Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
พยาธิสรีรวิทยาระบบทางเดินอาหาร, นางสาวอริสา อมรพงษ์ไพศาล 1B เลขที่ 82…
พยาธิสรีรวิทยาระบบทางเดินอาหาร
โครงสร้างของทางเดินอาหาร
1.ส่วนที่เป็นทางเดินอาหาร
ต่อมที่เกี่ยวข้องกับการทำงานของ GIT
ต่อมน้ำลาย
ตับอ่อน/ตับ
ปาก
บดเคี้ยวอาหารคลุกเคล้าน้ำลาย ได้เป็นอาหารเคี้ยวแล้ว (bolus)ก่อนส่งเข้าสู่ทางเดินอาหาร
เวลาที่ใช้ย่อย : 1-2 นาที
คอยหอย
มีส่วนในการกลืนอาหาร
หลอดอาหาร
ส่งอาหารเคี้ยวแล้วจากคอไปยังกระเพาะอาหาร
เวลาที่ใช้ย่อย : ไม่กี่วินาที
กระเพาะอาหาร
เก็บกักอาหารเคี้ยวแล้วไว้ด้วยการทำงานน้ำหลั่งกระเพาะที่มีฤิทธิ์กัดกร่อนรุนแรง แล้วจึงส่งต่อไปยังลำไส้เล็กในรูปแบบอาหารกึ่งเหลว
เวลาที่ใช้ย่อย : 2-4 ชั่วโมง
ตับ
สร้างน้ำดี ซึ่งจำเแ็นต่อการย่อยไข้มัน และมีบทบาทอีกด้านในกระบวนการเมแทบอลึซึม เช่น เปลี่ยนสารพิษให้เป็นสารที่ไม่มีอันตรายต่อร่างการ
หน้าที่ของตับ
สร้างและหลั่งน้ำดี
ควบคุมการสร้างและสลายคาร์โบไฮเดรท
ควบคุมการสร้างและสลายโปรตีน
ควบคุมการสร้างและสลายไขมัน
ควบคุมการสร้างและสลายวิตามิน
มีการสลายและขับออกของฮอร์โมน
ทำการเปลี่ยนโครงสร้างและขับสารพิษและยาออกจากร่างกาย
ตับอ่อน
สร้างน้ำหลั่งตับอ่อน ซึ่งประกอบด้วยเอนไซด์ที่จำเป็นต่อการย่อยอาหาร
ถุงน้ำดี
กักเก็บน้ำดีที่สร้างจากตับ และที่ได้หลังรับประทานอาหาร ก่อนหลั่งสู่ลำไส้เล็กส่วนต้น
ไส้ตรง
อยู่ส่วนท้ายของลำไส้ใหญ่ มีหน้าที่เก็บกากอาหารที่ได้รับจากกระบวนการย่อย ก่อนขับถ่ายเป็นอุจจาระ
ลำไส้ใหญ่
การย่อยและการดูดซึมสารอาการไปเสริมสารเนื้อเยื่อสิ้นสุดลงที่ลำไส้ใหญ่ (colon) โดยมีการดูดซึมน้ำออกจากอาหาร และกากของเสียจะการเป็นอุจจาระ
เวลาที่ใช้ย่อย : 10-48 ชั่วโมง
ลำไส้เล็ก
ลำไส้เล็กของคนมีลักษณะคล้ายท่อขดไปมาอยู่ในช่องท้องแบ่งเป็น 3 ตอน คือ
ดูโอดีนัม
(Duodenum) ยาวประมาณ 30 เซนติเมตร ทำหน้าที่สร้างน้ำย่อย เป็นตำแหน่งที่มีการย่อยเกิดขึ้นมากที่สุด
จิจูนัม
(Jejunum) ยาวประมาณ 2ใน 6 ของลำไส้เล็กหรือประมาณ 3-4 เมตร
ไอเลียม
(Ileum) เป็นลำไส้เล็กส่วนสุดท้ายปลายสุดของไอเลียมต่อกับลำไส้ใหญ่
เวลาที่ใช้ย่อย : 2-4 ชั่วโมง
โรคช่องปาก
ความพิการแต่กำเนิด
Hare Lip and Cleft palate
โรคปากแหว่งเพดานโหว่
สามารถเกิดได้ตั้งแต่ทารกอยู่ในครรภ์มารดา
ในช่วงเดือนที่ 2 และเดือนที่ 3 ของการตั้งครรภ์ท าให้เกิดความผิดพลาดในการสร้างอวัยวะ ได้แก่ ปากและเพดานปาก
ปากแหว่ง
เกิดที่ด้านบนของริมฝี ปากในลักษณะช่องว่างเล็กๆหรือเว้าเล็กน้อย เรียกว่า ปากแหว่งไม่สมบูรณ์ หรือ ปากแหว่งบางส่วน
