Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
กลุ่มโรคจิตเภท(Schizophrenia spectrum), images, ดาวน์โหลด, ดาวน์โหลด (1),…
กลุ่มโรคจิตเภท(Schizophrenia spectrum)
ความหมาย:ความผิดปกติของพฤติกรรมที่แสดงออกมาเป็นอาการโรคจิต (psychosis)ในทาง
จิตเวชศาสตร์แล้ว “อาการโรคจิต” นั้นจะหมายถึงอาการ ด้านใดด้านหนึ่งจาก 5 ด้าน ดังต่อไปนี้
อาการหลงผิด (Delusion)
ความเชื่อใด ๆ ที่ไม่สามารถสั่นคลอนได้ แม้ว่าจะมีหลักฐาน
อย่างชัดเจนที่คัดค้าน ความเชื่อนั้น ๆ โดยอาการหลงผิดที่พบได้บ่อยมักมีเนื้อหาในลักษณะดังต่อไปนี้
Jealousy delusions
หมายถึง อาการหลงผิดที่เชื่อว่าคู่ครองนอกใจ
Somatic delusions
หมายถึง อาการหลงผิดที่มีเนื้อหาเจาะจงกับอาการทางร่างกายหรืออวัยวะใดๆ
Nihilistic delusions
หมายถึง อาการหลงผิดที่เชื่อว่ามีสิ่งเลวร้ายหรือหายนะนั้นได้เกิดขึ้นกับตัวเอง หรือจะต้องเกิดขึ้นกับตัวเอง
Thought withdrawal
หมายถึง อาการหลงผิดที่เชื่อว่าความคิดของตนเองนั้นถูกทำให้หายไปโดยพลังอำนาจบางอย่าง เช่น อำนาจสวรรค์ดูดความคิดให้หายไป
Erotomanic delusions
หมายถึง อาการหลงผิดที่เชื่อว่ามีผู้อื่นมาหลงรักตนเอง
Thought insertion
หมายถึง อาการหลงผิดที่เชื่อว่ามีพลังอำนาจบางอย่างใส่ความคิดที่ไม่ใช่ของตนเองเข้ามา เช่น มนุษย์ต่างดาวใส่ความคิดเข้ามาให้กระพริบตา
Grandiose delusions
หมายถึง อาการหลงผิดที่เชื่อว่าตนเองมีความสามารถเหนือกว่าผู้อื่น อย่างมาก หรือเป็นคนสำคัญและมีชื่อเสียงอย่างมาก
hought Controlled
หมายถึง อาการหลงผิดที่เชื่อว่าพลังอำนาจบางอย่างควบคุม ความคิด และบงการให้ตนเคลื่อนไหวหรือคิดตามนั้น เช่น อำนาจบางอย่างสั่งให้ตนเองเดินไปตากผ้า
Referential delusions
หมายถึง อาการหลงผิดที่เชื่อว่า ท่าทาง คำพูดของบุคคลอื่น หรือ สภาพแวดล้อมต่าง ๆ นั้นมีความหมายสื่อถึงตนเอง
Persecutory delusions
เป็นลักษณะที่พบบ่อยที่สุดหมายถึงลักษณะของอาการหลงผิด ที่เชื่อว่าตนเองนั้นจะโดนปองร้าย ทำให้อับอาย หรือกลั่นแกล้งจากบุคคลอื่น ๆ
พฤติกรรมการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติหรือยุ่งเหยิงไม่เป็นระเบียบ (Grossly disorganized or abnormal motor behavior)
เอาแต่ใจเหมือนเด็กซึ่่งไม่เหมาะสมกับอายุอย่างมาก
อาจแสดงออกเป็นพฤติกรรมกระวนกระวาย
อาจแสดงออกเป็นพฤติกรรม catatonia
อาการด้านลบ (Negative symptoms)
เป็นอาการที่พบได้บ่อยในโรคจิตเภท *แต่จะพบไม่บ่อย
ในโรคจิตชนิดอื่น ๆ
แรงกระตุ้นภายในที่ลดลง (Avolition/Amotivation)
ปริมาณการพูดที่ลดลง (Alogia)
การแสดงอารมณ์ที่ลดลง (Decreased emotional expression)
