Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

Cesarean Section due to Cephalopelvic Disproportion, เเพทย์วินิฉัยเป็น…

- - - - Protraction disorder
      - Arrest disorder
  - - - มีความแตกต่างของขนาดศีรษะทารกและขนาดของอุ้งเชิงกรานซึ่งทำให้ทารกไม่สามารถคลอดทางช่องคลอดได้
    - - การที่ศีรษะทารกมีการบิดหรือเงยทำให้เส้นผ่าศูนย์กลางของศีรษะทารกที่จะผ่านช่องทางคลอดใหญ่เกินกว่าจะผ่านลงมาได้
- - - - CC: เจ็บครรภ์ 3 hr PTA
      - Pl: 3 hr PTA เจ็บครรภ์ทุก 2-5 นาทีนาน 1-2 นาทีมีน้ำใสและมูกเลือดออกทางช่องคลอด
        ลูกดิ้นดี> 10 ครั้ง / วัน คลื่นไส้ ไม่อาเจียน ไม่มีตาพร่ามัว ไม่มีจุกแน่นลิ้นปี่ ไม่มีขาบวม
      - แรกรับ
        
        เวลา 11.00 น.
        
        ตรวจร่างกาย ปกติ
        ตรวจครรภ์ ได้ 3/4> สะดือ Vx. HE, LOA, Pv 3 cm., Eff 100%,stations 1, MI, FHS = 140 ครั้ง / นาที vital sign: BT = 36.7c, PR = 102bpm, RR = 20bpm, BP = 125/80 mmhg
        BW = 75.3 kg, Height = 159 cm
        แพทย์ U/S AFI 9 cm. EFW 3580 g
        ไม่เเพ้ยาและอาหาร ไม่เคยได้รับการผ่าตัด เตรียมร่างกายสำหรับคลอดโกนเเละสวนอุจจาระ
    - - เวลา 12.00 น.
        
        ให้ RLS 1000 ml iv drip rate 100 ml/hr.
        ส่ง lab CBC ,RAPID TEST
        ให้ 5%D/N/2 1000 ml + Synto 10 unite iv drip เริ่ม 12 micodrop/min
        
        Contraction I = 4’30” D = 30” ln = ++ DIL = 3 cm. EFF 100 STA 0 POSITION OL FHS 142 ครั้ง/นาที MEMBRANE MI
      - เวลา 12.30 น.
        
        เพิ่ม synto 15 ml/hr on monitor continue
        
        Contraction I = 3’ D = 30” ln = ++ FHS 146 ครั้ง/นาที
      - เวลา 13.00 น.
        
        Contraction I = 2’10” D = 35” ln = ++ DIL = 5 cm. EFF 100 STA 0 POSITION OL FHS 148 ครั้ง/นาที MEMBRANE ARM clear
      - เวลา 13.30 น.
        
        Contraction I = 2’20” D = 35” ln = ++ POSITION OL FHS 142 ครั้ง/นาที
      - เวลา 14.00 น.
        
        Contraction I = 2’ D = 40” ln = ++ POSITION OL FHS 138 ครั้ง/นาที
      - เวลา 14.30 น.
        
        สอนเบ่งคลอด เบ่งเเล้วปากมดลูกไม่ขยาย FHS ลดลง
        
        Contraction I = 2’ D = 35” ln = ++ DIL = 8 cm. EFF 100 STA 0 POSITION OL FHS 142 ครั้ง/นาที MEMBRANE MA
        
        on O2 cannula 3 LPM
        
        เกิด FHS Early decerlaration
      - เวลา 15.00 น.
        
        Contraction I = 2’15” D = 35” ln = ++ DIL = 9 cm. EFF 100 STA 0 POSITION OL FHS 138 ครั้ง/นาที MEMBRANE MA
        
        ร้องเจ็บครรภ์ กระวนกระวาย Pain score 8 คะแนน สอนหายใจบรรเทาอาการเจ็บครรภ์
      - เวลา 15.30น.
        
        สวนปัสสาวะ ออก 100 ml เเละใส่สายปัสสาวะ
        
        จอง PRC 1 VMware เเจ้ง OR
        
        off synto เหลือ 950 ml
      - เวลา 15.15 น.
        
        Fully dilatation FHS 140 ครั้ง/นาที MEMBRANE MA
        
        เบ่งคลอดเเล้วทารกอาจจะออกไม่ได้
      - เวลา 15.55 น.
        