ถ้ารอยแยกนี้ต่อเนื่องไปถึงจมูก เรียกว่า ปากแหว่งสมบูรณ์ อาจเกิดข้างเดียวหรือสองข้างก็ได้
สาเหตุจากการเชื่อมของขากรรไกรบนและส่วนยื่นจมูกใกล้กลาง เพื่อเป็นเพดานปฐมภูมิไม่สมบูรณ์
เพดานโหว่
เป็นภาวะที่แผ่นกระดูกของกระโหลกศีรษะที่ประกอบเป็นเพดานแข็งไม่เชื่อมกัน
ผู้ป่วยส่วนมากมักมีปากแหว่งร่วมด้วย
ผู้ป่วยเพดานโหว่มักมีลิ้นไก่ 2 แฉก
สาเหตุเกิดจากการบกพร่องของการเชื่อมของส่วนยื่นเพดานปากด้านข้าง (lateral palatine processes) , ผนังกลางจมูก (nasal septum) , และ/หรือส่วนยื่นเพดานปากกลาง
(median palatine processes) เพื่อเป็นเพดานปากทุติยภูมิ
แบ่งเป็น
ชนิดสมบูรณ์
ชนิดไม่สมบูรณ์
การอักเสบ
Gingivitis
: เศษอาหารหมักหมม หรือหินปูนพอกอยู่ที่ฟัน
ทำให้ Bacteria เจริญได้ดี
Periodonitis
: เป็นการอักเสบของเนื้อเยื่อบริเวณรอบฟัน
มักเกิดที่เหงือกก่อน แล้วลุกลามทำลาย tissue
ถ้าอักเสบเรื้อรัง อาจะทำให้เหงือกกร่อน (Gingival recession)
เป็นสาเหตุสำคัญของการสูญเสียฟันในคนอายุ 35 ปีขึ้นไป
Dental caries
: รอยโรคที่มีการท าลายสาร enamel และ dentine
โรคแทรกซ้อนที่สำคัญ คือ Osteomyelitis และ Cellulitis
Recurrent herpes labialis
: เกิดจาก herpes simplex virus
ระยะแรกเป็น vesicle ขนาดเล็ก ที่ mucocutaneous junction ของริมฝีปาก ต่อมาแตกเป็นแผล และอาจมี secondary infection
ถ้าร่างกายมีความต้านทานลดลง จะเกิดรอยโรคซ้ำบริเวณเดิม
Aphthous ulcer
: เป็นแผลที่เกิดซ้ำในช่องปาก
มักเป็นแผลตื้น แผลเดียวหรือหลายแผลพร้อมกัน
คลุมด้วย exudate สีเทาและรอบๆเป็นสีแดง มักหายภายใน 1 สัปดาห์
Oral candidiasis (Thrush)
: เกิดจากเชื้อรา Candida albicans
พบในเด็กเล็ก ที่มีภูมิต้านทานต่ำ ได้รับยาปฏิชีวนะ
บริเวณอักเสบจะคลุมด้วย fibro-suppurative exudate ที่มีเชื้อราปนอยู่
Tonsillitis
Acute tonsillitis
เกิดจากเชื้อ Streptococcus Staphylococcus
พบ tonsil โต มี exudate คลุมอยู่ที่ผิว
ภาวะแทรกซ้อนที่สำคัญ คือ Peritonsillar abscess
Chronic hypertrophic tonsillitis
เกิดจากการอักเสบของ tonsil เป็นๆหายๆ -พบ tonsil มีขนาดใหญ่กว่า 2 ซม. เนื่องจากมี lymphoid hyperplasia
ฟัน
เคลือบฟัน (enamel) : เป็นส่วนที่แข็งที่สุดของฟันมี
ส่วนประกอบของ แคลเซียมและฟอสเฟต
เนื้อฟัน (dentine) : เป็นส่วนที่แข็งน้อยกว่าเคลือบฟัน มีความแข็งพอๆ กับกระดูก ชั้นนี้มีการสร้างและสลายตลอดเวลา เป็นชั้นที่มีเซลล์เป็นจำนวนมาก
โพรงประสาทฟัน (pulp) : เป็นที่อยู่ของเส้นเลือดที่นำสารอาหารมาหล่อเลี้ยงฟัน และนำของเสียออกจากฟัน มีเส้นประสาทรับความรู้สึกฟัน
