Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับกฎหมาย, main - Coggle Diagram
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับกฎหมาย
ความหมายของกฎหมาย
กฎหมาย ตามบทนิยามของพจนานุกรมราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 คือ กฎที่สถาบันหรือผู้มีอำนาจ
สูงสุดในรัฐตราขึ้นหรือที่เกิดขึ้นจากจารีตประเพณีอันเป็นที่ยอมรับนับถือ เพื่อใช้ในการบริหารประเทศ
กฎหมาย คือ ระเบียบ กฎเกณฑ์ข้อบังคับ ที่รัฐหรือผู้มีอำนาจกำหนดขึ้น เพื่อควบคุมความประพฤติ/
พฤติกรรมของมนุษย์
ลักษณะของกฎหมายและประเภทของกฎหมาย
ประเภทของกฎหมาย
กฎหมายที่แบ่งตามสิทธิประโยชน์ และความสัมพันธ์ของบุคคล
กฎหมายมหาชน (Public Law) ระหว่างรัฐกับ
ประชาชน
กฎหมายเอกชน (Private Law) ระหว่างเอกชนกับ
เอกชน รวมทั้งหน่วยงานของรัฐและรัฐวิสาหกิจที่ด าเนินธุรกิจแบบเอกชน
กฎหมายระหว่างประเทศ (International Law) ระหว่างประเทศต่อประเทศ หรือรัฐต่อรัฐ
กฎหมายที่แบ่งโดยแหล่งกำเนิดของกฎหมาย
กฎหมายภายใน
เป็นกฎหมายที่องค์กรของรัฐที่มีอ านาจในการบัญญัติกฎหมาย บัญญัติขึ้น
ใช้ภายในประเทศ
กฎหมายภายนอก
องค์การระหว่างป ระเทศ เช่น
สหประชาชาติ หรือ เกิดจากความตกลงระหว่างประเทศ
กฎหมายที่แบ่งโดยเจตนารมณ์และเนื้อหาของกฎหมาย
เช่น กฎหมายระเบียบราชการ กฎหมาย
การเงินการคลัง กฎหมายธุรกิจ กฎหมายสาธารณะสุข กฎหมายอุตสาหกรรม เป็นต้น
กฎหมายที่แบ่งโดยลักษณะการใช้กฎหมาย
กฎหมายสารบัญญัติ
กฎหมายที่กำหนดสิทธิหรือหน้าที่ที่ให้บุคคลปฏิบัติ
กฎหมายวิธีสบัญญัติ
กฎหมายที่เกี่ยวกับวิธีการพิจารณาคดีของศาล
กฎหมายที่แบ่งโดยสภาพบังคับทางกฎหมาย
เช่น กฎหมายแพ่ง กฎหมายอาญา กฎหมายปกครอง
เป็นต้น
ลักษณะของกฎหมาย
กฎหมายต้องกำหนดขึ้นโดยรัฐหรือผู้มีอำนาจ
ต้องเป็นคำสั่งหรือข้อบังคับของผู้มี
อำนาจในรัฐ (รัฏฐาธิปัตย์) สำหรับประเทศไทย
กฎหมายต้องบังคับใช้โดยทั่วไป
เมื่อมีการประกาศใช้แล้ว บุคคลทุกคนต้องอยู่ภายใต้
กฎหมายโดยเสมอภาค จะมีใครอยู่เหนือกฎหมายไม่ได้
กฎหมายต้องมีสภาพบังคับ
กำหนดความประพฤติของบุคคล
ดังนั้นเพื่อให้บุคคลนั้นปฏิบัติตาม จึงจำต้องมีสภาพบังคับในกรณีที่มีการผ่าฝืนกฎหมาย หากเกณฑ์ใดไม่มี สภาพบังคับก็ไม่ถือว่าเป็นกฎหมาย
สภาพบังคับนั้นมีทั้งผลร้ายและผลดี
ผลดี เช่น กรณีจดทะเบียนสมรส ทำให้บุตรเป็นบุตรที่ชอบด้วยกฎหมายสามารถใช้สิทธิของคู่สมรสไปลดหย่อนภาษีได้
ผลร้าย เช่น โทษทางอาญา
กฎหมายต้องมีลักษณะเป็นกฎเกณฑ์
กฎหมายต้องเป็นข้อบังคับที่เป็น
มาตรฐานที่ใช้วัดหรือกำหนดความประพฤติของคนในสังคมว่าถูกหรือผิด ท าได้หรือไม่ได
ระบบของกฎหมาย
ระบบกฎหมายจารีตประเพณี หรือระบบกฎหมายไม่เป็นลายลักษณ์อักษร (Commonlaw system)
มีระบบการพิจารณาพิพากษาคดีที่อาศัย
บรรทัดฐานจากคดีที่คล้ายคลึงกัน และผู้พิพากษาคนก่อนๆตัดสินคดีเดิมไว้ ต่อมาพระมหากษัตริย์ได้พยายาม
สร้างหลักเกณฑ์การพิจารณาคดี เพื่อความเป็นธรรมในกรอบเดียวกัน โดยจัดตั้งศาลและส่งผู้พิพากษาไปตัดสิน
คดีทั่วประเทศ จนเกิดเป็นกฎเกณฑ์ทั่วไป บรรทัดฐาน และเป็นกฎหมายจากค าตัดสินของผู้พิพากษา (Judge
made law) ที่ปฏิบัติสืบต่อกันมา
ระบบกฎหมายลายลักษณ์อักษร หรือระบบประมวลกฎหมาย (Civil law system)
