Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลด้านจิตสังคม สําหรับผู้ประสบสาธารณภัย - Coggle Diagram
การพยาบาลด้านจิตสังคม
สําหรับผู้ประสบสาธารณภัย
ปฏิกิริยาของผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์รุนแรง
ด้านร่างกาย
อาการหน้ามืด วิงเวียนศีรษะ รู้สึกร้อน/หนาว รู้สึกตีบแน่นในลําคอ
ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย ไม่มีแรง ปวดท้องและคลื่นไส้อาเจียน
ความอยากอาหารลดลงหรือเพิ่มขึ้น อาการกําเริบหนักขึ้น ทําให้สุขภาพทรุดโทรมหนัก
ด้านปฏิกิริยาหรือการแสดงออก
นอนไม่หลับ หลับๆตื่นๆ ฝันร้าย
ตกใจง่าย ร้องไห้ไม่มีสาเหตุ เฉยเมย แยกตัวออกจากสังคม หวาดระแวง กวาดตามองไปมาบ่อยๆ
หันเข้าหาสรุ าของมึนเมาและยาเสพติดมากขึ้น
ด้านอารมณ์
ช็อค ไม่ยอมรับในสิ่งที่เห็น วิตกกังวล กลัว เศร้า โกรธ
ต้องการแก้แค้น ฉุนเฉียวง่าย โทษตัวเองและผู้อื่น อารมณ์แกว่งไปแกว่งมา คาดเดาไม่ได้
ด้านการรับรู้
สับสน มึนงงไม่มีสมาธิ มีปัญหาด้านความจํา มีปัญหาในการตัดสินใจ
ภาพทรงจําผ่านเข้ามาแบบวูบวาบ
อาการจะเกิดขึ้นและลดลงจนหายไปภายใน 1 เดือน ถ้าหากอาการยังคงอยู่ จําเป็นต้องพบเชี่ยวชาญทางด้านจิตใจ
ปฏิกิริยาทางจิตใจ
ที่เกิดขึ้นหลังเกิดเหตุการณ์วิกฤต
Shock & Denial
มึนงงสับสน หลงลืม จําอะไรไม่ได้ ไม่สามารถเชื่อมโยงความคิดการรับรู้สิ่งแวดล้อมเปลี่ยน
ปฏิเสธ ไม่ยอมรับ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีอารมณ์เศร้า โกรธรุนแรง ควบคุมตนเองไม่ได้
มีอาการทางกาย ใจสั่น มือสั่น ตัวสั่น หายใจถี่แรง
Anger
ตะโกน ด่ากระวนกระวาย เดินไปมาทําร้ายตนเองหรือขว้างของรอบตัว
กล่าวโทษแก่บุคคลอื่น พูดขู่อาฆาต ไม่ร่วมมือ แยกตัว
ในบางครั้งผู้ประสบเหตุการณ์ อาจมีอารมณ์โกรธ แต่ไม่แสดงออกอย่างเปิดเผย อาจสังเกตโดยน้ําเสียง และการกระทํา เช่น กํามือ ขบกราม เกร็ง ตาขวาง มือปากสั่น
Bargaining
พูดซ้ำๆ หรือพูดคาดคั้นในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง เพื่อให้ได้ในสิ่งที่ต้องการ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่สามารถตอบสนองให้ได้จริงในเวลานั้น
ไม่สามารถยอมรับความจริงที่เกิดขึ้นได้ อาจคาดหวังปาฏิหาริย์บนบาน ศาลกล่าว โดยแสดงออกในคําพูดทํานองของการหลอกตัวเอง
Depression
อารมณ์เศร้าเป็นอารมณ์ที่พบได้ง่าย เช่น การร้องไห้ เสียใจ ปากสั่น ไม่พูดจา หมดเรี่ยวแรง อาจมีอาการเป็นลม หรือ ยืนไม่ไหว
อาการเศร้ามักปรากฏร่วมกับการรู้สึกผิด และโทษตัวเอง
ปัญหาที่เกิดขึ้นในผู้ประสบภาวะวิกฤติ
ด้านจิตใจ
เกิดอาการหวาดกลัว หวาดผวา สถานที่เกิดเหตุการณ์หรือสิ่งเร้าที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ ส่งผลให้ไม่สามารถกลับไปใช้ชีวิตและทํางานเหมือนอย่างเดิมได้