        ส่งไป OR
    - - ได้รับการผ่าคลอดเเบบ Classical Caesarean Section
      - ได้รับยาระงับความรู้สึกแบบ spinal block คือ morphine+marcaine
      - ทารกคลอดเวลา 16.17 น. เพศชาย apgar score 9 น้ำหนัก 3880 g ยาว 54 cm. รกหนัก 800 g Total blood loss 1000 ml
- - - - เสียเลือดเป็นจำนวนมากจากการผ่าตัด
      - ช็อก
        
        ได้ยาสลบเป็นเวลานาน
        
        เสียเลือดเป็นจำนวนมาก
        
        แพ้ยาที่ได้ขณะผ่าตัด
      - การติดเชื้อของอวัยวะต่างๆภายในช่องท้อง
      - อวัยวะใกล้เคียงได้รับการกระทบกระเทือนหรือชอกช้ำ
      - อาการปวดแผลอย่างรุนเเรงและเป็นเวลานาน
    - - ทารกอาจได้รับความชอกช้ำหรือกระทบกระเทือนจากการผ่าตัด
      - เกิดภาวะพร่องออกซิเจน
- - - - ร่างกาย
        
        ซักประวัติการเจ็บป่วยทั้งปัจจุบันและอดีต เกี่ยวกับโรคประจำตัวการใช้ยา การเเพ้ยา
        
        ทำความสะอาดร่างกายให้สะอาดเตรียมร่างกาย ไม่เเต่หน้า ทาเล็บ เพื่อประเมินภาวะซีดขณะผ่าตัด โกนขนบริเวณอวัยวะสืบพันธ์ เเละสวนอุจจาระ ใส่สายสวนปัสสาวะ เเละใส่ชุดห้องผ่าตัดให้เรียบร้อย
        
        NPO งดน้ำงดอาหาร 8-10 ชั่วโมง เเละซักประวัติการรับประทานอาหารมื้อล่าสุด ทั้งชนิด ปริมาณและเวลา เพื่อป้องกันปัญหาการสำลักเศษอาหารระหว่างการให้ยาระงับความรู้สึก
        
        ถอดสิ่งของมีค่า เครื่องประดับทุกชนิด เช่น กิ๊บติดผม คอนเเทคเลนส์ สร้อยคอ ต่างหู เเหวน นาฬิกา เพราะอาจจะทำให้เกิดอันตรายขณะผ่าตัดได้รวมทั้งอาจสูญหายได้ ถ้าใส่ฟันปลอมถอดออกเพราะการผ่าตัดอาจจะต้องใส่อุปกรณ์ในช่องปากอาจทำให้ฟันปลอมหลุดเข้าไปในหลอดลมได้
        
        เเจ้งจอง group match เพื่อมีเลือดสำรองไว้ให้หญิงตั้งครรภ์เมือเสียเลือดมากจากการผ่าตัดคลอด
        
        เจาะเลือดตรวจ CBC
        ของหญิงตั้งครรภ์ได้ Hb 12.2 Hct 36.3
      - จิตใจ
        
        อธิบายถึงสาเหตุเเละเหตุผลที่ต้องผ่าตัดคลอกมห้หญิงตั้งครรภ์ทราบ
        
        ตรวจสอบสิทธิ เเละให้หญิงตั้งครรภ์เซ็นเอกสารยินยอมเข้ารับการผ่าตัดคลอด
    - - Mophine
        
        กดการหายใจ : เฝ้าระวังนับอัตราการหายใจ ไม่น้อยกว่า 12 ครั้ง/นาที
        
        คลื่นไส้อาเจียน : ให้ยาตามแผลการรักษา Onsia 4 mg และ Plasil 10 mg iv
        
        ผื่นคัน : ให้ยาตามแผนการรักษาลดอาการเเพ้ผื่นคัน ยา CPM 10 mg iv
        
        Antidoes คือ Tramol
      - Marcain
        
        เฝ้าระวังอาการสั่น หัวใจเต้นผิดปกติ ความดันโลหิตสูง
    - - ผลข้างเคียงจากการได้รับยาระงับความรู้สึก
        
        ดูเเลให้ได้รับ O2 อย่างเพียงพอ
        วัดสัญญาณชีพ ดูอัตราการหายใจเเละO2 sat
        ดูเเลให้ผู้ป่วยนอนราบอยู่บนเตียงก่อนอย่างน้อย 8-10 ชั่วโมง
        
        คลื่นไส้อาเจียน : ให้ยาตามแผลการรักษา Onsia 4 mg และ Plasil 10 mg iv
        
        ผื่นคัน : ให้ยาตามแผนการรักษาลดอาการเเพ้ผื่นคัน ยา CPM 10 mg iv
      - การตกเลือด
        
        วัดสัญญาณชีพ ประเมินภาวะตกเลือด ประเมินมดลูกเเละเเผลผ่าตัด
        
        ดูเเลให้ได้รับสารน้ำทดเเทนจากการเสียเลือด คือ 5% D/N/2 1000 ml. IV drip 120 ml/hr ตามเเผนการรักษา
        
        ติดตามผล lab CBC ได้ Hb 12.5 Hct 37.8
        
        ดูแลให้ได้รับยาป้องกันการตกเลือด คือ Transmine 500 mg iv เเละ ยากระตุ้นการหดรัดตัวของมดลูกเพื่อป้องกันการตกเลือด คือ Sytocinon 10 unite+ RLS 1000 ml iv drip ตามเเผนการรักษา
  - - - ประเมินความเจ็บปวด pain scale
      - สอนบรรเทาอาการเจ็บปวดด้วยวิธีการหายใจ
        
        Slow deep cheat breating หายใจเเบบสูดเข้าลึกๆช้าๆ ในระยะปากมดลูกเปิดไม่เกิน 3 cm.
        
