Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่ 4 พระราชบัญญัติวิชาชีพการพยาบาลและการพดุงครรภ์ พ.ศ.2558 …
บทที่ 4 พระราชบัญญัติวิชาชีพการพยาบาลและการพดุงครรภ์ พ.ศ.2558
และที่แก้ไขเพิ่มเติ่ม พ.ศ.2540
ข้อบังคับสภาการพยาบาล
หมวด ๑ บททั่วไป
ข้อ ๔
การเจ็บป่วยฉุกเฉิน
การเจ็บป่วยที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน จำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือทันที
การเจ็บป่วยวิกฤต
การเจ็บป่วยที่มีความรุนแรงถึงขี้นเสียชีวิต หรือพิการได้
หมวด ๒ การประกอบวิชาชีพการพยาบาล
ส่วนที่ ๒ การทําหัตถการ
ข้อ ๘
กระทำการพยาบาลโดยการทำหัตถการตามขอบเขต
การผ่าตัดเอาสิ่งแปลกปลอมออกในที่ไม่อันตราย โดยฉีดยาชาได้ทางผิวหนังเท่านั้น
การล้างตา
การทำแผล การตกแต่งบาดแผล การเย้บแผล การตัดไหม การฝ่าฝี
ข้อ ๙
ทำหัตถการได้ แต่ผ่านการอบรมหลักสูตรที่สภาการพยาบาลประกาศ
การผ่าตัดตาปลา
การเลาะก้อนใต้ผิวหนัง
การฝังและถอดยาคุม
การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก โดย VIP
การใส่ห่วงและถอดห่วง
การจี้ปากมดลูกด้วยความเย็น
ส่วนที่ ๓ การรักษาโรคเบื้องต้น
ข้อ ๑๓
ถ้าจําเป็นต้องใช้ยาให้ใช้ยาได้ตามคู่มือการใช้ยาที่สภาการพยาบาลกําหนด
ข้อ ๑๑
รับวุฒิบัตรแสดงความรู้ความชํานาญเฉพาะทางการพยาบาลและการผดุงครรภ์ สาขาเวชปฏิบัติชุมชน กระทําการประกอบวิชาชีพการพยาบาลตามข้อกําหนดในการรักษาโรคเบื้องต้น
ข้อ ๑๔
ตามข้อ ๑๒ จะให้ภูมิคุ้มกันโรคต้องปฏิบัติตามแนวทางการให้ภูมิคุ้มกันโรคที่กระทรวง
ข้อ ๑๐
ให้การรักษาโรคเบื้องต้น และการใหภูมิคุ้มกันโรคได้รับการศึกษา หรือขึ้นทะเบียนเป็นผู้ผ่านการอมรมหลักสูตรการพยาบาลทางสาขาเวชปฎิบัติทั่วไป
ข้อ ๑๕
ตามข้อ ๑๒ จะต้องบันทึกรายงานเกี่ยวกับประวัติของผู้ป่วย หรือผู้รับบริการ อาการ และการเจ็บป่วยโรค การให้การรักษาโรค หรือการให้การบริการตามความเป็นจริง ตามแบบของสภาการพยาบาล และต้องเก็บบันทึกรายงานไว้เป็นหลักฐาน
ข้อ ๑๒
ตรวจวินิจฉัยและบําบัดรักษาโรค ตามมาตรฐานของการประกอบวิชาชีพการพยาบาลโดยเคร่งครัด
ให้ผู้ป่วยไปรับการบําบัดรักษาจากผู้ประกอบวิชาชีพอื่น เมื่อปรากฏตรวจพบหรือเห็นว่าอาการไม่บรรเทา อาการรุนแรงเพิ่มขึ้น มีโรค หรือภาวะแทรกซ้อนเป็นโรคติดต่อที่ต้องแจ้งความตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ
ส่วนที่ ๑ การพยาบาล
ข้อ ๖
จะให้ยาผู้ป่วยได้เฉพาะที่แพทย์เป็นผู้ระบุไว้ในแผนการรักษา หรือเป็นการปฐมพยาบาล
ข้อ ๗
ผู้ประกอบวิชาชีพยาบาลชั้นหนึ่ง
ห้ามให้ยาหรือสารละลายทางช่องรอบเยื่อบุไขสันหลัง
ห้ามให้ยาหรือสารละลายทางหลอดเลือดดำ
ข้อ ๕
ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลชั้นสอง ให้การพยาบาลที่ไม่ยุ่งยากซับซ้อนตามแผนการรักษา
