Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การทบทวนวรรณกรรมอย่างเป็นระบบเกี่ยวกับ รูปแบบการจัดการโรคความดันโลหิต…
การทบทวนวรรณกรรมอย่างเป็นระบบเกี่ยวกับ รูปแบบการจัดการโรคความดันโลหิตสูง
โดยไม่ใช้ยาในผู้ใหญ่
ประชากร
งานวิจัยที่การจัดการในการปรับพฤติกรรมเพื่อการควบคุม
โรคความดันโลหิตสูงตั้งแต่ปีพ.ศ. 2549 – 2559 ที่ได้รับการตีพิมพ์และปรากฏในฐานข้อมูลออนไลน์ของห้องสมุดมหาวิทยาลัย และฐานข้อมูลออนไลน์ของวารสารการแพทย์และการพยาบาลทั้งในประเทศและต่างประเทศและสืบค้นจากเอกสารอ้างอิงของบทความทางวิชาการจากวารสารและงานวิจัยที่ไม่ได้อยู่ในฐานข้อมูลอิเลคทรอนิกส์
วิธีการดำเนินงานวิจัย
สืบค้นรายชื่องานวิจัยที่ศึกษาเกี่ยวกับการจัดการโรคความดันโลหิตสูงโดยไม่ใช่ยาระหว่างปีพ.ศ. 2549–2559 ได้งานวิจัยทั้งหมดจำนวนรวม 34 ชื่อเรื่อง
2.พิจารณาคัดเลือกงานวิจัยที่มีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์ที่กำหนดได้งานวิจัยจำนวน 17 เรื่อง
3.งานวิจัยที่ได้มาทั้งหมดได้มีการอ่านรายงานการวิจัยรอบที่หนึ่ง เพื่อประเมินคุณภาพงานวิจัยตามแบบประเมินคุณภาพ
อ่านรายงานรอบที่สองอย่างละเอียดเพื่อสกัดข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับวัตถุประสงค์งานวิจัย และบันทึกในแบบบันทึกการสกัดข้อมูลจากงานวิจัยร่วมกับผู้ร่วมวิจัยอีก 2 ท่าน
ตรวจสอบความถูกต้องของการลงบันทึกข้อมูลและการวิเคราะห์เนื้อหาของงานวิจัย
การวิเคราะห์ข้อมูล ตามตอบวัตถุประสงค์การวิจัย
ผลลัพธ์ของการวิจัย
การจัดการความดันโลหิตสูงที่ใช้วิธีการผสมผสาน
กิจกรรม
การให้ความรู้เกี่ยวกับโรคความดันโลหิตสูงทั้งวิธีการบรรยาย การใช้สื่อวิดีทัศน์
การนำเสนอแบบจำลองอาหาร
การสร้างความตระหนักในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ
การต่อเนื่องในการติดตามพฤติกรรมสุขภาพทั้งการเยี่ยมบ้านและติดตามทางโทรศัพท์
ผลลัพธ์
ทำให้ระดับความดันโลหิตความเครียด ภาวะเสี่ยงต่อโรค หลอดเลือดสมองลดลง ลดลง
พฤติกรรมการดูแล ตนเอง คะแนนความรู้เกี่ยวกับโรค พฤติกรรมการกำกับ ตนเอง พฤติกรรมการออกกำลังกายดีขึ้น
การรับรู้ต่อ อุปสรรคของการเกิดโรค การมีเจตคติในการปฏิบัติตน เพื่อป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อนของโรคตามแนวทาง ปฏิบัติตามหลักการแพทย์วิถีธรรมสูงขึ้น
คะแนนพฤติกรรมการบริโภคเกลือต่ำสูงขึ้น
เป็นการลดปัจจัย เพิ่มความรู้ทำให้ระดับความดันโลหิตลดลง
2.การจัดการความดันโลหิตสูงที่ใช้วิธีการออกกำลังกาย
กิจกรรม
การเดินออกกำลังกายระดับความหนักปานกลาง เป็นระยะเวลา 6 สัปดาห์จำนวน 8 ครั้งๆละ 40
นาที
การออกกำลังกายแบบโนราแขก็นระยะเวลา 10 สัปดาห์รวม
จำนวน 30 ครั้ง
การออกกำลังกาย แบบแกว่งแขนตามแนวคิดโครงการแกว่งแขนลดพุงของ กระทรวงสาธารณสุขเป็นระยะเวลา 24 สัปดาห์จำนวน
24 ครั้งๆละ 30 นาที
การฝึกเดินออกกำลังกายที่บ้าน ระยะเวลา 6 สัปดาห์
จำนวน 7-8 ครั้งๆ ละ 60-90 นาที
การออกกาลังกายแบบฟ้อนเจิงเป็นระยะเวลา 12 สัปดาห์
จำนวน 12 ครั้งๆละ 30–44 นาที
ผลลัพธ์
มีผลต่อระบบหลอดเลือดและหัวใจช่วยลดแรงต้านทานหลอดเลือดส่วนปลายและส่งผลให้กล้ามเนื้อหัวใจมีขนาดและความแข็งแรงเพิ่มขึ้น ทำให้หัวใจบีบตัวได้ดีขึ้น cardiac output เพิ่มขึนทำให้ความดันโลหิตลดลงได้
3.การจัดการความดันโลหิตสูงที่ใช้เทคนิคการ ผ่อนคลายโดยหลักการปฏิบัติทางศาสนา
กิจกรรม
การปฏิบัติสมาธิเคลื่อนไหวไทยชี่กง ทุกวันๆ ละ 2 ครั้งๆละ 30 นาที
รวมระยะเวลา 8 สัปดาห
การสวดมนต์ตามแนวคิดการปรับตัววันละ 2 ครั้งหลังตื่น
นอนตอนเช้าและเย็น
การปฏิบัติเทคนิคสมาธิ
เพื่อการเยียวยา SKT 2 ทุกวันๆละ 2 รอบๆละ 30-40 นาทีแบ่งเป็นรอบเช้า
และเย็น รวมระยะเวลา 8 สัปดาห์
ผลลัพธ์
ทำให้การทำงานของBarorecepterและระบบประสาทอัตโนมัติซิมพาเธติคทำงานลดลง หัวใจเต้นช้าลง ความดันโลหิตจึงลดลง
เครื่องมือ
แบบบันทึกการสกัดข้อมูลจากงานวิจัย
แบบประเมินคุณภาพงานวิจัย