พยาธิสรีรวิทยาระบบทางเดินอาหาร
โครงสร้างของทางเดินอาหาร
1.ส่วนที่เป็นทางเดินอาหาร
- ต่อมที่เกี่ยวข้องกับการทำงานของ GIT
- ต่อมน้ำลาย
- ตับอ่อน/ตับ
ปาก
- บดเคี้ยวอาหารคลุกเคล้าน้ำลาย ได้เป็นอาหารเคี้ยวแล้ว (bolus)ก่อนส่งเข้าสู่ทางเดินอาหาร
เวลาที่ใช้ย่อย : 1-2 นาที
คอยหอย
- มีส่วนในการกลืนอาหาร
หลอดอาหาร
- ส่งอาหารเคี้ยวแล้วจากคอไปยังกระเพาะอาหาร
เวลาที่ใช้ย่อย : ไม่กี่วินาที
กระเพาะอาหาร
- เก็บกักอาหารเคี้ยวแล้วไว้ด้วยการทำงานน้ำหลั่งกระเพาะที่มีฤิทธิ์กัดกร่อนรุนแรง แล้วจึงส่งต่อไปยังลำไส้เล็กในรูปแบบอาหารกึ่งเหลว
เวลาที่ใช้ย่อย : 2-4 ชั่วโมง
ตับ
- สร้างน้ำดี ซึ่งจำเแ็นต่อการย่อยไข้มัน และมีบทบาทอีกด้านในกระบวนการเมแทบอลึซึม เช่น เปลี่ยนสารพิษให้เป็นสารที่ไม่มีอันตรายต่อร่างการ
ตับอ่อน
- สร้างน้ำหลั่งตับอ่อน ซึ่งประกอบด้วยเอนไซด์ที่จำเป็นต่อการย่อยอาหาร
ถุงน้ำดี
- กักเก็บน้ำดีที่สร้างจากตับ และที่ได้หลังรับประทานอาหาร ก่อนหลั่งสู่ลำไส้เล็กส่วนต้น
ไส้ตรง
- อยู่ส่วนท้ายของลำไส้ใหญ่ มีหน้าที่เก็บกากอาหารที่ได้รับจากกระบวนการย่อย ก่อนขับถ่ายเป็นอุจจาระ
ลำไส้ใหญ่
- การย่อยและการดูดซึมสารอาการไปเสริมสารเนื้อเยื่อสิ้นสุดลงที่ลำไส้ใหญ่ (colon) โดยมีการดูดซึมน้ำออกจากอาหาร และกากของเสียจะการเป็นอุจจาระ
เวลาที่ใช้ย่อย : 10-48 ชั่วโมง
ลำไส้เล็ก
- ลำไส้เล็กของคนมีลักษณะคล้ายท่อขดไปมาอยู่ในช่องท้องแบ่งเป็น 3 ตอน คือ
- ดูโอดีนัม (Duodenum) ยาวประมาณ 30 เซนติเมตร ทำหน้าที่สร้างน้ำย่อย เป็นตำแหน่งที่มีการย่อยเกิดขึ้นมากที่สุด
- จิจูนัม (Jejunum) ยาวประมาณ 2ใน 6 ของลำไส้เล็กหรือประมาณ 3-4 เมตร
- ไอเลียม (Ileum) เป็นลำไส้เล็กส่วนสุดท้ายปลายสุดของไอเลียมต่อกับลำไส้ใหญ่
เวลาที่ใช้ย่อย : 2-4 ชั่วโมง
โรคช่องปาก
ความพิการแต่กำเนิด
Hare Lip and Cleft palate
การอักเสบ
โรคปากแหว่งเพดานโหว่
- สามารถเกิดได้ตั้งแต่ทารกอยู่ในครรภ์มารดา
ในช่วงเดือนที่ 2 และเดือนที่ 3 ของการตั้งครรภ์ท าให้เกิดความผิดพลาดในการสร้างอวัยวะ ได้แก่ ปากและเพดานปาก
ปากแหว่ง
- เกิดที่ด้านบนของริมฝี ปากในลักษณะช่องว่างเล็กๆหรือเว้าเล็กน้อย เรียกว่า ปากแหว่งไม่สมบูรณ์ หรือ ปากแหว่งบางส่วน
- ถ้ารอยแยกนี้ต่อเนื่องไปถึงจมูก เรียกว่า ปากแหว่งสมบูรณ์ อาจเกิดข้างเดียวหรือสองข้างก็ได้
- สาเหตุจากการเชื่อมของขากรรไกรบนและส่วนยื่นจมูกใกล้กลาง เพื่อเป็นเพดานปฐมภูมิไม่สมบูรณ์
เพดานโหว่
- เป็นภาวะที่แผ่นกระดูกของกระโหลกศีรษะที่ประกอบเป็นเพดานแข็งไม่เชื่อมกัน
- ผู้ป่วยส่วนมากมักมีปากแหว่งร่วมด้วย
- ผู้ป่วยเพดานโหว่มักมีลิ้นไก่ 2 แฉก
