Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลทารกและเด็กที่มีความพิการแต่กำเนิด, นางสาวเนหา สุกูล 36\1…
การพยาบาลทารกและเด็กที่มีความพิการแต่กำเนิด
ความพิการแต่กำเนิด
major anomalies คือความผิดปกติที่ทำให้การทำงานของอวัยวะนั้นเสียไป พบได้ประมาณ ร้อยละ 2-3 ของทารกเกิดมีชีพ และจำเป็นต้องได้รับการรักษา
minoranomalies คือความผิดปกติที่ไม่มีผลให้การทำงานของอวัยวะเสียไป พบได้น้อยกว่าร้อยละ 5 ของประชากร
การจำแนกความพิการแต่กำเนิดตามกลไกการเกิด
Malformation คือลักษณะของอวัยวะที่ผิดรูปร่างไป เกิดจากกระบวนการเจริญพัฒนาภายในที่ผิดปกติอาจเกิดจากพันธุกรรมหรือสิ่งแวดล้อม
Deformation เกิดจากการที่มีแรงกระทำจากภายนอกทำให้อวัยวะ ผิดรูปไปในระหว่างการเจริญพัฒนาของอวัยวะนั้น
Disruption คือ ภาวะที่โครงสร้างของอวัยวะหรือเนื้อเยื่อผิดปกติจากสาเหตุภายนอกรบกวนกระบวนการ เจริญพัฒนาอวัยวะที่ไม่ใช่พันธุกรรม
Dysplasia เป็นความผิดปกติในระดับเซลล์ของเนื้อเยื่อพบในทุกส่วนของร่างกาย
สาเหตุของความพิการแต่กำเนิด
พันธุกรรม
ปัจจัยจากสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะจากมารดาในระหว่างตั้งครรภ์
มารดามีอายุมากเกินไป
โรคติดเชื้อ
มารดากินยาหรือเสพสารเสพติด
ขาดอาหาร ขาดวิตามิน
มารดาได้รับสารเคมีจากสิ่งแวดล้อม
รังสีเอ๊กซ์ หรือรังสีแกมม่า รวมทั้งสารกัมมันตรังสีทางการแพทย์
ความผิดปกติของการตั้งครรภ์ หรือ ภาวะแทรกซ้อนระหว่างตั้งครรภ์
ปากแหว่ง-เพดานโหว่ (Cleft-lip , Cleft-palate )
อาการและอาการแสดง
เกิดการสำลักเพราะไม่มีเพดานรองรับ เมื่อมีการกลืนอาหาร
การดูดกลืนจะผิดปกติเนื่องจากอมหัวนมไม่สนิท
อาจติดเชื้อในหูชั้นกลางทำให้มีปัญหาการได้ยินผิดปกติ
หายใจลำบาก
การรักษาปากแหว่ง
ทำผ่าตัด์อาจทำภายใน 48 ชม. หลังคลอดในรายที่ เด็กสมบูรณ์ดีหรือ รอตอนเด็กที่มีอายุอย่างน้อย 8 - 12 สัปดาห์
การพยาบาลระยะก่อนผ่าตัด
เสี่ยงต่อการติดเชื้อทางเดินหายใจ/หูชั้นกลาง/การอุดกั้นทางเดินหายใจจากการสำลัก
บิดา มารดาผู้ดูแลเด็กขาดความรู้เกี่ยวกับโรคและวิธีการดูแลรักษา
บิดา มารดาวิตกกังวลเกี่ยวกับความพิการแต่กำเนิด
มีโอกาสขาดสารน้ำ สารอาหารจากการดูดกลืนผิดปกติ
การพยาบาลหลังผ่าตัด
เสี่ยงต่อการเกิดแผลแยก/ เลือดออก/ ติดเชื้อ
มีโอกาสขาดน้ำและสารอาหารเนื่องจากข้อจำกัดในการดูดกลืนหลังผ่าตัด
