Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

การพยาบาลทารกและเด็กที่มีความพิการแต่กำเนิด, ประเด็นคำถามที่ต้องการคำตอบ …

- - - - ทำให้การทำงานของอวัยวะเสีย
      - ปากแหว่งเพดานโหว่
      - ภาวะหลอดประสาทไม่ปิด
    - - ไม่มีผลให้การทำงานขออวัยวะเสียไป
      - ปาน
      - ติ่งบริเวณหน้าหู
  - - - อวัยวะผิดรูป
      - เกิดจากกระบวนการเจริญพัฒนา
    - - เกิดจากการที่มีแรงกระทำจากภายนอกทำให้อวัยวะผิดรูป
    - - ผิดปกติจากอวัยวะ หรือเนื้อเยื่อ
      - สาเหตุจากภายนอก
        ไม่ใช่พันธุกรรม
    - - เป็นความผิดปกติในระดับเซลล์ของเนื้อเยื่อพบ
  - - - สายตรงเป็น มีโอกาสเป็น
    - - แม่มีอายุมากเกินไป
      - โรคติดเชื้อ หัดเยอรมัน
      - ขาดอาหาร ขาดวิตามิน
      - กินยาหรือเสพสารเสพติด
      - ได้รับสารเคมี ปรอท
      - ครรภ์เป็นพิษ
      - รังสีเอ๊กซ์ หรือรังสีแกมม่า
        รวมทั้งสารกัมมันตรังสี
- - - - ควรทำเมื่อ
        
        อาจทำภายใน 48 ชม. หลังคลอดในรายที่เด็กสมบูรณ์ดีหรือ รอตอนเด็กที่มีอายุ 8 - 12 สัปดาห์
        
        เมื่อเด็กอายุ 10 สัปดาห์ขึ้นไป น้ำหนัก 10 ปอนด์ ฮีโมโกลบิน 10 %
      - ประเภท
        
        การผ่าตัด ปากแหว่งด้านซ้าย Triangular Flap
        
        ผ่าตัดปากแหว่งด้านขวา Rotation Advancement Method
        
        ผ่าตัดปากแหว่งทั้ง 2 ด้านStraight Line Repair
      - ขั้นตอน
        
        ปรึกษาแพทย์ทำเพดานเทียมปิดช่องโหว่
        
        ผ่าตัดแพดานแก้ไขเมื่อเด็กเริ่มพูดได้ 6-18 เดือน
        
        ผ่าตัดแก้ไขจมูก เมื่อ 3 ปี แล้วฝึกพูด
        
        5 ปี ปรึกษา หมอจัดฟัน
        
        ต่อมารักษาความผิดปกติที่หลงเหลืออยู่
  - - - บิดา มารดากังวลเกี่ยวกับความพิการแต่กำเนิด
      - บิดา มารดาผู้ดูแลขาดความรู้เกี่ยวกับโรคและวิธีการดูเเล
      - เสี่ยงต่อการติดเชื้อทางเดินหายใจหูชั้นกลาง การอุดกั้นทางเดินหายใจจากการสำลัก
      - มีโอกาสขาดสารน้ำอาหารจากการดูดกลืนผิดปกติ
    - - ขณะให้อาหารจัดท่าศีรษะสูงประมาณ 30-45 องศาเวลาดูดนมจะได้ไม่สาลัก
      - ใช้ Artificial nipple จุกนมต้องยาว รูออกของน้ำนมจะต้องใหญ่กว่าปกติเล็กน้อย
      - ถ้าเด็กดูดไม่ได้ใช้ช้อนปูอน / หลอดหยด
      - ดูดครั้งละน้อยๆ บ่อยครั้ง ทำความสะอาดทุกครั้ง
      - จับไล่ลมเป็นระยะๆทุก 15-30 มิลลิลิตรเสมอ หลังให้นมนอนศีรษะสูง 30 องศาตะแคงขวาให้ใบหน้าตะแคงเพื่อปูองกันท้องอืด สำลัก
      - ปูอนน้ำตามทุกครั้งและท าความสะอาดช่องปากเพื่อปูองกันการติดเชื้อ
      - ในเด็กหลีกเลี่ยงอาหารรสจัด เป็นเมล็ด
      - -การใส่ NG tube จะเป็นทางเลือกสุดท้ายเมื่อน้ำหนักเด็กต่ำ
    - - เสี่ยงต่อการเกิดแผลแยก/ เลือดออก/ ติดเชื้อ ใส่ logan bow จนกว่าแผลจะติดดี
      - ไม่สุขสบายเนื่องจากแผลผ่าตัด
      - เสี่ยงต่อการหายใจไม่มีประสิทธิภาพหลังได้รับยาระงับความรู้สึก
      - เสี่ยงต่อการติดเชื้อระบบทางเดินหายใจจากการสำลัก
      - มีโอกาสขาดน้ำและสารอาหารเนื่องจากข้อจำกัดในการดูดกลืน
      - บิดามารดา ขาดความรู้ความเข้าใจการดูแลทารกหลังผ่าตัดปากแหว่งเพดานโหว่เมื่อกลับไปอยู่บ้าน
    - - งด ดูด เปุา ประมาณ 3 – 4 สัปดาห์เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กใช้ลิ้นดัน flap แยก
      - ฝึกพูดเสมอ
      - พิจารณาผ่าตัดภาวะดังกล่าวก่อนเข้าวัยเรียนเพื่อลด Negative social effect
      - อายุประมาณ 4-5 ปี ส่งท า Nasendoscope
        