- สาเหตุเกิดจากการบกพร่องของการเชื่อมของส่วนยื่นเพดานปากด้านข้าง (lateral palatine processes) , ผนังกลางจมูก (nasal septum) , และ/หรือส่วนยื่นเพดานปากกลาง
(median palatine processes) เพื่อเป็นเพดานปากทุติยภูมิ
แบ่งเป็น- ชนิดสมบูรณ์
- ชนิดไม่สมบูรณ์
- Gingivitis : เศษอาหารหมักหมม หรือหินปูนพอกอยู่ที่ฟัน
ทำให้ Bacteria เจริญได้ดี - Periodonitis : เป็นการอักเสบของเนื้อเยื่อบริเวณรอบฟัน
มักเกิดที่เหงือกก่อน แล้วลุกลามทำลาย tissue
ถ้าอักเสบเรื้อรัง อาจะทำให้เหงือกกร่อน (Gingival recession)
เป็นสาเหตุสำคัญของการสูญเสียฟันในคนอายุ 35 ปีขึ้นไป - Dental caries : รอยโรคที่มีการท าลายสาร enamel และ dentine
โรคแทรกซ้อนที่สำคัญ คือ Osteomyelitis และ Cellulitis - Recurrent herpes labialis : เกิดจาก herpes simplex virus
ระยะแรกเป็น vesicle ขนาดเล็ก ที่ mucocutaneous junction ของริมฝีปาก ต่อมาแตกเป็นแผล และอาจมี secondary infection
ถ้าร่างกายมีความต้านทานลดลง จะเกิดรอยโรคซ้ำบริเวณเดิม - Aphthous ulcer : เป็นแผลที่เกิดซ้ำในช่องปาก
มักเป็นแผลตื้น แผลเดียวหรือหลายแผลพร้อมกัน
คลุมด้วย exudate สีเทาและรอบๆเป็นสีแดง มักหายภายใน 1 สัปดาห์ - Oral candidiasis (Thrush) : เกิดจากเชื้อรา Candida albicans
พบในเด็กเล็ก ที่มีภูมิต้านทานต่ำ ได้รับยาปฏิชีวนะ
บริเวณอักเสบจะคลุมด้วย fibro-suppurative exudate ที่มีเชื้อราปนอยู่
ฟัน
- เคลือบฟัน (enamel) : เป็นส่วนที่แข็งที่สุดของฟันมี
ส่วนประกอบของ แคลเซียมและฟอสเฟต - เนื้อฟัน (dentine) : เป็นส่วนที่แข็งน้อยกว่าเคลือบฟัน มีความแข็งพอๆ กับกระดูก ชั้นนี้มีการสร้างและสลายตลอดเวลา เป็นชั้นที่มีเซลล์เป็นจำนวนมาก
- โพรงประสาทฟัน (pulp) : เป็นที่อยู่ของเส้นเลือดที่นำสารอาหารมาหล่อเลี้ยงฟัน และนำของเสียออกจากฟัน มีเส้นประสาทรับความรู้สึกฟัน
- เคลือบรากฟัน (cementum) : เป็นส่วนของเนื้อเยื่อปริทันต์ที่อยู่ภายในรากฟัน ด้านหลังของเหงือก มีเส็นประสาทไหลเวียนมาก
- เหงือก (gingiva) : เนื้อเยื่อที่หุ้มตัวฟันและกระดูกขากรรไกรไว้
Tonsillitis
Acute tonsillitis
- เกิดจากเชื้อ Streptococcus Staphylococcus
- พบ tonsil โต มี exudate คลุมอยู่ที่ผิว
- ภาวะแทรกซ้อนที่สำคัญ คือ Peritonsillar abscess
Chronic hypertrophic tonsillitis - เกิดจากการอักเสบของ tonsil เป็นๆหายๆ -พบ tonsil มีขนาดใหญ่กว่า 2 ซม. เนื่องจากมี lymphoid hyperplasia
โรคของต่อมน้ำลาย
Mumps
- เกิดจากการติดเชื้อไวรัส กลุ่ม Paramyxovirus
- เป็นการอักเสบแบบ acute interstitial inflammation
