Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ไทรอยด์ - Coggle Diagram
ไทรอยด์
ไฮเปอร์ไทรอยด์ (Hyperthyroidism)
การพยาบาลระยะตั้งครรภ์
1.อธิบายให้สตรีตั้งครรภ์และครอบครัวเข้าใจเกี่ยวกับภาวะต่อมไทรอยด์เป็นพิษ พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้สตรีตั้งครรภ์
และครอบครัวได้ระบายความรู้สึกหรือซักถามข้อข้องใจเพื่อลดความวิตกกังวล
2.อธิบายให้สตรีตั้งครรภ์และครอบครัวเข้าใจว่าอาการหงุดหงิด โมโหง่าย
เป็นอาการของโรคที่พบได้และอาการจะดีขึ้นหากได้รับการรักษาที่ถูกต้องเหมาะสมเพื่อให้เกิดความเข้าใจและคลายความวิตกกังวล
3.แนะนำการปฏิบัติตัวขณะตั้งครรภ์เพื่อป้องกันอันตรายและภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นในเรื่องดังนี้
-การรับประทานอาหารควรรับประทานอาหารที่มีโปรตีนคาร์โบไฮเดรต วิตามินและแคลอรี่สูง เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารเพียงพอ รวมทั้งดื่มน้ำให้เพียงพอประมาณ 2300 - 3300 ml ต่อวัน
เพราะร่างกายจะมีการเสียน้ำออกไปทางเหงื่อและปัสสาวะจำนวนมาก ควรงดชากาแฟและเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เพราะจะกระตุ้นให้ร่างกายมีการเผาผลาญมากขึ้น
-การพักผ่อนควรนอนหลับอย่างน้อยวันละ 8-10 ชั่วโมงเพื่อลดการใช้พลังงานและทำจิตใจให้สบายเพื่อลดความเครียด
-การรักษาความสะอาดของร่างกายอาบน้ำอย่างน้อยวันละ 2 ครั้งเพราะว่าร่างกายมีการเผาผลาญสูงเหงื่อออกมากและร้อนง่าย
-การป้องกันอุบัติเหตุควรระมัดระวังการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุต่างๆเนื่องจากมีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงหรือมือสั่น
-การประเมินการดิ้นของทารกในครรภ์ถ้าพบว่าทารกดิ้นน้อยลงหรือดิ้นแรงผิดปกติควรรีบมาพบแพทย์
-จัดสิ่งแวดล้อมให้สงบและเย็นสบายให้หญิงตั้งครรภ์ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่
-การมาตรวจตามนัดการรับประทานยาตามแผนการรักษาและการสังเกตผลข้างเคียงของยา
การพยาบาลหลังคลอด
ดูแลให้พักผ่อนอย่างเพียงพอแนะนำให้นอนท่า semi fowler
และช่วยเหลือในการทำกิจกรรมเพื่อลดอัตราการเผาผลาญของร่างกายและลดการใช้ออกซิเจน
ประเมินสัญญาณชีพโดยเฉพาะชีพจรการหายใจเพราะ 24 ชั่วโมงแรกหลังคลอดหัวใจจะทำงานมากขึ้นจึงอาจมีอาการหายใจไม่สะดวกกล้ามเนื้อหัวใจอ่อนแรงเหนื่อยง่ายอ่อนเพลียและใจสั่นได้ หากอาการดังกล่าวต้องรายงานแพทย์ทันที