หมวด ๓ การประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์
ข้อ ๑๘
ห้ามให้ยาหรือสารละลายทางช่องรอบเยื่อบุไขสันหลัง
ห้ามให้ยาหรือสารละลายทางหลอดเลือดดำ
ข้อ ๑๙
จะทําการผดุงครรภ์ได้แต่เฉพาะรายที่มีครรภ์ปกติ และคลอดอย่างปกติ
ข้อ ๑๗
จะทําการผดุงครรภ์ได้แต่เฉพาะรายที่มีครรภ์ปกติ และคลอดอย่างปกติ
ข้อ ๒๐
ใช้ยาทําลายและป้องกันการติดเชื้อสําหรับหยอดตา หรือป้ายตาทารก เมื่อคลอดแล้วทันที
ข้อ ๑๖
ยาผู้ป่วยได้เฉพาะที่แพทย์ ซึ่งเป็นผู้บําบัดโรคได้ระบุไว้ในแผนการรักษาพยาบาล หรือเมื่อเป็นการปฐมพยาบาล
ข้อ ๒๑
จะต้องบันทึกการรับฝากครรภ์และการทําคลอดทุกรายในสมุดบันทึกการผดุงครรภ์ตามแบบของสภาการพยาบาล และต้องรักษาสมุดนั้นไว้เป็นหลักฐาน
ข้อบังคับสภาการพยาบาลว่าด้วยข้อจํากดและเงื่อนไขในการประกอบวิชาชพการพยาบาลและการผดุงครรภ์
(ฉบับที่3) พ.ศ. ๒๕๕๒
ข้อ ๓
เก็บตัวอย่างเลือด เพื่อการส่งตรวจ
การตรวจวิเคราะห์หรือการวินิจฉัยโรค
การวางแผนบำบัดหรือรักษาโรค
การประเมินภาวะสุขภาพของบุคคล
การบริจาคโลหิต
ข้อ ๔
การเจาะเก็บตัวอย่างเลือดต้องเป็นแนวปฏิบัติทางการพยาบาล เว้นแต่กรณีการให้บริการแก่ผู้รับบริการ
รายที่ตนเองเป็นผู้ดูแลในลักษณะการตรวจ ณ จุดดูแลผู้รับบริการ
ข้อ ๒
ข้อบังคับนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ ๕
การเจาะเก็บตัวอย่างเลือดจากเส้นเลือดฝอยปลายนิ้วหรือจากหลอดเลือดดำส่วนปลาย
ข้อ ๑
ข้อบังคับสภาการพยาบาลว่าด้วยข้อจํากดและเงื่อนไขในการประกอบวิชาชพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ (ฉบับที่๓) พ.ศ. ๒๕๕๒
ข้อ ๖
การเก็บตัวอย่างเลือดจากหลอดเลือดแดงหรือหลอดเลือดดำส่วนกลาง ตามแผนการรักษา
ข้อบังคับสภาการพยาบาลว่าด้วยการรักษาจริยธรรมแห่งวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ พ.ศ. ๒๕๕๐
ข้อ ๑
ข้อบังคับสภาการพยาบาลว่าด้วยการรักษาจริยธรรมแห่งวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ พ.ศ. ๒๕๕๐
ข้อ ๒
ข้อบังคับนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
หมวด ๑ บททั่วไป
ข้อ ๓
ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล ผู้ประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์และผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์
ข้อ ๔
ย่อมดํารงตนให้สมควรในสังคมโดยธรรม และเคารพต่อกฎหมายของบ้านเมือง
ข้อ ๕
ย่อมประกอบวิชาชีพด้วยเจตนาดี โดยไม่คํานึงถึงฐานะ เชื้อชาติ สัญชาติ ศาสนา สังคม หรือลัทธิการเมือง
ข้อ ๖
ย่อมไม่ประพฤติหรือกระทําการใด ๆ อันอาจเป็นเหตุให้เสื่อมเสียเกียรติศักดิ์แห่งวิชาชีพ
หมวด ๒
การประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์
ส่วนที่ ๑ การปฏิบัติต่อผู้ป่วยหรือผู้ใช่บริการ
ข้อ ๑๓
ไม่สั่งใช้หรือสนับสนุนการใช้ยาตําราลับ
ข้อ ๑๔
ไม่ออกใบรับรองอันเป็นเท็จโดยเจตนา หรือให้ความเห็น โดยไม่สุจริตในเรื่องใด ๆ อันเกี่ยวกับวิชาชีพของตน
ข้อ ๑๒
คำนึงถึงความปลอดภัย และสิ้้นเปลืองของผู้ใช้บริการ
ข้อ ๑๕
ไม่เปิดเผยความลับของผู้ใช้บริการ เว้นได้รับอนุญาต
ข้อ ๑๑
ไม่หลอกลวงผู้ป่วยหรือผู้ใช้บริการ ให้หลงเข้าใจผิด เพื่อประโยชน์ของตน
ข้อ ๑๖
ไม่ปฏิเสธการช่วยเหลือผู้ที่อยู่ในระยะอันตรายจากการเจ็บป่วยเมื่อได้ รับคําขอร้องและตนอยู่ในฐานะที่จะช่วยได้
ข้อ ๑๗
ไม่ประกอบการในทางสาธารณะ หรือสถานที่สาธารณะเว้นแต่ในเหตุฉุกเฉินในการปฐมพยาบาล
ข้อ ๑๘
ไม่ใช้หรือสนับสนุนให้มีการประกอบวิชาชีพการพยาบาล และการผดุงครรภ์หรือประกอบโรคศิลป์โดยผิดกฎหมาย
ข้อ ๑๐
ต้องปฏิบัติต่อผู้ป่วยหรือผู้ใช้บริการโดยสุภาพและปราศจาก การบังคับขู่เข็ญ
ข้อ ๙
ต้องไม่เรียกร้องขอรับผลประโยชน์เป็นค่าตอบแทน
ข้อ ๘
ต้องไม่จูงใจ หรือชักชวนผู้ใดให้มาใช้บริการการ
ข้อ ๗
ต้องรักษามาตรฐานของวิชาชีพ ไม่เรียกร้องสินจ้างงรางวัลพิเศษนอกเหนือจากค่าบริการที่ควรได้รับตามปกติ
ส่วนที่ ๒ การปฏิบัติต่อผู้ร่วมวิชาชีพ
ข้อ ๒๐
ต้องไม่ทับถมให้ร้ายหรือกลั่นแกล้งกัน
ข้อ ๒๑
ต้องไม่ชักจูงผู้ป่วยหรือผู้ใช้บริการผู้อื่นมาเป็นของตน
ข้อ ๑๙
พึงยกย่องให้เกียรติและเคารพในศักดิ์ศรีซึ่งกันและกัน
ส่วนที่ ๓ การปฏิบัติต่อผู้ร่วมงาน
ข้อ ๒๓
ต้องไม่ทับถมให้ร้าย หรือกลั่นแกล้งผู้ร่วมงาน
ข้อ ๒๔
พึงส่งเสริมและสนับสนุนการประกอบวิชาชีพของผู้ร่วมงาน
ข้อ ๒๒
ยกย่องให้เกียรติและเคารพในศักดิ์ศรีของผู้ร่วมงาน
ส่วนที่ ๔ การศึกษาวิจัยและการทดลองต่อมนุษย์
ข้อ ๒๕
ต้องรับความยินยอมจากผู้ถูกทดลอง และต้องพร้อมที่จะป้องกันผู้ถูกทดลองจากอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากการทดลองนั้น ๆ
ข้อ ๒๖
ต้องปฏิบัติต่อผู้ถูกทดลองเช่นเกี่ยวกับการปฏิบัติต่อผู้ป่วยหรือ ผู้ใช้บรการในการประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์
ข้อ ๒๗
ต้องรับผิดชอบต่ออันตรายหรือผลเสียหายเนื่องจากการทดลองที่บังเกิดต่อผู้ถูกทดลอง มิใช่ความผิดของผู้ถูกทดลอง
ข้อ ๒๘
สามารถทําการวิจัยได้เฉพาะเมื่อโครงการศึกษาวิจัยหรือ การทดลองดังกล่าว ได้รับการพิจารณาเห็นชอบจากคณะกรรมการด้านจริยธรรมท
ข้อ ๒๙
จะต้องปฏิบัติตามแนวทางจริยธรรมของการศึกษาวิจัยและการทดลอง ในมนุษย์และจรรยาบรรณของนักวิจัย
หมวด ๓
การโฆษณาการประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์
ข้อ ๓๑
การแสดงผลงานในหน้าที่หรือในการบําเพ็ญประโยชน์สาธารณะ
การแสดงผลงานในวารสารทางวิชาการหรือในการประชุมวิชาการ
การแสดงผลงานหรือความก้าวหน้าทางวิชาการเพื่อการศึกษาของมวลชน
ข้อ ๓๓
แจ้งความการประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ เฉพาะการแสดงที่อยู่ ที่ตั้งสำนักงาน หมายเลขโทรศัพท์
