Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การใช้ยาอย่างสมเหตุสมผล ทางสูติศาสตร์ - Coggle Diagram
การใช้ยาอย่างสมเหตุสมผล
ทางสูติศาสตร์
oxytocin
ช่วยกระตุ้นการหดรัดตัวของมดลูกในระยะคลอด
เกิดการหดรัดตวัของมดลูก
I’ 2-3 นาที
D” 45-60 วินาที
เพิ่มหยดทุก10-15นาที กรณีให้ยานาน 4-6 ชม.ไม่มีuterine contraction ให้หยุดยา
โดยผสมยา 10 unit ใน 5%DW1000ml
vein drip 5-10 หยด/นาที
วัตถุประสงค์
เพื่อชักนำการคลอด (induction of labor)
เพิ่มประสิทธิภาพในการหดรัดตัวของมดลูก(augmentation of labor)
เพื่อป้องกันหรือควบคุมการตกเลือดหลังคลอด
Oxytocin 10 units Intramuscular หลังทารกคลอดไหล่หน้า หรือหลังรกคลอดทันที
เจือจางยา oxytocin 10-40 units ในสารน้ำ isotonic solution 1,000 ml ให้ในอัตรา
20-40milliunit/min (120 -240 ml/hr)
ภาวะแทรกซ้อน
Tetanic contraction
ทารกขาดออกซิเจน
รกลอกตัวก่อนกำหนด
ตกเลือดหลังคลอด
ภาวะน้ำคร่ำอุดกั้นในเส้นเลือด
หลักการพยาบาล
1.ควรปรับอัตราการให้ยา oxytocin ลดลง หรือหยุดการให้ยา เมื่อมีการหดรัดตัวของมดลูกนาน ถี่หรือ แรง มากเกินไป (hypertonic contraction)
2.ต้องติดตามประเมินการหดรัดตัวของมดลูก และอัตราการเต้นของหัวใจทารกก่อนให้ยา Oxytocinหลังให้ยา และตลอดระยะเวลาที่ให้ยา
3.โดยใช้เครื่อง electronic fetal monitoring หรือ ทุก 15นาที ในระยะที่ 1 ของการคลอด และทุก 5 นาที ในระยะที่ 2 ของการคลอด
pethidine (meperidine)
วัตถุประสงค์
เพื่อบรรเทาอาการเจ็บครรภ์ในระยะคลอด
การบริหารยา
ให้ในอัตรา 12.5-50 mg intravenous หรือ 50-100 mg intramuscular ทุก 2-4 ชั่วโมง
โดยยาจะเริ่มออกฤทธิ์หลังฉีดเข้าทางหลอดเลือดดำ 5 นาที
อาจให้ยาร่วมกับ plasil (metoclopramide) 10 mg
เพื่อป้องกัน หรือบรรเทาอาการคลื่นไส้ อาเจียน
หลักการพยาบาลหลังการให้ยา
ประเมินอาการคลื่นไส้ อาเจียน และการกดการหายใจ
เฝ้าระวังการกดหายใจในทารกซึ่งอาจเกิดขึ้นได้ หลังฉีดยา pethidine 3-5 ชั่วโมง
ติดตามประเมินสัญญาณชีพหลังฉีดยา 15 นาที, 30 นาที -1 ชั่วโมง
แมกนีเซียม ซัลเฟต
(MgSo4)
วัตถุประสงค์
เป็นเกลือแร่ที่ใช้รักษาภาวะความดันโลหิตสูงในสตรีตั้งครรภ์เพื่อป้องกันอาการชัก (anticonvulsant) ในสตรีตั้งครรภ์ที่มีภาวะ severe-preeclampsia
การออกฤทธิ์
โดยออกฤทธิ์ลดการหลั่งสาร acetylcholine ที่ปลายประสาททำให้ยับยั้งการส่งกระแสประสาทไปยังกล้ามเนื้อได้(blocking neuromuscular transmission)
และออกฤทธิ์กดการทำงานของระบบประสาทส่วนกลาง ทำให้หลอดเลือดขยายตัว (vasodilator) รู้สึกร้อน มีเหงื่อออก ลดความถี่และความแรงในการหดรัดตัวของมดลูกด้วย
แนวทางในการให้ยา MgSo4
loading dose: MgSo4 4-6 g ในสารน้ า 100 มล. ให้ทางหลอดเลือดดำ 15-20 นาที หรือ ให้ 10%MgSo4 4 g โดยเจือจางจาก 50% MgSo4 4 g ( 1 amp = 1 g= 2 ml) 8 ml ผสมกับ sterile water 32 ml)
หลังจากนั้นให้ 50% MgSo4 1-2 g/hr โดยผสมในสารน้ำ isotonic solution เช่น 5%D/N/2, NSS, LRI หรือฉีด 50% MgSo4 10 g (20 ml) เข้าทางกล้ามเนื้อสะโพก (gluteus maximus) ข้างละ 5 g (10 ml) และ 5 g IM ทุก 6 ชม. จนครบ 24 ชม.