เคลือบรากฟัน (cementum) : เป็นส่วนของเนื้อเยื่อปริทันต์ที่อยู่ภายในรากฟัน ด้านหลังของเหงือก มีเส็นประสาทไหลเวียนมาก
เหงือก (gingiva) : เนื้อเยื่อที่หุ้มตัวฟันและกระดูกขากรรไกรไว้
โรคของต่อมน้ำลาย
Mumps
เกิดจากการติดเชื้อไวรัส กลุ่ม Paramyxovirus
เป็นการอักเสบแบบ acute interstitial inflammation
ติดต่อกันโดยทาง น้ำลาย เสมหะ มักพบในเด็ก 5-10 ปี
สำหรับผู้ชายอามีอัณฑะอีกเสบ (Orchitis)
ผู้หญิงอาจมีรังไข่อักกเสบ (Oophoritis)
อาจมีเยื่อหุ้มสมองหรือสมองอักเสบร่วมด้วย (Meningoencephalitis)
โรคของหลอดอาหาร
ความพิการแต่กำเนิด
Esophageal atresia เป็นภาวะที่ไม่มีส่วนใดส่วนหนึ่งของหลอดอาหาร
Esophageal stenosis เป็นภาวะที่บางส่วนของ
หลอดอาหารตีบ
Achalasia จำนวน myenteric ganglion cell ในผนังหลอดอาหาร
ที่ทำหน้าที่ควบคุมการหดตัวเพื่อบีบไล่อาหารมีจำนวนลดลงหรือไม่
กลืนอาหารล าบากและสำลัก โดยเฉพาะเวลากลางคืน
หลอดอาหารส่วนบนจะมีผนังบางและโป่งออก
Esophageal varices
หลอดเลือดดำโป่งพองบริเวณหลอดอาหารส่วนล่าง
เป็นเส้นเลือดที่ท่ออาหาร esophagus ส่วนล่าง
เกิดการขยายตัว ทำให้เกิดผนังของเส้นเลือดบางลงง่ายต่อการฉีกขาดหรือแตก และมีเลือดออก
สาเหตุที่ท าให้เกิดภาวะเลือดออก คือ cirrhosis
หลอดเลือดดำมีลักษณะคดเคี้ยว จาก portal
hypertension ทำให้เกิดแผลได้
โรคของกระเพาะอาหาร
ความพิการแต่กำเนิด
Diaphragmatic hernia ทำให้พบส่วนที่เป็นทางเดินอาหารอยู่ในทรวงอกได้
Congenital pyloric stenosis
ความผิดปกติของกระเพาะอาหาร
Gastritis
เป็นการอักเสบของ gastric mucosa จากสารระคายเคืองและความบกพร่องกลไกป้องกัน
mucosa เกิดอันตรายต่อเส้นเลือด→บวม →เลือดออก →รอยถลอก →เสี่ยงเป็นมะเร็ง
ชนิดกระเพาะอาหารอักเสบ
Acute gastritis สาเหตุ ระคายเคืองจาก อาหาร ยา แอลกอฮอล์ การติดเชื้อ
พยาธิสภาพเริ่มจากอาการเลือดคั่งและบวมของเยื่อบุกระเพาะอาหาร
อาจพบรอยโรคเรียก acute hemorrhagic erosive gastritis
Chronic gastritis สาเหตุ การท้นกลับน้ำดี,การระคายเคืองเรื้อรัง การดื่มเหล้า ยา ASA การติดเชื้อ Helicobacter pylori
รอยโรค รอยแผลเป็น→ลุกลามเลือดออก แผลในกระเพาะอาหาร
Peptic ulcer
ภาวะที่เยื่อบุกระเพาะอาหารถูกทำลายและเกิด
แผลบริเวณเยื่อบุกระเพาะอาหาร
พบโรคนี้ได้ทุกเพศทุกวัย
ตำแหน่งที่พบได้ เช่น หลอดอาหารส่วนล่างกระเพาะอาหาร ลำไส้เล็กส่วนต้นที่ติดกับกระเพาะอาหาร
เกิดจากความเสียสมดุลระหว่างปริมาณกรดที่
หลั่งในกระเพาะอาหาร กับความต้านทานต่อกรด