เกิดปัญหาความเจ็บป่วยทางจิตเวช ได้แก่ โรค Acute traumatic Stress Disorder และโรค Posttraumatic StressDisorderโดยเฉพาะอาการ Flashbacks
อาจมีภาวะสับสน ว้าวุ่น ความคิดแปรปรวน เครียด มีความคิดอยากตาย สิ้นหวัง ท้อแท้ รู้สึกผิดมองตัวเองไร้ค่าที่ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองหรือญาติที่อยู่ในเหตุการณ์ได้ และอาจมีปัญหาโรคซึมเศร้า
ด้านร่างกาย
ร่างกายอ่อนแอ การพักผ่อนไม่เพียงพอ เนื่องจากมีอาการฝันร้ายกลางดึก ตื่นนอนกลางดึก หลับๆ ตื่นๆ
ด้านพฤติกรรม
ไม่สนใจดูแลตนเองและสิ่งแวดล้อมแยกตัวออกจากสังคมปฏิเสธการรับรู้เรื่องราวต่างๆ
ลักขโมยหรือก่ออาชญากรรมในผู้ที่รู้สึกว่าไม่ได้รับความยุติธรรม
การติดยาหรือสารเสพติดเพื่อเป็นหนทางในการแก้ปัญหาและต้องการหลีกเลี่ยงการเผชิญความรู้สึกในด้านลบของตนเอง
ระดับทีมช่วยเหลือเยียวยาจิตใจ
ผู้ประสบภาวะวิกฤต (MCATT)
ทีมระดับตําบล ประกอบด้วยผอ.รพ.สต.และ ผู้รับผิดชอบงานสุขภาพจิต รพ.สต. อสม. เจ้าหน้าที่มูลนิธิ ตัวแทนจาก อปท. แกนนําชุมชนและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
ทีมระดับอําเภอ ประกอบด้วยจิตแพทย์/แพทย์ พยาบาลที่รับผิดชอบงานสุขภาพจิตและจิตเวช นักจิตวิทยาคลินิก/นักจิตวิทยา/นักสังคมสงเคราะห์
เภสัชกร นักวิชาการสาธารณสุข และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
ทีมระดับจังหวัด ประกอบด้วยจิตแพทย์ พยาบาล จิตเวช นักจิตวิทยาคลินิก/นักจิตวิทยา
นักสังคมสงเคราะห์ นักวิชาการสาธารณสุข เภสัชกร และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
ทีมระดับกรมสุขภาพจิต ประกอบด้วย จิตแพทย์ พยาบาลจิตเวช นักจิตวิทยา คลินิก/นัก จิตวิทยา นักสังคมสงเคราะห์ นักวิชาการสาธารณสุข เภสัชกร และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
การช่วยเหลือเยียวยาจิตใจ
ผู้ประสบภาวะวิกฤตของทีม MCATT
ระยะเตรียมการ
เป็นระยะการเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับสถานการณ์วิกฤตต่างๆ อย่างทันท่วงที
เตรียมความพร้อมทั้งระดับบุคคล องค์กรและชุมชน การจัดเตรียมโครงสร้างการดําเนินงานช่วยเหลือ ด้านสุขภาพจิตผู้ประสบภาวะวิกฤต
แผนการดําเนินงานเพื่อรองรับสถานการณ์วิกฤต การจัดต้ังศูนย์อํานวยการช่วยเหลือด้านสุขภาพจิต
จัดเตรียมทีมเพื่อปฏิบัติงานให้การช่วยเหลือเยียวยาจิตใจผู้ประสบภาวะวิกฤต โดยจะมีการพัฒนาความรู้และทักษะของบุคลากรโดยการฝึกอบรมเกี่ยวกับการช่วยเหลือเยียวยาจิตใจผู้ประสบภาวะวิกฤต
ระยะวิกฤตและฉุกเฉิน
ระยะวิกฤต
(ภายใน72ชั่วโมงแรกหลังเกิดเหตุ)
จะมีการตื่นตัวทางสรีระและพฤติกรรมมีพลังอย่างมากเพื่อให้รอดชีวิต เกิดความเครียด หวาดผวา หวาดกลัว ช็อก วิตกกังวล สับสน