หลักการพยาบาลก่อนและหลังให้ยา
ติดตามระดับความเข้มข้นของ MgSo4ในเลือดโดยระดับยาในขนาดของการรักษา (therapeutic range) ต้องอยู่ระดับ 4.0-8.0 mEq/L
ควรให้ยา MgSo4 ในสารละลาย ร่วมกับการให้สารละลาย อีกในขวด (piggyback) เพื่อสามารถหยุดให้ยาได้ทันทีเมื่อมีอาการไม่พึงประสงค์เกิดขึ้น
ติดตามประเมินปริมาตรน้้ำเข้า ออกจากร่างกาย โดยเฉพาะปัสสาวะต้องไม่น้อยกว่า 25-30 มล./ชม.
ประเมินภาวะ hyperreflexia หรือ hyporeflexia
จาก deep tendon reflex
โดย 0=reflex absent,
+1 = hypoactive reflex,
+2 = normal reflex,
+3 =brisker than average reflex,
+4 = hyperactive reflex or clonus
กรณีได้รับยา MgSo4 เกินขนาดต้องให้ยา 10% calcium gluconate เพื่อต้านการออกฤทธิ์ของMgSo4
ติดตามประเมินสัญญาณชีพทุก 30 นาที- 1 ชม. หรือทุก 2-4 ชม. โดยอัตราการหายใจต้องไม่ต่ำกว่า 12 ครั้ง/นาที
Bricanyl (terbutaline)
วัตถุประสงค์
ยับยั้งการหดรัดตัวของมดลูกในสตรี
ตั้งครรภ์ที่มีภาวะเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนด
(beta-adrenergic for tocolysis)
การบริหารยา
หรือเจือจางในสารละลาย isotonic solution ให้ทางหลอดเลือดดำในอัตรา 2.5-10microgram/min
ปรับขนาดยาได้สูงสุด 17.5-30 microgram/min หรือ เริ่มให้ยาในขนาด 0.01-0.05mg/min
โดยให้ยา 0.25 mg Subcutaneous ทุก 4 ชม.
ปรับเพิ่มในอัตรา 0.01 mg/min ทุก 10-30 นาที จนกระทั่งไม่มีการหดรัดตัวของมดลูก หรือสูงสุดไม่เกิน 0.08 mg/min
กรณีให้ยาจนกระทั่งไม่มีการหดรัดตัวของมดลูกแล้ว จะต้องให้ยาในขนาดเดิมต่อไปประมาณ 1 ชม. แล้ว
ค่อยๆลดขนาดยาลง ทุก 20 นาที และให้ยาต่อไปอีก 12ชม. หรือตามแผนการรักษา
หลักการพยาบาลสตรีตั้งครรภ์ที่ได้รับยา
ติดตามประมาณสัญญาณชีพทุก 1-4 ชม. ตามสภาพอาการ
เฝ้าระวังอาการข้างเคียงจากการให้ยา เช่น อาการใจสั่น หัวใจเต้นผิดจังหวะ ความดันโลหิตต่ำ น้ำท่วมปอด กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด
dexamethasone
เป็นยาในกลุ่ม corticosteroids
วัตถุประสงค์
ใช้ในสตรีตั้งครรภ์ที่มีภาวะการเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนด
ช่วยป้องกันภาวะ respiratory distress
syndrome ในทารกคลอดก่อนกำหนดได้
เพื่อกระตุ้นการสร้างสาร surfactant ในถุงลมปอดของทารก
การบริหารยา
โดยให้ในขนาด 6 mg IM ทุก 12 ชม. จนครบ 4 ครั้ง