Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
คำถามการพยาบาลทารกและเด็กที่มีความพิการแต่กำเนิด, นางสาวปุณยาพร เงาฉาย…
คำถามการพยาบาลทารกและเด็กที่มีความพิการแต่กำเนิด
คำถามปากแหว่ง-เพดานโหว่
ภาวะแทรกซ้อนของเด็กปากแหว่งเพดานโหว่ในระยะก่อนผ่าตัดคืออะไร และป้องกันอย่างไร
ภาวะแทรกซ้อน
เสี่ยงต่อการติดเชื้อที่ทางเดินหายใจ หูชั้นกลาง
การอุดกั้นทางเดินหายใจจากการสำลัก และขาดสารน้ำ
การป้องกัน
ต้องดูดนมอย่างถูกวิธี
รักษาความสะอาดภายในช่องปาก
ดูดเสมหะเพื่อป้องกันการอุดกั้นทางเดินหายใจ
สังเกตอาการหายใจผิดปกติ ทั้งไข้และไอ
การผ่าตัดปากแหว่งควรทำเมื่อไร และการผ่าตัดเพดานโหว่ควรทำเมื่อใด
การผ่าตัดปากแหว่ง
ควรทำภายใน48ชั่วโมง ในเด็กที่สมบูรณ์ หรือรอเด็กจนมีอายุ 8-12 สัปดาห์
การผ่าตัดเพดานโหว่
ควรทำเมื่ออายุ 6-18 เดือน ในเด็กที่สมบูรณ์แข็งแรง
หลังผ่าตัดการดูแลเพื่อป้องกันแผลแยกทำอย่างไร
ผูกยึดข้อศอกไม่ให้งอ 2-6 สัปดาห์ โดยคลายออกทุก1ถึง2ชั่วโมง ครั้งละ10-15 นาที
ป้องกันไม่ให้ผู้ป่วยล้วงมือเข้าปาก
ไม่ให้ดูดนม1เดือน แต่ให้ใช้ช้อน หลอดหยด syring ต่อยางเหลือนิ่มในการให้นมแทนอย่างระมัดระวัง
หลังการผ่าตัดทารกควรนอนท่าใด
ควรนอนหงายหรือตะแคงไปด้านใดด้านหนึ่ง โดยห้ามนอนคว่ำ เพื่อป้องกันการเสียดสีกับที่นอน
หลังผ่าตัดทารกจะดูดขวดนมได้เมื่อใด
จะดูดขวดนมได้ 1เดือนหลังการผ่าตัด
คำถามความผิดปกติของผนังหน้าท้อง
ดูแลเด็กในระยะดันลำไส้กลับในช่องท้องเด็กต้องจัดท่านอนอย่างไร เพราะเหต์ใด
จัดให้นอนตะแคงข้าง เพื่อลดโอกาสที่เลือดจะมาเลี้ยงลำไส์ไม่สะดวก
การฟัง bowl sound หลังผ่าตัดปิดผนังหน้าท้องเด็ก มีวัตถุประสงค์เพื่ออะไร
เพื่อประเมินภาวะแทรกซ้อน และระวังการเกิด Abdominal compartment syndrome ได้
ภาวะแทรกซ้อนหลังผ่าตัดปิดผนังหน้าท้องเด็ก ต้องระวังภาวะใด มีอาการและอาการแสดงอย่างไร
ภาวะ Abdominal compartment syndrome
จะมีอาการท้องอืดอย่างรุนแรง ปัสสาวะออกน้อยลง central venous pressure สูงขึ้น และความดันในช่องอกสูงขึ้น
Gastroschisis กับ Omphalocele แตกต่างกันอย่างไร
Gastroschisis
ผนังหน้าท้องพัฒนาสมบูรณ์แล้ว สายสะดือไม่มีสิ่งห่อหุ้ม พบลำไส้ตีบตันได้มากกว่า Omphalocele
Omphalocele
ผนังหน้าท้องพัฒนาไม่สมบูรณ์ amnion หุ้มอวัยวะที่ออกนอกช่องท้อง และมีความผิดปกติอื่นร่วมด้วย
คำถามหลอดอาหารตีบ/รั่ว/ตัน
อาการและอาการแสดงที่บ่งชี้ว่าหลอดอาหารตีบคืออะไร
