Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่ 6 การพยาบาลเด็กที่มีความพิการแต่กำเนิด, นางสาว สุรีรัตน์ พึงประสพ…
บทที่ 6 การพยาบาลเด็กที่มีความพิการแต่กำเนิด
ปัจจัยความพิการแต่กำเนิด
พันธุกรรม
จากสิ่งแวดล้อมโดยเฉพาะจากมารดาในระหว่างตั้งครรภ์
ขาดอาหารขาดวิตามิน
ขาดวิตามินจะทำให้เกิดการพิการ ปากแหว่ง เพดานโหว่
โรคติดเชื้อ
โรคหัดเยอรมันขณะตั้งครรภ์ได้ไม่เกิน 16 สัปดาห์
มารดามีอายุมากเกินไป
ดาวซินโดรม โครโมโซมคู่ที่21 เกินมา 1 แท่ง
มารดากินยาหรือเสพสารเสพติด
เช่น ยาแก้อาเจียน ยาดองเหล้า แอลกอฮอล์
รังสีเอ๊กซ์ สารกัมมันตรังสีทางการแพทย์
มีความผิดปกติของกระดูกสันหลังหากมารดาได้รับตั้งแต่อายุครรภ์ 2 สัปดาห์-3เดือน
มารดาได้รับสารเคมีจากสิ่งแวดล้อม
สารปรอททำให้เกิดการแพ้พิษสารปรอท
ภาวะแทรกซ้อนขณะตั้งครรภ์
ครรภ์เป็นพิษ รกเกาะผิดที่ทำให้เกิดเลือดออกระหว่างตั้งครรภ์
การจำแนกความพิการแต่กำเนิดตามกลไกการเกิด
Deformation
ภายนอกรบกวนกระบวนการพัฒนาอวัยวะที่ไม่ใช่พันธุกรรม
เท้าปุก
ข้อติด
ภาวะเนื้องอกมดลูก
Disruption
ภายนอกรบกวนกระบวนการเจริญพัฒนาอวัยวะที่ไม่ใช่พันธุกรรม
ทารกขาดเลือดไปเลี้ยงอวัยวะส่วนปลาย
มีการฉีกขาดของ amnion ทำให้เกิด amniotic band ผูกรัดแขนของทารกเกิด limbs defect
Malformation
เกิดจากกระบวนการเจริญพัฒนาภายในที่ผิดปกติ อาจเกิดจากพันธุกรรม หรือสิ่งแวดล้อม
นิ้วเกิน
ติ่งบริเวณหน้าหู
นิ้วแยกกันไม่สมบูรณ์
เท้าปุก
เพดานโหว่
ปากแหว่ง
4.Dysplasia
ความผิดปกติในระดับเซลล์ของเนื้อเยื่อพบในทุกส่วนของร่างกาย
Skeletal dysplasia
แบ่งได้ 2 ส่วน
ความพิการของการทำงานในหน้าที่และภาวะร่างกาย
มีภาวะต่อมไทรอยด์บกพร่อง หรือกลุ่มโรคโลหิตจาง
ความพิการทารกตั้งแต่กำเนิดที่บ่อยได้บ่อยที่สุด
แขนขาพิการ
ปากแหว่งเพดานโหว่
โรคหัวใจพิการแต่กำเนิด
กลุ่มอาการดวน์
ความพิการทางด้านโครงสร้างของร่างกาย
คลอดออกมาแล้วเป็นโรคหัวใจ
ปากแหว่งเพดานโหว่
แขนขาขาด
Esophageal stenosis/Fistula/atressia
อาการและการแสดง
ทารกแรกเกิด น้ำลายไหลมาก อาเจียน ไอ สำลักเอาอาหารและเมือกเข้าสู่ทางเดินหายใจ อาจพบอากาศในกระเพาะอาหาร น้ำ เกลือแร่ และการสำลัก ส่วนใหญ่จะมีโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด ความผิดปกติของลำไส้เล็ก
การพยาบาลหลังผ่าตัดแก้ไขหลอดอาหาร
อาจเกิดภาวะปอดอักเสบหายใจลำบากหรือหยุดหายใจ เนื่องจากสำลักน้ำลายหรือน้ำย่อยเข้าหลอดลม
จัดท่านอนที่เหมาะสม
พลิกตะแคงตัวบ่อยๆ
On NG tube
ให้ออกซิเจนกรณีมีภาวะพร่องออกซิเจน
ให้ยาปฏิชีวนะตามแผนการรักษา
อาจเกิดภาวะปอดแฟบจากการอุดตันของท่อระบายทรวงอก
ตรวจสอบการทำงานของ ICD
จัดท่านอนศีรษะสูง
บันทึกลักษณะ สี จำนวนของสารคัดหลั่ง
Aanorectal malformation
พยาธิสภาพ
ชนิดของความผิดปกติ
Anal stenosis รูทวารหนักตีบแคบ
Impreforate and membrane มีเยื่อบางๆปิดกั้นรูทวารหนัก
Recyal atresia ลำไส้ตรงตีบตัน
Anal agrnesis รูทวารหนักเปิดผิดที่
อาการและอาการแสดง
ไม่มีการถ่ายขี้เทา ภาใน 24 ชม ถ้าเลยยังไม่ถ่ายอุจจาระแสดงว่าลำไส้อุดตัน
2.ไม่พบรูเปิดทางทวารหนักหรือพบเพียงรอยช่องเปิด
3.ไม่มีเสียงเคลื่อนไหวของลำไส้
4.กระสับกระส่าย อึดอัด
5.แน่นท้อง ท้องอืด
6.ปวดเบ่งอุจจาระ
7.ตรวจพบกากอาหารค้างในทางเดินอาหาร
การพยาบาล
การพยาบาลในระยะขยายทวารหนัก
3.แนะนำให้บิดามารดาให้อาหารท่มีประโยชน์ตามวัยมีกากใยอาหารสูง
2.สอนการดูแลในการถ่างขยายรูเปิดทวารหนัก ให้ยาแก้ปวดก่อนถ่างขยาย
1.ให้ความรู้บิดามารดาเกี่ยวกับการดำเนินโรค
หลังผ่าตัด colostomy
3.สังเกตการเปลี่ยนแปลงของผิวหนังรอบๆถ้ามีการอักเสบ รายงานแพทย์
4.แนะนำอาหารย่อยง่ายมีโปรตีนสูง มีกากใย
2.กรณีมีการรั่วซึมต้องเปลี่ยนถุงใหม่
5.แนะนำการมาตรวจตามนัด
1.ทำความสะอาดด้วยน้ำเกลือล้างแผล
เป้าหมายการรักษา
เพื่อผู้ป่วยสามารถถ่ายอุจจาระได้ มีความรู้สึกอยากถ่ายอุจจาระ กลั้นอุจจาระได้
ปากแหว่งเพดานโหว่
การวินิจฉัย
สามารถตรวจได้เมื่ออายุครรภ์ 13-14 สัปดาห์
2.การซักประวัติเพื่อหาสาเหตุทางกรรมพันธ์
3.การตรวจร่างกายโดยการสอดนิ้วตรวจเพดานปากภายในหรือดูในช่องปากเวลาเด็กร้อง
อาการและการแสดง
หายใจลำบาก
อาจติดเชื้อในหูชั้นกลางทำมห้มีปัญหาการได้ยินผิดปกติ
การดูดกลืนจะผิดปกติเนื่องจากอมหัวนมไม่สนิท
เกิดการสำลักเพราะไม่มีเพดานรองรับ
การแก้ไขเพดานโหว่
3.การผ่าตัดแก้ไขจมูก ทำเมื่ออายุประมาณ3ปี และตามด้วยการฝึกพูด
4.มาอายุประมาณ5ปี ปรึกษาทันตแพทย์จัดฟัน
2.ผ่าตัดเพดานเพื่อให้มีการพูดให้ชัดเจนใกล้เคียงปกติมากที่สุด
5.รักษาความผิดปกติที่หลงเหลืองอยู่
1.แพทย์จะปรึกษาทันตแพทย์ เพื่อใส่เพดานเทียม เปลี่ยนทุก1เดือน ป้องกันการสำลัก
การพยาบาล
การพยาบาลหลังผ่าตัด
Cleft lip
3.สอนบิดามารดาทำความสะอาดแผล
4.จัดท่านอนหงายหรือตะแคง เพื่อป้องกันการเสียดสี
2.ระวังสิ่งคัดหลั่งจากจมูกมาปนเปื้อนแผล
5.ป้ายยาครีมปฏิชีวนะตามแผนการรักษา
1.ระมัดระวังไม่ให้แผลดึงรั้งโดยการปลอบโยนให้เด็กสงบเมื่อร้องไห้
Cleft palate
3.ห้ามดูดเสมหะในช่องปาก
4.ห้ามนำของแข็งเข้าปาก เช่น แปรงสีฟัน
1.สังเกตอาการสำลักอาหาร
2.ห้ามอ้าปากทารกกว้างๆ
การพยาบาลก่อนการผ่าตัด
1.บิดามารดาวิตกกังวลเกี่ยวกับความพิการแต่กำเนิด
2.เปิดโอกาสให้บิดามารดาได้ซักถามถึงอาการเจ็บป่วย
3.ให้ข้อมูลแนะนำอธิบายเกี่ยวกับอาการและอาการแสดง
1.ประเมินความวิตกกังวลของบิดามารดาเพื่อการให้ข้อมูลที่ถูกต้อง
4.ปลอบโยนให้กำลังใจ
2.บิดามารดา ผู้ดูแลเด็กขาดความรู้เกี่ยวกับโรคและวิธีการรักษา
3.แนะนำการดูแลในระยะก่อน หลังผ่าตัด
4.เสริมแรง ให้กำลังใจ
2.สอนการป้อนนมอย่างถูกวิธี
1.ประเมินความรู้ความเข้าใจบิดามารดา
การให้นมอย่างถูกวิธี
3.ถ้าเด็กดูดไม่ได้ใช้ช้อนป้อน
1.จัดท่านอนศรีษะสูง 30-45 องศา
2.จุกนมต้องยาว รูออกจะต้องใหญ่กว่าปกติเล็กน้อยจะได้ดูดสะดวก
4.ดูดครั้งละน้อยๆแต่บ่อยครั้ง
5.จับไล่นมเป็นระยะๆทุก 15-30 มิลลิลิตรเสมอหลังให้นมนอนศีรษะสูง 30 อาศา
6.ป้อนน้ำตามทุกครั้งและทำความสะอาดช่องปากเพื่อป้องกันการติดเชื้อ
7.ในเด็กหลีกเลี่ยงอาหารรสจัด เป็นเมล็ด
8.การใส่ NG tube เป็นทางเลือกสุดท้าย
Abdominal compartment syndrome
ส่งผลกระทบต่อผู้ป่วยหลายระบบ
หายใจลำบาก
ความดันโลหิตสูง
ไตวาย
การดูแลเพื่อลดแรงดันในช่องท้อง
ฟอกไตเพื่อดึงน้ำออกจากร่างกาย
ให้ยาระงับปวด
ใส่สายสวนกระเพาะอาหารและลำไส้ใหญ่
ใส่สายระบายช่องท้อง
การที่ความดันในช่องท้องเพิ่มสูงขึ้น >20 mmHG ซึ่งทำให้เกิดอวัยวะล้มเหลวตามมา
รูเปิดท่าปัสสาวะต่ำกว่าปกติ
การผ่าตัด
แก้ไขรูเปิดท่อปัสสาวะอยู่ต่ำกว่าปกติ
1.ผ่าตัดแบบขั้นตอนเดียว เป็นการผ่าตัดแก้ไของคชาตยึดตรง พร้อมกับตกแต่งท่อปัสสาวะ
2.ผ่าตัดแบบ 2ขั้นตอน