โรคกระเพาะอาหารแบบเฉียบพลัน (Acute ulcer)
มีลักษณะเป็นแผลตื้นไม่ลึกถึงชั้นกล้ามเนื้อกระเพาะอาหาร
โรคกระเพาะอาหารแบบเรื้อรัง (Chronic peptic ulcer)มีลักษณะเป็นแผลลึกถึงชั้นกล้ามเนื้อ
กระเพาะอาหาร แบ่งออกเป็น 2 ชนิด
แผลที่กระเพาะอาหาร (Gastric ulcer)
สาเหตุมักพบเกิดจากความสามารถในการป้องกันกรด
และเปปซินของกระเพาะอาหารลดลงทำให้เกิดแผลได้
แผลในลำไส้เล็กส่วนต้น (Duodenal ulcer)
สาเหตุจากการหลั่งกรดที่มากขึ้น
Diverticular disease
การอักเสบของกระเปาะบริเวณเยื่อบุลำไส้ใหญ่
ที่ส่งผลให้เกิดอาการปวดท้องอย่างเฉียบพลันรุนแรง
สาเหตุ
การติดเชื้อ Helicobacter pylori แบคทีเรียแกรมลบ
ติดต่อโดยการกินอาหารหรือน ้าดื่มที่ปนเปื้อนเชื้อจากอุจจาระจาดผู้ติดเชื้อ
ระยะแรก อาจทำให้เกิดกระเพาะอาหารอักเสบ ซึ่งจะ
เป็นเรื้อรังนานต่อมา ทำให้กลายเป็นแผล
การใช้ยาต้านอักเสบที่ไม่ใช่สเตอรอยด์ ได้แก่ แอสไพริน
ยาจะระคายต่อเยื่อบุกระเพาะอาหารโดยตรง และทำลายกลไกในการต้านทานต่อกรดของเยื่อบุกระเพาะอาหารและลำไส้
Peptic ulcer perforate
น้ำย่อยในกระเพาะมีฤทธิ์เป็นกรด ทำให้เยื่อบุช่องท้อง peritoneum อักเสบเรียกช่องท้อง อักเสบ peritoniti
อาจทำให้เกิดโรคแทรกซ้อน หรือเสียชีวิตได้
การติดเชื้อ Helicobacter pylori
การใช้ยาแก้ปวดกลุ่ม NSAID
โรคของลำไส้เล็ก
ความพิการแต่กำเนิด
Congenital atresia เป็นภาวะที่ไม่มีส่วน
ใดส่วนหนึ่งของลำไส้เล็ก
Congenital stenosis เป็นภาวะที่
บางส่วนของลำไส้เล็กตีบ
Intussusception
เป็นภาวะที่ลำไส้เล็กส่วนต้นถูกกลืนโดยลำไส้เล็กส่วนปลาย
ส่วนที่กลืน เรียก intussuscipien ส่วนที่ถูกกลืน เรียก intussusceptum
พบในเด็กเล็ก โดยเฉพาะเด็กผู้ชาย
สาเหตุ
ยังไม่ทราบว่าอะไรเป็นสาเหตุ
บางรายพบว่า เกิดหลังการติดเชื้อของลำไส้
หรือ จากความผิดปกติในผนังของลำไส้เล็ก
Intestinal adhesion
การติดกันของลำไส้ หรือการที่ลำไส้ติดกับอวัยวะ
ส่วนอื่น ทำให้มีการดึงรั้งลำไส้
Content ผ่านไม่สะดวก เป็นมากทำให้ลำไส้อุดตันได
สาเหตุจากการอักเสบหรือภายหลังการผ่าตัดในช่องท้อง
Intestinal obstruction
ภาวะที่สิ่งต่างๆในลำไส้ได้แก่ น้ำ อาหาร น้ำย่อย
และของเหลวต่างๆในลำไส้ไม่สามารถเคลื่อนผ่าน ลำไส้ได้ตามปกติ จึงก่อให้เกิดอาการ แน่นท้อง อึดอัด ปวดท้อง คลื่นไส้อาเจียน และไม่ผายลม
อาจเกิดจากลำไส้ไม่บีบตัวขับเคลื่อนสิ่งต่างๆใน
ลำไส้ตามปกติ เรียก “ภาวะลำไส้อืด (Paralyticileus) หรือ Non mechanical obstruction”
หรือเกิดจากช่องทางเดินในลำไส้ตีบแคบ หรืออุดตันทั้งหมด เรียก “ลำไส้ตีบตัน (Mechanical obstruction)”