- ติดต่อกันโดยทาง น้ำลาย เสมหะ มักพบในเด็ก 5-10 ปี
- สำหรับผู้ชายอามีอัณฑะอีกเสบ (Orchitis)
- ผู้หญิงอาจมีรังไข่อักกเสบ (Oophoritis)
- อาจมีเยื่อหุ้มสมองหรือสมองอักเสบร่วมด้วย (Meningoencephalitis)
โรคของหลอดอาหาร
ความพิการแต่กำเนิด
- Esophageal atresia เป็นภาวะที่ไม่มีส่วนใดส่วนหนึ่งของหลอดอาหาร
- Esophageal stenosis เป็นภาวะที่บางส่วนของ
หลอดอาหารตีบ
- Achalasia จำนวน myenteric ganglion cell ในผนังหลอดอาหาร
ที่ทำหน้าที่ควบคุมการหดตัวเพื่อบีบไล่อาหารมีจำนวนลดลงหรือไม่ - กลืนอาหารล าบากและสำลัก โดยเฉพาะเวลากลางคืน
- หลอดอาหารส่วนบนจะมีผนังบางและโป่งออก
Esophageal varices
- หลอดเลือดดำโป่งพองบริเวณหลอดอาหารส่วนล่าง
- เป็นเส้นเลือดที่ท่ออาหาร esophagus ส่วนล่าง
เกิดการขยายตัว ทำให้เกิดผนังของเส้นเลือดบางลงง่ายต่อการฉีกขาดหรือแตก และมีเลือดออก - สาเหตุที่ท าให้เกิดภาวะเลือดออก คือ cirrhosis
- หลอดเลือดดำมีลักษณะคดเคี้ยว จาก portal
hypertension ทำให้เกิดแผลได้
โรคของกระเพาะอาหาร
ความพิการแต่กำเนิด
- Diaphragmatic hernia ทำให้พบส่วนที่เป็นทางเดินอาหารอยู่ในทรวงอกได้
- Congenital pyloric stenosis
ความผิดปกติของกระเพาะอาหาร
Gastritis
- เป็นการอักเสบของ gastric mucosa จากสารระคายเคืองและความบกพร่องกลไกป้องกัน
- mucosa เกิดอันตรายต่อเส้นเลือด→บวม →เลือดออก →รอยถลอก →เสี่ยงเป็นมะเร็ง
ชนิดกระเพาะอาหารอักเสบ- Acute gastritis สาเหตุ ระคายเคืองจาก อาหาร ยา แอลกอฮอล์ การติดเชื้อ
พยาธิสภาพเริ่มจากอาการเลือดคั่งและบวมของเยื่อบุกระเพาะอาหาร
อาจพบรอยโรคเรียก acute hemorrhagic erosive gastritis - Chronic gastritis สาเหตุ การท้นกลับน้ำดี,การระคายเคืองเรื้อรัง การดื่มเหล้า ยา ASA การติดเชื้อ Helicobacter pylori
รอยโรค รอยแผลเป็น→ลุกลามเลือดออก แผลในกระเพาะอาหาร
- Acute gastritis สาเหตุ ระคายเคืองจาก อาหาร ยา แอลกอฮอล์ การติดเชื้อ
Peptic ulcer
- ภาวะที่เยื่อบุกระเพาะอาหารถูกทำลายและเกิด
แผลบริเวณเยื่อบุกระเพาะอาหาร - พบโรคนี้ได้ทุกเพศทุกวัย
- ตำแหน่งที่พบได้ เช่น หลอดอาหารส่วนล่างกระเพาะอาหาร ลำไส้เล็กส่วนต้นที่ติดกับกระเพาะอาหาร
- เกิดจากความเสียสมดุลระหว่างปริมาณกรดที่
หลั่งในกระเพาะอาหาร กับความต้านทานต่อกรด- โรคกระเพาะอาหารแบบเฉียบพลัน (Acute ulcer)
มีลักษณะเป็นแผลตื้นไม่ลึกถึงชั้นกล้ามเนื้อกระเพาะอาหาร - โรคกระเพาะอาหารแบบเรื้อรัง (Chronic peptic ulcer)มีลักษณะเป็นแผลลึกถึงชั้นกล้ามเนื้อ
กระเพาะอาหาร แบ่งออกเป็น 2 ชนิด
- โรคกระเพาะอาหารแบบเฉียบพลัน (Acute ulcer)
- แผลที่กระเพาะอาหาร (Gastric ulcer)