ขั้นที่1 orthoplasty ผ่าตัดแก้ไขอคชาตโค้งงอ โดยตัดเลาะเนื้อเยื่อที่ดึงรั้งเพื่อให้องคชาตยึดตรึง
ขั้นที่2 urethroplasty หลังผ่าตัด orthoplasty แล้ว6เดือน เพื่อให้บริเวณที่ผ่าอ่อนนุ่ม
การพยาบาล
ก่อนผ่าตัด
1.ประเมินความวิตกกังวล
2.ให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องต่างๆ
หลังผ่าตัด
เก็บปัสสาวะส่งตรวจตามแผนการรักษาอย่างเคร่งครัด
ใช้เทคนิคปลอดเชื้อในการทำแผล
ประเมินความปวดของเด็กให้ยาแก้ปวดตามแผนการรักษา
ให้บิดามารดาดู้แลอย่างใกล้ชิด
คำแนะนำเมื่อกลับไปอยู่บ้าน
บิดามารดากระตุ้นให้เด็กดื่มน้ำมากๆทุกวัน
ห้ามเด็กเล่นทราย ขี่จักรยาน
ดูแลแผลผ่าตัดไม่ให้เปียก
อธิบายอาการติดเชื้อ เช่น มีไข้แผลแดงอักเสบ ปัสสาวะขุ่นมีตะกอน
ทำความสะอาดให้เด็กทุกครั้งหลังถ่ายอุจจาระเพื่อป้องกันการติดเชื้อ
Omphalocele / Gastroschisis
การวินิจฉัยและอาการแสดง
หลังคลอดพบผนังหน้าท้องซึ่งมักจะแยู่ขวาต่อสายสะดือ เป็นช่องโหว่มีอวัยวะภายในออกมา เช่น สำไส้เล็ก ลำไส้ใหญ่
อุณหภูมิร่างกายต่ำ เด็กตัวเย็น
ตรวจอัลตราซาวด์ อายุครรภ์ 10สัปดาห์
เด็กอาจตัวเล็กคลอดก่อนกำหนด
ไม่มีผนังหน้าท้องทำให้ลำไส้ปนเปื้อนความสกปรกจากภายนอกทำให้มีการติดเชื้อ
อาจพบความผิดปกติอื่นร่วมด้วย เช่น malrotation
การพยาบาล
ก่อนผ่าตัด
2.ระวังการ Contaminate โดยต้องใช้ sterile technique
3.พยายามประคับประคองกระจุกลำไส้ให้ตั้ง
1.Keep warm โยอาจเป็น radiant warmer หรือไว้ใน incubator
4.ดูแลให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำตามแผนการรักษา
หลังผ่าตัด
1.ดูแลเด็กให้ได้รับการรักษาด้วยเครื่องช่วยหายใจประมาณ 24-48 ชั่วโมงแรก
2.ดูแลให้ได้รับสารน้ำและสารอาหารตามแผนการรักษา เนื่องจากลำไส้ของเด็กที่เป็นมีการอักเสบ บวมและเกาะติดกันเป็นกระจุก
3.ติดตามการทำงานของลำไส้
4.สังเกตอาการท้องอืดอย่างรุนแรง ปัสสาวะออกน้อยลง ความดันในช่องอกสูงขึ้น
การรักษา
การผ่าตัดเปิดหน้าท้องตั้งแต่ระยะแรก เป็นการปิดหน้าท้องตั้งแต่ระยะแรกโดยดันลำไส้กลับเข้าไปในช่องท้อง
ในกรณีดันลำไส้กลับเข้าในช่องท้องทำให้ผนังหน้าท้องตึงไม่สามารถเย็บปิด fascia ได้
นางสาว สุรีรัตน์ พึงประสพ รุ่น 36/2 เลขที่ 46 รหัส 612001127