โรคของลำไส้ใหญ่
ความพิการแต่กำเนิด
Hirschsprung’s disease or Congenital megacolon
มักพบในเพศชาย
พยาธิสภาพพบที่ rectum และ sigmoid colon
ไม่มี ganglion cell ใน colon จึงไม่มี peristalsis ทำให้ content ผ่านไม่ได้
Colon ที่อยู่เหนือกว่ามีผนังหนาและพองออก
Imperforate anus
เกิดจากเนื้อเยื่อที่แยกระหว่าง rectum กับ Anus ที่ควรหายไปตั้งแต่ทารกในครรภ์อายุ 8 สัปดาห์
เกิดภาวะลำไส้อุดตันได้
Diverticular disease
การที่ mucosa มีลักษณะคล้ายถุงยื่นเป็นติ่ง
ออกไปจาก muscle layer ของผนัง colon
มักพบในผู้สูงอายุ/รับประทานอาหารที่มีกากใยอาหารน้อย,ไม่ออกกำลังกาย
ทำให้เกิดการหนาตัวของกล้ามเนื้อรอบๆติ่ง→
เพิ่มแรงดัน →ติ่งแตก →abscess, peritonitis
Hemorrhoid
ริดสีดวงทวาร เกิดจากการโตขึ้นของกลุ่มเส้นเลือด และ
เนื้อเยื่อ บริเวณส่วนปลายของลำไส้ตรง ที่เรียกว่า hemorrhoidal tissue จะมีหน้าที่ ป้องกัน กล้ามเนื้อของ ทวารหนัก ร่วมกับหูรูด ระหว่างถ่ายอุจจาระจะทำให้ทวารหนักปิดได้สนิท
สาเหตุ
1.เป็นความผิดปกติของหลอดเลือดบริเวณนั้น
2.เกิดจากการเพิ่มความดันในหลอดเลือดดำนานๆ เกิดจากการเบ่งอุจจาระบ่อยๆ ท้องผูก
ความผิดปกติของตับ
Jaundice
ระดับ bilirubin ในเลือดสูงกว่าปกติ 2 เท่า
อาการ ผิวหนัง ตา sclera เหลือง
สาเหตุ มีการแตก RBC เพิ่มขึ้น
มีความบกพร่องของเซลล์ตับในการจับ bilirubin
ลดการconjugation ของ bilirubin
มีการอุดตันของทางเดินน้ำดีทั้งภายในและ
ภายนอกตับ
Ascites
ภาวะท้องมานเป็ นการสะสมของเหลวในช่องท้อง โดยมีสาเหตุ
จากโรคตับเรื้อรัง มะเร็ง หัวใจขวาล้มเหลว ตับอ่อนอักเสบ nephrotic syndrome
มีการรบกวนการไหลเวียนเลือดจาก liver สู่ hepatic vein และ
vena cava
ภาวะalbumin ต ่า
การหลั่งADH↑,Aldosterone ↑
Portal hypertention
ภาวะความดันสูงในเส้นเลือดดำพอร์ตัล
การอุดตันที่เกิดในเส้นเลือดพอร์ตัล (Prehepatic block)
การอุดตันที่เกิดขึ้นในตับส่วน sinusoids
(Intrahepatic sinusoidal block)
การอุดตันที่เกิดขึ้นในเส้นเลือดดำเฮปพาติก
(Posthepatic block)
การเกิด Portal hypertention ระยะยาวทำให้เกิด
ปัญหา
Varices
splenomegaly
ascites
hepatic encephalopathy
Hepatitis
เป็นการอักเสบของตับเกิดจากการติดเชื้อ virusหรือ
reactionจากยาและสารเคมี มีการทำลาย parenchymal cell และมี transaminases (SGOT ,SGPT) ปล่อยเข้ากระแสเลือด
Viral hepatitis
Drug induce hepatitis ได้แก่ Paracetamol ,Aspirin,Isoniazid
Alcohol hepatitis
Cirrhosis