สาเหตุมักพบเกิดจากความสามารถในการป้องกันกรด
และเปปซินของกระเพาะอาหารลดลงทำให้เกิดแผลได้ - แผลในลำไส้เล็กส่วนต้น (Duodenal ulcer)
สาเหตุจากการหลั่งกรดที่มากขึ้น
Diverticular disease
- การอักเสบของกระเปาะบริเวณเยื่อบุลำไส้ใหญ่
ที่ส่งผลให้เกิดอาการปวดท้องอย่างเฉียบพลันรุนแรง
สาเหตุ
- การติดเชื้อ Helicobacter pylori แบคทีเรียแกรมลบ
- ติดต่อโดยการกินอาหารหรือน ้าดื่มที่ปนเปื้อนเชื้อจากอุจจาระจาดผู้ติดเชื้อ
- ระยะแรก อาจทำให้เกิดกระเพาะอาหารอักเสบ ซึ่งจะ
เป็นเรื้อรังนานต่อมา ทำให้กลายเป็นแผล - การใช้ยาต้านอักเสบที่ไม่ใช่สเตอรอยด์ ได้แก่ แอสไพริน
- ยาจะระคายต่อเยื่อบุกระเพาะอาหารโดยตรง และทำลายกลไกในการต้านทานต่อกรดของเยื่อบุกระเพาะอาหารและลำไส้
Peptic ulcer perforate
- น้ำย่อยในกระเพาะมีฤทธิ์เป็นกรด ทำให้เยื่อบุช่องท้อง peritoneum อักเสบเรียกช่องท้อง อักเสบ peritoniti
- อาจทำให้เกิดโรคแทรกซ้อน หรือเสียชีวิตได้
- การติดเชื้อ Helicobacter pylori
- การใช้ยาแก้ปวดกลุ่ม NSAID
โรคของลำไส้เล็ก
ความพิการแต่กำเนิด
- Congenital atresia เป็นภาวะที่ไม่มีส่วน
ใดส่วนหนึ่งของลำไส้เล็ก - Congenital stenosis เป็นภาวะที่
บางส่วนของลำไส้เล็กตีบ
Intussusception
- เป็นภาวะที่ลำไส้เล็กส่วนต้นถูกกลืนโดยลำไส้เล็กส่วนปลาย
- ส่วนที่กลืน เรียก intussuscipien ส่วนที่ถูกกลืน เรียก intussusceptum
- พบในเด็กเล็ก โดยเฉพาะเด็กผู้ชาย
สาเหตุ - ยังไม่ทราบว่าอะไรเป็นสาเหตุ
- บางรายพบว่า เกิดหลังการติดเชื้อของลำไส้
หรือ จากความผิดปกติในผนังของลำไส้เล็ก
Intestinal adhesion
- การติดกันของลำไส้ หรือการที่ลำไส้ติดกับอวัยวะ
ส่วนอื่น ทำให้มีการดึงรั้งลำไส้ - Content ผ่านไม่สะดวก เป็นมากทำให้ลำไส้อุดตันได
- สาเหตุจากการอักเสบหรือภายหลังการผ่าตัดในช่องท้อง
Intestinal obstruction
- ภาวะที่สิ่งต่างๆในลำไส้ได้แก่ น้ำ อาหาร น้ำย่อย
และของเหลวต่างๆในลำไส้ไม่สามารถเคลื่อนผ่าน ลำไส้ได้ตามปกติ จึงก่อให้เกิดอาการ แน่นท้อง อึดอัด ปวดท้อง คลื่นไส้อาเจียน และไม่ผายลม - อาจเกิดจากลำไส้ไม่บีบตัวขับเคลื่อนสิ่งต่างๆใน
ลำไส้ตามปกติ เรียก “ภาวะลำไส้อืด (Paralyticileus) หรือ Non mechanical obstruction” - หรือเกิดจากช่องทางเดินในลำไส้ตีบแคบ หรืออุดตันทั้งหมด เรียก “ลำไส้ตีบตัน (Mechanical obstruction)”
โรคของลำไส้ใหญ่
ความพิการแต่กำเนิด
Hirschsprung’s disease or Congenital megacolon
- มักพบในเพศชาย
- พยาธิสภาพพบที่ rectum และ sigmoid colon
- ไม่มี ganglion cell ใน colon จึงไม่มี peristalsis ทำให้ content ผ่านไม่ได้