การจัดระบบอย่างดีในสมัยพระเจ้าจัสติเนียน (Justinian) โดยนำคำพิพากษาของศาล และการตีความของนักปราชญ์ทางกฎหมาย จนได้กฎหมายที่ได้รับการบันทึกเป็น
ลายลักษณ์อักษร
ลำดับชั้นหรือศักดิ์ของกฎหมาย
พระราชบัญญัติ พระราชกำหนด และประมวลกฎหมาย
2.2 ประมวลกฎหมาย (Code of Law)
การรวบรวมบทบัญญัติของกฎหมายลายลักษณ์
อักษรในเรื่องเดียวกันหรือใกล้เคียงกัน ให้มาอยู่ในหมวดเดียวกันอย่างเป็นระบบ เพื่อง่ายต่อการศึกษา
2.3 พระราชกำหนด (Royal Enactment)
เป็นกฎหมายที่รัฐธรรมนูญมอบอำนาจให้แก่
ฝ่ายบริหาร เพื่อออกข้อบังคับในกรณีฉุกเฉินที่มีความจำเป็นรีบด่วน
2.1 พระราชบัญญัติ(พรบ.) (Act)
กฎหมายที่ออกโดยฝ่ายนิติบัญญัติหรือรัฐสภา โดย
ผู้ที่สามารถเสนอร่างกฎหมายนี้ คือ คณะรัฐมนตรี และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
กฎกระทรวง (Ministerial Regulation)
กฎหมายที่ออกโดยฝ่ายบริหาร คือ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างๆ ซึ่งออกตามความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี และอาศัยอำนาจตาม
พระราชบัญญัติ เพื่อออกกฎหมายเกี่ยวกับรายละเอียดต่างๆ
ประกาศและคำสั่ง (Announcement/Command)
เป็นกฎหมายที่ออกโดยหัวหน้า
หน่วยงาน เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติงานในหน่วยงาน โดยอาศัยอ านาจตามพระราชบัญญัติ หรือเพื่อ
ปฏิบัติงานตามพระราชบัญญัติ
ระเบียบ และข้อบังคับ (Rule/Regulation/Discipline)
เป็นกฎหมายที่ออกโดยหัวหน้า
หน่วยงานองค์กร ผ่านความเห็นชอบจากผู้บริหารหน่วยงานหรือคณะกรรมการ เพื่อกำหนดรายละเอียดวิธีปฏิบัติงาน โดยอาศัยตามพระราชบัญญัติ
พระราชกฤษฎีกา (Royal Decree)
เป็นกฎหมายที่กำหนดรายละเอียดที่เป็นหลักย่อยของ
พระราชบัญญัติหรือพระราชกำหนด ซึ่งพระมหากษัตริย์ทรงตราขึ้นตามคำแนะนำของคณะรัฐมนตร
อื่นๆ
ข้อบังคับท้องถิ่น เป็นกฎหมายที่ออกโดยองค์กรปกครองตนเอง
รัฐธรรมนูญ (Constitutional Law)
เป็นกฎหมายที่มีศักดิ์สูงสุด กำหนดรูปแบบการ
ปกครองประเทศ และวางระเบียบอำนาจสูงสุดของรัฐหรืออำนาจอธิปไตย
ลักษณะของระบบศาลไทย
ระบบศาลเดี่ยว
เป็นระบบที่ให้ศาลยุติธรรมมีอำนาจวินิจฉัยชี้ขาดข้อพิพาททุกประเภท ได้แก่ กลุ่มประเทศที่ใช้ระบบกฎหมายจารีตประเพณี (Common Law)
ระบบศาลคู่
เป็นระบบที่ให้ศาลยุติธรรมมีอำนาจวินิจฉัยชี้ขาดข้อพิพาทเฉพาะคดีแพ่งและคดีอาญาเท่านั้น ใช้ระบบศาลคู่ส่วนใหญ่เป็นประเทศที่ใช้ระบบกฎหมายลายลักษณ์อักษร (Civil Law)
ระบบศาลของประเทศไทย
เป็นระบบศาลคู่ แยกเป็นอิสระจากกัน มีผู้พิพากษาหรือตุลาการของแต่ละศาลโดยเฉพาะ
ศาลของประเทศไทย
ศาลรัฐธรรมนูญ
เป็นองค์กรตุลาการที่จัดตั้งขึ้นครั้งแรกตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
ศาลยุติธรรม
2.1 ศาลชั้นต้น
ศาลแพ่ง
ศาลอาญา
2.2 ศาลอุทธรณ์ (Appeal Court)
2.3 ศาลฎีกา (Supreme Court)
ศาลปกครอง (Administrative Court)
เป็นศาลที่จัดตั้งขึ้นใหม่ตามรัฐธรรมนูญแห่ง
ราชอาณาจักรไทย และมีการจัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง
ศาลทหาร
ศาลทหารมีอำนาจหน้าที่ในการพิจารณาพิพากษาคดีที่ทหารกองประจำการกระทำผิด ตามกฎหมายพระธรรมนูญศาลทหาร