Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การใช้ยาอย่างสมเหตุสมผลทางสูติกรรม, นางสาวจิราพร ผันสืบ รหัสนักศึกษา602701…
การใช้ยาอย่างสมเหตุสมผลทางสูติกรรม
การใช้ยาในระยะตั้งครรภ์
คำแนะนำทั่วไป
ยาเกือบทุกชนิดสามารถผ่านรกเข้าสู่ทารกในครรภ์ได้ในระดับต่างๆกัน พึงระมัดระวัง
ว่าการใช้ยาทุกชนิดอาจจะส่งผลกระทบต่อทารกในครรภ์
การสั่งใช้ยาในสตรีตั้งครรภ์หรือสงสัยว่ากำลังตั้งครรภ์ควรมีเหตุผลและข้อบ่งชี้ในการใช้อย่างชัดเจนว่าสมควรที่จะใช้
สตรีที่กำลังตั้งครรภ์หรือสงสัยว่ากำลังตั้งครรภ์ควรจะใช้ยาเมื่อมีความจำเป็นเท่านั้น
พยากรณ์ผลกระทบของยาต่อทารกในครรภ์
อายุครรภ์เมื่อเริ่มใช้ยา
ชนิดของยาที่ได้รับ
ลักษณะของพันธุกรรม
ปริมาณยาที่ได้รับ
ยาที่ควรหลีกเลี่ยง
Tetracycline
Cyclophosphamide
Fluconazole, Itraconazole
Methotrexate
Angiotensin-converting enzyme(ACE)
Anabolic steroid and testosterone
Valproate (Anticonvulsant)
Efavirenz (anti-HIV medication)
Isotretinoin
Radioactive-Iodine 131
ยาที่ควรใช้ด้วยความระมัดระวัง
Misoprosto
ควรวัดและบันทึกสัญญาณชีพของสตรีตั้งครรภ์ชั่วโมงละ1 ครั้ง
วัดและบันทึกการหดรัดตัวของมดลูกและอัตราการเต้นของหัวใจของทารกในครรภ์ทุก15 นาที
ประเมินความพร้อมของปากมดลูกภายหลังการใช้ยาทุก 4ชั่วโมง
หยุดใช้ยา เมื่อมดลูกหดรัดตัวดีแล้วอย่างสม่ำเสมอ หรือพบภาวะแทรกซ้อนเกิดขึ้น
Indomethacin
ตรวจทารกในครรภ์ด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงเพื่อประเมินปริมาณน้ำคร่ำเป็นระยะๆ
Magnesium sulfate
สถานพยาบาลต้องมีความพร้อมในการกู้ชีวิต และมีantidose ได้แก่ Calciumgluconate พร้อมใช้ตลอดเวลา
Corticosteroid
พิจารณาใช้ inhaled steroidในกรณี asthma
Oxytocin
ควรให้ในรูปสารละลายเข้าหลอดเลือดดำผ่านระบบ infusion pump ในขนาดต่่ำก่อน
เฝ้าระวังการหดรัดตัวของมดลูกและอัตราการเต้นของหัวใจทารกในครรภ์อย่างใกล้ชิด
Lithium (antidepressant)
ทารกในครรภ์ควรได้รับการตรวจFetal echocardiography และ fetalultrasonographyเพื่อค้นหาภาวะ polyhydramnios
Terbutaline
ระวังในสตรีที่มีภาวะซีดหรือภาวะที่มีหัวใจเต้นเร็ว
ไม่ใช้นานเกินกว่า 48-72 ชั่วโมง
ต้องติดตามอัตราการเต้นของหัวใจ
Phenytoin (Dilantin)
ให้รับประทาน Folic acid วันละ2.5-5 มิลลิกรัมในรายที่จำเป็นตัองได้รับยากันชักกลุ่มนี้
Coumadin
หลีกเลี่ยงการใช้ในช่วงอายุครรภ์ 6-12 สัปดาห์
ในรายที่ใช้ coumadin ต้องตรวจหาระดับ INR
Antithyroid drug (PTU and methimazole)
ตรวจติดตามThyroid functiontest ในมารดาระหว่างที่ได้รับยาAntithyroid drug
การใช้ยาในระยะคลอด
oxytocin
วัตถุประสงค์การใช้ยา
ใช้เพื่อกระตุ้นการหดรัดตัวของมดลูกในระยะคลอด
ชักนำการคลอด (induction of labor)
เพิ่มประสิทธิภาพในการหดรัดตัวของมดลูก (augmentation of labor)
หลักในการใช้ยา
เจือจางยา oxytocin ในสารน้ำ isotonic solution เช่น 5% D/N/2, NSS, LR
ควรให้คู่กับสารน้ำอีก 1 ขวด (piggy back) เพื่อสามารถหยุดให้ยาได้ทันที กรณีมีการหดรัดตัวของมดลูกถี่ นาน
ควรเริ่มให้สารน้ำที่ไม่มี oxytocin ก่อน และให้สารน้ำที่มี oxytocin ในอัตราที่ช้าๆก่อน