- Colon ที่อยู่เหนือกว่ามีผนังหนาและพองออก
Imperforate anus
- เกิดจากเนื้อเยื่อที่แยกระหว่าง rectum กับ Anus ที่ควรหายไปตั้งแต่ทารกในครรภ์อายุ 8 สัปดาห์
- เกิดภาวะลำไส้อุดตันได้
Diverticular disease
- การที่ mucosa มีลักษณะคล้ายถุงยื่นเป็นติ่ง
ออกไปจาก muscle layer ของผนัง colon - มักพบในผู้สูงอายุ/รับประทานอาหารที่มีกากใยอาหารน้อย,ไม่ออกกำลังกาย
- ทำให้เกิดการหนาตัวของกล้ามเนื้อรอบๆติ่ง→
เพิ่มแรงดัน →ติ่งแตก →abscess, peritonitis
Hemorrhoid
- ริดสีดวงทวาร เกิดจากการโตขึ้นของกลุ่มเส้นเลือด และ
เนื้อเยื่อ บริเวณส่วนปลายของลำไส้ตรง ที่เรียกว่า hemorrhoidal tissue จะมีหน้าที่ ป้องกัน กล้ามเนื้อของ ทวารหนัก ร่วมกับหูรูด ระหว่างถ่ายอุจจาระจะทำให้ทวารหนักปิดได้สนิท
สาเหตุ
1.เป็นความผิดปกติของหลอดเลือดบริเวณนั้น
2.เกิดจากการเพิ่มความดันในหลอดเลือดดำนานๆ เกิดจากการเบ่งอุจจาระบ่อยๆ ท้องผูก
หน้าที่ของตับ
- สร้างและหลั่งน้ำดี
- ควบคุมการสร้างและสลายคาร์โบไฮเดรท
- ควบคุมการสร้างและสลายโปรตีน
- ควบคุมการสร้างและสลายไขมัน
- ควบคุมการสร้างและสลายวิตามิน
- มีการสลายและขับออกของฮอร์โมน
- ทำการเปลี่ยนโครงสร้างและขับสารพิษและยาออกจากร่างกาย
ความผิดปกติของตับ
Jaundice
- ระดับ bilirubin ในเลือดสูงกว่าปกติ 2 เท่า
- อาการ ผิวหนัง ตา sclera เหลือง
- สาเหตุ มีการแตก RBC เพิ่มขึ้น
- มีความบกพร่องของเซลล์ตับในการจับ bilirubin
- ลดการconjugation ของ bilirubin
- มีการอุดตันของทางเดินน้ำดีทั้งภายในและ
ภายนอกตับ
Ascites
- ภาวะท้องมานเป็ นการสะสมของเหลวในช่องท้อง โดยมีสาเหตุ
จากโรคตับเรื้อรัง มะเร็ง หัวใจขวาล้มเหลว ตับอ่อนอักเสบ nephrotic syndrome - มีการรบกวนการไหลเวียนเลือดจาก liver สู่ hepatic vein และ
vena cava - ภาวะalbumin ต ่า
- การหลั่งADH↑,Aldosterone ↑
Portal hypertention
ภาวะความดันสูงในเส้นเลือดดำพอร์ตัล
- การอุดตันที่เกิดในเส้นเลือดพอร์ตัล (Prehepatic block)
- การอุดตันที่เกิดขึ้นในตับส่วน sinusoids
(Intrahepatic sinusoidal block) - การอุดตันที่เกิดขึ้นในเส้นเลือดดำเฮปพาติก
(Posthepatic block)
- การเกิด Portal hypertention ระยะยาวทำให้เกิด
ปัญหา
Varices
splenomegaly
ascites
hepatic encephalopathy
Hepatitis
- เป็นการอักเสบของตับเกิดจากการติดเชื้อ virusหรือ
reactionจากยาและสารเคมี มีการทำลาย parenchymal cell และมี transaminases (SGOT ,SGPT) ปล่อยเข้ากระแสเลือด - Viral hepatitis
- Drug induce hepatitis ได้แก่ Paracetamol ,Aspirin,Isoniazid
- Alcohol hepatitis
Cirrhosis