ข้อ ๓๐
ต้องไม่โฆษณา ใช้ จ้าง หรือยินยอมให้ผู้ อื่นโฆษณาการประกอบ วิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ความรู้ ความชํานาญในการประกอบวิชาชีพของตนหรือของผู้อื่น
ข้อ ๓๔
ผู้ทําการเผยแพร่หรือตอบปัญหาทางสื่อมวลชน
ข้อ ๓๒
แสดงข้อความเกี่ยวกับการประกอบวิชาชีพการพยาบาลและ การผดุงครรภ์ของตนที่สถานที่ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์
ข้อ ๓๕
ต้องระมัดระวังตามวิสัยที่พึงมีมิให้การประกอบวิชาชีพการพยาบาล และการผดุงครรภ์ของตนแพร่ออกไปในสื่อมวลชน
ข้อบังคับสภาการพยาบาลว่าด้วยข้อจํากดและเงื่อนไขในการประกอบวิชาชพการพยาบาลและการผดุงครรภ์
(ฉบับที่๒) พ.ศ. ๒๕๕๓
ข้อ ๔
รับรองและได้ขึ้นทะเบียนเป็นพยาบาลเวชปฏิบัติทางตา
การเขี่ยสิ่งแปลกปลอมออกจากตา
การวัดค่าสายตาผิดปกติ (Refraction) ด้วยเครื่องมือ retinoscope
การขูดหาเชื้อจากแผลกระจกตา
การวัดกำลังเลนส์แก้วตาเทียม
การล้างท่อน้ําตา
การเจาะตากุ้งยิง
ข้อ ๕
การตรวจประเมินสภาพผู้ป่วยและสายตาโดยการซักประวัติ ตรวจคัดกรองผู้ป่วยโรคทางตา
การตรวจประเมินสภาพตาและสายตาการบันทึกผลการตรวจและการแปลผล
ตรวจวินิจฉัยและบําบัดรักษาโรคทางตาตามมาตรฐานของการประกอบวิชาชีพ การพยาบาลโดยเคร่งครัด
การตรวจประเมินภาวะฉุกเฉินทางตาที่ต้องให้การช่วยเหลือเบื้องต้นและส่งตอ
ข้อ ๓
ผ่านการอบรมหลักสูตรพยาบาลเวชปฏิบัติทางตาที่สภาการพยาบาลให้การรับรองและได้ขึ้นทะเบียนเป็นพยาบาลเวชปฏิบัติทางตากับสภาการพยาบาลให้กระทําการพยาบาลการคัดกรองผู้ป่วยการเจ็บป่วยทางตา
ข้อ ๖
ส่งต่อผู้ป่วยไปรับการบําบัดรักษา
ข้อ ๒
ข้อบังคับนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ ๗
ที่มีความจําเป็นต้องใช้ยา ให้ใช้ยาได้ตามที่สภาการพยาบาลกําหนด
ข้อ ๑
ข้อบังคับสภาการพยาบาลว่าด้วยข้อจํากดและเงื่อนไขในการประกอบวิชาชพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ (ฉบับที่๒) พ.ศ. ๒๕๕๓
ข้อ ๘
เขียนบันทึกรายงานเกี่ยวกับประวัติของผู้ป่วยหรือผู้รับบริการอาการและการเจ็บป่วย โรคและการให้การรักษาโรค หรือการให้บริการตามความเป็นจริงและต้องเก็บบันทึกรายงานไว้เป็นหลักฐาน
พระราชบัญญัติวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์
หมวด ๕ การควบคุมการประกอบวิชาชีพ
มาตรา ๒๙ การขึ้นทะเบียนและออกใบอนุญาตให้แบ่งเป็นสามประเภท คือ ผู้ประกอบวชิาชีพการพยาบาล ผู้ประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์และผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์
มาตรา ๒๘ การขึ้นทะเบียน การออกใบอนุญาต การต่ออายุใบอนุญาตต้องเป็นไปตามข้อบังคับ
มาตรา ๒๗ ห้ามมิให้ผู้ใดซึ่งมิได้เป็นผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลกระทำการพยาบาลหรือการผดุงครรภ์ หรือแสดงด้วยวิธีใด ๆ ให้ผู้อื่นเข้าใจว่าตนเป็นผู้มีสิทธิประกอบวิชาชีพดังกล่าว
มาตรา ๓๐ ผู้มีสิทธิขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวชิาชีพตามมาตรา ๒๙ ต้องมีความรู้
มาตรา ๓๒ ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล การผดุงครรภ์ หรือการพยาบาลและการผดุงครรภ์ต้องรักษาจริยธรรมแห่งวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์
มาตรา ๓๑ ผู้ขอขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาตตอ้งเป็นสมาชิกสามัญ แห่งสภาการพยาบาลและมีคุณสมบัติอื่นตามที่กำหนดไว้ในข้อบังคับสภาการพยาบาล
มาตรา ๓๓ บุคคลผู้ซึ่งได้รับความเสียหายเพราะผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล ประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์มีสิทธิกล่าวหาผูก้่อให้เกิดความเสียหายนั้น โดยทำเรื่องยื่นต่อสภาการพยาบาล
มาตรา ๓๘ ในการปฏิบัติหน้าที่ของคณะอนุกรรมการจริยธรรมและของคณะอนุกรรมการสอบสวนตามพระราชบัญญัตินี้
มาตรา ๓๕ ให้คณะกรรมการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการจริยธรรมจากสมาชิกสามัญ ประกอบด้วยประธานคนหนึ่ง และอนุกรรมการมีจำนวนรวมกันไม่น้อยกว่าสามคน
มาตรา ๓๗ ให้คณะกรรมการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการสอบสวนจากสมาชิกสามัญประกอบด้วยประธานคนหนึ่ง และอนุกรรมการมีจำนวนรวมกันไม่น้อยกว่าสามคนมีหน้าที่สอบสวน
มาตรา ๓๖ เมื่อคณะกรรมการได้รับรายงานและความเห็นของคณะอนุกรรมการจริยธรรมแล้วให้คณะกรรมการพิจารณารายงานและความเห็นดังกล่าว
หมวด 1 สภาการพยาบาล
มาตรา ๑๐ ให้รัฐมนตรีดำรงตำแหน่งสภานายกพิเศษแห่งสภาการพยาบาลและมีอำนาจหน้าที่ตามพระราชบัญญัติ
มาตรา ๗ ควบคุมความประพฤติของผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล ส่งเสริมการศึกษา ความสามัคคี ช่วยเหลือแนะนำ ให้คำปรึกษา ผดุงความเป็นธรรม
มาตรา ๙ มีรายได้มาจากเงินอุดหนุนของประเทศ ค่าจดทะเบียนหรือต่อทะเบียนของสมาชิกสภา
มาตรา ๖ ให้มีสภาการพยาบาล มีวัตถุประสงค์และอำนาจหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้ให้สภาการพยาบาลเป็นนิติบุคคล
มาตรา ๘ มีอำนาจรับขึ้นทะเบียนและออกใบอนุญาตให้แก่ผู้ที่สอบผ่าน หรือเพิกถอนใบอนุญาตหากพยาบาลทำผิด
หมวด ๒ สมาชิก
มาตรา ๑๑ สภาการพยาบาลประกอบด้วยสมาชิกสองประเภท คือ สมาชิกสามัญ และสมาชิกกิตติมศักดิ์
มาตรา ๑๒ สิทธิและหน้าที่ของสมาชิกสามัญ คือ ขอขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล
มาตรา ๑๓ สมาชิกภาพของสมาชิกสามัญ สิ้นสุดลง เมื่อตาย ลาออก หรือขาดคุณสมบัติ
หมวด ๓ คณะกรรมการ
มาตรา ๑๙ ให้กรรมการซึ่งได้รับแต่งตั้งและรับเลือกตั้งมีวาระอยู่ในตำแหน่งคราวละสี่ปี