การมีความสุขจากกิจกรรมต่าง ๆ ที่เคยชอบหรือสนใจลดลง (Anhedonia)
การเข้าสังคมที่ลดลง (Asociality)
อาการประสาทหลอน (Hallucination)
หมายถึง มีการรับรู้ทางระบบประสาทใด ๆ ซึ่งเกิดขึ้นโดยไม่มีสิ่งเร้า (external Stimuli)
อาการหลอนเป็นหูแว่ว (auditory hallucination) พบได้บ่อยที่สุด
เห็นภาพหลอน (Visual hallucination)
กระบวนความคิดและภาษาที่ยุ่งเหยิงไม่เป็นระเบียบ (Disorganized thinking/speech)
ตอบไม่ตรงคำถาม (irrelevant)
การพูดเปลี่ยนเรื่องไปเรื่อย (loose association)
ระบาดวิทยา
เพศชายและเพศหญิงจะมีอายุเฉลี่ยที่เริ่ม มีอาการ คือ 18 ปี และ 25 ปีตามลำดับ **เพศชายมักจะมีอาการเริ่มต้นเร็วกว่าเพศหญิง
ร้อยละ 80 จะเริ่มมีอาการหลังจากอายุ 10 ปีและก่อนอาย 45 ปี
อัตราความชุกของโรคมีสูงขึ้นเนื่องจาก
ความเรื้อรัง ของโรคประมาณร้อยละ 1 ทั่วโลก
ส่วนใหญ่การเจ็บป่วยด้วยโรคจิตเภทมักจะแสดงอาการครั้งแรกระหว่างอายุ 18 - 25 ปี
สามารถรักษาให้หายขาดได้ด้วยวิธีการบำบัดที่มีประสิทธิภาพ เช่น การรักษาด้วยเภสัชบำบัดและจิตสังคมบำบัด เป็นต้น
พบว่าผู้ป่วยโรคจิตเภทมากกว่าร้อยละ 50 ไม่ได้รับการรักษาพยาบาล และในจำนวนดังกล่าวร้อยละ 90 เป็นผู้ป่วยที่อยู่ในประเทศกำลังพัฒนา
อาการและอาการแสดง
brief psychotic disorder
อาการเด่นเป็นอาการโรคจิต
มีอารมณ์ที่เปลี่ยนแปลงได้ง่ายและดูสับสนหรือมึนงงได้บ่อย
การตัดสินใจของผู้ป่วยอาจหุนหันพลัน
แล่นและอาจนำไปสู่การทำร้ายตนเองหรือผู้อื่นจนถึงแก่ชีวิตได้
schizophreniform disorder
อาจมีอาการโรคจิตที่รุนแรง เป็นอยู่เพียงช่วงระยะเวลา
หนึ่ง จากนั้นอาการอาจอยู่ในระยะสงบได้เป็นเวลานาน
ไม่มีความบกพร่องของความสามารถในการทำงาน
และหน้าที่ด้านต่าง ๆ
โรคจิตเภท
อาจแสดงพฤติกรรมที่ผิดแปลกและไม่สมเหตุสมผล
หัวเราะทั้งที่ไม่มีสิ่ง
กระตุ้น
มีอารมณ์เปลี่ยนแปลงเร็ว
ไม่นอนช่วงกลางคืน
ผู้ป่วยอาจมีอาการวิตกกังวล phobia หรือมีอารมณ์ซึมเศร้าได้บ่อย
ขณะที่อารมณ์ซึมเศร้า
นั้นมักเป็นการตอบสนองต่ออาการโรคจิต โดยเฉพาะเสียงแว่วและ persecutory delusion
delusional disorder
อาการหลงผิดที่พบได้บ่อยที่สุด
persecutory type ซึ่งจะมีเนื้อหาหลักของอาการหลงผิดเกี่ยวกับเพื่อนร่วมงานที่คอยมุ่งร้าย คอยกลั่นแกล้ง
และขัดขวางความก้าวหน้าในงานของผู้ป่วย
ปัญหาด้านสังคม ปัญหาชีวิตคู่ หรือปัญหาด้านการงาน ทำให้ผู้ป่วยต้องมาพบจิตแพทย์ เนื่องจากผู้ป่วยมักมีอารมณ์หงุดหงิด ฉุนเฉียวและอาจรุกรานความเป็น
ส่วนตัวของผู้อื่น
ความก้าวร้าว (aggression) และพฤติกรรมก้าวร้าว (violence)