        นับเลข เช่น 30 ถึง 40
        
        ออกเสียง “ส-เสือ ใส่ เสื้อ สี แสด
- - - - Gastrostomy
    - - Thoracotomy and division of the fistula with Esophageal anastomosis
      - Esophagogram
      - Try oral feeding
      - Off Gastrostomy tube
    - - ก่อน
        
        อาจเกิดภาวะปอดอักเสบหายใจลำบากหรือหยุดหายใจเนื่องจากสำลักหรือน้ำย่อยเข้าหลอดลม
        
        จัดท่านอนที่เหมาะสม
        
        พลิกตะแคงตัวบ่อยๆ
        
        0n NG tube ต่อ Continuous suction
        
        ให้ออกซิเจนกรณีมีภาวะพร่องออกซิเจน
        
        ให้ยาปฏิชีวนะตามแผนการรักษา
        
        อาจได้รับสารน้ำและสารอาหารไม่เพียงพอเนื่องจากไม่สามารถ
        รับประทานอาหารทางปากได้
        
        ดูแลสารน้ำตามแผนการรักษา
        
        ให้น้ำให้นม อาหารGastrostomy tube
      - หลัง
        
        อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนหลังผ่าตัดต่อหลอดอาหาร(แผลแยก)
        
        ห้ามใส่สาย NG tube หรือสาย suctionและไม่ควรนอนเหยียดคอ
        
        กระตุ้นเด็กร้อง สังเกตภาวะขาดออกซิเจน
        
        ดูการทำงาน ICD
        
        รับสารน้ำ/Antibioticตามแผนการรักษา
        
        อาจเกิดการติดเชื้อบริเวณแผลGastrostomy
        
        ล้างมือก่อนและหลังให้การพยาบาล
        
        ทำแผลอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง
        
        สังเกตการติดเชื้อ
        
        ให้ยา Antibiotic ตามแผนการรักษา
        
        อาจเกิดภาวะปอดแฟบจากอุดตันของท่อระบายทรวงอก ICD
        
        จัดท่าศีรษะสูง
        
        ตรวจสอบการทำงานของ ICD
        
        ระวังสายหัก พับงอ / นวดคลึงสายบ่อยๆ
        
        บันทึก ลักษณะ สี จำนวนของ discharge
- - - - การถ่างขยายทวารหนักโดยใช้ hegar metal dilators
      - การผ่าตัด anal membrane ออกในรายที่สังเกตเห็นขี้เทาทางทวารหนัก
      - การผ่าตัดตบแต่งทวารหนัก (anoplasty)เมื่อแผลผ่าตัดติดเรียบร้อยแล้วประมาณ 10 วัน ถ่างขยายทวารหนักต่อ
    - - การทำทวารหนักเทียมทางหน้าท้อง เพื่อระบายอุจจาระออก (colostomy)
      - การผ่าตัดตบแต่งทวาร (anoplasty) ภายหลังผ่าตัดประมาณ 2สัปดาห์
      - การผ่าตัดปิดทวารเทียมทางหน้าท้อง
  - - - ให้ความรู้บิดามารดาเกี่ยวกับโรค
      - สอนการดูแลในการถ่างขยายรูทวารหนัก
      - แนะนำให้พ่อแม่ให้อาหารตามวัยของเด็กที่มีมีกากใยสูง
