Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ภาวะขาดออกซิเจนในทารกแรกเกิด - Coggle Diagram
ภาวะขาดออกซิเจนในทารกแรกเกิด
ทารกแรกเกิดไม่สามารภหายใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ออกซิเจนต่ำ คาร์บอนไดออกไซด์สูงเป็นกรดในเลือด
การวินิจฉัย
4.ผลLab
3.อาการและอาการแสดง
2.ตรวจร่างกาย ประเมิน APGAR
การเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อ
การตอบสนองเมื่อถูกกระตุ้น
RR สม่ำเสมอจนหยุดหายใจ
FHS
สีผิว
1.ประวัติการคลอด
อาการและอาการแสดง
2.ระยะคลอด
พบขี้เทาปนในน้ำคร่ำ
3.ระยะหลังคลอด
2.การเปลี่ยนแปลงระบบหัวใจหลอดเลือด
ขาดออกซิเจนระยะแรกเลือดจะไปเลี้ยงสมอง หัวใจต่อมหมวกไต เกิด gasping และ metabolic อุณหภูมิร่างกายต่ำ ความดันต่ำ
3.การการเปลี่ยนแปลงในระบบประสาท เกิด HIE
4.การเปลี่ยนแปลงระบบทางเดินอาหาร การสำลักขี้เทาเข้าปอด ท้องอืด NEC
5.น้ำตาลในเลือดต่ำ Ca K ในเลือดสูง เกิดชักเสียชีวิต
3.ระดับความรู้สึกตัวผิดปกติ
6.ระบบทางเดินปัสสาวะ
2.ชัก เห็นภายใน 12 - 24 ชั่วโมง
7.ผลLab
2.น้ำตาลในเลือด 30 mmHg
1.ค่า ABG ผิดปกติ คือ PaCo2 > 80 mmHg , PaO2 < 40 mmHg , pH < 7.1
3.Ca ต่ำกว่า 8 mg%
K ในเลือดสูง
1.สูญเสียกำลังกล้ามเนื้อ
1.การเปลี่ยนแปลงในปอด
ขาดออกซิเจนหลอดเลือดในปอดหดตัว ความดันสูงขึ้น เซลล์ปอดเสียไป ทารกคลอดก่อนกำหนด เกิด RDS คลอดครบกำหนดเกิด PPHN
1.ระยะตั้งครภ์/ก่อนคลอด
ทารกเคลื่อนไหวมากผิดปกติ ต่อมาน้อยลงกว่าปกติ FHS มากกว่า 160 ครั้ง/นาที ต่อมาช้าลง
พยาธิสภาพ
ทารกขาดออกซิเจนดูดซึมเข้าเลือดไม่ได้ออกซิเจนในเลือดจึงต้่ำ แรงดันในเลือดเท่ากับหน้อยกว่า 40 mmHg คั่งของคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งแรงดันมากกว่า 80 mmHg เกิดการเปลี่ยนแปลงคือ หายใจแบบ gasping 1 นาที RRไม่่สม่ำเสมอ หัวใจช้าลง ไม่แก้ไขทารกจะหยุดหายใจ เกิด primary apnea หากไม่ช่วยทารกจะพยายามหายใจใหม่ 4 - 5 นาที และหยุดหายใจถาวร ขาดออกซิเจนร่างกายจะเผาผลาญแบบไม่ใช้ออกซิเจนเกิด metabolic acidosis ถ้าไม่แก้ไขให้ถูกต้องภายใน 8 นาที ทารกจะเสียชีวิต
กลไกการเกิด
2.ไม่มีการแลกเปลี่ยนออกซิเจนที่รก
3.นำออกซิเจนสารอาหารจากมารดาไปทารกผ่านทางรกไม่เพียงพอ
1.การไหลเวียนทางสายสะดือขัดข้อง เลือดไหลเวียนลดลง
4.ปอดทารกขยายไม่เต็มที่ หลังคลอดการไหลเวียนเลือดเป็นแบบทารกยังอยู่ในครรภ์
การรักษา
4.การให้ออกซิเจนในทารกตัวเขียว หายใจลำบาก
5.การช่วยหายใจด้วยแรงดันบวก ข้อบ่งชี้คือ
1.มี gasping
2.FHS น้อยกว่า 100 ครั้ง
3.เขียวขณะให้อออกซิเจน 100 %
3.การกระตุ้นทารก ลูบบริเวณหลัง หน้าอก ดีดส้นเท้าทารก
6.การใส่ท่อหลอดลมมีข้อบ่งชี้คือ
2.ช่วยหายใจด้วย mask และ bag แล้วไม่ได้ผล
3.ต้องดูดสิ่งคัดหลั่งในหลอดลมคอมีขี้ปนเปื้อนน้ำคร่ำ
1.ต้องช่วยหายใจด้วยแรงดันบวกเวลานาน
4.ต้องนวดหัวใจ
5.ทารกมีไส้เลื่อนกะบังลม นน.ตัวน้อยกว่า 1,000 กรัม
2.ดูแลทางเดินหายใจให้โล่ง หลังศีรษะทารกคลอดใช้ลูกสูบยางแดงดูดสิ่งคัดหลั่งในปากก่อนแล้วดูดในจมูก
7.การนวดหัวใจ ข้อบ่งชี้คือ FHS น้อยกว่า 60 ครั้ง/นาที ขณะให้ออกซิเจน 100% นาน 30 s
1.การให้ความอบอุ่น เพื่อป้องกันไม่ให้สูญเสียความร้อน
8.การให้ยา
สารเพิ่มปริมาตร ใช้เมื่อทารกมีภาวะ hypovolemic
Narcan ใช้กับทารกที่ได้รับยากลุ่มยาเสพติดที่กดการหายใจภายใน 24 hr
Epineprine เมื่อให้ออกซิเจน 100 %และนวดใจนานเกิน 30 s FHS 60 ครั้ง/นาที
สรุปการรักษาจำแนกตามความรุนแรงของการขาดออกซิเจน
2.moderate asphyxia ให้ออกซิเจน 100 % ช่วยหายใจด้วย mash และ bag ดีขึ้นใส่ feeding tube ถ้าไม่ดีขึ้นหลังช่วยหายใจนาน 30 s ใส่ ET tube และนวดหัวใจ
3.severe asphyxia ช่วยหายใจทันทีหลังคลอดเสร็จ ใส่ ET tube ให้ออกซิเจน 100 % ผ่านbag ร่วมกับนวดหัวใจ ไม่ดีขึ้นรักษาด้วยยา
1.mild asphyxia ให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย ดูแลทางเดินหายใจให้โล่ง กระตุ้นหายใจ ให้ออกซิเจน
การพยาบาล
5.สังเกตุอาการขาดออกซิเจน
6.ดูแลให้รับการตรวจทางห้องปฏิบัติการและได้รับยาตามแผนการรักษา
4.บันทึกRR FHS หลังคลอด
7.ให้ได้รับสารอาหารและน้ำตามแผนการรักษา
3.เช็ดตัวทารกให้แห้งห่อตัวให้ความอบอุ่น
8.ดูแลความสะอาดของร่างกาย
2.ดูดสิ่งคัดหลั่งให้มากที่สุดก่อนคลอดลำตัว
9.ดูแลให้พักผ่อน
1.เตรียมทีมบุคลากร เครื่องมือ ในรายที่มารดาภาวะเสี่ยงหรือน่าสงสัยว่าเกิด asphyxia
10.ส่งเสริมสัมพันธภาพระหว่างมารดาและทารก