พบได้บ่อยทั้งในผู้ป่วยกลุ่ม โรคจิต
เภทและกลุ่มโรคจิตชนิดอื่น
สาเหตุ
ในปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดของกลุ่มโรคจิตเภท แต่มีหลักฐานจ ำนวนมากที่พบการเปลี่ยนแปลงของสมองในผู้ป่วยโรคจิตเภทเมื่อเทียบกับประชากรทั่วไปในระดับโครงสร้าง (structural level) ระดับการทำงาน (functionallevel) และระดับจุลภาค (microscopic or histopathologic level) ได้แก่
ความผิดปกติระดับโครงสร้าง
ปริมาณใยสมองและความสมบูรณ์ของใยสมอง (White matter volume and white integrity)
ที่เชื่อมโยงระหว่างสมองส่วนต่าง ๆ
เนื้อสมองบางส่วนมีขนาดเล็กกว่าประชากรทั่วไป
ความผิดปกติระดับจุลภาคและระดับการทำงาน
ระดับการทำงานของสารสื่อประสาท dopamine (dopaminergic activity)เพิ่มขึ้นใน mesolimbic tract ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับอาการด้านบวก (positive symptoms) ซึ่งหมายถึง อาการหลอน และ อาการหลงผิด
ระดับ dopaminergic activity ลดลงใน mesocortical tract ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับอาการด้านลบ
สมองส่วน primary auditory cortex มีการกระตุ้นที่ผิดปกติ และพบความผิดปกติในเซลล์ของ auditory association cortex
ปริมาณ Synapse ลดลงมาก (synapse pruning) และปริมาณแขนงของ dendrites น้อยลงในสมองส่วน prefrontal cortex และ hippocampus
ปัจจัยทางพันธุกรรม
มีส่วนในการทำให้เกิดโรค เช่น หากคู่แฝด monozygotic twins ป่วยเป็นโรคจิตเภทแล้ว โอกาสที่คู่แฝดอีกคนหนึ่งจะเป็นโรคจิตเภท (concordance rate) นั้นสูงถึงร้อยละ 40-60
ปัจจัยที่เกิดขึ้นระหว่างตั้งครรภ์ (perinatal factors)
ก็อาจส่งผลให้ทารกมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคจิต เภทได้ในอนาคต เช่น ภาวะ hypoxia ระหว่างตั้งครรภ์ บิดาซึ่งสูงอายุ ความเครียดระหว่างตั้งครรภ์ เป็นต้น
ปัจจัยกระตุ้น
ความสัมพันธ์ในครอบครัวนั้นน่าจะเป็นตัวกระตุ้นทำให้เกิดความเครียดและส่งผลทำให้อาการโรคจิตเป็นมากขึ้นและส่งผลให้โรคกำเริบ (relapse) บ่อยขึ้น
เกณฑ์การวินิจฉัย
Brief psychotic disorder
เกณฑ์การวินิจฉัยตาม DSM-5 มีดังต่อไปนี้
A. ต้องมีอาการต่อไปนี้อย่างน้อย 1 ข้อ (อย่างน้อยต้องมีอาการในข้อ A1, A2 หรือ A3)
A1. อาการหลงผิด
A2. อาการหลอน
A3. กระบวนความคิดและภาษาที่ยุ่งเหยิงไม่เป็นระเบียบ
A4. พฤติกรรมการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติหรือยุ่งเหยิงไม่เป็นระเบียบ โดยอาการข้างต้นต้องไม่
สามารถอธิบายได้จากความเชื่อและวัฒนธรรม
B. อาการเป็นต่อเนื่องอย่างน้อย 1 วัน แต่ไม่เกิน 1 เดือนและผู้ป่วยสามารถกลับไปท ำหน้าที่ด้านต่าง
