Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

โรคของระบบทางเดินอาหาร, นางสาวศศิกานต์ โตอ่อน เลขที่67 ห้อง1A…

- - - - เกิดได้ตั้งแต่ทารกอยู่ในครรภ์มารดา ทำให้เกิดความผิดพลาดในการสร้างอวัยวะ
        
        ปากแหว่ง
        
        เกิดที่ด้านบนของริมฝีปากเป็นช่องว่างเล็กๆ หรือเว้าเล็กน้อยเรียก ปากแหว่งไม่สมบูรณ์ ถ้าเว้ายาวไปถึงจมูกเรียกว่า ปากแหว่งสมบูรณ์
        
        เกิดจากการเชื่อมขากรรไกรบนและส่วนยื่นจมูกด้านใกล้กลางเพื่อเป็นเพดานปากปฐมภูมิไม่สมบูรณ์
        
        เพดานโหว่
        
        แผ่นกระดูกของกะโหลกศีรษะที่ประกอบเป็นเพดานแข็ง 2 แผ่นไม่เชื่อมกัน
        
        มีรอยแยกทั้งเพดานแข็งและเพดานอ่อน บางครั้งอาจมีที่ขากรรไกร เรียกชนิดสมบูรณ์ มีช่องอยู่ที่เพดานปาก มักเป็นที่เพดานอ่อน เรียกชนิดไม่สมบูรณ์
        
        จากความบกพร่องของการเชื่อมของส่วนยื่นเพดานปากด้านข้าง,ผนังกลางจมูก,และส่วนยื่นเพดานปากกลาง เพื่อเป็นเพดานปากทุติยภูมิ
        
        มักมีลิ้นไก่แฉกและมีปากแหว่งร่วมด้วย
  - - - เศษอาหารหมักหมมหรือหินปูน พอกอยู่ที่ฟัน
      - ทำให้ Bacteria เจริญได้ดีและเกิดการอักเสบ
    - - เป็นการอักเสบของเนื้อเยื่อที่อยู่รอบฟัน
      - มักเกิดที่เหงือกแล้วลุกลามทำลาย tissue
      - ถ้าอักเสบเรื้อรัง อาจทำให้เหงือกร่น (Gingival recession)
    - - รอยโรคที่มีการทำลายสาร enamel และ dentine
      - โรคแทรกซ้อนที่สาคัญ คือ Osteomyelitis และ Cellulitis
    - - เกิดจากherpes simplex virus
      - ระยะแรกเป็น vesicle ขนาดเล็ก ที่ mucocutaneous junction ของริมฝีปาก
      - ต่อมาแตกเป็นแผล และอาจมี secondary infection
      - ถ้าร่างกายมีความต้านทานลดลง จะเกิดรอยโรคซ้ำบริเวณเดิม
    - - เป็นแผลตื้น แผลเดียวหรือหลายแผลพร้อมกัน
      - คลุมด้วย exudate สีเทาและรอบๆเป็นสีแดง
      - มักหายภายใน 1 สัปดาห์
    - - เกิดจากเชื้อรา Candida albicans
      - พบในเด็กเล็ก/ผู้ที่มีภูมิต้านทานต่ำ/ได้รับยาปฏิชีวนะ
      - บริเวณอักเสบจะคลุมด้วย fibro-suppurative exudate ที่มีเชื้อราปนอยู่
  - - - เกิดจากเชื้อ Streptococcus Staphylococcus
      - พบ tonsilบวมโต มี exudateสีขาว คลุมอยู่ที่ผิว
      - ภาวะแทรกซ้อนที่สำคัญคือ Peritonsillar abscess
    - - เกิดจากการอักเสบของ tonsil เป็นๆหายๆ
      - พบ tonsilมีขนาดใหญ่ เนื่องจากมีlymphoid hyperplasia
- - - - สาเหตุ : ระคายเคืองจาก อาหาร ยา แอลกอฮอล์ การติดเชื้อ
      - พยาธิสภาพ : เริ่มจากอาการเลือดคั่งและบวมของเยื่อบุกระเพาะอาหาร
      - อาจพบรอยโรคเรียก acute hemorrhagic erosive gastritis
    - - สาเหตุ : การท้นกลับน้ำดี,การระคายเคืองเรื้อรัง การดื่มเหล้า ยาASA การติดเชื้อ Helicobacter pylori
      - รอยโรค : รอยแผลเป็น→ลุกลามเลือดออก แผลในกระเพาะอาหาร
  - - - เป็นแผลตื้นไม่ลึกถึงชั้นกล้ามเนื้อกระเพาะอาหาร
      - พบเป็นแผลหลายจุด เกิดขึ้นเป็นครั้งคราว และหายเอง
      - พบมากในผู้ป่วยหลังผ่าตัดหรือมีโรคติดเชื้อรุนแรง
    - - เป็นแผลลึกถึงชั้นกล้ามเนื้อกระเพาะอาหาร
      - แผลมีลักษณะเรื้อรัง ขอบแผลนูนบวมเมื่อแผลหายจะเกิดรอยแผลเป็น
        
