Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
3.8 สถานการณ์ ถ้าท่านคือพยาบาลในทีม MCATT ท่านจะมีการเตรียมตัวเพื่อรับสถา…
3.8 สถานการณ์
ถ้าท่านคือพยาบาลในทีม MCATT ท่านจะมีการเตรียมตัวเพื่อรับสถานการณ์ฉุกเฉิน อย่างไร
ระยะเตรียมการ
จะครอบคลุมตั้งแต่การรับ นโยบายจากผู้ว่าราชการจังหวัดนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ในการจัดเตรียมโครงสร้างการดําเนินงานช่วยเหลือ
ด้านสุขภาพจิตผู้ประสบภาวะวิกฤต และแผนการดําเนินงานเพื่อรองรับสถานการณ์วิกฤต รวมถึงการจัดต้ังศูนย์อํานวยการช่วยเหลือ
ด้านสุขภาพจิตผู้ประสบภาวะวิกฤต/ศูนย์วิกฤตสุขภาพจิต (MCC)/
ทีม MCATT(ระดับ จังหวัดและระดับอําเภอ)
และจัดเตรียมทีมเพื่อปฏิบัติงานให้การช่วยเหลือเยียวยาจิตใจ
การให้การปฐมพยาบาลทางจิตใจ (Psychological First Aid : PFA)
การช่วยเหลือ ทางจิตใจและสังคมในภาวะวิกฤต (Crisis Intervention)
การบําบัดทางพฤติกรรมความคิด
(Cognitive Behavior Therapy : CBT)
การช่วยเหลือด้านสุขภาพจิตตามแบบ Satir
ต้องความรู้ เรื่องการใช้แบบประเมิน/ แบบคัดกรองภาวะสุขภาพจิตทั้งเด็กและผู้ใหญ่ตลอดจนความรู้
เรื่องวัฒนธรรม ธรรมเนียมปฏิบัติ และหลักคําสอน ทางศาสนา
เตรียมความพร้อมของชุมชนเพื่อรับมือกับสถานการณ์ วิกฤต
เช่น การให้ความรู้เรื่องภัยพิบัติแก่ชุมชน การปฏิบัติตัวเมื่อเกิดภัยพิบัติ
ระบบการเตือนภัย
ระยะวิกฤตและฉุกเฉิน
ภายใน72ชั่วโมงแรกหลังเกิดเหตุ-2สัปดาห์
a.ระยะวิกฤต(ภายใน72ชั่วโมงแรกหลังเกิดเหตุ)
ระยะนี้ผู้ประสบภาวะวิกฤตจะมีการตื่นตัวทาง สรีระและพฤติกรรม
มีพลังอย่างมากเพื่อให้รอดชีวิต เกิดความเครียด หวาดผวา หวาดกลัว ช็อก วิตกกังวล สับสน ผู้ประสบภาวะวิกฤตจะช่วยเหลือซึ่งกันและกัน มีผู้คนจํานวนมากเข้ามาให้การช่วยเหลืออย่างไม่มีระบบ/ระเบียบ การช่วยเหลือจะมุ่งให้ความช่วยเหลือเฉพาะหน้าเน้นการช่วยเหลือตามสภาพความเป็นจริงทั้งด้านร่างกาย ความ ต้องการพื้นฐาน เช่น ที่อยู่อาศัย อาหาร เครื่องนุ่งหุ่มของใช้ที่จําเป็น
b. ระยะฉุกเฉิน(72ชั่วโมง-2สัปดาห์)