ๆ ได้เหมือนก่อน
C. อาการข้างต้นต้องไม่สามารถอธิบายได้ด้วยโรคทางจิตเวชอื่น ๆระบุลักษณะต่อไปนี้หรืออาการต่าง ๆ เกิดขึ้นจาก
การใช้สาร (substance) หรือภาวะทางกาย (medical condition
With marked stressors (brief reactive psychosis) เมื่ออาการข้างต้นเป็นการตอบต่อเหตุการณ์
ซึ่งเป็นความเครียดที่รุนแรงอย่างมาก
without marked stressors เมื่ออาการข้างต้นไม่ได้เป็นการตอบสนองต่อเหตุการณ์ซึ่งเป็น
ความเครียดที่รุนแรงอย่างมาก
with postpartum onset เมื่ออาการข้างต้นเกิดขึ้นภายใน 4 สัปดาห์หลังจากคลอด
with catatonia เมื่อมีอาการของ catatonia
เกณฑ์การวินิจฉัยโรค brief psychotic disorder ตาม ICD-10 จะอยู่ในหมวด F23
Schizophreniform disorder
เกณฑ์การวินิจฉัยตาม DSM-5 มีดังต่อไปนี้
A. มีอาการต่อไปนี้อย่างน้อย 2 ข้อ (ต้องมีอาการข้อ A1, A2 หรือ A3)อย่าง
ต่อเนื่องพอควรในช่วงระยะเวลา 1 เดือน (หากได้รับการรักษา อาการอาจเป็นต่อเนื่องสั้นกว่า 1 เดือนได้)
A1. อาการหลงผิด
A2. อาการหลอน
A3. กระบวนความคิดและภาษาที่ยุ่งเหยิงไม่เป็นระเบียบ
A4. พฤติกรรมการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติหรือยุ่งเหยิงไม่เป็นระเบียบ
A5. อาการด้านลบ
C. หาก schizophreniform disorder นั้นมีอาการทางอารมณ์ (mood symptoms) ร่วมด้วยอาการทางอารมณ์นั้นต้องเกิดขึ้นเป็นเพียงส่วนน้อยเมื่อเทียบกับระยะเวลาของอาการทั้งหมด และอาการข้างต้นต้องไม่สามารถอธิบายได้ด้วยโรคทางจิตเวชอื่น ๆ เช่น
major depressive disorder
schizoaffective disorder
bipolar disorder ที่มีอาการโรคจิตร่วมด้วย
B. อาการเป็นต่อเนื่องอย่างน้อย 1 เดือน แต่น้อยกว่า 6 เดือน หากจะต้องวินิจฉัยโดยไม่รอการ ฟื้น
ของตัวโรค ควรระบุว่าเป็น “การวินิจฉัยชั่วคราว”
D. อาการข้างต้นต้องไม่เกิดขึ้นจากการใช้สาร หรือ โรคภาวะทางกาย
ระบุลักษณะต่อไปนี
With good prognostic features เมื่อผู้ป่วยมีปัจจัยของพยากรณ์โรคที่ดี โดยลักษณะของอาการซึ่ง
บ่งบอกพยากรณ์โรคที่ดีนั้นได้แก่
มีการดำเนินอาการของโรคเป็นไปอย่างรวดเร็ว
มีอาการสับสน (confusion)
มีการแสดงสีหน้ามึนงง (perplexity of affect)
ไม่มีการแสดงอารมณ์ที่ลดลง (no blunted or flat affect)
มีทักษะทางสังคมและหน้าที่การงานก่อนที่จะป่วยอยู่ในระดับสูง
Without good prognostic features เมื่อผู้ป่วยมีปัจจัยพยากรณ์โรคที่ดีน้อยกว่า 2 ข้อ
With catatonia เมื่อมีอาการของ catatonia
**เกณฑ์การวินิจฉัยโรค schizophreniform disorder ตา ม ICD-10 อยู่ใน หมวด F20 (ICD-10 จัดว่า
schizophreniform disorder คือ โรคจิตเภท)