    - - หลังผ่าตัดสัปดาห์แรก รูเปิดยังไม่หายและการหายของแผลยังไม่ดีพอทำความสะอาดด้วยน้ำเกลือล้างแผล
      - เมื่อแผลหายดีแล้วทำความสะอาดด้วยน้ำสะอาด ซับผิวหนัง
        รอบรูเปิดด้วยสำลีหรือผ้าสะอาดที่อ่อนนิ่ม
      - เลือกขนาดของปากถุง ให้ครอบปิดกระชับ
        พอดีกับขนาดทวารเทียม ไม่แน่นเกินไป
      - สังเกตการรั่วซึมของอุจจาระทุก 2 ชั่วโมง
      - ทิ้งอุจจาระถ้ามีปริมาณอุจจาระในถุง 1⁄4-1/3 ของถุง
      - สังเกตการเปลี่ยนแปลงของผิวหนังรอบๆทวารเทียม
        แดง ถลอก บอกแพทย์
      - กินโปรตีนสูง
      - สังเกตสีกลิ่น อุจาระ
      - มาตามนัด
    - - ทำความสะอาดบริเวณแผลผ่าตัดรูทวารหนัก 8-10วัน
      - หลังผ่าตัด 3-4 วันหลังถอดสายสวนปัสสาวะ แช่ก้น
      - ดูแลความสะอาดผิวหนังรอบๆทวารหนักด้วยน้ำ
      - สังเกตการติดเชื้อ ไข้ ปวด บวม แดง ร้อน
      - ตำแหน่งการถ่ายอุจจาระ การฝึกขับถ่ายอุจจาระเมื่ออายุ
        18-24 เดือน โดยนั่งกระโถนเช้า เย็น
      - คำเเนะนำกลับบ้าน
        
        แนะนำใช้เทียนไขเหลาเท่าขนาด hegarถ่างขยาย
        
        สอนทำความสะอาดเทียนไข ทวารหนัก
        
        ให้ความรู้ปูองกันท้องผูก ให้อาหารมีกากใย ให้ยา ระบาย
        
        ถ่ายเหลว ให้ยาที่ทำให้อุจจาระเป็นก้อน
        
        สังเกตการตีบแคบของทวารหนัก
        
        ฝึกขับถ่าย ฝึกกล้ามเนื้อที่ช่วยควบคุมการถ่ายอุจจาระ
        
        มาตรวจตามนัด
- - - - ทำให้ช่องท้องไม่ปิด
      - มีเยื่อบางๆหุ้มอวัยวะที่ออกนอกช่องท้อง
  - - - ไส้เลื่อนสะดือแตกตอนทารกอยู่ในครรภ์
      - ลำไส้กระเพาะทะลักออกนอกช่องท้องทางรูด้านข้าง
      - สายสะดือไม่มีสิ่งห่อหุ้ม
  - - - keep warm
      - ระวังการ contaminate
      - พยายามปั้นประคองกระจุกลำไส้ให้ตั้ง
      - ดูแลให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ
      - ดูแลให้ systemic antibiotics ตามแผนการรักษา
    - - keep warm
      - ประคองลำไส้ไม่ให้พับตกลงมาข้างๆตัวได้
      - นอนตะแคงข้างเพื่อลดโอกาสที่เลือดจะมาเลี้ยงลำไส้ไม่สะดวก
      - ดูแลให้ได้รับสารนำ้ทางหลอดเลือดดำ
    - - ดูแลเด็กที่ได้รับการรักษาโดยใช้เครื่องช่วยหายใจประมาณ 24-48 ชั่วโมง
      - ดูแลให้ได้รับสารน้ำ
      - ความต้องพลังงานประมาณ 130-150 kcal/kg/d
      - ฟัง bowl sound ถ้า 3 สัปดาห์
      - สังเกตอาการระวัง
        
        ท้องอืดอย่างรุนแรง ปัสสาวะออกน้อยลง central venous pressure สูงขึ้น ความดันในช่องสูง
        