ผู1ประสบภาวะวิกฤตจะช่วยเหลือซึ่งกันและกัน มีผู้คนจํานวนมากเข้ามาให้การช่วยเหลือจะมุ้งให้ความช่วยเหลือเฉพาะหน้า เน้นการช่วยเหลือตามสภาพความเป็นจริงทั้งด้านร่างกาย ความต้องการพื้นฐาน
ต้องให้การปฐมพยาบาลด้านจิตใจแก่ผู้ประสบภาวะวิกฤต (PFA) และให้การช่วยเหลือที่ตรงตามความต้องการ
ระยะฉุกเฉิน
(72ชั่วโมง-2สัปดาห์)
ทีม MCATT เข้าพื้นที่ให้การช่วยเหลือผู้ประสบภาวะวิกฤตใน พื้นที่เสี่ยง
โดยลงพื้นที่ร่วมกับทีมให้การช่วยเหลือทางกาย
จัดกรองและค้นหากลุ่มเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพจิตและให้การปฐมพยาบาลด้านจิตใจ
สํารวจความต้องการช่วยเหลือทั้งด้านร่างกายและจิตใจและการให้การช่วยเหลือเยียวยา จิตใจ เน้นให้ผู้ประสบภาวะวิกฤต ระบายความรู้สึกให้มากที่สุด
กรณีพบความเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาสุขภาพจิต ให้จัดทําทะเบียนกลุ่มเสี่ยงและวางแผนการติดตามต่อเนื่อง
สรุปรายงานสถานการณ์เบื้องต้นพร้อมทะเบียนกลุ่มเสี่ยง
Psychological first Aid: PFA
ด้วยหลักการ EASE
Engagement
การสังเกตภาษาท่าทางและพฤติกรรม
Nonverbal ได้แก่ สีหน้า แววตา ท่าทาง การเคลื่อนไหวของร่างกาย
Verbal ได้แก่ พูดสับสน ฟังไม่รู้เรื่อง ด่าทอ ร้องขอความช่วยเหลือ พูดซ้ำไปซ้ำมา พูดวกวน
การสร้างสัมพันธภาพ
วิธีการเริ่มจากการที่ผู้ให้การช่วยเหลือควรมีท่าทีสงบนิ่งมีการแนะนํา ตัวเอง มีการมองหน้าสบตา รับฟังด้วยท่าทีที่สงบให้กําลังใจ ด้วยการพยักหน้า การสัมผัส
การแสดงออกของผู้ให้การช่วยเหลือควรเหมาะสมกับเหตุการณ์อารมณ์ความรู้สึกและสภาพสังคมวัฒนธรรมศาสนาของ ผู้ประสบเหตุการณ์วิกฤต
การสื่อสาร
ควรเริ่มพูดคุยเบื้องต้นเมื่อผู้ประสบเหตุการณ์วิกฤตมีความพร้อม
เน้นถึงความรู้สึกขณะนั้น เช่นถามว่า “ตอนนี้รู้สึกเป็นอยNางไรบ้าง” เพื่อให้พูดระบายความรู้สึก แต่ไม่ควรซักถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นอกจากผู้ประสบเหตุการณ์วิกฤตอยากเล่า
Assessment
ประเมินและตอบสนองความต้องการทางด้านร่างกาย
การประเมินสภาพจิตใจ
ประเมินความต้องการทางสังคม
Skills
การฝึกกําหนดลมหายใจ (Breathing exercise)
การสัมผัส (Touching skill)
ทักษะการ Grounding
การนวดสัมผัส และ การนวดกดจุดคลายเครียด
การลดความเจ็บปวดทางใจ
การเสริมสร้างทักษะ
การเรียนรู้การเสริมสร้าง Coping skills สามารถช่วยลดความกังวล ช่วยแก้ไขสถานการณ์และช่วยผู้ประสบเหตุการณ์วิกฤตให้ผ่านพ้นช่วงเวลาอัน เลวร้าย
Education
ตรวจสอบความต้องการ โดยไต่ถามถึงข้อมูลและตรวจสอบความต้องการช่วยเหลือที่จําเป็นและ เร่งด่วน
เติมเต็มความรู้ ให้ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับอาการที่เกิดขึ้นจากความเครียด และผลกระทบทาง จิตใจ ที่อาจเกิดขึ้น
ติตามต่อเนื่อง ร่วมกันวางแผนและหาแนวทางในการรับการช่วยเหลือ ต่างๆ เพิ่มเติม