Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

การพยาบาลผู้ป่วยที่มีปัญหาระบบเลือด - Coggle Diagram

- - - - เซลล์ที่ได้รับความเสียหาย และเกล็ดเลือด จะปล่อยสาร ADP ทำให้เกล็ักเลือดเปลี่ยนรูปร่างและรวมตัวกันอุดหลอดเลือดที่บาดแผล
    - - การเกิดการกระตุ้นโปรทรอมบิน
      - การเปลี่ยนโปรทรอมบินเป็นทรอมบิน
      - การเปลี่ยนไฟบริโนเจนเป็นไฟบริน
      - การหดตัวของก้อนเลือด
    - - เมื่อเกิดแผลสารซีโรโทนินจากเกล็ดเลือดจะกระตุ้นให้หลอดเลือดหดตัว
- - - - สร้างจากไขกระดูกได้น้อย
      - เกล็ดเลือดถูกทำลายมาก
      - เกล็ดเลือดถูกบีบไปอยู่ที่ใดที่หนึ่งมากเกิน
      - การใช้เกล็ดเลือดมากเกินไป
      - มีน้ำในร่างกายมาก
- - - - อุณหภูมิต่ำ ปวดข้อ
      - เขียว ชา เนื้อตายจุดแดง
    - - Pulse ต่ำ
      - Cappillary filling น้อยกว่า 3 วินาที
      - หัวใจเต้นเร็ว
    - - หายใจลำบาก
      - แน่นหน้าอก
      - Hypoxia
      - Breath sound ลดลง
    - - ถ่ายดำ ไอเป็นเลือด
      - เลือดแแกในช่องท้อง
      - แสบร้อนกลางอก
    - - ปัสสาวะลดลง
      - BUN,Cr เพิ่มขึ้น
      - ปัสสาวะเป็นเลือด
    - - Pupillary reaction ลดลง
      - Strength and movement ability ลดลง
      - ปวดหัว
- - - - ธาลัสซีเมียเมเจอร์ เป็นความผิดปกติรุนแรงเพราะมีสภาวะโฮโมไซกัส มียีนผิดปกติ
      - มีการสร้างฮีโมโกลบินเอฟและฮีโมโกลบินแอลฟาทูมาก
    - - ร่างกายสร้างสายฮีโมโกลบินลดลงทำให้สายโกลบินเพิ่มสูงขึ้น
    - - การเจริญเติบโตช้า
      - ดั้งจมูกแฟบ ผิวคล้ำ ท้องโต
      - ซีด โหนกแก้มสูง หน้าผากนูน
    - - แอลฟ่า -Thalassemia major
        
        ในเด็กทารกหัวใจและตับโต บวมและท้องมานอย่างมาก
      - เบต้า - Thalassemia minor
        
        ซีดอย่างรุนแรง ม้ามโต มีความผิดปกติของโครงกระดูก
      - ธาลัสซีเมีย แอลฟ่า trait
        