โรคจิตเภท (Schizophrenia)
เกณฑ์การวินิจฉัยตาม DSM-5 มีดังต่อไปนี้
A. มีอาการต่อไปนี้อย่างน้อย 2 ข้อ (ต้องมีอาการข้อ A1, A2 หรือ A3) โดยอาการนั้นจะต้องเป็นอย่างต่อเนื่องพอควรในช่วงระยะเวลา 1 เดือน
A1. อาการหลงผิด
A2. อาการหลอน
A3. กระบวนความคิดและภาษาที่ยุ่งเหยิงไม่เป็นระเบียบ
A4. พฤติกรรมการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติหรือยุ่งเหยิงไม่เป็นระเบียบ
A5. อาการด้านลบ
B. หน้าที่การงาน หรือ ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล หรือ การดูแลตนเองนั้นลดถอยลงอย่างชัดเจนเมื่อเทียบกับตอนก่อนมีอาการ
C. อาการเป็นต่อเนื่องมากกว่า 6 เดือนโดยมีอย่างน้อย 1 เดือนที่อาการเข้าได้กับเกณฑ์ A โดยที่
ระยะเวลา 6 เดือนนั้นให้นับรวมถึงช่วงที่มีอาการนำ (prodromal symptoms) หรืออาการที่หลงเหลือ(residual symptoms) จากการรักษา ซึ่งอาจจะเป็นเพียงแค่อาการด้านลบ หรือเป็นอาการในเกณฑ์ข้อ A ที่เบาบางลง เช่น อาการ persecutory delusion นั้นลดความรุนแรงลงเหลือเป็นpersecutory idea เป็นต้น
D. อาการข้างต้นต้องไม่สามารถอธิบายได้ด้วยโรคทางจิตเวชอื่น ๆ
E. อาการข้างต้นต้องไม่เกิดขึ้นจากการใช้สารหรือภาวะทางกาย
F. หากเคยมีประวัติของ autism spectrum disorder หรือ communication disorder จะสามารถวินิจฉัยโรคจิตเภทได้เฉพาะเมื่ออาการหลงผิดหรืออาการหลอนนั้นเกิดขึ้นต่อเนื่องอย่างน้อย 1 เดือนโดยเพิ่มเติมจากเกณฑ์อื่น ๆ
ระบุลักษณะต่อไปนี้สำหรับรูปแบบของการดำเนินโรค เมื่ออาการเป็นต่อเนื่องเกิน 1 ปี
First episode, currently in acute episode เมื่อเป็นการแสดงอาการครั้งแรกของโรค
First episode, currently in partial remission เมื่ออาการของโรคดีขึ้นจนเหลืออาการจากเกณฑ์วินิจฉัยแค่บางอาการ
First episode, currently in full remission เมื่ออาการของโรคดีขึ้นจนไม่เหลืออาการของโรคเลย
Multiple episodes, currently in acute episode เมื่อเป็นการแสดงอาการของโรคที่เข้า เกณฑ์
วินิจฉัยเป็นครั้งที่ 2 เป็นต้นไป
Multiple episodes, currently in partial remission
Multiple episodes, currently in full remission
Continuous เมื่ออาการจากเกณฑ์วินิจฉัยนั้นคงอยู่อย่างต่อเนื่องเป็นส่วนใหญ่ตลอดระยะการดำเนินโรค อาจมีช่วงอาการลดลงได้บ้าง แต่ต้องเป็นเพียงส่วนน้อยเมื่อเทียบกับระยะการดำเนินโรคทั้งหมด
With catatonia เมื่อมีอาการของ catatonia
เกณฑ์การวินิจฉัยโรค schizophrenia ตาม ICD-10 อยู่ในหมวด F20
Schizoaffective disorder
เกณฑ์การวินิจฉัยตาม DSM-5 มีดังต่อไปนี้
A. มี major mood episode (major depressive episode หรือ manic episode) ร่วมกับ มี
อาการในข้อ A ตามเกณฑ์วินิจฉัยโรคจิตเภท
C. major mood episode นั้นคงอยู่เป็นส่วนใหญ่ของระยะการด าเนินโรค
D. อาการข้างต้นต้องไม่เกิดขึ้นจากการใช้สาร หรือ ภาวะทางกาย
ระบุลักษณะต่อไปนี้
Bipolar type เมื่อมี manic episode
Depressive type เมื่อมีเฉพาะ major depressive episode
**การระบุรูปแบบของการดำเนินโรค ให้ใช้รูปแบบเดียวกับในโรคจิตเภท
เกณฑ์การวินิจฉัยโรค schizoafective disorder ตาม ICD-10 อยู่ในหมวด F25
B. อาการหลอนหรืออาการหลงผิดคงอยู่ขณะที่ไม่มี major mood episode เป็นระยะเวลาอย่าง
น้อย 2 สัปดาห์
Delusional disorder
เกณฑ์การวินิจฉัยตาม DSM-5 มีดังต่อไปนี้
A. มีอาการหลงผิดต่อเนื่องอย่างน้อย 1 เดือน
B. อาการไม่ครบเกณฑ์วินิจฉัยข้อ A ของโรคจิตเภท
**หมายเหตุ หากมีอาการประสาทหลอน อาการต้องไม่เด่นชัดเท่ากับอาการหลงผิด และเนื้อหาอาการ
ประสาทหลอนต้องเชื่อมโยงกับอาการหลงผิด
C. นอกจากอาการในข้อ A แล้ว ต้องไม่มีพฤติกรรมที่แปลกประหลาด และหน้าที่ด้านต่าง ๆอาจเสีย
หายแต่ไม่มาก
D. หากมีอาการทางอารมณ์ร่วมด้วย อาการทางอารมณ์ต้องเกิดขึ้นเป็นสัดส่วนระยะเวลาที่ น้อยมากเมื่อเทียบกับอาการหลงผิด
E. อาการไม่ได้เป็นผลจากการใช้ยาหรือสาร และไม่สามารถอธิบายได้ด้วยโรคจิตเวชอื่น ๆ เช่น body dysmorphic disorder via obsessive-compulsive disorder
ระบุลักษณะเนื้อหาหลักของอาการหลงผิดดังต่อไปนี้
Erotomanic type เมื่อเนื้อหาหลักคือมีผู้อื่นมาชอบหรือหลงรักผู้ป่วย
Grandiose type เมื่อเนื้อหาหลักคือผู้ป่วยได้ท าสิ่งที่ยิ่งใหญ่และมีคุณค่ามากหรือผู้ป่วยเชื่อว่าตนมี
พรสวรรค์สูงมากโดยที่ไม่มีใครรู้และชื่นชม
Jealous type เมื่อเนื้อหาหลักเกี่ยวกับคู่สมรสที่ไม่ซื่อสัตย์
Persecutory type เมื่อเนื้อหาหลักเกี่ยวกับผู้ป่วยถูกรังแก กลั่นแกล้ง ท ำให้อับอาย โดนเอารัดเอา
เปรียบ หรือผู้อื่นสมคบคิดกันทำให้ผู้ป่วยไม่ประสบความสำเร็จ
Somatic type เมื่อเนื้อหาหลักเกี่ยวกับการทำงานที่ผิดปกติไปของร่างกายบางส่วน เช่น ประสาทสัมผัสของร่างกายทำงานผิดปกติไป
Mixed type เมื่อเนื้อหาปะปนกัน และไม่มีลักษณะใดเด่นชัด
Unspecified type เมื่อไม่สามารถจัดเข้ากลุ่มข้างต้นได้
**การระบุรูปแบบของการด าเนินโรค ให้ใช้รูปแบบเดียวกับในโรคจิตเภท
เกณฑ์การวินิจฉัยโรค delusional disorder ตาม ICD-10 อยู่ในหมวด F22
การวินิจฉัยแยกโรค
เกณฑ์การวินิจฉัยโรคทางจิตเวช วินิจฉัยตาม DSM-5
Delusional disorderจะมีอาการหลงผิดเป็นอาการโรคจิตที่เด่นชัด เพียงอาการเดียว โดยพฤติกรรมต้องไม่แปลกประหลาด
