Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การใช้ยาอย่างสมเหตุสมผลในระยะคลอด, นางสาวศศิธร แก่นจันทร์ …
การใช้ยาอย่างสมเหตุสมผลในระยะคลอด
การใช้ยา oxytocin
Oxytocin เป็นยาที่ใช้เพื่อกระตุ้นการหดรัดตัวของมดลูกในระยะคลอด โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อชักนำการคลอด (induction of labor) หรือเพิ่มประสิทธิภาพในการหดรัดตัวของมดลูก (augmentation of labor)
หลักในการใช้ยา
ต้องเจือจางยา oxytocin ในสารน้ำsotonic solution เช่น 5% D/N/2, NSS, LRI โดยเจือจางยาในอัตราส่วนที่กำหนดตามมาตรฐานการให้ยาของแต่ละโรงพยาบาล เช่น oxytocin 10 units ในสารน้ำ 1,000 มล.
ควรปรับอัตราการให้ยา oxytocin ลดลง หรือหยุดการให้ยา เมื่อมีการหดรัดตัวของมดลูกนาน ถี่ หรือ แรง มากเกินไป (hypertonic contraction)
สิ่งที่ควรทำเพื่อติดตาม
ควรให้ในรูปสารละลายเข้าหลอดเลือดดำผ่านระบบinfusion pump ในขนาดต่ำก่อน เช่น 0.5 – 1.5 มิลลิยูนิตต่อนาที แล้วปรับยาตามการหดรัดตัวของมดลูกครั้งละ4-6 มิลลิยูนิตต่อนาที ทุก 15-30นาที ขนาดสูงสุดไม่ควรเกิน 48 มิลลิยูนิตต่อนาที
เฝ้าระวังการหดรัดตัวของมดลูกและอัตราการเต้นของทารกในครรภ์อย่างใกล้ชิดตลอดระยะเวลาการคลอด
ต้องติดตามประเมินการหดรัดตัวของมดลูก และอัตราการเต้นของหัวใจทารกก่อนให้ยา Oxytocin หลังให้ยา และตลอดระยะเวลาที่ให้ยา โดยใช้เครื่อง electronic fetal monitoring หรือ ทุก 15หลังให้ยา และตลอดระยะเวลาที่ให้ยา โดยใช้เครื่อง electronic fetal monitoring หรือ ทุก 15
การใช้ยา pethidine
ยา pethidine (meperidine) เป็นยาสังเคราะห์ในกลุ่ม opioid มีการใช้เพื่อบรรเทาอาการเจ็บครรภ์ในระยะคลอด โดยให้ในอัตรา 12.5-50 mg intravenous หรือ 50-100 mg intramuscular ทุก 2-4 ชั่วโมง โดยยาจะเริ่มออกฤทธิ์หลังฉีดเข้าทางหลอดเลือดดำ 5 นาที และอาจให้ยาร่วมกับ plasil (metoclopramide) 10 mg
เพื่อป้องกัน หรือบรรเทาอาการคลื่นไส้ อาเจียน
หลักการพยาบาลหลังการให้ยา pethidine
ประเมินอาการคลื่นไส้ อาเจียน และการกดการหายใจ
เฝ้าระวังการกดหายใจในทารกซึ่งอาจเกิดขึ้นได้ หลังฉีดยา pethidine 3-5 ชั่วโมง
ติดตามประเมินสัญญาณชีพหลังฉีดยา 15 นาที, 30 นาที -1 ชั่วโมง
การใช้ยา MgSo4
ยาแมกนีเซียม ซัลเฟต (MgSo4) เป็นเกลือแร่ที่ใช้รักษาภาวะความดันโลหิตสูงในสตรีตั้งครรภ์เพื่อป้องกันอาการชัก (anticonvulsant) ในสตรีตั้งครรภ์ที่มีภาวะ severe-preeclampsia โดยออกฤทธิ์ลดการหลั่งสารacetylcholine ที่ปลายประสาททำให้ยับยั้งการส่งกระแสประสาทไปยังกล้ามเนื้อได้(blocking neuromusculartransmission) และออกฤทธิ์กดการท างานของระบบประสาทส่วนกลาง ทำให้หลอดเลือดขยายตัว (vasodilator)รู้สึกร้อน มีเหงื่อออก ลดความถี่และความแรงในการหดรัดตัวของมดลูกด้วย
หลักการพยาบาลก่อนและหลังให้ยา MgSo4
ติดตามประเมินสัญญาณชีพทุก 30 นาที- 1 ชม. หรือทุก 2-4 ชม. ตามสภาพอาการของสตรีตั้งครรภ์หรือสตรีหลังคลอด โดยอัตราการหายใจต้องไม่ต่ำกว่า 12 ครั้ง/นาที
ประเมินภาวะ hyperreflexia หรือ hyporeflexia จาก deep tendon reflex (patellar,brachial) โดย 0=reflex absent, +1 = hypoactive reflex, +2 = normal reflex, +3 =brisker than average reflex, +4 = hyperactive reflex or clonus
ติดตามประเมินปริมาตรน้ำเข้า ออกจากร่างกาย โดยเฉพาะปัสสาวะต้องไม่น้อยกว่า 25-30 มล./ชม.
ควรให้ยา MgSo4 ในสารละลาย ร่วมกับการให้สารละลาย อีกในขวด (piggyback) เพื่อสามารถหยุดให้ยาได้ทันทีเมื่อมีอาการไม่พึงประสงค์เกิดขึ้น
ติดตามระดับความเข้มข้นของ MgSo4ในเลือดโดยระดับยาในขนาดของการรักษา (therapeuticrange) ต้องอยู่ระดับ 4.0-8.0 mEq/L (กรณีระดับยาในเลือด 10.0 mEq/L ทำให้ไม่มี deep 6tendon reflex, ระดับยา 15 mEq/L จะกดการหายใจ (respiratory paralysis), และระดับยา25.0 mEq/L ทำให้หัวใจหยุดเต้น (cardiac arrest)
กรณีได้รับยา MgSo4 เกินขนาดต้องให้ยา 10% calcium gluconate เพื่อต้านการออกฤทธิ์ของMgSo4
การใช้ยา bricanyl
Bricanyl (terbutaline) 0.5-1.0 mg/amp เป็นยาที่ใช้ในการยับยั้งการหดรัดตัวของมดลูกในสตรีตั้งครรภ์ที่มีภาวะเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนด (beta-adrenergic for tocolysis)
หลักการพยาบาลสตรีตั้งครรภ์ที่ได้รับยา Bricanyl/terbutaline
ติดตามประมาณสัญญาณชีพทุก 1-4 ชม. ตามสภาพอาการ
เฝ้าระวังอาการข้างเคียงจากการให้ยา เช่น อาการใจสั่น หัวใจเต้นผิดจังหวะ ความดันโลหิตต่ำ น้ำท่วมปอด กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด
การใช้ยา dexamethasone
Dexamethasone เป็นยาในกลุ่ม corticosteroids ใช้ในสตรีตั้งครรภ์ที่มีภาวะการเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนดเพื่อกระตุ้นการสร้างสาร surfactant ในถุงลมปอดของทารกช่วยป้องกันภาวะ respiratory distresssyndrome ในทารกคลอดก่อนกำหนดได้ โดยให้ในขนาด 6 mg IM ทุก 12 ชม. จนครบ 4 ครั้ง
นางสาวศศิธร แก่นจันทร์ รหัส 602701089 ชั้นปีที่ 4 รุ่นที่ 35 วิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม