Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

การพยาบาลเด็กที่มีปัญหาเซลล์ผิดปกติ, นางสาวศรัญญา กันธวัง เลขที่ 28…

- - - - พบได้บ่อยที่สุดในเด็กอายุ2-5 ปี
    - - พบในผู้ใหญ่มากกว่าในเด็ก และพบในผู้ชายบ่อยกว่าผู้หญิง
    - - พบได้บ่อยในผู้ใหญ่
    - - พบในผู้ป่วยเด็กนั้นประมาณ 80%ในเด็กอายุมากกว่า 4 ปี
  - - - เป็นดาวน์ซินโดรมมีความเสี่ยงต่อการเกิดALL และ AML มากกว่าคนปกติ
      - ครอบครัวเป็น ALL มีโอกาสเป็นโรคนี้ได้สูงกว่าคนทั่วไป 2-4 เท่า
      - ในฝาแฝดที่เป็น ALL จะท าให้ฝาแฝดอีกคนหนึ่งมีโอกาสเป็น 25%
    - - การมีประวัติได้รับสีไออนไนซ์
      - มีประวัติได้รับยาเคมีบำบัดในการรักษาโรคมะเร็งชนิดอื่น
      - การสัมผัสสารเคมีที่เป็นพิษบางชนิด
      - ควันบุหรี่และการสูบบุหรี่
- - - - ซีด มีเลือดออกง่าย
      - ในรายที่เป็นภายในช่องท้องจะมีอาการแน่นท้อง หรืออาหารไม่ย่อย
    - - จะคลำพบก้อนที่บริเวณต่าง ๆ เช่น คอ รักแร้
      - เจ็บที่ก้อน
      - มีไข้ หนาว สั่น เหงื่อออกมากตอนกลางคืน
      - เบื่ออาหาร น้ำหนักลด
      - ไอเรื้อรัง หายใจไม่สะดวก ต่อทอนซิลโต
- - - - รักษามะเร็งเม็ดเลือดขาว
      - ส่งผลทำให้เพิ่มจำนวนไม่ได้
    - - รักษามะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดเฉียบพลัน
      - ยับยั้งการสร้างกรดนิวคลีอิก
    - - รักษามะเร็ง Acute leukemia
      - ยับยั้งการสร้างDNA และRNA และมีฤทธิ์กดการเจริญเติบโตของเซลล์
    - - รักษามะเร็งชนิด ALL ขัดขวางการสร้าง DNA
    - - ป้องกันภาวะเลือดออกในผู้ป่วยกระเพาะปัสสาวะอักเสบที่มีสาเหตุมาจากยารักษามะเร็งได้แก่ Cyclophosphamide
    - - ป้องกันอาการคลื่นไส้อาเจียน
      - ผู้ป่วยมะเร็งที่ต้องเข้ารับการรักษาด้วยยาเคมีบำบัด
    - - ป้องกันการติดเชื้อฉวยโอกาส
    - - ป้องกันการติดเชื้อเนื่องจากมีไข้
    - - ป้องกันการติดเชื้อเนื่องจากมีไข้หลังได้รับยาเคมีบำบัด
  - - - หลังให้ยาต้องจัดให้ผู้ป่วยนอนราบ 6-8 ชั่วโมง
      - เพื่อป้องกันการเกิด Herniation ของสมอง
      - นำน้ำไขสันหลังออกเท่ากับจำนวนยาที่ใส่เข้าไป โดยนับหยดน้ำไขสันหลัง 15 หยดต่อ 1 ซีซี
    - - ให้บ้วนปากด้วย 0.9%NSS อย่างต่อเนื่อง
      - จะไม่แปรงฟันถ้าเกร็ดเลือดต่ำกว่า 50,000 cell/cu.mm
      - ต้องใช้แปรงสีฟันที่อ่อนนุ่ม
      - Xylocaine Viscus อมไว้ ประมาณ 2-3 นาทีและบ้วนทิ้งไม่ควรกลืนเนื่องจากมียาชาเป็นส่วนผสม
    - - การให้เลือดงต้องดูแลผู้ป่วยขณะให้เลือด โดยการติดตามประเมิน V/S อย่างต่อเนื่อง ทุก 15 นาที 4 ครั้ง หลังจากนั้นทุก ½ ชั่วโมงจนกว่าจะ Stable
  - - - ภาวะโพแทสเซียมในเลือดสูง พบในช่วง 12-24 ชั่วโมงหลังการได้รับการรักษาโรคมะเร็ง
      - ภาวะฟอสเฟตในเลือดสูง มักพบในช่วง 24-48 ชั่วโมงหลังการได้รับการรักษาโรคมะเร็ง
      - ภาวะกรดยูริกในเลือดสูง มักพบในช่วง 48 – 72 ชั่วโมงหลังการได้รับการรักษาโรคมะเร็ง
  - - - เม็ดเลือดแดง : RBC ผู้ป่วยที่ได้รับยาเคมีบำบัดจะมีภาวะซีด
      - เม็ดเลือดขาวต่ำ
      - เกร็ดเลือดต่ำ
        
        ในรายที่มีต่ำกว่า 50,000เซลล์/ลบ.มม.จะมีความเสี่ยงต่อการเกิดอาการเลือดออกง่ายหยุดยาก
    - - เบื่ออาหาร คลื่นไส้อาเจียน แผลในปากและคอ ปวดท้อง
    - - ผมร่วง หลังจากได้ยาไปแล้ว 2-3 สัปดาห์
    - - การตกตะกอนของยาเคมีบำบัดทำให้กระเพาะปัสสาวะอักเสบ
    - - ตัวตาเหลือง , อ่อนเพลีย, ปวดชายโครงด้านขวา, ท้องโตขึ้นหรือเท้าบวม