Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

บทที่8 การใช้กระบวนการพยาบาลในการดูแลมารดาที่มีปัญหาสุขภาพในระยะหลังคลอด -…

- - - - ปวดมดลูกและมีไข้
      - ระดับยอดมดลูกไม่ลดลง
      - น้ำคาวปลาที่จางลงเปลี่ยนเป็นสีแดง
      - น้ำคาวปลาไม่จางลง
    - - Dilatation and Curettage
      - Antibiotic
      - ให้ยา Oxytocin
    - - มีการติดเชื้อของมดลูก
      - ทารกไม่ได้ดูดนมแม่
      - การผ่าตัดคลอดเอาทารกออกทางหน้าท้อง
      - ภาวะต่างๆ ที่ทำให้การหดรัดตัวของมดลูกไม่ดี
    - - Early ambulation postpartum
      - ติดตาม vital signs
      - ประเมิน daily HF, lochia, อาการปวดมดลูก
  - - - 3 หลังคลอดมีไข้ ไม่เกิน 38.8องศาเซลเซียส
      - มดลูกมีขนาดใหญ่คลำได้ทางหน้าท้อง มีลักษณะนุ่ม กดเจ็บ
      - น้ำคาวปลาไม่เปลี่ยนสี
      - มีน้ำคาวปลามีกลิ่นเหม็น
    - - การรักษาตามอาการ
      - การรักษาตามอาการ
  - - - ตำแหน่งมดลูกจะ fix f จากหนองที่เกิดขึ้นตามround ligam
      - มดลูกโตขึ้น กดเจ็บที่มดลูกส่วนล่างข้างเดียวหรือสองข้าง
      - ไข้ 38.9 -40 องศาเซลเซียสร่วมกับ tachycardia
    - - การรักษาตามอาการ
      - ถ้ามีฝีหรือหนองต้องระบายออก
      - การรักษาตามอาการ
  - - - ถ้ารุนแรงมาก ผ่าตัด
      - การให้ยาปฏิชีวนะ
    - - ท้องอืดหรือแน่นท้อง
      - ปวดท้องหรือสัมผัสท้องแล้วปวด
      - ไข้
      - คลื่นไส้และอาเจียน
  - - - การรักษา
        
        การให้ยาปฏิชีวนะ
        
        wet dressing 2 ครั้งต่อวัน
        
        เริ่มมีการสร้างเนื้อเยื่อใหม่ 4-6 วัน แล้วจึงเย็บปิดแผล ด้วยไหม
      - อาการและอาการแสดง
        
        บริเวณแผลจะแดงและมีหนอง
        
        เริ่มแสดงอาการไข้ตั้งแต่ 4 วันหลังผ่าตัด
    - - อาการและอาการแสดง
        
        เริ่มจากขอบแผลบวม เปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลแดง
        
        ไหมที่เย็บอาจขาดหลุดออกมา
        
        มีไข้ มักจะเป็นไข้ต่ำๆ
        
        มีหนองตามมา
        
        มีอาการปวดเฉพาะที่ที่แผล ปัสสาวะลาบาก อาจมีปัสสาวะคั่งหรือไม่ก็ได้
      - การรักษา
        
        ในรายที่มีลักษณะแผลอักเสบแต่ยังไม่มีหนอง สามารถให้ยาปฏิชีวนะอย่างเดียว
        
        การดูแลแผลให้ sitz sitz บ่อยๆทุกวัน
        
        ขจัดเนื้อตายและเปิดระบายหนองร่วมกับให้ยาปฏิชีวนะ
        
        ให้ยาแก้ปวด
  - - - ผิวหนังจะนุ่ม เป็นมัน ต่อมน้าเหลืองที่รักแร้อาจโต และเจ็บ
      - ผิวหนังบริเวณเต้านมมีลักษณะ แดง ตึง แข็ง เจ็บ ปวด
      - มีไข้
    - - การเจาะระบายหนอง นิยมวิธีใช้เข็มเจาะดูด
      - ให้นมบุตรได้ ยกเว้นมีอาการปวดมาก
      - ให้ยาแก้ปวด
      - ให้ยาปฏิชีวนะ
  - - - ปวดบริเวณท้องน้อยด้านล่างและปวดบริเวณสีข้าง (Flank) Flank) อย่างใดอย่างหนึ่ง หรือทั้งสองอย่าง
      - ตรวจพบก้อนบริเวณ Parametrium กดเจ็บตามเส้นเลือดที่มีการอักเสบ
      - อาจจะมีไข้หรือไม่มีก็ได้
      - ผลตรวจ CT หรือ MRI
    - - การรักษาการติดเชื้อที่สาคัญ คือ การให้ยาปฏิชีวนะ
- - - - มีอาการรุนแรงทันที นอนไม่หลับ กระสับกระส่ายหงุดหงิดง่าย อารมณ์ไม่แน่นอน วิตกกังวลอย่างมาก อาการต่อมาคือ สับสน จำเวลา สถานที่ไม่ได้ เป็นต้น
      - อาการมักจะเริ่มตั้งแต่ 48-72ชั่วโมง หลังคลอด และไม่พบอาการในผู้ป่วยหลังคลอดเกิน 2สัปดาห์แล้ว
    - - รับรักษาในโรงพยาบาล และงดเลี้ยงบุตรด้วยนมมารดา
      - การใช้ยา โดยยาที่ใช้จะมีอยู่ 3 กลุ่ม
        
        ยาลดภาวะซึมเศร้า (Anti depressants)
        
        ยาควบคุมอารมณ์ (Mood stabilizer)
        
        ยาต้านโรคจิต (Anti psychotic drug)
    - - ป้องกันการทาร้ายตนเอง
      - สิ่งที่อาจก่อให้เกิดอันตรายเก็บให้พ้นบริเวณที่มารดาพัก เช่นมีด กรรไกร
      - ให้ความสนใจทุกกิจกรรมและคำพูด
      - ดูแลให้ได้รับยา
      - สังเกตอาการอย่างใกล้ชิด
  - - - ให้ความสนใจ สร้างสัมพันธภาพที่ดีแก่มารดา พูดคุยให้การดูแลเอาใจใส่ ให้กาลังใจมารดาสม่ำเสมอ
      - อธิบายสาเหตุความไม่สุขสบายและความแปรปรวนของอารมณ์และจิตใจในระยะหลังคลอด
      - ดูแลให้มารดาได้รับความสุขสบายและการพักผ่อนอย่างเพียงพอ
    - - เข้ากลุ่มจิตบาบัด
      - การบาบัดด้วยยา ในกลุ่ม Selective serotonin inhibitor reuptake เป็นอันดับแรก