มาตรา ๑๘ กรรมการต้องมีคุณสมบัติ คือ ประกอบวิชาชีพการพยาบาล ไม่เคยถูกพักใช้ใบประกอบวิชาชีพ ไม่เคยเป็นบุคคลล้มละลาย
มาตรา ๑๗ การเลือกตั้งกรรมการตามมาตรา ๑๔ การแต่งตั้งกรรมการที่ปรึกษาตามมาตรา ๑๕ และการเลือกกรรมการเพื่อดำรงตำแหน่งต่างๆ
มาตรา ๒๒ ให้คณะกรรมการบริหาร แต่งตั้ง และออกข้อสอบสภา
มาตรา ๒๐ นอกจากการพ้นจากตำแหน่งตามวาระเมื่อ สิ้นสุดสภาพ ขาดคุณสมบัติ และออก
มาตรา ๒๑ ในกรณีตำแหน่งกรรมการซึ่งได้รับเลือกตั้งว่างลงไม่เกินกึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมการดังกล่าวทั้งหมด
มาตรา ๑๖ ให้คณะกรรมการเลือกกรรมการเพื่อดำรงตำแหน่งนายกสภาการพยาบาล อุปนายกสภาการพยาบาลคนที่หนึ่ง และอุปนายกสภาการพยาบาลคนที่สอง ตำแหน่งละหนึ่งคน
มาตรา ๑๔ กำหนดให้มีคณะกรรมการสภาการพยาบาล
มาตรา ๒๓ นายกสภาการพยาบาล อุปนายกสภาการพยาบาลคนที่หนึ่ง อุปนายกสภาการพยาบาลคนที่สอง เลขาธิการ รองเลขาธิการ ประชาสัมพันธ์และเหรัญญิก
มาตรา ๑๕ คณะกรรมการอาจแต่งตั้งสมาชิกกิตติมศักดิ์หรือสมาชิกสามัญเป็นกรรมการที่ปรึกษาได้
หมวด ๔ การดำเนินกิจการของคณะกรรมการ
มาตรา ๒๖ มติของที่ประชุมคณะกรรมการในเรื่องการออกข้อบังคับ การกำหนดงบประมาณ การให้สมาชิกพ้นสภาพการเป็นสมาชิก และการวินิจฉัยชี้ขาด ต้องผ่านความเห็นชอบจากสภานายกพิเศษก่อน
มาตรา ๒๕ สภานายกพิเศษจะเข้าฟังการประชุมชี้แจงแสดงความเห็นในที่ประชุมคณะกรรมการ หรือจะส่งความเห็นเป็นหนังสือไปยังคณะกรรมการในเรื่องใดๆ ก็ได้
มาตรา ๒๔ การประชุมคณะกรรมการต้องมีกรรมการมาประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมการทั้งหมด
หมวด ๕ ทวิ พนักงานเจ้าหน้าที่
มาตรา ๔๕ จัตวา ในการปฏิบัติหน้าที่ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่เป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา ๔๕ ตรี ในการปฏิบัติหน้าที่พนักงานเจ้าหน้าที่ต้องแสดงบัตรประจำตัวพนักงานเจ้าหน้าที่แก่บุคคลที่เกี่ยวข้อง
มาตรา ๔๕ เบญจ ในการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่ให้ผู้รับผิดชอบหรือปฏิบัติหน้าที่ในสถานที่ตามมาตรา ๔๕ ทวิ อำนวยความสะดวกในการปฏิบัติงานของพนักงานเจ้าหน้าที่
หมวด ๖ บทกำหนดโทษ
มาตรา ๔๘ ผู้ใดไม่มาให้ถ้อยคา หรือไม่ส่งเอกสารหรือวัตถุใดๆ ตามที่เรียกหรือแจ้งให้สั่งตามมาตรา ๓๘ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท
มาตรา ๔๗ ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา ๓๑ วรรคสามต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท
มาตรา ๔๖ ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา ๒๗ หรือมาตรา ๔๓ ต้องระวางโทษจำ คุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำ ทั้งปรับ