        แผลที่กระเพาะอาหาร(Gastric ulcer)
        
        พบได้ในทุกส่วนของกระเพาะอาหาร
        
        เกิดจากความสามารถในการป้องกันกรดและเปปซินของกระเพาะอาหารลดลงทาให้เกิดแผลได้ง่าย
        
        แผลในลำไส้เล็กส่วนต้น(Duodenal ulcer)
        
        เกิดจากการหลั่งกรดที่มากขึ้น
        
        พบในทุกวัย ผู้ที่มีภาวะความเครียดสูง อารมณ์แปรปรวน และมีความวิตกกังวลมาก รวมถึงพฤติกรรมการดื่มสุรา และสูบบุหรี่
    - - การติดเชื้อHelicobacter pylori แบคทีเรียแกรมลบ
      - ติดต่อโดยการกินอาหารหรือน้ำดื่มที่ปนเปื้อนเชื้อจากอุจจาระของผู้ติดเชื้อแล้วเข้าไปฝังตัวอยู่ใต้เยื่อบุกระเพาะ
      - ระยะแรก อาจทำให้เกิดกระเพาะอาหารอักเสบ ซึ่งจะเป็นเรื้อรังนานต่อมา ทำให้เป็นแผล
      - ปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ เช่นการสูบบุหรี่ ความเครียดทางอารมณ์ แอลกอฮอล์ อาหารทุกชนิด
    - - น้ำย่อยในกระเพาะมีฤทธิ์เป็นกรดเมื่อกระเพาะทะลุกรดในกระเพาะจะหลั่งออกมาในช่องท้อง ทำให้เยื่อบุช่องท้องอักเสบ เรียก peritonitis
      - ผู้ป่วยมีอาการปวดท้องอย่างมาก หากไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสมอาจทำให้เกิดโรคแทรกซ้อน และทำให้เสียชีวิตได้
      - สาเหตุ
        