ภายหลังทารกคลอดประเมินภาวะสุขภาพของทารกแรกเกิด เพราะในรายที่มารดาหลังคลอดได้รับยาลดการทำงานของต่อมธัยรอยด์ในปริมาณมาก
ทารกแรกเกิดอาจมีอาการแสดงของต่อมธัยรอยด์ถูกกด คือง่วงซึมเคลื่อนไหวช้าและไม่ค่อยร้อง
แนะนำการดูแลทารกแรกเกิดและการเลี้ยงบุตรด้วยนมมารดาโดยในรายที่อาการไม่รุนแรงสามารถการเลี้ยงบุตรด้วยนมมารดาได้
ในรายที่ได้รับยาต้านธัยรอยด์ฮอร์โมนในปริมาณที่เหมาะสมตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้สามารถเลี้ยงบุตรด้วยนมมารดาได้ เพราะยาผ่านทางน้ำนมได้น้อยและไม่มีผลต่อการทำงานของต่อมธัยรอยด์ของทารกโดยแนะนำให้มารดาหลังคลอดรับประทานยาทันทีหลังให้นมบุตรหรืออย่างน้อย 3-4 ชั่วโมงก่อนให้นมบุตร
ดูแลให้ได้รับยาตามแผนการรักษาและประเมินผลข้างเคียงของยา
แนะนำการวางแผนครอบครัวโดยควรเว้นระยะการมีบุตรอย่างน้อย 2 ปีและไม่ควรคุมกำเนิดด้วยยาเม็ดคุมกำเนิดที่มีเอสโตรเจน เ
พราะเอสโตรเจนจะทำให้ thyroxine และ thyroid binding protein ในเลือดสูงขึ้นซึ่งอาจทำให้อาการของโรครุนแรงขึ้น
การพยาบาลระยะคลอด
จัดให้นอนท่าตะแคงศีรษะสูง
ประเมินสัญญาณชีพ q 1-2 hr ในระยะคลอดและ q 10-15 min ในระยะเบ่งคลอด
ดูแลบรรเทาความเจ็บปวด ใช้เทคนิคบรรเทาความเจ็บปวด โดยไม่ใช้ยา เช่น เทคนิคการหายใจ ลูบหน้าท้อง
ประเมินความก้าวหน้าของการคลอด จากการหดรัดตัวของมดลูกหรือตรวจภายใน
ประเมินอัตราการเต้นของหัวใจทารก และประเมิน q 5 min ในระยะเบ่งคลอด
สังเกตอาการผิดปกติ เช่น ใจสั่น หายใจลำบาก หรืออาการของ thyroid storm เช่น หัวใจเต้นเร็ว ชีพจรมากกว่า 140 ครั้ง/นาที มีไข้ N/V
ดูแลความสุขสบาย เช่น เช็ดหน้าด้วยผ้าชุบน้ำเย็น
อยู่เป็นเพื่อ พร้อมทั้งใหห้กำลังใจ
แพทย์อาจพิจารณาช่วยคลอดโดยใช้คีม หรือเครื่องดูดสุญญากาศ เพื่อให้ผู้คลอดเบ่งคลอดน้อยที่สุด
เตรียมอุปกรณ์ช่วยฟื้นคืนชีพ
การรักษา
การใช้ยา
1.1 ยากลุ่ม Thionmides เช่น propythiouracil (PTU) และ methimazole (MMI) ในไตรมาสแรกให้ PTU เสมอเพราะ MMI ผ่านรกและมีผล teratogenic effect ต่อทารก
1.2 ยากลุ่ม Beta-blocking agents เป็นยาที่ออกฤทธิ์กดการทำงานของระบบประสาท sympathetic ทำให้หัวใจเต้นช้าลง ลดอาการมือสั่น
การรักษาโดยการผ่าตัด (Subtotal thyroidectomy) จะทำในกรณีที่สตรีตั้งครรภ์แพ้ยา thionamides หรือมีอาการรุนแรงมากไม่สามารถควบคุมด้วยยาได้
ผลกระทบ
ผลต่อมารดา
แท้งและคลอดก่อนกำหนด เนื่องจากการมีการเผาผลาญของร่างกายมากกว่าปกติ