บิดามารดาขาดความรู้ความเข้าใจการดูแลทารกหลังผ่าตัดปากแหว่งเพดานโหว่เมื่อกลับไปอยู่บ้าน
การดูแลหลังผ่าตัดเพดานโหว่ถึงอายุ 4-5 ปี
งด ดูด เป่า ประมาณ 3 – 4 สัปดาห์ เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กใช้ลิ้นดัน flap ทำให้ flap ที่ผ่าตัดมีการแยกได้
ผู้ปุวยควรได้รับการสอนฝึกพูดเสมอและได้รับการฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอต่อเนื่อง
อายุประมาณ 2 ปีเครึ่ง - 3 ขวบ แพทย์จะพิจารณาผ่าตัดแก้ไข ภาวะความผิดปกติจมูกหรือริมฝีปากที่เห็น ชัดเจน
อายุประมาณ 4-5 ปี ส่งทำ Nasendoscope โดย แพทย์ ENTร่วมกับ speech therapist เพื่อประเมินประสิทธิภาพการพูด
ไม่สุขสบายเนื่องจากแผลผ่าตัด
เสี่ยงต่อการหายใจไม่มีประสิทธิภาพหลังได้รับยาระงับความรู้สึก
เสี่ยงต่อการติดเชื้อระบบทางเดินหายใจจากการสำลัก
หลอดอาหารตีบ/รั่ว/ตัน Esophageal stenosis/fistula/atresia
อาการและอาการแสดงของโรค
ทารกแรกเกิดน้ำลายไหลมาก อาเจียน ไอ สำลักเอาอาหารและเมือกเข้าสู่ทางเดินหายใจ
การรักษา
ระยะแรก Gastrostomy
ระยะสอง Thoracotomy and division of the fistula with Esophageal anastomosis -> Esophagogram -> Try oral feeding -> Off Gastrostomy tube
การพยาบาลก่อนผ่าตัดแก้ไขหลอดอาหาร
อาจเกิดภาวะปอดอักเสบหายใจลำบากหรือหยุดหายใจเนื่องจากสำลักน้ำาลายหรือน้ำย่อยเข้าหลอดลม
จัดท่านอนที่เหมาะสม
พลิกตะแคงตัวบ่อยๆ
ให้ออกซิเจนกรณีมีภาวะพร่องออกซิเจน
0n NG tube ต่อ Continuous suction
ให้ยาปฏิชีวนะตามแผนการรักษา
อาจได้รับสารน้ำและสารอาหารไม่เพียงพอเนื่องจากไม่สามารถรับประทานอาหารทางปากได้
ดูแลให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำตามแผนการรักษา
ดูแลให้สารอาหาร นม น้ำทาง Gastrostomy tube
การพยาบาลหลังผ่าตัด
อาจเกิดภาวะปอดแฟบจากการอุดตันของท่อระบายทรวงอก
จัดท่านอนศีรษะสูง
ตรวจสอบการทำงานของ ICD
บันทึก ลักษณะ สี จำนวนของ discharge
ระวังสายหัก พับงอ / นวดคลึงสายบ่อยๆ
อาจเกิดการติดเชื้อบริเวณแผลผ่าตัดและแผล Gastrostomy
ล้างมือก่อนและหลังให้การพยาบาล
ทำแผลอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง
สังเกตการติดเชื้อ
ดูแลให้ ยา Antibiotic ตามแผนการรักษา
Anorectal malformation
ไม่มีรูทวารหนักเปิดให้อุจจาระออกจากร่างกาย
สาเหตุ ไม่ทราบแน่ชัด
ชนิดของความผิดปกติ
Anal stenosis รูทวารหนักตีบแคบ
Imperforate anal membrane มีเยื่อบางๆปิดกั้นรูทวารหนัก
Anal agenesis รูทวารหนักเปิดผิดที่
Low type
Intermediate type
High type
Rectal atresia ลำไส้ตรงตีบตัน
อาการและอาการแสดง
ไม่พบรูเปิดทางทวารหนักหรือพบเพียงรอยช่องเปิดของทวารหนักเท่านั้น
ไม่มีการถ่ายขี้เทา ภายใน 24 ชั่วโมง "ขี้เทา" (Meconium) มีลักษณะ เหนียวๆ สีเขียวดำ
ไม่มีเสียงเคลื่อนไหวของลำไส้
กระสับกระส่าย อืดอัด ไม่สบายเนื้อสบายตัว
แน่นท้อง ท้องอืด
ตรวจพบมีกากอาหารค้างอยู่ในระบบทางเดินอาหาร
การรักษา
ความผิดปกติ low type
การถ่างขยายทวารหนัก โดยใช้ hegar metal dilators
การผ่าตัด anal membrane ออกในรายที่สังเกตเห็นขี้เทาทางทวารหนัก
การผ่าตัดตบแต่งทวารหนัก (anoplasty) เมื่อแผลผ่าตัดติดเรียบร้อยแล้ว ประมาณ 10 วัน ถ่างขยายทวารหนักต่อ
ความผิดปกติ intermediate และ high
การทำทวารหนักเทียมทางหน้าท้อง เพื่อระบายอุจจาระออก (colostomy)
การผ่าตัดตบแต่งทวาร (anoplasty)
การผ่าตัดปิดทวารเทียมทางหน้าท้อง
การพยาบาลในระยะขยายทวารหนัก
ให้ความรู้บิดามารดาเกี่ยวกับการดำเนินของโรค
สอนการดูแลในการถ่างขยายรูทวาร
แนะนำให้บิดามารดาให้อาหารตามวัยของเด็กที่มีประโยชน์มีกากใยสูง
สอนการดูแลในการถ่างขยายรูทวาร
การพยาบาลการพยาบาลหลังผ่าตัดเปิด colostomy
หลังผ่าตัดสัปดาห์แรก รูเปิดยังไม่หายและการหายของแผลยังไม่ดีพอ ท าความสะอาด ด้วยน้ำเกลือล้างแผล
เด็กที่มีถุงรองรับอุจจาระทางทวารเทียม เลือกขนาดของปากถุง ให้ครอบปิดกระชับ
กรณีมีการรั่วซึมต้องเปลี่ยนถุงใหม่
ทิ้งอุจจาระถ้ามีปริมาณอุจจาระในถุง ¼-1/3 ของถุง
แนะนำอาหารย่อยง่ายมีโปรตีนสูง แคลอรีสูง มีกากใยมาก หลีกเลี่ยงอาหารที่ทำให้มีแก๊ส
สังเกตการเปลี่ยนแปลงของผิวหนังรอบๆทวารเทียม
สังเกตและบันทึกอุจจาระ
สังเกตภาวะแทรกซ้อนของทวารเทียม
แนะนำการมาตรวจตามนัด
การพยาบาลระยะก่อนและหลังผ่าตัดตกแต่งทวารหนัก (anoplasty)
บิดามารดาวิตกกังวลเรื่องความผิดปกติ
เสี่ยงต่อการติดเชื้อระบบทางเดินปัสสาวะ
บิดา มารดา ขาดความรู้ความเข้าใจในการดูแลแผลผ่าตัดบริเวณทวารหนัก
เสี่ยงต่อการติดเชื้อที่แผลผ่าตัดทวารหนัก
ให้คำแนะนำเมื่อกลับไปอยู่บ้าน
ความผิดปกติของผนังหน้าท้อง
Omphalocele ผนังหน้าท้องพัฒนาไม่สมบูรณ์ ทำให้ช่องท้องไม่ปิด มี เยื่อบางๆของ peritoneum, Wharton's jelly, amnion หุ้มอวัยวะที่ออกนอกช่องท้อง
gastroschisis ผนังช่องท้องพัฒนาสมบูรณ์ ไส้เลื่อนสะดือแตกตอน ทารกอยู่ในครรภ์ ล าไส้, กระเพาะทะลักออกนอกช่องท้องทางรูด้านข้างสายสะดือไม่มีสิ่งห่อหุ้ม
อาการ/อาการแสดง
เด็กอาจตัวเล็ก คลอดก่อนกำหนด
การที่ไม่มีผนังหน้าท้องนี้ทำให้ลำไส้ปนเปื้อนความสกปรกจากภายนอก ทำให้มีอาการติดเชื้อ
อาจพบความผิดปกติอื่นร่วมด้วยส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของลำไส้
อุณหภูมิกายต่ำเด็กตัวเย็นจากน้ำระเหยจากผิวของลำไส้ทำให้และสูญเสียน้ำ
การรักษา
omphalocele ขนาดใหญ่ไม่มากอาจใช้แผ่น silastic ปิดทับ ถุง omphalocele พันด้วยผ้ายืด elastric wrap ทำให้อวัยวะนอก ช่องท้องถูกดันกลับเข้าช่องท้องทีละน้อย
การผ่าตัดปิดผนังหน้าท้องตั้งแต่ระยะแรก (primary closure) เป็นการปิดหน้าท้องตั้งแต่ระยะแรกโดย ดันลำไส้กลับเข้าไปในช่องท้อง แล้วเย็บปิดผนังหน้าท้อง โดยและเย็บปิดfascia แล้วเย็บปิดผิวหนังอีกชั้นหนึ่ง
การผ่าตัดปิดหน้าท้องเป็นขั้นตอน (staged closure) ในกรณีดันลำไส้กลับเข้าในช่องท้องทำให้ผนังหน้าท้องตึงไม่สามารถเย็บปิด fascia ได้หรือเย็บปิดแล้ว ท าให้ช่องท้องแน่นมาก หรือดันลำไส้กลับได้ไม่หมด
การพยาบาลระยะก่อนผ่าตัด
keep warm
ระวังการ contaminate โดยต้องใช้ sterile technique พยายามให้ลำไส้สะอาด
ดูแลให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำตามแผนการรักษา
พยายามปั้นประคองกระจุกลำไส้ให้ตั้งโดยการใช้ผ้า gauze
ดูแลให้ systemic antibiotics ตามแผนการรักษา
การพยาบาลระยะก่อนผ่าตัด
keep warm
ประคองลำไส้ไม่ให้พับตกลงมาข้างๆตัวได้
ดูแลให้ได้รับสารน้ำทางหลอดเลือดดำ
นอนตะแคงข้างเพื่อลดโอกาสที่เลือดจะมาเลี้ยงลำไส้ไม่สะดวก
การรักษาในระยะหลังผ่าตัด
ดูแลเด็กที่ได้รับการรักษาโดยใช้เครื่องช่วยหายใจประมาณ 24-48 ชั่วโมง
ดูแลให้ได้รับสารน้ำสารอาหารตามแผนการรักษา
สังเกตอาการระวังการเกิดAbdominal compartment syndrome
ความดันในช่องท้อง(Intra-abdominal pressure: IAP) เพิ่ม สูงขึ้น > 20 mmHg ซึ่งทำให้เกิดอวัยวะล้มเหลวตามมา
การดูแลเพื่อลดแรงดันในช่องท้อง
ให้ยาระงับปวดให้เหมาะสม
จัดท่าผู้ปุวยนอนราบ ศีรษะสูงไม่เกิน 30 องศา
ใส่สายสวนกระเพาะอาหารและลำไส้ใหญ่
ได้รับยาขับปัสสาวะ/ยากระตุ้นการทำงานของลำไส้
ฟอกไตเพื่อดึงน้ำออกจากร่างกาย
การใส่สายระบายในช่องท้อง(Percutaneous catheter drainage)
ติดตามการท างานของล าไส้ ฟัง bowl sound