        การติดเชื้อ Helicobacter pylori
        
        การใช้ยาแก้ปวดกลุ่ม NSAID
- - - - ส่วนที่กลืน เรียก intussuscipien
        ส่วนที่ถูกกลืน เรียก intussusceptum
    - - เกิดหลังการติดเชื้อของลำไส้ หรือ จากความผิดปกติในผนังลำไส้เล็กที่เป็นมาตั้งแต่เกิด เช่น ก้อนติ่งเนื้อ (Polyps) หรือ กระพุ้งลำไส้ (Meckel’s diverticulum)
  - - - จากการอักเสบหรือภายหลังการผ่าตัดในช่องท้อง
  - - - อาจเกิดจากลำไส้ไม่บีบตัวขับเคลื่อนสิ่งต่างๆในลำไส้ตามปกติ เรียก “ภาวะลาไส้อืด (Paralyticileus)"
      - เกิดจากช่องทางเดินในลาไส้ตีบแคบ หรืออุดตันทั้งหมด เรียก “ลาไส้ตีบตัน (Mechanical obstruction)”
- - - - พยาธิสภาพพบที่ rectum และ sigmoid colon
      - ไม่มี ganglion cell ใน colon จึงไม่มี peristalsisทำให้ content ผ่านไม่ได้
      - Colon ส่วนที่อยู่เหนือกว่ามีผนังหนาและพองออก
  - - - เป็นความผิดปกติของหลอดเลือดบริเวณนั้น
      - เกิดจากการเพิ่มความดันในหลอดเลือดดำนานๆ เกิดจากการเบ่งอุจจาระบ่อยๆ
      - จากท้องผูกการยกของหนัก การยืนนานๆรวมทั้งการตั้งครรภ์ ทำให้เลือดไหลกลับไม่สะดวก
- - - - ระดับ bilirubinในเลือดสูงกว่าปกติสองเท่า
    - - มีการแตก RBC เพิ่มขึ้น
  - - - สาเหตุ
        
        จากโรคตับเรื้อรัง มะเร็ง หัวใจขวาล้มเหลว ตับอ่อนอักเสบ nephrotic syndrome
- - - - นิ่วที่เกิดในทางเดินน้ำดีร่วม เกิดจากการอักเสบของท่อน้ำดี (Cholangitis)
    - - นิ่วที่เกิดในทางเดินน้ำดีภายในตับ มีแคลเซียมเป็นส่วนประกอบหลัก มีสีน้ำตาล เรียก Brown pigment stones
    - - การอักเสบของถุงน้ำดีจากโรคนิ่วในถุงน้ำดี
        
        ก้อนนิ่วไปอุดตันท่อน้ำดีทำให้น้ำดีไหลออกจากถุงน้ำดีเข้าสู่ลำไส้ไม่ได้
        
        ความดันในถุงน้ำดีสูงขึ้น ไปกดเบียดหลอดเลือดต่างๆที่หล่อเลี้ยงถุงน้ำดี
        
        ทำให้ขาดเลือดเนื้อเยื่อถุงน้ำดีเกิดการบาดเจ็บ เกิดเป็นการอักเสบ
    - - มีลักษณะแข็งเป็นก้อนสีขาว เหลือง หรือเขียว
      - เกิดจากมีCholesterol เพิ่มขึ้นในน้ำดี หรือการบีบตัวของกล้ามเนื้อในถุงน้ำดีมีสมรรถภาพไม่เพียงพอ จึงไม่สามารถบีบสารออกได้หมด
      - สาเหตุและกลไกการเกิด
        
        การเปลี่ยนแปลงอัตราส่วนความเข้มข้นในน้ำดี
        
        การไม่เคลื่อนที่ของน้ำดี
    - - มีขนาดเล็กและมีสีคล้ำกว่าชนิดที่เกิดจากคอเลสเตอรอล
      - พบในผู้ป่วยโรคตับแข็งหรือผู้ป่วยที่มีความผิดปกติของเลือด
      - สาเหตุและกลไกการเกิด
        
        เกิดจากมี unconjugated bilirubinเพิ่มมากขึ้นในน้ำดี เนื่องจากมีการทำลายเม็ดเลือดแดงมากผิดปกติ หรือมีการอักเสบถุงน้ำดีและท่อน้ำดีเรื้อรัง
- - - - เกิดจากท่อในตับอ่อนได้รับบาดเจ็บหรือมีการแตก น้ำย่อยจากตับอ่อนจะย่อยเนื้อเยื่อตนเอง
      - การอุดตันทางเดินน้ำดี ทำให้น้ำดีไหลเข้าสู่ตับอ่อน
      - แอลกอฮอล์ ทาให้ตับอ่อนหลั่งน้ำย่อยมากขึ้น และทำให้ Oddi sphinctorหดเกร็ง
  - - - พบในผู้ป่วยโรคพิษสุราเรื้อรัง
    - - มีความสัมพันธ์กับการตีบของOddi sphinctor