เกิดภาวะความดันโลหิตสูงร่วมกับการตั้งครรภ์สูงขึ้น
ผลกระทบต่อทารก
1.ทารกตายในครรภ์ จากการเผาผลาญของมารดาที่มีมากเกินไปอาจทำให้ทารกมีการเจริญเติบโตผิดปกติและมีภาวะขาดออกซิเจนได้
2.การเจริญเติบโตในครรภ์ช้า IUGR จากการเผาผลาญของร่างกายมารดาที่มีมากทำให้ทารกได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ
มีโอกาสเกิดต่อมไทรอยด์เป็นพิษแต่กำเนิดเนื่องจากมีการขนถ่ายของ TSI ผ่านรกไปกระตุ้นต่อมไทรอยด์ของทารกให้เกิดภาวะไทรอยด์เป็นพิษ
4 ทารกมีภาวะพร่องไทรอยด์ฮอร์โมนจากผลของยาต้านไทรอยด์ที่มารดาได้รับขณะตั้งครรภ์อยู่
การประเมินและการวินิจฉัย
การซักประวัติ
ประวัติการเป็นโรคต่อมไทรอยด์ในครอบครัว
-ประวัติการเจ็บป่วย อาการและอาการแสดงของโรคต่อมไทรอยด์
การตรวจร่างกาย
พบต่อมไทรอยด์โตกว่าปกติ 3-4 เท่า ตาโปน ชีพจรเร็วกว่า 100 ครั้ง/นาที กล้ามเนื้ออ่อนแรง มือสั่น
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ ตรวจหาระดับไทรอยด์ฮอร์โมนในกระแสเลือด จะพบ T3, T4 และ FreeT4 สูงกว่าปกติ แต่ TSH ต่ำกว่าปกติ
ความหมาย
เป็นภาวะที่ร่างกายมีการเผาผลาญมากขึ้น ต่อมไทรอยด์ทำงานมากกว่าปกติ (Hyperthyroidism) หรือไทรอยด์เป็นพิษ (Thyrotoxicosis) จากการมีฮอร์โมนจากต่อมไทรอยด์ที่มากกว่าปกติ
สาเหตุ
ต่อมไทรอยด์พบได้บ่อยที่สุดเกิดจาก Graves disease เป็นโรคทาง autoimmune ทำให้ต่อมไทรอยด์เกิดการอักเสบและมีขนาดใหญ่ขึ้น นอกจากนี้อาจพบร่วมกับการตั้งครรภ์ไข่ปลาอุก และเนื้องอกชนิด trophoblast
อาการและอาการแสดง
ให้การพยาบาลเหมือนสตรีตั้งครรภ์ทั่วไป เน้นในเรื่องการดูแลพักผ่อนอย่างเพียงพอ ดูแลให้ได้รับยาตามแผนการรักษา
เมื่อทารกเกิดติดตามผล Lab เพื่อประเมินภาวะพร่องไทรอยด์ในทารก หากผิดปกติรายงานแพทย์ทันที
แนะนำการดูแลทารกด้วยนมมารดาในระยะหลังคลอด
หากต้องการตั้งครรภ์ต่อไปต้องปรึกษาแพทย์ก่อน เพื่อลดระดับ TSH ให้น้อยกว่า 2.5 mlU/L ก่อนตั้งครรภ์
ไฮโปไทรอยด์ (Hypothyroidism)
อาการและอาการแสดง
ง่วงนอน อ่อนเพลีย เชื่องช้า
ความอยากอาหารลดลง ท้องอืด ท้องผูก
ผิวหนังแห้งแตก บวมกดไม่บุ๋ม
เล็บหนาและแตก ผมบาง
หนาวง่าย ทนต่ออากาศเย็นไม่ได้ ชีพจรช้า
คอพอก (goiter)
อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนที่อันตรายคือ myxedema coma
อาการแสดงคือ
อุณหภูมิร่างกายต่ำ
หัวใจเต้นช้า
ความรู้สึกตัวลดลง
deep tendon reflex ช้าหรือหายไป
ผลกระทบ
มารดา