brief psychotic disorder นั้นจะมีอาการโรคจิตอย่างน้อย 1 อาการ อาการอาจจะรุนแรงได้มากถึงขั้นมีพฤติกรรมแปลกประหลาด แต่ต้องมีระยะเวลาการดำเนินโรคสั้นกว่า 1 เดือน
schizophreniform นั้นจะต้องมีอาการโรคจิตตั้งแต่ 2 ข้อขึ้น11
ไปและมีระยะเวลาการด าเนินโรคอยู่ ระหว่าง 1-6 เดือน
โรคจิตเภทนั้นจะมีอาการเหมือน schizophreniform แต่อาจพบอาการ ด้านลบได้บ่อยกว่าและมีระยะเวลาการดำเนินโรคที่นานกว่า 6 เดือน
รายละเอียดความแตกต่างระหว่าง
schizophrenia
ลักษณะอาการโรคจิต
ต้องเข้าเกณฑ์ของโรคจิต
เภท
ลักษณะอาการทาง
อารมณ์
ต้องเข้าเกณฑ์ major depressive episode
หรือ manic episode
ระยะเวลาอาการโรคจิต
อาการโรคจิตเป็นต่อเนื่องนานกว่า 6 เดือน
ระยะเวลาอาการทาง
ทางอารมณ์
อาการทางอารมณ์ต้องเกิดขึ้นเพียงส่วนน้อยรองระยะเวลาการเจ็บป่วยทั้งหมด
with Schizoaffective
disorder
ลักษณะอาการโรคจิต
ต้องเข้าเกณฑ์ของ Aของโรคจิตเภท
ลักษณะอาการทาง
อารมณ์
ต้องเข้าเกณฑ์ major depressive episode
manic episode
ระยะเวลาอาการโรคจิต
มีอย่างน้อย 2 สัปดาห์ที่อาการโรคจิตคงอยู่โดยไม่มีอาการทางอารมณ์
ระยะเวลาอาการทาง
ทางอารมณ์
อาการทางอารมณ์ต้องเกิดขึ้นเป็นส่วนใหญ่ระยะเวลาการเจ็บป่วยทั้งหมด
Mood disorders with psychotic features
ลักษณะอาการโรคจิต
อาจจะเข้าเกณฑ์ข้อ Aแต่ต้องไม่เข้าเกณฑ์ข้อ Cของโรคจิตเภท
ลักษณะอาการทาง
อารมณ์
ต้องเข้าเกณฑ์ major
depressive episode
manic episode
ระยะเวลาอาการโรคจิต
อาการโรคจิตต้องมีความสัมพันธ์กับอาการทางอารมณ์
ระยะเวลาอาการทาง
ทางอารมณ์
อาการทางอารมณ์ต้องเป็นอาการหลักของอาการป่วย
การรักษา
รักษาด้วยยา
กลุ่มโรคจิตเภทนั้นใช้การ
รักษาด้วยยาต้านโรคจิต (antipsychotics) เป็นหลัก
-ขนาดยาที่ใช้รักษาในผู้ป่วย brief psychotic disorder
มักจะใช้ขนาดยาที่ไม่สูงมากและให้ในระยะเวลาที่ไม่ นานเกิน 1-3 เดือน-
การทำจิตบำบัด ด้วยวิธี cognitive behavior therapy
การทำจิตบำบัดแบบประคับประคอง (supportive13
psychotherapy)
การรักษาทางจิตสังคม (psychosocial treatment)
อาชีวบำบัด (occupational therapy)
การสอนทักษะทางสังคม (social skill training)
การพยากรณ์โรค
Brief psychotic disorder นั้นมี
พยากรณ์ที่ดี เนื่องจากระยะเวลาในการมีอาการนั้น จะไม่เกิน 1 เดือน
ผู้ป่วย brief psychotic disorder อาจพัฒนาเป็นไปเป็นโรคจิตเภทได้
ราวร้อยละ 10-30 ในระยะยาว
โรค schizophreniform นั้นมีเพียงราวร้อยละ 30 เท่านั้นที่จะมี
พยากรณ์โรคที่ดี
อาการด้านลบของโรคจิตเภทนั้นมีความเสี่ยงสูงมากที่จะพัฒนาต่อไปเป็นโรคจิตเภทหรือ schizoaffective disorder ได้บ่อยถึงร้อยละ 70
