัดตัวของมดลูก
ตรวจช่องทางคลอดเพื่อประเมินลักษณะของปากมดลูก เชิงกรานมารดาและขนาดของทารก
การตรวจร่างกายทั่วไปและสัญญาณชีพ
การประเมินสภาพทารกในครรภ์ เช่น การฟังเสียงหัวใจทารก
ภาวะจิตสังคม ได้แก่การประเมินความวิตกกังวลและหวาดกลัวของผู้คลอดต่อการช่วยคลอดด้วยคีม
ตัวอย่างข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล
มีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนจากการทำคลอดด้วยคีม
ทารกแรกเกิดมีโอกาสได้รับบาดเจ็บจากการคลอโดยใช้คีม
การพยาบาลผู้คลอดที่ได้รับการทำคลอดโดยใช้เครื่องดูดสุญญากาศ
เครื่องดูดสุญญากาศจะทำหน้าที่เสริมแรงแบ่งของผู้คลอด
ข้อบ่งชี้ในการทำคลอดโดยใช้เครื่องดูดสุญญากาศ
Uterine inertia โดยมีปัญหามดลูกหดรัดตัวไม่ดีเนื่องจากอ่อนเพลียหรือเกิดความล่าช้าในระยะที่ 2 ของการคลอด
โรคแทรกซ้อน เช่น ความดันโลหิตสูง, โรคหัวใจ
ทารกในครรภ์อยู่ในภาวะ Mild fetal asphyxia ซึ่งเกิดจาก Fetal distress
Mild CPD
ศีรษะทารกไม่หุนตามกลไกการคลอดปกติ เช่น Deep transverse arrest of head หรือ Occiput posterior position
ข้อห้ามในการทำคลอดโดยใช้เครื่องดูดสุญญากาศ
CPD
ทารกในครรภ์อยู่ในท่าผิดปกติ
ทารกในครรภ์อยู่ในภาวะวิกฤติที่ต้องช่วยให้คลอดโดยด่วน
ทารกในครรภ์เสียชีวิตแล้ว
ทารกคลอดก่อนกำหนด
มีการพลัดต่ำของสายสะดือ
ทารกอยู่ในภาวะ Fetal distress โดยที่ปากมดลูกยังไม่เปิด
สภาวะที่เหมาะสมในการทำคลอดโดยใช้เครื่องดูดสุญญากาศ
ปากมดลูกเปิดหมด แต่ถ้าในกรณีจำเป็นอาจทำตั้งแต่ปากมดลูกเปิด 8 เซนติเมตรขึ้นไป และปากมดลูกมีความบางเต็มที
ส่วนนำอยู่ในสภาวะที่เหมาะสมสามารถคลอดทางช่องคลอดได้
ศีรษะในครรภ์ต้อง Deep engaged แล้ว
ไม่พบปัญหาผิดสัดส่วนกันระหว่างศีรษะทารกกับช่องเชิงกรานของผู้คลอด
กระเพาะปัสสาวะและทวาหนักต้องว่าง
ถุงน้ าคร่ำแตกแล้ว
ทารกในครรภ์ยังมีชีวิตอยู่
การพยาบาลในการดูแลผู้คลอดที่ได้รับการช่วยคลอดโดยใช้เครื่องดูดสุญญากาศ
การซักประวัติได้แก่ ประวัติเกี่ยวกับอาการผิดปกติในการตั้งครรภ์และการคลอดครั้งก่อน
การตรวจร่างกาย
ภาวะจิตสังคม
การตรวจพิเศษและการตรวจทางห้องปฏิบัติการ
Ultrasound
albumin และ sugar
การชักนำการคลอด (Induction of labor)
เป็นการทำให้มดลูกหดรัดตัวและปากมดลูกนุ่ม
ข้อบ่งชี้ ทางด้านสูติกรรม
ภาวะความดันโลหิตสูงขณะตั้งครรภ์ (PIH)
ภาวะครรภ์เกินกำหนด
ทารกเสียชีวิตในครรภ์ (DFIU)
PROM
การติดเชื้อของถุงน้ำคร่ำ (choroamnionitis)
ภาวะเลือดออกก่อนคลอดจากภาวะรกลอกตัวก่อนกำหนด (abruptio placenta)
ทารกพิการแต่กำเนิดในครรภ์ที่ไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้