-รกลอกตัวก่อนกำหนด
-แท้ง
-ความดันโลหิตสูงร่วมกับการตั้งครรภ์
ทารก
-เจริญเติบโตช้าในครรภ์
-น้ำหนักน้อย
-คลอดก่อนกำหนด
-ปัญญาอ่อน
-มีความบกพร่องทางสมอง
การพยาบาลระยะตั้งครรภ์
อธิบายสตรีตั้งครรภ์และครอบครัวให้เข้าใจเกี่ยวกับภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานน้อยกว่าปกติ พร้อมเปิดโอกาสให้สตรีตั้งครรภ์และครอบครัวได้ซักถามข้อข้องใจเพื่อลดความวิตกกังวล
อธิบายว่าอาการอ่อนเพลีย ง่วงนอนง่าย เฉื่อยชา เบื่ออาหารเป็นอาการที่โรคพบได้ และอาการจะดีขึ้นเมื่อได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง
แนะนำเรื่องการทานยาอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ ,รับประทานอาหารให้เพียงพอ,ย้ำให้เห็นถึงการมาตรวจตามนัดอย่างสม่ำเสมอ
ความหมาย
ต่อมธัยรอยด์ทำงานน้อยกว่าปกติ หรือผลิตฮอร์โมนธัยรอยด์ ออกมาไม่เพียงพอ
สาเหตุ
ส่วนใหญ่เกิดจากต่อมธัยรอยด์มีการอักเสบชนิด Hashimoto’s thyroiditis ที่เกิดจากภูมิคุ้มกันของร่างกายมีปฎิกิริยากับเนื้อเยื่อของตนเอง ทำให้มีการผลิตธัยรอยด์ฮอร์โมนลดลง
คนที่มีภาวะ Hypothyrodism ที่ได้รับการรักษาด้วยการผ่าตัดและรังสีรักษาจนเหลือเนื้อของต่อมธัยรอยด์ในปริมาณน้อย
สาเหตุอื่นๆ คือ การขาดสารไอโอดีน
การประเมินและการวินิจฉัย
การซักประวัติ
-การเคยเป็นโรคเกี่ยวกับต่อมธัยรอยด์
-อาการและอาการแสดงของธัยรอยด์ทำงานผิดปกติ
ตรวจร่างกาย
พบต่อมไทรอยด์โตกว่าปกติ 3-4 เท่า ตาโปน ชีพจรเร็วกว่า 100 ครั้ง/นาที กล้ามเนื้ออ่อนแรง มือสั่น
ตรวจทางห้องปฏิบัติการ
ตรวจหาระดับไทรอยด์ฮอร์โมนในกระแสเลือด จะพบ T3, T4 และ FreeT4 สูงกว่าปกติ แต่ TSH ต่ำกว่าปกติ
ระยะคลอดและหลังคลอด
ให้การพยาบาลเหมือนสตรีตั้งครรภ์ทั่วไป เน้นในเรื่องการดูแลพักผ่อนอย่างเพียงพอ ดูแลให้ได้รับยาตามแผนการรักษา
เมื่อทารกเกิดติดตามผล Lab เพื่อประเมินภาวะพร่องไทรอยด์ในทารก หากผิดปกติรายงานแพทย์ทันที
แนะนำการดูแลทารกด้วยนมมารดาในระยะหลังคลอด
หากต้องการตั้งครรภ์ต่อไปต้องปรึกษาแพทย์ก่อน เพื่อลดระดับ TSH ให้น้อยกว่า 2.5 mlU/L ก่อนตั้งครรภ์
การรักษา
นิมยมใช้ยา levothyroxine หรือ L-thyroxine thyroid hormone ชนิดT4
เป้าหมายในการรักษาคือให้ THS กลับมาอยู่ในระดับปกติโดยจะเพิ่มขนาดยาจากก่อนตั้งครรภ์และหลังคลอดจะลดเป็นขนาดเดิมยาจะไม่ผ่านรกไปยังทารกและไม่ผ่านน้ำนม ควรรับประทานยาในขณะท้องว่างติดตามระดับ THS ขณะตั้งครรภ์และหลังคลอด 6 สัปดาห์