Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
เรื่อง อิเหนา ตอน ศึกกะหนังกุหนิง - Coggle Diagram
เรื่อง อิเหนา ตอน ศึกกะหนังกุหนิง
วิเคราะห์วรรณศิลป์
คุณค่าด้านวรรณศิลป์
การใช้ภาษาสละสลวยงดงาม มีการเล่นคำ เล่นสัมผัสพยัญชนะเพื่อให้เกิดความไพเราะ
มีการใช้ภาษาที่สละสลวยให้อารมณ์อันลึกซึ้งกินใจ อีกทั้งมีโวหารเปรียบเทียบให้เห็นภาพพจน์ให้เกิดความรู้สึกสะเทือนอารมณ์ ที่สำคัญยังแฝงด้วยข้อคิดที่มีคุณค่ายิ่งอีกมากมาย
คุณค่าด้านสังคม
2.เรืองบุญกรรม เช่น ตอนทีท้าวกะหมังกุหนิงกล่าววา่จะยกทัพไปรบทีเมือ งดาหา สุดแต่บุญกรรม ไม่ฟงคําทัดทานของโหร
1.เรืองฤกษ์ยาม เช่น โหรทํานายดวงชะตาและดูฤกษ์ยามใ หท้้าวกะหมังกุหนิงและวหิยาสะกํา
คุณค่าด้านเนื้อหา
เป็นเรื่องที่แสดงให้เห็นถึงความรักของพ่อที่มีต่อลูก รักและตามใจทุกอย่าง แม้นกระทั่งตัวตายก็ยอม
ฉากตอนศึกกะหมังกุหนิงจะปรากฎฉากรบที่ชัดเจน มีการตั้งค่าย การใช้อาวุธ และการต่อสู้ของตัวละครสำคัญ
ปมปัญหาในเรื่องเป็นเรื่องที่อาจเกิดได้ในชีวิตจริงและสมเหตุสมผล
วเิคราะหต์ัวละครที สําคัญ
ท้าว กุเรปน
กษัตรยิ์ผู้ครองกรุงกุเรปน มีมเหสี 5 องค์ มีน้องชาย 3 องค์ ครองเมืองดาหา กากลัง สิงหดัส่าหรี ลักษณะนิสัยของท้าวกุเรปน เปนคนถือยศศักดิ ไม่ไวห้น้าใคร เปนคนรกัเกียรติรกัวงศ์ตระกูล
ท้าว ดาหา
เปนน้องของท้าวกุเรปน ท้าวดาหามีโอรสและธดิากับประไหมสุหรี 2 องค์คือบุษบาหนึงหรดักับสียะตรา มีลักษณะนิสัยของท้าว ดาหา เปนผู้รกัษาคําสัตย์ เปนผู้มีความรอบคอบในการศึก
ท้าว กะหนังกุหนิง
ผู้ครองเมืองกะหมังกุหนิงมีน้องชาย 2 คนคือระตูปาหยงั กับ ระตูประหมันและมีโอรสช ือวหิยาสะกําท้า วกะหมังกุหนิงเปนคนทีรกัลูกมากและยอ มทําทุกอยา่งใหลู้ก
อเิหนา
เปนโอรสท้าวกุเรปน อเิหนาเปนชายรูปงามมีเสน่ห์ นิสัยเจ้าชู้มีความเชียวชาญในการใช้กรชิและ กระบีเปนอาวุธ
วหิยาสะกํา
เปนโอรสของท้าวกะหมังกุหนิง เปนหนุ่มรูปงาม ผิวพรรณผุดผ่องมีฝมือในการใช้ทวนเปนอา วุธจึงเปนทีสุดสวาทของพระบิดา พระมารดายิงนักแต่วหิยาสะกํามีจิตใจออ่นไ หวมาก
นาง บุษบา
ปนธดิาของท้าวดาหาและประไหมสุหรดีาหราวาตี แหง่ กรุงดาหาเมือตอนประสูติมีเหตุอศัจรรยค์ือ มีกลินหอมตลบอบอวลไปทัวทังวงั ดนตรี แตรสังข์ก็ดังขึนเองโดยไม่มีผู้บรรเลง ประสูติได้ไม่นาน ท้าวกุเรปนก็ขอตุนาหงนัใหก้ับอเิหนา บุษบาเปนหญิงทีงามลาเลิศกวา่นางใดในแผ่นดินชวากิริ ยามารยาทเรยีบรอ้ย คารมคมคาย เฉลียวฉลาดทันคนใจกวา้งและมีเหตุผล ววิาหก์ับอเิหนา โดยนางได้ตําแหน่งเปนประไหมสุหรฝีายซ้าย
ลักษณะคําประพัน ธ์
บทละครราํ เรือง อเิหนา ลักษณะคําประพันธ์ เปนกลอนบทละคร ซึงมีลักษณะบังคบเหมือนกลอนสีสุภาพ แต่ละวรรคมักจะขึนต้น ด้วยคําวา่ “เมือนัน” “บัดนัน” และ “มาจะกล่าวบทไป
ประวตัิความเปนมา
ของเรืองอเิหนา
