Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

บทที่ 7 การพยาบาลมารดาที่ทำสูติศาสตร์หัตถการ - Coggle Diagram

- - - - PIH
        
        ทารกเสียชีวิตในครรภ์
        
        ภาวะครรภ์เกินกำหนด
        
        PROM ในรายที่อายุครรภ์มากกว่า 34 สัปดาห์ และไม่เข้าสู่ระยะคลอดเองภายใน 12 ชั่งโมง
        
        การติดเชื้อของถุงน้ำคร่ำ
        
        ภาวะเลือดออกก่อนคลอดจากภาวะรกลอกตัวก่อนกำหนด
        
        IUGR, oligohydramnios, hydrops fetalis
    - - หญิงตั้งครรภ์ที่เป็นโรคเบาหวาน
        
        หญิงตั้งครรภ์ที่เป็นโรคไตเรื้อรัง เนื่องจากอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนทำให้
        การทำงานของไตลดลงและการตายของทารกปริกำเนิดเพิ่มสูงขึ้น
        
        หญิงตั้งครรภ์ที่เป็นโรคความดันโลหิตสูงเรื้อรัง
  - - - Prostaglandin
        
        เพื่อให้ปากมดลูกนุ่ม
        
        Prostaglandin E1 dose 25 ถึง 50 mg
        
        Protaglandin E2 dose 10 mg
      - Oxytocin
        
        เพื่อการเร่งคลอด
        
        การพยาบาล
        
        เตรียมสารละลายออกซิโตซิน (5% D/W 1000 cc+Synto 10U)
        
        เตรียมอุปกรณ์เครื่องใช้ในการให้สารละลายทางหลอดเลือดดำ
        
        ช่วยแพทย์ในการให้สารละลายออกซิโตซินทางหลอดเลือดดำ
        
        สังเกตลักษณะการหดรัดตัวของมดลูก
        
        ปรับหยดสารละลายออกซิโตซิน เริ่มต้น 5-10 หยด/นาที เพิ่ม 5 หยดทุก 30 นาที จนกว่าการหดรัดตัวของมดลูกจะดี คือ Interval
        อยู่ในช่วง 2-3 นาที Duration อยู่ระหว่าง 45-60 วินาที
        
        ตรวจสอบการหยดของออกซิโตซิน ทุก 30 นาที
        
        สังเกตสภาวะของทารกในครรภ์ โดยฟังเสียงหัวใจทารกเป็นระยะๆ ทุก 15-30 นาที
        
        ดูแลสภาวะทั่วไปของมารดาโดย Check BP, P, R เป็นระยะๆ
        
        บันทึกเกี่ยวกับขนาดและจำนวนของออกซิโตซินที่ได้รับทุก 30 นาที จeนวนของหยดของออกซิโตซินที่ปรับขึ้นหรือลดลง
        ลักษณะการหดรัดตัวของมดลูกทุก 15-30 นาที v/s ทุก 2-4 ชม FHS ทุก 15-30 นาที และ I/O
    - - การเจาะถุงน้ำทุนหัว (ARM)
        
        นิยมใช้เมื่อปากมดลูกนุ่มแล้วหรือในรายที่ทำเป็น
        Augmentation
        
        การพยาบาล
        
        เตรียมเครื่องมือ ดังนี้ เครื่องมือเจาะถุงน้ำ Amniotomy Forceps,
        หม้อนอน, Set Flush, ถุงมือ Sterile
        
        เตรียมผู้คลอด ดังนี้
        
        เตรียมจิตใจ อธิบายให้เข้าใจถึงแผนการรักษาเพื่อความร่วมมือ
        และลดความวิตกกังวล
        
        เตรียมร่างกาย
        
        กั้นม่านไม่เปิดเผย (expose) ผู้คลอด
        
        จัดทำ dorsal Recombent ปิดตาและ drape ผ้าให้เรียบร้อย
        
        ทำความสะอาดอวัยวะสืบพันธุ์ภายนอก
        
        ก่อนแพทย์ลงมือทำ พยาบาลต้องฟังเสียงหัวใจทารก และบันทึกไว้
        
        เมื่อน้ำคร่ำไหลออกมาต้องบันทึกเกี่ยวกับลักษณะสี และจำนวนของ
        Amniotic Fluid
        