        สังเกตอาการระวังการเกิดAbdominal compartment syndrome
  - - - เป็นการปิดหน้า
      - ท้องตั้งแต่ระยะแรกโดย ดันลำไส้กลับเข้าไปในช่องท้อง แล้วเย็บปิดผนังหน้าท้อง
      - โดยและเย็บปิดfascia แล้วเย็บปิดผิวหนังอีกชั้นหนึ่ง
    - - ในกรณีดันลำไส้กลับเข้า
      - ในช่องท้องทำให้ผนังหน้าท้องตึง ไม่สามารถเย็บปิด fascia ได้ หรือเย็บปิดแล้ว
      - ทำให้ช่องท้องแน่นมาก หรือดันลำไส้กลับได้ไม่หมด
      - แพทย์ทำถุงให้ลำไส้อยู่ชั่วคราว
      - บีบถุงไล่ลำไส้กลับเข้าช่องท้องโดยเปลี่ยน dressing วันละครั้ง
      - บีบถุงไล่ลำไส้กลับเข้าช่องท้อง แล้วผูกปิดถุงวันละเปลาะ
      - ประมาณ 5 วัน และมักไม่เกิน 7 วัน หลังจากนั้นเย็บปิดผนังหน้าท้อง
- - - - Anterior or distal or mild: รูเปิดท่อปัสสาวะมาเปิดทางด้านหน้า หรือ บริเวณส่วนปลายขององคชาต มีรูเปิดต่ ากว่าปกติเพียงเล็กน้อย
      - Middle or moderate: รูเปิดท่อปัสสาวะอยู่กลางขององคชาตปานกลาง
      - Posterior or proximal or severe:ผิดปกติมาก
  - - - ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น
        
        เลือดออก
        
        เกิดการตีบตันของรูเปิดท่อปัสสาวะ
        
        มีรูตรงบริเวณรอยต่อระหว่างรูเปิดท่อปัสสาวะ
        
        องคชาตยังโค้งงอ แก้ไขได้ด้วยการผ่าตัด
        
        เกิดการติดเชื้อ
      - ผ่าตัดแบบ 2 ขั้นตอน (two-staged repair)
        
        ขั้นที่ 1. Orthoplasty
        
        ขั้นที่ 2. Urethroplasty
      - ผ่าตัดแบบขั้นตอนเดียว (one-stage repair)
        
        เป็นการผ่าตัดแก้ไขให้
        องคชาต ยืดตรง (orthoplasty)
      - ควรผ่าตัดไม่เกิน 6-18เดือน แต่ไม่เกิน 2 ปี
  - - - บิดามารดา/ผู้ปกครองต้องกระตุ้นให้เด็ก ดื่มน้ ามากๆ ทุกวัน
      - ห้ามเด็กเล่นทราย ขี่จักรยานหรือนั่งคร่อมการติดเชื้อ
      - ดูแลแผลผ่าตัดไม่ให้เปียก
      - แนะนำและสาธิตการทำความสะอาดองคชาต
      - ทำความสะอาดให้เด็กภายหลังการถ่ายอุจจาระ ทุกครั้งเพื่อปูองกันการติดเชื้อ
      - อธิบายอาการติดเชื้อ
      - ภายหลังการเอาสายสวนปัสสาวะออก ให้สังเกต ปริมาณปัสสาวะ
      - ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น เช่นลักษณะขององคชาต
      - ถึงความสำคัญในการมาพบแพทย์ตาม
        นัดหรือมาก่อน นัดหากมีความผิดปกติเกิดขึ้น
    - - จัดให้เด็กนอนในท่าสบาย ยึดสายที่ต่อจากuretraให้อยู่บริเวณหน้าท้องหรือต้นขา
      - ประเมินความปวดของเด็กให้ยาแก้ปวดตาม
      - เก็บปัสสาวะส่งตรวจเพาะเชื้อตามแผนการ รักษาอย่างเคร่งครัด
      - ใช้เทคนิคปลอดเชื้อในการทำแผลและการ
        เทปัสสาวะออกจากถุงปัสสาวะ
      - ประเมินบริเวณสาย cystostomy ไม่ให้เกิด การติดเชื้อ
      - ให้บิดามารดา/ผู้ปกครองอยู่ดูแลเด็กอย่าง ใกล้ชิด
    - - อธิบายขั้นตอนการเตรียมการก่อนผ่าตัด
      - ประเมินความวิตกกังวล
      - ให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องต่างๆผลของการผ่าตัด การปวดหลังผ่าตัด การได้ รับยาระงับความรู้สึก แปลกใหม่ หลังผ่าตัด