Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลแบบองค์รวมในทารกแรกเกิดที่มีภาวะเสี่ยงและปัญหาสุขภาพ (…
การพยาบาลแบบองค์รวมในทารกแรกเกิดที่มีภาวะเสี่ยงและปัญหาสุขภาพ ( ทารกแรกเกิดติดเชื้อ)👶
โรคตับอักเสบบี
สาเหตุ
เกิดจากการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี (hepatitis B virus: HBV) การถ่ายทอดเชื้อจากบุคคลหนึ่งไปยังบุคคลหนึ่งผ่านทางเลือด น้ำลาย อสุจิ สิ่งคัดหลั่งทางช่องคลอด น้ำนม และผ่านทางรก
แนวทางการรักษา
๒) ทารกสามารถดูดนมมารดาได้ทันทีหลังคลอดโดยไม่จำเป็นต้องรอให้ทารกได้รับวัคซีนก่อน
๓) ดูแลให้ทารกแรกเกิดได้รับ Hepatitis B immune globulin (HBIG) เข้ากล้ามเนื้อโดยเร็วที่สุด ร่วมกับ HBV เข็มที่ 1 เข้ากล้ามเนื้อโดยเร็วที่สุด ภายใน 12 ชั่วโมงหลังคลอด โดยฉีดคนละตำแหน่ง
๑) ทารกแรกคลอดต้องดูดมูกและเลือดออกจากปากและจมูกของทารกออกมาให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และทำความสะอาดทารกทันทีที่คลอด เพื่อช่วยลดปริมาณไวรัสที่จะสัมผัสทารก
๔) แนะนำให้มารดาพาทารกมาตรวจเลือดตามนัดเมื่ออายุ ๙ – ๑๒ เดือน เพื่อตรวจหาHBsAg และ Anti-HBs
โรคเอดส์(AIDS)
สาเหตุ
เกิดจากเชื้อไวรัส HIV
พยาธิสภาพ
การติดต่อจากมารดาไปสู่ทารกสามารถติดต่อได้โดยผ่านทางรก การสัมผัสเลือดและสารคัดหลั่งจากมารดาขณะคลอด และหลังคลอดและการเลี้ยงบุตรด้วยนมมารดา จึงทำให้ทารกสามารถติดเชื้อจากมารดาได้ตั้งแต่ในระยะตั้งคลอดจนถึงหลังคลอด
พบว่าร้อยละ 80 การติดต่อจากมารดาสู่ทารกเกิดขึ้นในระยะคลอดและหลังคลอดจึงทำให้การให้ยาต้านไวรัสและการผ่าตัดคลอดก่อนการเจ็บครรภ์สามารถป้องกันการถ่ายทอดเชื้อไวรัส HIV จากมารดาสู่ทารกได้
แนวทางการรักษา
๒) การรักษาด้วยยา ทารกที่คลอดจากมารดาที่ติดเชื้อ จะต้องได้รับยา NVP ชนิดน้ำขนาด 6 มิลลิกรัมทันทีหรือภายใน 8 -12 ชั่วโมงหลังคลอดร่วมกับ AZT 2 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม หลังจากนั้นจะให้ยา AZT ต่อทุก 2 ชั่วโมง
๓) ทารกจะต้องได้รับการตรวจหาการติดเชื้อ HIV โดยการตรวจ เพื่อหา viral load ด้วย วิธี real time PCR assay ปกติจะตรวจไม่พบเชื้อ HIV-RNA ใน 6 สัปดาห์ถ้าพบเชื้อ HIV-RNA ใน 48 ชั่วโมงแรกหลังคลอด แสดงว่าทารกติดเชื้อตั้งแต่ในครรภ์ ถ้าตรวจพบใน 6 สัปดาห์ แสดงว่าติดเชื้อในระยะ
คลอด
๑) ทารกที่คลอดจากมารดาที่ติดเชื้อ HIV ให้หลีกเลี่ยงการใส่สายยางสวนอาหารในกระเพาะอาหารทารกโดยไม่จำเป็น เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดบาดแผล
เมื่อทารกครบ 12 เดือน ควรตรวจหาภูมิต้านทานชนิด IgG และ IgM ถ้าผล IgGเป็นบวกแสดงว่าอาจติดเชื้อตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา
โรคเริม (Herpes)
สาเหตุ
เกิดจากเชื้อไวรัส Herpes simplex virus
อาการและอาการแสดง
ทารกหลังคลอดอาจมีการติดเชื้อจากมารดา โดยจะมีไข้อ่อนเพลีย การดูดนมไม่ดี
ตัวเหลือง ตับ ม้ามโต ชัก หรือบางรายพบมีตุ่มน้ำพอง
ใสเล็ก ๆ ที่ผิวหนังตามร่างกาย
แนวทางการรักษา
๑) ทารกที่คลอดจากมารดาที่เป็นโรคเริม จะต้องถูกแยกจากทารกคนอื่น ๆ และดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อดูอาการของการติดเชื้อเริม อย่างน้อย 7-10 วัน
๒)การติดเชื้อเริมจากการคลอดทางช่องคลอด ดูแลให้ได้รับยา Acyclovir ตามแผนการรักษา
บทบาทการพยาบาลทารกแรกเกิดที่มีภาวะติดเชื้อ
ตัวอย่างข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล
มีการติดเชื้อในร่างกาย เนื่องจากมีการสัมผัสสารคัดหลั่งของมารดาจากการคลอดร่วมกับระบบภูมิคุ้มกันยังทำงานได้ไม่สมบูรณ์
บทบาทการพยาบาล
ดูแลและแนะนำเกี่ยวกับการรักษาความสะอาดของร่างกายทารก
แยกของใช้ของมารดากับทารกและมีการทำลายเชื้ออย่างเหมาะสม
สังเกตอาการผิดปกติเกี่ยวกับการหายใจและให้การช่วยเหลือเมื่อทารกมีภาวะหายใจลำบากหรือขาดออกซิเจน
ดูแลให้ได้รับยาตามแผนการรักษา
ดูแลให้ได้รับนมมารดาและน้ำอย่างเพียงพอ เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ การเลี้ยงบุตรด้วยนมมารดาสามารถทำได้ แต่ต้องดูแลเรื่องความสะอาด แนะนำให้ล้างมือก่อนสัมผัสทารก และป้องกันมิให้ทารก
สัมผัสกับรอยโรค
แจ้งอาการและแนวทางการรักษาที่ทารกได้รับแก่มารดาบิดา
ประเมินสัญญาณชีพ เพื่อประเมินความรุนแรงของการติดเชื้อ โดยเฉพาะอุณหภูมิ หากมีไข้ ดูแลเช็ดตัวลดไข้ให้ พร้อมทั้งแนะนำมารดาบิดาและญาติในการเช็ดตัวทารก