ระยะนี้ผู้ประสบภาวะวิกฤตทั้งผู้สูญเสียหรือผู้รอดชีวิตจะ มองโลกในแง่ดี การช่วยเหลือหลั่งไหลเข้ามา ผู้ประสบภาวะวิกฤตเกิดกําลังใจว่า ครอบครัวและชุมชนจะสามารถปรับตัวได้ ระยะนี้สามารถสํารวจหาข้อมูลของสถานการณ์ และความต้องการของ ผู้ประสบภาวะวิกฤตได้ชัดเจน มากขึ้น เพื่อวางแผนในการให้ความช่วยเหลือได้ตรงกับความต้องการของผู้ประสบ ภาวะวิกฤต ประเมินคัดกรอง ภาวะสุขภาพจิตเพื่อค้นหากลุ่มเสี่ยงในแต่ละวัย และนํามาวางแผนในการช่วยเหลือ ที่ถูกต้องเหมาะสม รวมถึงมี การจัดลําดับความต้องการของกลุทมเสี่ยงที่ต้องได้รับการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนและ ต่อเนื่อง
การดูแลช่วยเหลือ กลุ่มเป้าหมายจะพิจารณาตาม
ความรุนแรง 6 กลุ่ม
กลุ่มผู้สูญเสียบุคคลในครอบครัว/ทรัพย์สิน กลุ่มผู้ป่วยที่มี
ประวัติการรักษาทางจิตเวชหรือใช้สารเสพติด
กลุ่มผู้ได้รับผลกระทบหลังประสบภาวะวิกฤต
กลุ่มผู้สูงอายุและเด็ก กลุ่มผู้พิการและเจ็บป่วยโรคเรื้อรัง
และกลุ่มผู้ที่ต้องการบริการด้านสุขภาพจิต
1) เมื่อเกิดสถานการณ]วิกฤตทีมMCATTเข้าพื้นที่ให้การช่วยเหลือผู้ประสบภาวะวิกฤตใน พื้นที่เสี่ยง โดยลงพื้นที่ร่วมกับทีมให้การช่วยเหลือทางกาย เพื่อประเมินสถานการณ์ด้านสุขภาพจิตและกําหนด พื้นที่ที่จะลงไป ช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง เตรียมความพร้อมของทีม รับทราบบทบาทหน้าที่ จัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์ แบบประเมิน/ คัดกรองภาวะสุขภาพจิต ทบทวนความรู้เรื่องการใช้แบบประเมิน/แบบคัดกรองภาวะสุขภาพจิต
2) คัดกรองและค้นหากลุ่มเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพจิตโดยใช้เวชระเบียนสําหรับผู้ประสบภาวะ วิกฤต/ภัยพิบัติ (ผู้ใหญ่และเด็ก) และให้การปฐมพยาบาลด้านจิตใจ
3) สํารวจความต้องการช่วยเหลือทั้งด้านร่างกายและจิตใจและการให้การช่วยเหลือเยียวยา จิตใจ โดยใช้วิธีให้การปฐมพยาบาลด้านจิตใจ (PFA) สร้างสัมพันธภาพกับผู้ประสบภาวะวิกฤต สํารวจความ ต้องการของผู้ประสบภาวะวิกฤต ด้านปัจจัยสี่ ความต้องการได้รับการดูแลรักษาโรคทางกาย หากพบ ประเมิน ภาวะสุขภาพจิตผู้ประสบภาวะวิกฤตตามกระบวนการปฐมพยาบาลด้านจิตใจ (PFA) เน้นให้ผู้ประสบภาวะวิกฤต ระบายความรู้สึกให้มากที่สุด ให้การช่วยเหลือทางด้านสุขภาพจิต
ผู้ประสบภาวะวิกฤตในกรณีที่พบว่าผู้ประสบ ภาวะวิกฤต มีความเครียด วิตกกังวล หวาดผวา หวาดกลัว นอนไม่หลับ หงุดหงิดง่าย ซึมเศร้า หรือการให้การ ปรึกษาปัญหาสุขภาพจิตอย่างเร่งด่วน(Crisis Counseling)
4.)กรณีพบความเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาสุขภาพจิต ให้จัดทําทะเบียนกลุ่มเสี่ยงและวางแผนการติดตามต่อเนื่อง
5) สรุปรายงานสถานการณ์เบื้องต้นพร้อมทะเบียนกลุ่มเสี่ยง