        ฟังเสียงหัวทารกทันทีภายหลังเจาะถุงน้ำทูนหัว
        
        Flushing และใส่ผ้าอนามัยเพื่อสังเกตปริมาณน้ำคร่ำ
        
        ให้ผู้คลอดนอนพักบนเตียง
        
        บันทึกเกี่ยวกับ Interval, Duration ผลการตรวจความก้าวหน้าของ
        การคลอด
        
        บันทึก FHS เป็นระยะๆ อาจทุก 15-30 นาที หากผิดปกติรายงาน
        แพทย์และให้การช่วยเหลือ
        
        บันทึก T, P, R, BP หากมีไข้รายงานแพทย์เพื่อให้ยาปฏิชีวนะ
        
        เปลี่ยนผ้าอนามัยทุกครั้งที่น้ำหล่อเด็กเปียกชุ่มพร้อม Flushing ให้
- - - - มดลูกหดรัดตัวไม่ดี/มารดาไม่มีแรงเบ่ง อ่อนเพลีย
        
        กระดูกเชิงกรานค่อนข้างแคบหรือ Rigid pelvic floor
        หรือ Rigid perineum
        
        ส่วนนาของทารกค่อนข้างใหญ่ หรือ Occiput อยู่ด้านหลัง
        หรือ Deep transverse arrest of head
        
        PIH, โรคหัวใจ
    - - Fetal distress
        
        สายสะดือพลัดต่ำ
  - - - มีการฉีกขาดของหนทางคลอด
        
        ช็อคจากความเจ็บปวด ผู้คลอดไม่ทำด้วยความนุ่มนวล
        
        อันตรายต่อกระดูกเชิงกราน เช่น Symphysis pubis แยก
        
        ติดเชื้อ
    - - แรงกดที่ศีรษะเกิด Asphyxia
        
        คีมกด Clavical plexus จะทาให้เกิด Erb’ s Palsy
        
        คีมกด Facial nerve จะทาให้เกิด Facial Palsy
  - - - ดูแลด้านจิตใจให้กำลังใจและแนะนำการปฏิบัติตัวขณะที่
        แพทย์ช่วยคลอด
        
        ประเมิน FHS ทุก 5 นาที ถ้าผิดปกดิ รีบรายงานแพทย์
        
        ประมินการหดรัดตัวของมดลูกและรายงานให้แพทย์ทราบ
        เพื่อที่แพทย์จะได้เริ่มดึง
        
        เครียมช่วยเหลือถ้าช่วย F/E ไม่สำเร็จต้องรีบเตรียมผ่าตัด
        คลอดทันที
    - - ให้ยากระตุ้นการหดรัดตัวของมดลูก/สารน้ำทาง
        หลอดเลือดดำตามแผนการรักษา
        
        ประเมิน P, R, BP 15 นาที 4ครั้ง ทุก 30 นาที 2 ครั้ง
        และทุก 1 ชม. จนกว่าปกติ
        
        ประเมินการหดรัดตัวของมดลูก ถ้าไม่ดีให้คลึงมดลูก
        และใช้กระเป๋าน้ำแข็งวางที่มดลูก
        
        ดูแลกระเพาะปัสสาวะให้ว่าง
        
        ประเมินเลือดที่ออกจากช่องคลอด และแผลฝีเย็บ
        
        ดูแลความสุขสบายทั่วไปส่งเสริมสัมพันธภาพระหว่าง
        มารดาและบุตร
- - - - มดลูกหดรัดตัวผิดปกติ
        
        ระยะคลอดยาวนาน
        
        Shock, PIH
    - - การหมุนของศีรษะทารกผิดปกติ เช่น Occiput posterior, Occiput transverse
  - - - การบาดเจ็บ มีการฉีกขาดของช่องทางคลอด ปากมดลูกกระเพาะปัสสาวะ
        
        Shock เพราะการทำขณะมดลูกหดรัดตัวไม่ดี ทำให้มีปัญหาตกเลือดหลังคลอด
        
        อันตรายจากการแพ้ยาระงับความรู้สึก
    - - รอยถลอกบริเวณหนังศีรษะ
        
        scalp necrosis จากวางถ้วยไม่ถูกตำแหน่ง เช่น วางที่ anterior fontanels
        
        Neonatal Jaundice
        
        Subconjunctival
        
        Retina hemorrhage
  - - - ประเมิน FHS ทุก 5 นาที ถ้าผิดปกติให้รายงานแพทย์
        
        ประเมินการหดรัดตัวของมดลูก ให้กำลังใจ และแนะนำการเบ่งคลอดที่ถูกวิธี
        
        ช่วยลดความดันเครื่องสุญญกาศช้าๆ โดยลดความดันประมาณ 0.2 km/cm2 ทุก 2 นาที
        จนถึงระดับ 0.6 และ 0.8 kg/cm2
    - - ให้ยากระตุ้นการหดร้ตัวของมดลูก/สารน้ำทางหลอดเลือดดำตามแผนการรักษา
        