        Shallow accelerant decelerated breathing หายใจแบบเร็วตื้นและเบา ในระยะปากมดลูกเปิด 4-7 cm
        
        Shallow breathing with forced out หายใจเเบบเร็ว ตื้น เบา และเป่าปาก ในระยะปากมดลูกเปิดหมด
        
        การหายใจเบ่งคลอด สูดหายใจเข้าลึกๆเบ่งคางชิดออกไม่มีเสียง
      - จัดสิ่งเเวดล้อมปราศจากสิ่งกระตุ้นให้เกิดความเจ็บปวด เเละเงียบ สงบ อยู่เป็นเพื่อนมารดาเพื่อให้รู้สึกสบายใจ
      - ช่วยนวดหลัง massge by others
      - ถ้ามีอาการเจ็บปวดรุนแรงเเพทย์อาจจะให้ยาระงับความปวดและกล่อมประสาท คือ pethidineร่วมกับ phenergan เเละเฝ้าระวังผลข้างเคียงจากยาเเละอันตรายต่อทารก
    - - เฝ้าระวังภาวะแทรกซ้อน ได้เเก่ สายสะดือพลัดต่ำ,รกลอกตัวก่อนกำหนด,Amniotic fluid embolism,การติดเชื้อในมารดาและทารก
      - การพยาบาลก่อนเจาะถุงน้ำคร่ำ
        อธิบายให้หญิงตั้งครรภ์ทราบและเข้าใจแผนการรักษาเพื่อความร่วมมือและลดความวิตกกังวล กั้นม่านไม่เปิดเผย จัดท่าหญิงตั้งครรภ์ นอนท่า lithotomy วาง bed pan รองก้น ทำความสะอาดอวัยวะสืบพันธุ์ภายนอก สวนปัสสาวะ(ถ้ามี full bladder),ก่อนเเพทย์ลงมือเจาะถุงน้ำคร่ำฟังเสียงหัวใจทารกเเละบันทึกผล
      - การพยาบาลหลังเจาะน้ำคร่ำ
        ฟังเสียงหัวใจทารกและบันทึกผล
        น้ำคร่ำออกมาต้องสังเกตลักษณะ สีและปริมาณของน้ำคร่ำ
        ให้หญิงตั้งครรภ์ใส่ผ้าขวางรองไว้ เพื่อป้องกันการติดเชื้อเข้าสู่โพรงมดลูกเเละสังเกตลักษณะ สีและปริมาณน้ำคร่ำที่ออกมาภายหลังในผ้าขวางและเปลี่ยนผ้าขวางทุกครั้งเมื่อเปียกชุ่มพร้อมทั้งทำความสะอาดอวัยวะสือพันธ์
        แนะนำให้หญิงตั้งครรภ์นอนพักอยู่บนเตียงไม่ควรให้ลุกเดินเพราะถ้าส่วนนำของทารกไม่ติดเเน่นกับส่วนล่างของมดลูกอาจทำให้สายสะดือโผล่ออกมาได้
        บันทึกการหดรัดตัวของมดลูก ผลการตรวจความก้าวหน้าของการคลอดและ FHS ทุก 30 นาที
    - - ประเมินความก้าวหน้าของการคลอด จับ contractionเเละฟังFHS ทุก 30 นาที ทั้งในระยะ latentเเละ active เเละบันทึกผล
      - ดูเเละให้ได้รับยากระตุ้นการหดรัดตัวของมดลูกOxytocin drug คือ syntocinon 10 unite ผสมใน 5% D/N/2 1000 ml vein drip โดยจำนวนหยดนั้นจะเริ่มปราณ 12 หยดต่อนาที เพิ่มครั้งละ 3-6 หยด โดยให้ interval 2-3 นาที duration 45-60 วินาที และไม่ควรให้เกิน 60 หยดต่อนาทีและเฝ้าระวังผลข้างเคียงของยา
      - ถ้าเกิดอาการข้างเคียงหยุดให้ยา ฟังเสียงหัวใจทารก ให้ Oxygen
    - - ปฏิบัติต่อหญิงตั้งครรภ์ด้วยความนุ่มนวลทั้งการตรวจ และการเฝ้าดูแลบ่อยๆ การให้กำลังใจ ตลอดจนให้ข้อมูลที่ถูกต้อง คำแนะนำในการปฏิบัติตัวต่างๆ และขั้นตอนการดำเนินการคลอดว่ากำลังดำเนินไปอย่างไร
        การปฏิบัติดังกล่าวจะช่วยให้หญิงตั้งครรภ์เกิดความเชื่อมั่นในตนเองมากขึ้นและเกิดความอบอุ่นใจลดความวิตกกังวลได้มาก และยังทำให้ หญิงตั้งครรภ์ให้ความร่วมมือในการรักษาเป็นอย่างดี การคลอดก็ก้าวหน้าไปได้ดี