ปรับอัตราการให้ยา oxytocin เพิ่มขึ้น ในอัตรา 1-2 milliunit/min ตามการตอบสนองของการหดรัดตัวของมดลูก ทุก 30 นาที – 1 ชั่วโมง
ควรปรับอัตราการให้ยา oxytocin ลดลง หรือหยุดการให้ยา เมื่อมีการหดรัดตัวของมดลูกนาน ถี่หรือ แรง มากเกินไป (hypertonic contraction)
ต้องติดตามประเมินการหดรัดตัวของมดลูก และอัตราการเต้นของหัวใจทารกก่อนให้ยา Oxytocinหลังให้ยา และตลอดระยะเวลาที่ให้ยา โดยใช้เครื่อง electronic fetal monitoring
ข้อบ่งชี้ในการให้ยาเพื่อป้องกันหรือควบคุมการตกเลือดหลังคลอด
Oxytocin 10 units Intramuscular หลังทารกคลอดไหล่หน้า หรือหลังรกคลอดทันที
เจือจางยา oxytocin 10-40 units ในสารน้ำ isotonic solution 1,000 ml ให้ในอัตรา 20-40
milliunit/min (120 -240 ml/hr)
pethidine
วัตถุประสงค์การใช้ยา
ใช้เพื่อบรรเทาอาการเจ็บครรภ์ในระยะคลอด
ให้ยาร่วมกับ plasil (metoclopramide) 10 mgเพื่อป้องกัน หรือบรรเทาอาการคลื่นไส้ อาเจียน
การพยาบาลหลังการให้ยา
เฝ้าระวังการกดหายใจในทารกซึ่งอาจเกิดขึ้นได้ หลังฉีดยาpethidine 3-5 ชั่วโมง
ติดตามประเมินสัญญาณชีพหลังฉีดยา 15 นาที, 30นาที -1 ชั่วโมง
ประเมินอาการคลื่นไส้ อาเจียน และการกดกาหายใจ
MgSo4
วัตถุประสงค์การใช้ยา
ใช้รักษาภาวะความดันโลหิตสูงในสตรีตั้งครรภ์เพื่อป้องกันอาการชัก (anticonvulsant)
สตรีตั้งครรภ์ที่มีภาวะ severe-preeclampsia โดยออกฤทธิ์ลดการหลั่งสารacetylcholine ที่ปลายประสาททำให้ยับยั้งการส่งกระแสประสาทไปยังกล้ามเนื้อ
ลดความถี่และความแรงในการหดรัดตัวของมดลูก
แนวทางในการให้ยา MgSo4
loading dose: MgSo4 4-6 g ในสารน้ำ 100 มล. ให้ทางหลอดเลือดดำ 15-20 นาท
หลังจากนั้นให้ 50% MgSo4 1-2 g/hr โดยผสมในสารน้ำ isotonic solution
หลักการพยาบาลก่อนและหลังให้ยา
ติดตามประเมินปริมาตรน้ำเข้า ออกจากร่างกาย โดยเฉพาะปัสสาวะต้องไม่น้อยกว่า 25-30 มล./ชม.
ควรให้ยา MgSo4 ในสารละลาย ร่วมกับการให้สารละลาย อีกในขวด (piggyback) เพื่อสามารถหยุดให้ยาได้ทันทีเมื่อมีอาการไม่พึงประสงคเกิดขึ้น
ประเมินภาวะ hyperreflexia หรือ hyporeflexia จาก deep tendon reflex
ติดตามระดับความเข้มข้นของ MgSo4ในเลือด
ติดตามประเมินสัญญาณชีพทุก 30 นาที- 1 ชม. หรือทุก2-4 ชม.
กรณีได้รับยา MgSo4 เกินขนาดต้องให้ยา 10% calcium gluconate เพื่อต้านการออกฤทธิ์ของMgSo4
bricanyl
วัตถุประสงค์การใช้ยา
ยับยั้งการหดรัดตัวของมดลูกในสตรี
ตั้งครรภ์ที่มีภาวะเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนด
หลักการพยาบาล
เฝ้าระวังอาการข้างเคียงจากการให้ยา เช่น อาการใจสั่น หัวใจเต้นผิดจังหวะ ความดันโลหิตต่ำ น้ำท่วมปอด กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด
ติดตามประมาณสัญญาณชีพทุก 1-4 ชม. ตามสภาพอาการ
dexamethasone
วัตถุประสงค์การใช้ยา
ใช้ในสตรีตั้งครรภ์ที่มีภาวะการเจ็บครรภ์คลอดก่อน
กำหนดเพื่อกระตุ้นการสร้างสาร surfactant ในถุงลมปอดของทารก
ช่วยป้องกันภาวะ respiratory distress syndrome ในทารกคลอดก่อนกำหนด
นางสาวจิราพร ผันสืบ รหัสนักศึกษา602701009 นักศึกษาพยาบาลศาสตรบัณฑิตชั้นปีที่4 รุ่นที่35