        ประเมิน v/s ทุก 15นาที 4 ครั้ง ทุก 3 นาที 2 ครั้งและทุก 1 ชม. จนกว่าปกติ
        
        ประเมินการหดรัดตัวของมดลูก ถ้าหดรัดตัวไม่ดี ให้คลึงมดลูกและใชักระเป๋าน้ำแข็งวาง
        
        ดูแลกระเพาะปัสสาวะให้ว่าง
        
        ประเมินลือดที่ออกจากช่องคลอดและแผลเย็บ
        
        ดูแลความสุขสบายทั่วไป
        
        ส่งเสริมสัมพันธภาพระหว่างมารดาและบุตร
- - - - การคลอดคิดขัด เช่น CPD, มีก้อนเนื้องอกในอุ้งเชิงกราน
        
        ความผิดปกติของเชิงกรานหรือช่องคลอด
        
        เคยผ่าตัดที่ผนังมดลูกมาก่อน เช่น Myomectomy
        
        มีประวัติอันตรายจากการคลอด เช่น คลอดยาก ทารกตายคลอด
        
        การช่วยคลอดด้วยคีมล้มเหลว
    - - Fetal distess หรือเสี่่ยง เช่น น้ำคร่ำมีขี้เทาปน การติดเชื้อของเยื่อหุ้มทารก
        
        อยู่ในท่าผิดปกติที่ไม่สามารถคลอดเองได้ เช่น Tansverse lie, Face presentation
        
        สายสะดือพลัดต่ำ (Prolapsed cord)
        
        ครรภ์แฝดที่ทารกไม่อยู่ในท่าศีรษะ
        
        ท่ากันในครรภ์แรก (Primibreech presentation)
  - - - การติดเชื้อที่พบบ่อยคือเยื่อนโพรงมลูกมลูกแผลผ่ตัดทางเดินปัสสาวะ
        
        การบาดเจ็บต่ออวัยวะภายในช่องท้องเช่นลำไส้ กระเพาะปัสสาวะ
        
        ภาวะตกเลือดซึ่งเกิดได้ทั้งในขณะผ่าตัดและหลังผ่าตัด
        
        ท้องอึดจากลำไส้ทำงานลดลง เป็นภาวะแทรกช้อนที่พบบ่อยหลังผ่ตัดคลอด
        
        การเกิดพังผืด (adhesion)
    - - การบาดเจ็บ เช่น แผลถูกคมมีด,แขนหรือขาหักจากการทำคลอดทารกลำบาก
        
        ภาวะหายใจเร็วชั่วคราวจากทรวงอกไม่ได้รับการบีบรัดจากช่องท้องคลอด
  - - - เตรียมเครื่องมือที่ใช้ในการผ่าตัดและช่วย
        ทารกให้พร้อม ประสานกุมารแพทย์เพื่อทำ
        หน้าที่ดูแลทารกแรกเกิด
        
        การดูแลขณะทำผ่าตัดโดยจัดท่านอน
        ทำความสะอาดผิวหนัง
        
        ช่วยแพทย์ในการทำผ่าตัด
        
        ประเมินสภาพและให้การพยาบาลตามอาการ
        
        ดูแลทารกแรกเกิด จดบันทึกเวลาเกิด
    - - ประเมินสภาพร่างกายตามลำดับสำคัญ ดังนี้
        
        ประเมิน v/s ทุก 15 นาทีในชั่วโมงแรก ทุก 30 นาทีใน
        ชั่วโมงที่ 2 และทุก 1 ชม. จนปกติติดต่อกัน 2 ครั้ง
        จากนั้นประเมินทุก 4 ชั่วโมง
        
        ประเมินระดับความรู้สึกตัว แผลผ่าตัด อาการปวดแผล
        การหดรัตตัวของมดลูก เลือดที่ออกทางช่องคลอด
        ความสมดุลของสารน้ำ อิเลคโตรไลท์ ปัสสาะที่ออก
        
        ประเมินจิตสังคม เช่น วิตกกังวลเกี่ยวกับอาการ
        ปวดแผล สัมพันธภาพกับครอบครัว