ทารกเจริญเติบโตช้า (IUGR)
ภาวะน้ำคร่ำน้อย (oligohydramnios)
ทารกบวมน้ำ (hydrops fetalis)
ข้อห้ามในการชักนำการคลอด
ภาวะรกเกาะต่ำ (Placenta previa)
ภาวะที่มีเส้นเลือดทอดต่ำหรือผ่านปากมดลูก (vasa
previa)
ทารกท่าขวาง CPD
Previous c/s
เนื้องอกที่ขัดขวางช่องทางคลอด
Prolapsed cord
Fetal distress
Twins
วิธีการชักนำการคลอดที่นิยม คือ Medical และ Surgical
Medical นิยมใช้ Oxytocin และ prostaglandins
ข้อควรระวัง
มดลูกหดรัดตัวมากเกินไป
คลื่นไส้อาเจียน
ปวดศีรษะ
ความดันโลหิตต่ำ
การพยาบาลผู้คลอดที่ได้รับการชักนำการคลอดโดยใช้ยา Oxytocin
เตรียมสารละลายออกซิโตซิน ตามแผนการรักษา
เตรียมอุปกรณ์เครื่องใช้ในการให้สารละลายทางหลอดเลือดดำ
ช่วยแพทย์ในการให้สารละลายออกซิโตซินทางหลอดเลือดดำ
สังเกตลักษณะการหดรัดตัวของมดลูก
ตรวจสอบการหยดของออกซิโตซิน ทุก 30 นาที
สังเกตสภาวะของทารกในครรภ์ โดยฟังเสียงหัวใจทารกเป็นระยะๆ ทุก 15-30 นาที
ดูแลสภาวะทั่วไปของมารดาโดย Check BP, P, R เป็นระยะๆ
ดูแลผู้คลอดให้ได้รับความสุขสบายทั้งร่างกายและจิตใจ
การชักนำการคลอดโดยใช้หัตถการ
การพยาบาลผู้คลอดที่ได้รับการชักน าการคลอดโดยการเจาะถุงน้ำทูนหัว
เตรียมเครื่องมือ
เตรียมผู้คลอด
ก่อนแพทย์ลงมือทำ พยาบาลต้องฟังเสียงหัวใจทารก และบันทึกไว้
เมื่อน้ำคร่ำไหลออกมาต้องบันทึกเกี่ยวกับลักษณะสี และจำนวนของ Amniotic Fluid
ฟังเสียงหัวทารกทันทีภายหลังเจาะถุงน้ำทูนหัว Flushing และใส่ผ้าอนามัยเพื่อสังเกตปริมาณน้ำคร่ำ
ให้ผู้คลอดนอนพักบนเตียง
บันทึกเกี่ยวกับ Interval, Duration ผลการตรวจความก้าวหน้าของการคลอด
บันทึก FHS เป็นระยะๆ อาจทุก 15-30 นาที หากผิดปกติรายงานแพทย์และให้การช่วยเหลือ
บันทึก T, P, R, BP หากมีไข้รายงานแพทย์เพื่อให้ยาปฏิชีวนะ
เปลี่ยนผ้าอนามัยทุกครั้งที่น้ำหล่อเด็กเปียกชุ่มพร้อม Flushing ให้
การผ่าตัดนำทารกออกทางหน้าท้อง (Cesarean Section)
ข้อบ่งชี้
CPD, ท่าผิดปกติ เช่น ท่าขวาง, Total placenta previa, มะเร็ง ปากมดลูก
การพยาบาลมารดาที่ผ่าตัดเอาเด็กออกทางหน้าท้อง
การเตรียมความพร้อมของสภาพร่างกายของมารดาเพื่อการผ่าตัดเอาเด็กออกทางหน้าท้อง
อธิบายถึงขั้นตอนต่างๆ ในการเตรียมร่างกายของมารดาเพื่อการผ่าตัด - เตรียมเครื่องมือเครื่องใช้ในการเตรียมผ่าตัดให้พร้อม
ดููแลให้มารดางดน้ำและอาหารทางปาก ก่อนผ่าตัดประมาณ 6 – 8 ชม. - เตรียมความสะอาดบริเวณผิวหนังโดยการโกนขน
ทำการสวนคาสายปัสสาวะ
ดูแลให้มารดาได้รับสารน้ำและยาก่อนการผ่าตัดตามแผนการักษา
เจาะเลือดส่งห้องปฏิบัติการ