รูเปิดท่อปัสสาวะอยู่ต่ำกว่าปกติ (hypospadias)
ผลกระทบ
องคชาตคดงอเมื่อมีการแข็งตัว
ปัสสาวะไม่ พุ่งเป็นลำไปด้านหน้า
รูเปิดท่อปัสสาวะอยู่ด้านบน (epispadias)
เป็นความผิดปกติที่รูเปิดท่อปัสสวะไปเปิดที่ด้านบนขององคชาต
Hypospadias การแบ่งความผิดปกติของรูเปิดท่อปัสสาวะ
Anterior or distal or mild: รูเปิดท่อปัสสาวะมาเปิดทางด้านหน้า
Middle or moderate: รูเปิดท่อปัสสาวะอยู่กลางขององคชาต
Posterior or proximal or severe: รูเปิดท่อปัสสาวะอยู่ที่ใต้องคชาต บริเวณ penoscrotal, scrotal, perineal
การรักษา
ผ่าตัดในกรณี
เด็กที่มีรูเปิดของท่อปัสสาวะต่ำกว่าปกติเล็กน้อย
ผ่าตัดแบบขั้นตอนเดียว (one-stage repair) เป็นการผ่าตัดแก้ไขให้ องคชาต ยืดตรง (orthoplasty) พร้อมกับการตกแต่งท่อปัสสาวะ
ผ่าตัดแบบ 2 ขั้นตอน (two-staged repair)
Urethroplasty ตกแต่งท่อปัสสาวะ
Orthoplasty ผ่าตัดแก้ไขภาวะองคชาตโค้งงอ
เด็กที่มีความผิดปกติมากต้องรักษาโดยการผ่าตัด
ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น
เลือดออก
เกิดการตีบตันของรูเปิดท่อปัสสาวะ
เกิดการติดเชื้อ
องคชาตยังโค้งงอ
การพยาบาลก่อนผ่าตัด
ประเมินความวิตกกังวล
อธิบายขั้นตอนการเตรียมการก่อนผ่าตัด
จัดให้เด็กนอนในท่าสบาย
ให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องต่างๆ
ใช้เทคนิคปลอดเชื้อในการทำแผลและการเทปัสสาวะ
เก็บปัสสาวะส่งตรวจเพาะเชื้อตามแผนการรักษาอย่างเคร่งครัด
คำแนะนำการปฏิบัติตัวเมื่อกลับไปอยู่บ้าน
ห้ามเด็กเล่นทราย ขี่จักรยานหรือนั่งคร่อม ของเล่น ว่ายน้ำหรือเล่นกิจกรรม ที่รุนแรง
บิดามารดา/ผู้ปกครองต้องกระตุ้นให้เด็กดื่มน้ำมากๆทุกวัน
แนะนำและสาธิตให้บิดามารดา/ผู้ปกครอง ทราบวิธีการดูแลความสะอาด องคชาตที่คาสายสวนปัสสาวะไว้โดยใช้น้ำยาฆ่าเชื้อ
ดูแลแผลผ่าตัดไม่ให้เปียก
อธิบายให้เด็ก บิดามารดา/ผู้ปกครองเข้าใจ ถึงความสำคัญในการมาพบแพทย์ตามนัดหรือมาก่อนนัด
ประเด็นคำถามที่ต้องการคำตอบ
การผ่าตัดปากแหว่งควรทำเมื่อใด/ การผ่าตัดเพดานโหว่ควรทำเมื่อใด
ปากแหว่ง-> ทาภายใน48ชม.หลงัคลอดในรายท่ีเด็กสมบูรณ์ดี หรือ รอตอนเด็กท่ีมีอายุอย่างน้อย 8 - 12 สัปดาห์ เพด่านโหว่-> อายุประมาณ 6 - 18 เดือน
ภาวะแทรกซ้อนที่สำคัญของเด็กปากแหว่งเพดานโหว่ในระยะก่อนผ่าตัดคือเรื่องใด มีวิธีการป้องกันอย่างไร
เกิดการสาลัก เพราะไม่มีเพดานรองรับ เมื่อมีการกลืน อาหาร อาหารจะเลื่อนตัว ไปในจมูกทาให้อาหารเข้าทางหลอดลม เกิดการสาลักได้ ให้นม/อาหารอย่างถูกวิธี
หลังผ่าตัดการดูแลเพื่อป้องกันแผลแยกทำอย่างไร
สอนผู้ดูแลเกี่ยวกับการผกูยึดข้อศอกปูองกันไม่ให้ผู้ปุวยล้วงมือเข้าใน ปาก
•งดใส่สายยางดูดเสมหะเขา้ช่องปาก
• ไม่ให้ดูดนม 1 เดือน การให้นมโดยใช้ช้อน หลอดหยด syring ต่อยาง เหลืองนิ่ม และปูอนนมอย่างระมัดระวัง
หลังผ่าตัดทารกควรนอนท่าใด
จัดท่ากึ่งนั่งกึ่งนอนหรือนอนตะแคงหน้าเพื่อให้เสมหะระบายออก
หลังผ่าตัดทารกจะดูดขวดนมได้เมื่อใด
1 เดือนหลังผ่าตัด
อาการอาการแสดงที่บ่งชี้ว่าหลอดอาหารตีบคืออะไร
น้าลายไหลมาก อาเจียน ไอ สาลัก เอา อาหารและเมือกเข้าสู่ทางเดินหายใจ
อาการอาการแสดงที่บ่งชี้ว่าหลอดอาหารมีรูรั่วคืออะไร
พบอากาศใน กระเพาะอาหาร
การให้นม TE fistula ทำอย่างไร
ดูแลให้สารอาหาร นม นา้ ทาง Gastrostomy tube
การดูแล Gastrostomy ทำอย่างไร
ล้างมอืก่อนและหลงัให้การพยาบาล
ทาแผลอย่างน้อยวนัละ2คร้ัง
สังเกตการตดิเชื้อ
ดูแลให้ยา Antibiotic ตามแผนการรักษา
Gastroschisis กับ Omphalocele แตกต่างกันอย่างไร
Omphalocele ผนังหน้าท้องพัฒนาไม่สมบูรณ์ ทาให้ช่องท้องไม่ปิด มี เยื่อบางๆของ peritoneum, Wharton's jelly, amnion หุ้มอวัยวะ ที่ออกนอกช่องท้อง
gastroschisisผนังช่องท้องพฒันาสมบูรณ์ไส้เลื่อนสะดือแตกตอน ทารกอยู่ในครรภ์ ลาไส้, กระเพาะทะลกั ออกนอกช่องท้องทางรูด้านข้าง สายสะดือไม่มีสิ่งห่อหุ้ม
สังเกตการไม่มีรูทวารหนักทารกหลังคลอดอย่างไร
ไมพ่บรูเปิดทางทวารหนักหรือพบเพียงรอยช่องเปิดของทวารหนักเท่านั้น
ไม่มีการถ่ายขี้เทา ภายใน 24 ชั่วโมง "ขี้เทา"
การดูแล colostomy ทำอย่างไร
หลังผ่าตัดสัปดาห์แรก รูเปิดยังไม่หายและการหายของแผลยังไม่ดีพอ ทาความสะอาด ด้วยน้าเกลือล้างแผล เมื่อแผลหายดีแล้วทาความสะอาดด้วยน้าสะอาด
เด็กที่มีถุงรองรับอุจจาระทางทวารเทียม เลือกขนาดของปากถุง ให้ครอบปิดกระชับ
กรณีมีการรั่วซึมต้องเปลี่ยนถุงใหม่
ทิ้งอุจจาระถ้ามีปริมาณอุจจาระในถุง 1⁄4-1/3 ของถุง
สังเกตการเปลี่ยนแปลงของผิวหนังรอบๆทวารเทยีมถ
อายุที่เหมาะสมในการฝึกการขับถ่าย
อายุ 18-24 เดือน
หลังผ่าตัดทารูทวารหนัก ป้องกันการตีบแคบได้อย่างไร
ในการถ่างขยายรูทวารหนัก : ให้ยาแก้ปวดก่อนถ่างขยาย ใช้สาร หล่อลื่น เลือกขนาดเครื่องมือตามแผนการรักษา สังเกตการมีเลือดออก การ อักเสบถ้ามีการอักเสบแนะนำให้แช่ก้นด้วยน้ำอุ่น และทำความสะอาดหลังขับถ่าย