        ซีดเล็กน้อย ตับม้ามโตเล็กน้อย
    - - การตรวจร่างกาย
      - การตรวจทางห้องปฏิบัติการและการตรวจพิเศษ
      - การซักประวัติ
    - - กรตัดม้าม
      - กรดโฟลิก
      - การให้ยาขับธาตุเหล็ก
      - การให้เลือด
      - การปลูกถ่ายไขกระดูก
      - การเปลี่ยนยีน
      - การปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิด
- - - - เกิดขึ้นมากกว่า 10 วัน
    - - เกิดขึ้นใน 7-10 วัน
- - - - การเสียเลือดเฉียบพลันหรือเรื้อรัง
      - การได้รับธาตุเหล็กไม่เพียงพอ
    - - มุมปากอักเสบ กลืนอาหารลำบาก
      - หน้ามืด สับสน หัวใจล้มเหลว ลิ้นเลี่ยน
      - ซีด เหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย เวียนศีรษะ
    - - ปอดอักเสบ มีการเสียเลือด
      - ปัสสาวะเป็นเลือด
    - - การตรวจไขกระดูก
      - การตรวจดูระบบทางเดินอาหารว่ามีเลือดออกหรือไม่
      - การวินิจฉัยต้องกำจัดภาวะซีดชนิดอื่นออกก่อน
    - - ให้รับประทานอาหารที่มีธาตุเหล็ก
      - ระมัดระวังผลข้างเคียงของการให้ยา
      - หลีกเลี่ยงสาเหตุการเสียเลือด
      - รับประทานวิตามินซีในมื้อเดียวกันเพราะช่วยในการดูดซึม
  - - - การดูดซึมวิตามิน บี 12 ผิดปกติ
      - ได้รับวิตามิน บี 12 ไม่เพียงพอ
    - - ความจำเสื่อม สับสน ชาที่แขนขา กล้ามเนื้อขาไม่มีแรง
      - อาหารไม่ย่อย ท้องอืด ท้องผูก ท้องเสีย ลิ้นเลี่ยน
      - เนื้อเยื่อได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ ทำให้อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย
    - - มีการฝ่อของกระเพาะอาหารส่วนต้นทำให้ขาด intrinsic อาจเกิดจากพันธุกรรม
    - - การตรวจร่างกาย ริมฝีปาก เหงือกและลิ้นแดง ตาขาวสีเหลือง ตับม้ามโต อ่อนแรง
      - การควบคุมการขับถ่ายและปัสสาวะไม่ได้
      - การซักประวัติ ผู้ป่วยมีอาการอ่อนเพลีย เจ็บปาก ชาที่แขนขา ท้องเสีย ท้องผูก
      - การตรวจทางห้องปฏิบจัติการและการตรวจพิเศษอื่นๆ
      - การตรวจไขกระดูกพบ erythroid hyperplasia และ megaloblasts
      - การทดสอบ schilling test
    - - ให้ทานพวก ปลา เนื้อสัตว์ นม ไข่
      - ให้ยาช่วยสร้างเม็ดเลือด เช่น ferrous sulfate
      - ให้เลือดเพื่อแก้ไขภาวะซีด
      - ผู้ป่วยที่รักษาด้วย วิตามิน บี 12 โดยการฉีด อาจมีอาการทางระบบประสาท
  - - - มีเลือดออกที่เยื่อบุเปลือกตา
      - เม็ดเลือดแดงน้อยกว่า 1 ล้านเซลล์/ลบ.มม.
      - มีอาการอ่อนเพลีย หายใจลำบาก เลือดออกง่าย
    - - เกิดความผิดปกติของเซลล์ต้นกำเนิดในไขกระดูก เซลล์ต้นกำเนิดมีคุณสมบัตืที่เปลี่ยนแปลงไป เซลล์ฝ่อ ทำให้เซลล์ที่ไขกระดูกลดลง
    - - ไขกระดูกล้มเหลวไม่สามารถสร้างเม็ดเลือดได้
      - เกิดจากความผิดปกติของโครโมโซมตั้งแต่กำเนิด
      - เกิดจากการได้รับสารที่เป็นอันตรายต่อไขกระดูก
    - - การซักประวัติ อาการอ่อนเพลีย ไม่มีแรง หายใจไม่สะดวก
      - การตรวจร่างกาย จะพบว่าซีด จ้ำเลือด มีความผิดปกติของการแข็งตัวของเลือด
      - การตรวจทางห้องปฏิบัติการและการตรวจพิเศษอื่นๆ
      - เซลล์เม็ดเลือดแดงมีขนาดและการติดสีผิดปกติ
    - - ปลูกถ่ายไขกระดูกในรายที่เม็ดเลือดขาวต่ำ
      - ให้ PRC
      - ให้ยาปฏิชีวนะเม่อมีการติดเชื้อ
      - ภาวะแทรกซ้อน มีการเสียเลือดอย่างทันใด และมีการติดเชื้อ
- - - - ความผิดปกติของโครโมโซม
      - สารก่อมะเร็ง รังสี
      - ไวรัสบางชนิด
    - - ติดเชื้อเมื่อมีเม็ดเลือดขาวปกติลดลง
      - ภาวะซีด จากเม็ดเลือดแดงลดลง
      - เลือดออกง่ายจากเกล็ดเลือดลดลง
    - - การปลูกถ่ายไขกระดูก
      - เคมีบำบัด
      - การสร้างภูมิคุ้มกัน