เป็นความผิดปกติของตับที่เกิดจากการอักเสบมี
fibrosis และมี nodular regeneration ทำให้มีความผิดปกติทั้งโครงสร้างและหน้าที่ของตับ
ตับรูปร่างบิดเบี้ยว คลำพบเป็นก้อนแข็ง ทำให้เกิดการอุดตันของทางเดินน้ำดี เกิด portal hypertention
Disorders of the gall bladder
โรคในระบบทางเดินน้ำดีที่พบบ่อย ได้แก่
การอุดตันและการอักเสบ
นิ่วในทางเดินน้ำดี (Gallstones)
Choledocholithiasis นิ่วที่เกิดในทางเดิน
น้ำดีร่วม เกิดจากการอักเสบของท่อน้ำดี (Cholangitis)
hepatolithiasis นิ่วที่เกิดในทางเดินน้ำดี
ภายในตับ มีแคลเซียมเป็นส่วนประกอบหลัก มีสีน้ำตาล เรียก Brown pigment stones
Cholecystitis การอักเสบของถุงน ้าดีจากโรคนิ่ว
ในถุงน้ำดี
ก้อนนิ่วจะไปอุดตันท่อน้ำดี
ความดันในถุงน้ำดีสูงขึ้น
ถุงน้ำดีจึงขาดเลือด
นิ่วในทางเดินน้ำดี แบ่งเป็น 2 ชนิด
นิ่วที่ประกอบด้วยโคเลสเตอรอล (Cholesterol stones)
พบบ่อยประมาณ 80% ของนิ่วในถุงน้ำดีทั้งหมด
มีลักษณะแข็งเป็นก้อนสีขาว เหลือง หรือเขียว
เกิดจากการมีCholesterol เพิ่มขึ้นในน้ำดี หรือการ
บีบตัวของกล้ามเนื้อในถุงน้ำดีมีสมรรถภาพไม่เพียงพอ จึงไม่สามารถบีบสารออกได้หมด
สาเหตุและกลไกการเกิดนิ่วในทางเดินน้ำดี
การเปลี่ยนแปลงอัตราส่วนความเข้มข้นในน้ำดี
การไม่เคลื่อนที่ของน้ำดี
นิวที่ประกอบด้วยบิลิรูบิล (Pigment or bilirubin stones)
มีขนาดเล็กกว่าและมีสีคล้ำกว่าชนิดที่เกิดจากคอเลสเตอรอล
มักพบในผู้ป่วยตับแข็งหรือผู้ป่วยที่มีความผิดปกติของเลือด
สาเหตุและกลไกการเกิดนิ่วในทางเดินน้ำดี
เกิดจากการมี unconjugated bilirubin เพิ่มมากขึ้นในน้ำดี
ความผิดปกติในหน้าที่ตับอ่อน
(Disorders of the pancreas)
ความผิดปกติของตับอ่อนมักแสดงอาการ
ออกมาเมื่อความผิดปกตินั้นได้ลุกลามไปมากแล้ว
ตับอ่อนอักเสบเฉียบพลัน (Acute pancreatitis)
เกิดจากท่อในตับอ่อนได้รับบาดเจ็บหรือมี
การแตก น้ำย่อยจากตับอ่อนจะย่อยเนื้อเยื่อตนเอง
การอุดตันทางเดินน้ำดี ทำให้น้ำดีไหลเข้าสู่ตับอ่อน
แอลกอฮอล์ ทำให้ตับอ่อนหลั่งน้ำย่อยมากขึ้น
และทำให้ Oddi sphinctor หดเกร็ง
ตับอ่อนอักเสบเรื้อรัง (Chronic pancreatitis)
มักมีสัมพันธุกับการดื่มเหล้า สูบบุหรี่ รับประทานอาหารมัน ภาวะแคลเซียมในเลือดสูง การอุดตันท่อในตับอ่อนเป็ นเวลานาน
ความผิดปกติของโครงสร้างและหน้าที่อย่างต่อเนื่อง แบ่งออกเป็น 2 ชนิด
Chronic calcifying pancreatitis มักพบในผู้ป่วยพิษสุราเรื้อรัง
Chronic obstructive pancreatitis มี ความสัมพันธ์กับการตีบของ Oddi sphinctor
นางสาวอริสา อมรพงษ์ไพศาล 1B เลขที่ 82 (623601173)