Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

การพยาบาลเด็กที่มีปัญหาเซลเจริญผิดปกติ, อ้างอิง Chu E, Devita VT Jr.…

- - - - T-cell lymphoblastic leukemia
      - B-cell lymphoblastic leukemia พบบ่อย
  - - - เด็กและผู้ใหญ
      - อายุ2-5 ปี
    - - พบได้ในผู้ใหญ่มากกว่าในเด็ก
      - พบในผู้ชายบ่อยกว่าผู้หญิง
    - - พบได้บ่อยในผู้ใหญ่
      - มีความชุกของโรคมากขึ้นตามอาย
    - - พบได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่
      - ผู้ป่วยเด็กประมาณ 80%
      - พบในเด็กอายุมากกว่า 4 ปี
  - - - ปัจจัยด้านพันธุกรรม
        
        เด็กที่เป็นดาวน์ซินโดรม
        
        ครอบครัวที่มีสมาชิกเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวเฉียบพลัน
        
        ฝาแฝดที่เป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวเฉียบพลันชนิด ALL
      - ปัจจัยทางด้านสิ่งแวดล้อม
        
        การมีประวัติได้รับสีไออนไนซ
        
        การมีประวัติได้รับยาเคมีบำบัด
        
        การสัมผัสสารเคมีที่เป็นพิษบางชนิด
        
        อาจเกิดจากการได้รับสารเคมีต่างๆ
- - - - มีไข้ หนาว สั่น
      - เบื่ออาหาร น้ าหนักลด
      - อ่อนเพลีย
      - ไอเรื้อรัง หายใจไม่สะดวก
      - ปวดศีรษะ
      - เหงื่อออกในเวลากลางคืน
    - - ซีด มีเลือดออกง่าย
      - อาการแน่นท้อง
      - อาหารไม่ย่อย
      - ท้องโต
- - - - เพื่อทำลายเซลล์ในเวลาอันสั้น
      - ระยะนี้ใช้เวลา4 – 6 สัปดาห์
      - มีอันตรายต่อเซลล์ปกติให้น้อยที่สุด
    - - เพื่อให้ยาทำลายเซลล์มะเร็งให้เหลือน้อยที่สุด
      - ระยะนี้จะใช้เวลาประมาณ 4 สัปดาห์
    - - เพื่อป้องกันไม่ให้โรคลุกลามเข้าสู่ระบบประสาทส่วนกลาง
      - โอกาสกลับเป็นโรคอีกครั้ง
      - มีจำนวนเกล็ดเลือดต่ำ
      - ตับม้ามโต
    - - เพื่อควบคุมและรักษาโรคอย่างถาวร
    - - Cyclophosphamide
        
        รักษามะเร็งเม็ดเลือดขาว
        
        ส่งผลทำให้เพิ่มจำนวนไม่ได้
      - Mercaptopurine(6-MP)
        
        รักษามะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดเฉียบพลัน
        
        ยับยั้งการสร้างกรดนิวคลีอิก
      - Methotrexate
        
        รักษามะเร็ง Acute leukemia
        
        มีฤทธิ์กดการเจริญเติบโตของเซลล์
      - Cytarabine(ARA-C)
        
        รักษามะเร็งชนิด Acute lymphoblasticleukemia (ALL)
        
        จะขัดขวางการสร้าง DNA
      - Mesna
        
        ป้องกันภาวะเลือดออก
      - Ondasetron(onsia)
        
        Bactrim
        
        ป้องกันการติดเชื้อฉวยโอกาส
        
        ภูมิต้านทานต่ำ
      - Ceftazidime(fortum)
        
        ป้องกันการติดเชื้อ
        
        มีไข้หลังได้รับยาเคมีบำบัด
      - Amikin
        
        ป้องกันการติดเชื้อ
        
        มีไข้หลังได้รับยาเคมีบำบัด
    - - ผลต่อระบบเลือด ท าให้ไขกระดูกผลิตเซลล์เม็ดเลือดต่างๆ ได้น้อยลง
        
        1.1 เม็ดเลือดแดง :RBCผู้ป่วยที่ได้รับยาเคมีบำบัดจะมีภาวะซีด(Anemia)
        
        1.2 เม็ดเลือดขาวต่ า(Leukopenia)
        
        แบ่งภาวะเม็ดเลือดขาวต่ำ (Leukopenia) เป็น 3 ระดับ
        
        เม็ดเลือดขาวต่ าเล็กน้อย ANC 1000-1500 เซลล์/ลบ.มม.
        
        เม็ดเลือดขาวต่ าปานกลาง ANC 500-1000 เซลล์/ลบ.มม.
        
        เม็ดเลือดขาวต่ ารุนแรง ANC ต่ ากว่า 500 เซลล์/ลบ.มม.
        
        1.3 เกร็ดเลือดต่ า (thrombocytopenia)
      - ผลต่อระบบทางเดินอาหาร
        
        อาการเบื่ออาหาร
        
        คลื่นไส้อาเจียน
        
        แผลในปากและคอ
        
        ปวดท้อง
        
        ท้องเดิน
        
        ท้องผูก
      - ผลต่อระบบผิวหนัง
        
        ทำให้ผมร่วง หลังจากได้ยาไปแล้ว 2-3 สัปดาห์
      - ระบบทางเดินปัสสาวะ
        
        ยาเคมีบ าบัดส่วนใหญ่จะถูกขับออกทางไต
      - ตับ
        
        ยาเคมีบำบัดส่วนใหญ่จะถูกย่อยสลายที่ตับ
    - - 1.การดูแลผู้ป่วยหลังได้รับยาเคมีบำบัดผ่านเข้าทางช่องไขสันหลัง
      - การดูแลป้องกันการเกิดแผลในปาก
      - 3 รับประทานอาหารที่สุกใหม่
      - 4.การดูแลปัญหาซีด
      - การดูแลป้องกันเลือดออกง่ายหยุดยาก