delusional disorder นั้นจะมีการด าเนิน
โรคที่เรื้อรังแต่อาการมักจะคงที่ ผู้ป่วยน้อยกว่าร้อยละ 7 เท่านั้นที่จะพัฒนาต่อไปเป็นโรคจิตเภท
หลักการและแนวทางการบำบัดรักษาผู้ป่วยโรคจิตเภท
การบําบัดทางการพยาบาลผู้ปู่วยโรคจิตเภท
ขั้นตอนที่ 1 การประเมินสภาพปัญหา
1.1 การประเมินสภาพร่างกายโดยทั่วไปของผู้ป่วย
1.2 การประเมินความคิดของผู้ป่วย อาการสำคัญของผู้ป่วยจิตเภทคือความผิดปกติด้านความคิด
1.3 การประเมินการรับรู้ของผู้ป่วย ประเมินว่าผู้ป่วยมีการรับรู้เป็นอย่างไร
1.4 การประเมินพฤติกรรมของผู้ป่วยเพื่อดูอาการทางจิตที่สามารถสังเกตได้
1.5 ประเมินด้านสัมพันธภาพ
1.6 ประเมินด้านอื่นๆ
ปัญหาที่มีความยุ่งยากซับซ้อนของผู้ป่วยและผู้ดูแล
พฤติกรรมทำร้ายผู้อื่น พฤติกรรมทำร้ายตนเอง
ขั้นตอนที่ 2 การวินิจฉัยทางการพยาบาล
สอดคล้องและสัมพันธ์กับอาการของผู้ป่วย
จิตเภท และควรมีข้อมูลสนับสนุนที่ชัดเจน ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาลในผู้ป่วยจิตเภท
ควรพิจารณาทั้งด้านสภาพ ร่างกาย ความคิด การรับรู้ พฤติกรรมและสัมพันธภาพ
ขั้นตอนที่ 3 การวางแผนการพยาบาล
3.1 การวางแผนระยะสั้น เน้นการช่วยเหลือในช่วงแรก
3.2 การวางแผนระยะยาว เป็นการก าหนดแผนการพยาบาลที่เน้นการดูแลระยะยาวและต่อเนื่อง
ขั้นตอนที่ 4 การปฏิบัติการพยาบาล
4.1 การบำบัดด้านร่างกาย ประกอบด้วย การรักษาด้วยยา การรักษาด้วยไฟฟ้า และการจำกัด
พฤติกรรม เพื่อให้เกิดความปลอดภัยกับผู้ป่วยและสิ่งแวดล้อม
4.2 การบำบัดค้านจิตสังคม
4.3 สิ่งแวดล้อมบำบัด มีความสำคัญและจำเป็น
ขั้นตอนที่ 5 การประเมินผลการพยาบาล
การรักษาด้านจิตสังคม (psychosocial treatments)
การจัดการรายกรณี (case management)
การบำบัดโดยการให้ความรู้ในการจัดการตนเอง (self-management education)
การบำบัดโดยใช้ทักษะการแก้ปัญหา (problem solving therapy)
การบำบัดการรู้คิด-ปรับพฤติกรรม (cognitive behavior therapy)
การให้การบ าบัดกับครอบครัว (family interventions)
การฝึกทักษะทางสังคม (Social skills training)
ศิลปะบำบัด (arts therapies)
การใช้
ดนตรี ศิลปะ การแสดงละคร และการเต้นรำหรือการเคลื่อนไหว
การบำบัดรูปแบบอื่นๆ เพื่อส่งเสริมให้ผู้ป่วยจิตเภท ได้รับการศึกษาหรือความรู้เพิ่มเติม
องค์ประกอบหลักในการ
บำบัดรักษาและการดูแลผู้ป่วยจิตเภท 4 ด้าน ได้แก่
การให้ความช่วยเหลือและรีบรักษาในระยะแรกเริ่ม
การรักษาในระยะเฉียบพลัน เน้นการอยู่ในโรงพยาบาลระยะสั้น
การส่งเสริมการฟื้นฟูสภาพ
การพัฒนาระบบคุณภาพการดูแลผู้ป่วยจิตเภททุกระยะ