อเิหนา เปนวรรณคดีทีมีมาตังแต่สมัยโบราณ ซึงชาวชวาได้แต่งขึนเอเฉลิมพระเกียรติแด่พระมหา กษตรยิ์ ชวาพระองค์นีทรงนําความเจรญิใหแ้ก่ชาวชวา
เนืองจากนิทานอเิหนาเปนเรืองราวทีได้รบัความ นิยมจากชาวชวาเปนอยา่งมาก เนือเรืองจึงปรากฏเปนหลายสํานวน และเมือได้ เข้ามาสู่ประเทศไทย
มีคํากล่าวสืบเนืองกันมาวา่พระราชิดาในสมเด็จพระเจ้าอยู่หวับรม โกศกับเจ้าฟาสังวาล คือ เจ้าฟากุณฑลและเจ้าฟามงกุฎ ได้ฟงนิทานอเิหนาจากนางกํานัลชาวมลายูทีได้มาจากเมืองปตตา นี พระราชธดิาทังสองพระองค์จึงมีพระราชธดิาจึงมีพระราชนิพนธข์ ึ น นิทานเรืองนีขึน เจ้าฟากุณฑลทรงนิพนธบ์ทละครเรืองของดาหลัง ส่วนเจ้าฟามงกุฎทรงนิพนธเ์ปนละครเรอืง อเิหนา แต่คนทัวไปมัก เรยีกบทพระราชนิพนธข์องทังสองพระองค์นีวา่ อเิหนาใหญ่ และอเิหนาเล็ก นิทานปนหยขีองไทยจึงมี ๒ สํานวนแต่นันมา
สมัยรตันโกสินทร์ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟาจุฬาโลกมหาราชกทร งพระราชนิพนธบ์ทละคร อเิหนาขึนโดยยงัคงเค้าโครงเรืองเดิม
ประวตัิของผู้แต่ง
อเิหนาเปนบทละครราชพระราชนิพนธใ์นพระบาทสมเด็จ พระพุทธเลิศหล้านภาลัยมหาราช รชักาลที๒
พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟาจุฬาโลกมหาราช ได้โปรดใหก้วชี่วยกันรวบรวมแต่งเติมเรืองดาหลงและอเิหนา ไว้ ดังที ปรากฏในบทนาของอเิหนาวา่ "แต่ตนเรืองตกหายพลดพรายไป" คงเหลือสมบูรณ์อยู่เฉพาะเรืองดาหลงหรอือเิหนาใหญ่
ได้รบัการยกยอ่งวา่เปนยอดของวรรณคดี และทรงได้รบัการเทิดพระเกียรติจากองค์การการศึกษาวทิยา ศาสตรแ์ละ วฒันธรรมแหง่สหประชาชาติ (UNESCO) ในฐานะบุคคลสําคัญของโลก
จุดมุ่งหมายในการแต่ง
แบ่งได้ 3 อยา่ง
๓ รกัษาไวเ้ปนมรดกของชาติสืบไป และเพือปองกัน การสูญหาย และ ดังปรากฏในบทนาวา่ “อนัอเิหนาเอามาทําเปนคํารอ้ง / สําหรบังานการฉลองกองกุศล ครงักรุงเก่าเจ้าสตรเีธอนิพนธ์ / แต่เรืองต้นตกหายพลัดพรายไป หากพระองค์ทรงพิภพปรารภเล่น / ใหร้ําเต้นเล่นละครคิดกลอนใหม่ เติมแต้มต่อติดประดิษฐ์ไว้ / บํารุงใจไพรฟ่าข้าแผ่นดิน
๒ มีจุดมุ่งหมายเพือรกัษาจารตีประเพณีของราชสํานัก ศิลปะการรา่ยราํและท่าทางเพลงทีใช้ประกอบและบทเจรจ ามีจังหวะนิมนวลไพเราะ เพือใหส้มกับเปนละครแบบฉบับส่วนละครนอก เปนละครทีสามัญชนเล่นกันเพือความสนกุสนาน ท่าราํและคํารอ้งเปนแบบ งา่ยๆไม่ประณีต เน้นความสนกุสนานเปนสําคัญ
๑ เพือใช้ในการแสดงละครใน ละครในเปนละครทีเล่นกันในวง ใช้ผ้หญิงแสดงล้วนๆ ท่าทางรา่ยราํงดงาม ออ่นช้อย เครืองแต่ง กายประดับตกแต่งอยา่งสวยงาม คํารอ้งและทํานองเพลงไพเราะ เดิมมีแต่ละครพืนเมืองของชาวบ้านทีเล่นกันอยู่นอกพร ะราชฐาน เรยีกวา่ ละครนอก ใช้ผ้แสดงเปนชายล้วน ครนัมีละครภายในพระราชฐานขึนมาจึงเรยีกช ือเปนคู่กั นวา่ละครนอกและละครใน โดยละคร ในกําหนดใหเ้ล่นเพียง 3 เรอืง คือ รามเกียรติ อุณรุท และอเิหนา