แนะนำให้บิดามารดาให้อาหารตามวัยของเด็กที่มีประโยชน์มีกากใยสูง
วิธีการฝึกการควบคมุกล้ามเนื้อช่วยในการขบัถ่ายทำอย่างไร
สามารถกั้นอุจจาระได้
เด็กดูแลในระยะดันลำไส้กลับในช่องท้องเด็กต้องจัดท่านอนอย่างไร เพราะเหตุใด
นอนตะแคงข้างเพื่อลดโอกาสที่เลือดจะมาเลี้ยงลำไส้ไม่สะดวก
การฟัง bowl sound หลังผ่าตัดปิดผนังหน้าท้องเด็ก มีวัตถุประสงค์เพื่ออะไร
ประเมินสาเหตุ bowel obstruction จาก adhesion, missed atresia or stenosis
ภาวะแทรกซ้อนหลังผ่าตัดปิดผนังหน้าท้องเด็ก ต้องระวังภาวะใด มีอาการและ อาการแสดงอย่างไร
Abdominal compartment syndrome
: ท้องอืดอย่างรุนแรง ปัสสาวะออกน้อยลง central venous pressure สูงขึ้น ความดันในช่องอกสูงขึ้น
การรักษา hypospadia โดยการผ่าตัดควรทำเมื่อใด เพราะเหตุใด
เด็กที่มีรูเปิดของท่อปัสสาวะต่ำกว่าปกติเล็กน้อย แต่เวลาถ่ายปัสสาวะไม่พุ่งเป็นลำตรง บิดามารดามีความวิตกกังวล
เด็กท่ีมีความผิดปกติมากต้องรักษาโดยการผ่าตัดตกแต่งท่อปัสสาวะ เพื่อให้รูเปิดท่อปัสสาวะอยู่ในตำแหน่งปกติ
ภาวะแทรกซ้อนหลังผ่าตัดมีอะไรบ้าง
เลือดออก
มีรูตรงบริเวณรอยต่อระหว่างรูเปิดท่อปัสสาวะเก่ากับท่อปัสสาวะที่สร้างใหม่ แก้ไขโดยการเย็บปิดซ่อมรูที่เกิดซึ่งมักทำหลังการผ่าตัด ครั้งแรก 6-12 เดือน
เกิดการตีบตันของรูเปิดท่อปัสสาวะ/ท่อปัสสาวะบริเวณแผลเย็บที่สร้างท่อปัสสาวะใหม่
เกิดการติดเชื้อ
องคชาตยังโค้งงอ แก้ไขได้ด้วยการผ่าตัด
คำแนะนำในการดูแลหลังผ่าตัดเมื่อกลับไปอยู่บ้านทำอย่างไร
บิดามารดา/ผู้ปกครองต้องกระตุ้นให้เด็ก ดื่มน้ำมากๆ ทุกวัน
ห้ามเด็กเล่นทราย ขี่จักรยานหรือนั่งคร่อม ของเล่น ว่ายน้าหรือเล่นกิจกรรม ที่รุนแรง
ดูแลแผลผ่าตัดไม่ให้เปียก
แนะนำและสาธิตให้บิดามารดา/ผู้ปกครอง ทราบวิธีการดูแลความสะอาด องคชาตที่คาสายสวนปัสสาวะ
ทำความสะอาดให้เด็กภายหลังการถ่ายอุจจาระทุกครั้ง
อธิบายอาการติดเชื้อ
ภายหลังการเอาสายสวนปัสสาวะออก ให้สังเกต ปริมาณปัสสาวะ ลักษณะการถ่าย ปัสสาวะเป็นลาพุ่งดี หรือไม่
อธิบายให้เด็ก บิดามารดา/ผู้ปกครองเข้าใจ ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น
อธิบายให้เด็ก บิดามารดา/ผู้ปกครองเข้าใจ ถึงความสำคัญในการมาพบแพทย์ตาม นัดหรือมาก่อนนัดหากมีความผิดปกติเกิดขึ้น
นางสาวเนหา สุกูล 36\1 เลขที่61 612001062