Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
Cream and Brown Hand Drawn English Class Education Presentation, 1…
ความหมาย
ภาวะชักจากไข้ (febrile seizures, febrile convulsions) คือ ภาวะชักที่เกิดร่วมกับไข้ พบบ่อยในเด็กอายุ6 เดือน ถึง 5 ปีโดยที่ไม่ไดเ้กิดจากการติดเช้ือในระบบประสาทส่วนกลางหรือความผิดปกติทางเมตาบอลิก และไม่มีประวัติชักโดยที่ไม่มีไข้มาก่อน (Mikati, 2011)
พยาธิสภาพ
ภาวะไข้ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของเมตาบอลิซึมในเซลล์ประสาทสมอง ทำให้เซลล์ประสาทไวต่อการที่จะเกิดอาการชักได้มากขึ้น ทั้งนี้ยังขึ้นอยู่กับอายุและความเจริญของสมองด้วย ซึ่งอายุที่มากขึ้นก็มีโอกาสเกิดไข้ได้น้อยลง ทำให้เกิดอาการชักได้น้อยลง นอกจากนี้อุณหภูมิของไข้ก็เป็นปัจจัยสำคัญในการกระตุ้นให้เกิดอาการชัก โดยเฉลี่ยประมาณร้อยละ 75 ของเด็กที่ชักจะมีอุณหภูมิสูงเกิน 39 องศาเซลเซียส (อิสรา ขันกสิกรรม,2554)
สาเหตุ
เกิดจากการติดเชื้อในระบบต่างๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับระบบประสาท เช่น การติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ หูชั้นกลางอักเสบ กระเพาะอาหารหรือลำไส้อักเสบ ต่อมทอนซิลอักเสบ การติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ หรืออาจเกิดภายหลังจากการให้วัคซีนคางทูม หัด หัดเยอรมัน เป็นต้น ไวรัสที่เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะชักจากไข้สูง ได้แก่ influenza A, (RSV), adenovirus เป็นต้น (อิสรา ขันกสิกรรม,2554)
-
อาการและอาการเเสดง
เด็กจะเริ่มไม่สบาย โดยอาจมีอาการน้ำมูกไหล ไอ เจ็บคอ เบื่ออาหาร อาเจียน ถ่ายอุจจาระบ่อย ซึมลง มีไข้สูง และชัก ลักษณะที่ชักคือตัวแข็งเกร็ง มือเท้ากระตุก ตาเหลือก กัดฟันแน่น น้ำลายฟูมปาก ไม่รู้สึกตัว อาจมีอาเจียนหรือปัสสาวะ อุจจาระขณะที่กำลังชัก โดยอาการชักมักจะกินเวลาไม่เกิน 15 นาที แต่ในรายที่ชักอยู่นาน ใบหน้า ริมฝีปาก และมือเท้า จะเขียวจากการขาดออกซิเจน (Phyathai Hospital,2020)
การรักษา
- ใช้ยาป้องกันการชักเฉพาะเมื่อมีไข้ (Intermittent prophylaxis) ถ้าชักนาน > 5 นาที พิจารณา ให้ Diazepam 0.3 มก,/กก, ทางหลอดเลือดดำหรือ 0.5 มก/กก. ทางทวารหนัก ขนาดสูงสุดไม่เกิน 10 มก.
- ให้ยาป้องกันการชักอย่างต่อเนื่องถึงแม้ไม่มีไข้ (Continuous prophylaxis)
- ใช้ยาป้องกันการชักยืดเยื้อ (Prevention of prolonged seizure)
การวินิจฉัย
- การซักประวัติ พบว่ามีประวัติไช้สูงตัวร้อน น้ำมูกไหล มีอาการติดเชื้อที่บริเวณใด
บริเวณหนึ่งของร่างกาย เช่น อาการเจ็บคอ กลืนไม่ได้ ไอ หายใจไม่สะดวก ในเด็กที่มีการติดเชื้อที่ต่อมทอนชิล ถ่ายอุจจาระเหลวหลายครั้ง อาการเซื่องซึมหรือกระสับกระส่าย มีไข้ ถ้าไข้สูงมากจะปัสสาวะออกน้อย อาการหนาวสั่น ชักตั้งเเต่ที่บ้านหรือขณะเดินทางมาโรงพยาบาลเป็นต้น (บงกช นิลอ่อน,2556)
- การตรวจร่างกาย จะพบว่า เด็กมีอุณหภูมิร่างกายสูงมากกว่าปกติ หน้าแดง ตัวเเดงพบอาการหรืออาการแสดงของการติดเชื้อในร่างกาย เช่น ต่อมทอนซิลบวมแดง มีเสมหะสีเหลืองคลำพบต่อมน้ำเหลืองบริเวณคอ เป็นต้น (บงกช นิลอ่อน,2556)
- การตรวจทางห้องปฏิบัติการ เช่น การตรวจนับเม็ดเลือด (Complete Blood Count:CBC) การเพาะเชื้อ หรือการตรวจปัสสาวะ (บงกช นิลอ่อน,2556)
- การตรวพิเศษ ส่วนใหญ่จะทำการเจาะหลัง เพื่อตรวจดูน้ำไขสันหลังใช้ในการวินิจฉัยเยกโรคระหว่างการติดเชื้อในระบบอื่น ๆ ของร่างกายกับการติดเชื้อทางระบบประสาท(บงกช นิลอ่อน,2556)
การพยาบาล
-
- เสี่ยงต่อการได้รับอันตราย/
ภาวะเเทรกซ้อนเเละการสำลักน้ำลายหรืออาหารขณะชัก
กิจกกรมการพยาบาล
- บันทึกลักษณะการชัก ระยะเวลาและความถี่
- ขณะชักให้จัดท่านอนตะเเคง ห้ามใช้ไม้กดลิ้นหรือวัตถุใดๆ
-
- เเนะนำให้ผู้ปกครองดูแลเมื่อเด็กชัก
- พลิกตะเเคงให้เด็กนอนตะเเคงข้างเเบบค่อยๆ
- สังเกตอาการเเละดูระยะเวลาการชัก
- อย่าพยายามมัดหรือมัดเพื่อหยุดอาการชัก
- เสี่ยงต่อการเกิดเซลล์สมองถูกทำลายเนื่องจากการชักเป็นระยะเวลานาน
กิจกกรมการพยาบาล
- สังเกตอาการเเละอาการเเสดงของเซลล์สมองถูกทำลายคือระดับความรู้สึกตัวลดลง reflexลดลง
- ดูเเลให้ได้รับยากันชักตามเเผนการรักษา
- ติดตามเเละประเมินอาการชักทุก 1-2ชั่วโมง
- เสี่ยงต่อการชักซ้ำเนื่องจากมีความผิดปกติของเซลล์สมอง
กิจกกรมการพยาบาล
- ติดตามเเละประเมินอาการชักทุก 1-2ชั่วโมง
- ลดสิ่งที่กระตุ้นให้เกิดการชักโดยการจัดสิ่งเวดล้อม
- ดูเเลให้ได้รับยากันชักตามเเผนการรักษา
-
-