- เป็นความผิดปกติของตับที่เกิดจากการอักเสบมี
fibrosis และมี nodular regeneration ทำให้มีความผิดปกติทั้งโครงสร้างและหน้าที่ของตับ - ตับรูปร่างบิดเบี้ยว คลำพบเป็นก้อนแข็ง ทำให้เกิดการอุดตันของทางเดินน้ำดี เกิด portal hypertention
Disorders of the gall bladder
โรคในระบบทางเดินน้ำดีที่พบบ่อย ได้แก่
การอุดตันและการอักเสบ
นิ่วในทางเดินน้ำดี (Gallstones)
- Choledocholithiasis นิ่วที่เกิดในทางเดิน
น้ำดีร่วม เกิดจากการอักเสบของท่อน้ำดี (Cholangitis) - hepatolithiasis นิ่วที่เกิดในทางเดินน้ำดี
ภายในตับ มีแคลเซียมเป็นส่วนประกอบหลัก มีสีน้ำตาล เรียก Brown pigment stones - Cholecystitis การอักเสบของถุงน ้าดีจากโรคนิ่ว
ในถุงน้ำดี- ก้อนนิ่วจะไปอุดตันท่อน้ำดี
- ความดันในถุงน้ำดีสูงขึ้น
- ถุงน้ำดีจึงขาดเลือด
นิ่วในทางเดินน้ำดี แบ่งเป็น 2 ชนิด
- นิ่วที่ประกอบด้วยโคเลสเตอรอล (Cholesterol stones)
- พบบ่อยประมาณ 80% ของนิ่วในถุงน้ำดีทั้งหมด
- มีลักษณะแข็งเป็นก้อนสีขาว เหลือง หรือเขียว
- เกิดจากการมีCholesterol เพิ่มขึ้นในน้ำดี หรือการ
บีบตัวของกล้ามเนื้อในถุงน้ำดีมีสมรรถภาพไม่เพียงพอ จึงไม่สามารถบีบสารออกได้หมด
สาเหตุและกลไกการเกิดนิ่วในทางเดินน้ำดี - การเปลี่ยนแปลงอัตราส่วนความเข้มข้นในน้ำดี
- การไม่เคลื่อนที่ของน้ำดี
- นิวที่ประกอบด้วยบิลิรูบิล (Pigment or bilirubin stones)
- มีขนาดเล็กกว่าและมีสีคล้ำกว่าชนิดที่เกิดจากคอเลสเตอรอล
- มักพบในผู้ป่วยตับแข็งหรือผู้ป่วยที่มีความผิดปกติของเลือด
สาเหตุและกลไกการเกิดนิ่วในทางเดินน้ำดี - เกิดจากการมี unconjugated bilirubin เพิ่มมากขึ้นในน้ำดี
ความผิดปกติในหน้าที่ตับอ่อน
(Disorders of the pancreas)
- ความผิดปกติของตับอ่อนมักแสดงอาการ
ออกมาเมื่อความผิดปกตินั้นได้ลุกลามไปมากแล้ว
- ตับอ่อนอักเสบเฉียบพลัน (Acute pancreatitis)
- เกิดจากท่อในตับอ่อนได้รับบาดเจ็บหรือมี
การแตก น้ำย่อยจากตับอ่อนจะย่อยเนื้อเยื่อตนเอง - การอุดตันทางเดินน้ำดี ทำให้น้ำดีไหลเข้าสู่ตับอ่อน
- แอลกอฮอล์ ทำให้ตับอ่อนหลั่งน้ำย่อยมากขึ้น
และทำให้ Oddi sphinctor หดเกร็ง
- ตับอ่อนอักเสบเรื้อรัง (Chronic pancreatitis)
- มักมีสัมพันธุกับการดื่มเหล้า สูบบุหรี่ รับประทานอาหารมัน ภาวะแคลเซียมในเลือดสูง การอุดตันท่อในตับอ่อนเป็ นเวลานาน
- ความผิดปกติของโครงสร้างและหน้าที่อย่างต่อเนื่อง แบ่งออกเป็น 2 ชนิด
- Chronic calcifying pancreatitis มักพบในผู้ป่วยพิษสุราเรื้อรัง
- Chronic obstructive pancreatitis มี ความสัมพันธ์กับการตีบของ Oddi sphinctor
นางสาวอริสา อมรพงษ์ไพศาล 1B เลขที่ 82 (623601173)