มีน้ำลายมาก น้ำลายฟูมปาก กลืนน้ำลายไม่ได้
ดูดนมหรือน้ำสำลัก ไอ เขียว และอาจหยุดหายใจ
ท้องป่อง
อาการและอาการแสดงที่บ่งชี้ว่าหลอดอาหารมีรูรั่วคืออะไร
น้ำลายไหลมาก อาเจียนไอ สำลักเอาอาหารและเมือกเข้าสู่ทางเดินหายใจ
พบอาการในกระเพาะอาหาร
การให้นม TE fistula ทำอย่างไร
ดูดในปากก่อนแล้วจึงดูดในจมูก ไม่ควรดูดนานเกิน 5 วินาทีต่อ1ครั้ง
การดูแล Gastrostomy ทำอย่างไร
ล้างมือก่อนให้การพยาบาล
ทำแผลวันละ2ครั้ง
สังเกตเนื้อเยื่อบริเวณรอบๆ เพื่อดูการติดเชื้อ
คำถามAnorectal malformation
วิธีการฝึกการควบคุมกล้ามเนื้อช่วยในการขับถ่าย ทำอย่างไร
ว่ายน้ำเพื่อพัฒนากล้ามเนื้อข้างเคียง
ฝึกหนีบลูกบอล
ออกกำลังกายโดยการวิ่ง
หลังผ่าตัดทำรูทวารหนักป้องกันการตีบแคบได้อย่างไร
การถ่างขยาย
การฝึกอุปนิสัยในการขับถ่าย
การให้ยาเพื่อปรับสภาพอุจจาระ
อายุที่เหมาะสมในการฝึกการขับถ่าย
อายุ1ขวบครึ่งถึง3ขวบ
การดูแล colostomy ทำอย่างไร
ทิ้งอุจจาระ ถ้ามีปริมาณอุจจาระในถุง 1/ 4-1/3 ของถุง
ทำความสะอาดด้วยน้ำเกลือ ล้างแผล
กรณีมีการรั่วซึมต้องเปลี่ยนถุงใหม่และสังเกตการรั่วซึมของอุจจาระทุก 2 ชั่วโมง
สังเกตการไม่มีรูทวารหนักในทารกหลังคลอดอย่างไร
ไม่มีการถ่ายขี้เทาภายใน 24 ชั่วโมง
ไม่พบรูเปิดทางทวารหนักหรือพบเพียงรอยช่องเปิดของทวารหนักเท่านั้น
ไม่มีเสียงเคลื่อนไหวของลำไส้
กระสับกระส่ายอึดอัด ไม่สบายเนื้อ สบายตัว
แน่นท้อง ท้องอืด ปวดเบ่งอุจจาระ
ตรวจพบมีกากอาหารค้างอยู่ในระบบทางเดินอาหาร
คำถามรูท่อปัสสาวะอยู่ต่ำกว่าปกติ
การรักษา hypospadias โดยการผ่าตัดควรทำเมื่อใด เพราะเหตุใด
ควรทำในเด็กอายุ 6-12 เดือน ไม่ควรเกินอายุ2ปี เพราะเด็กจะเริ่มเรียนรู้เรื่องเพศ หากไม่ได้รับการแก้ไขอาจจะมีผลต่อพัฒนาการด้านจิตใจ
ภาวะแทรกซ้อนหลังการผ่าตัดมีอะไรบ้าง
องคชาตยังโค้งงอ แก้ไขได้ด้วยการผ่าตัด
มีรูตรงบริเวณรอยต่อระหว่างรูเปิดท่อปัสสาวะเก่ากับท่อปัสสาวะที่สร้างใหม่
เกิดการตีบตันของรูเปิดท่อปัสสาวะ/ท่อปัสสาวะบริเวณแผลเย็บที่สร้างท่อปัสสาวะใหม่
เกิดการติดเชื้อ
มีเลือดออก
คำแนะนำในการดูแลหลังผ่าตัดเมื่อกลับไปอยู่บ้าน ทำอย่างไร
กระตุ้นให้เด็กดื่มน้ำมาก ๆ ทุกวัน
ห้ามเด็กเล่นทราย ขี่จักรยาน นั่งคร่อม ว่ายน้ำ เล่นกิจกรรมรุนแรง เพราะอาจทำให้เกิดการติดเชื้อและการเลื่อนหลุดของสายท่อปัสสาวะได้
ดูแลแผลผ่าตัดไม่ให้เปียก ห้ามอาบน้าในอ่าง สวมเสื้อผ้าหลวม ๆ
ดูแลความสะอาดองคชาตที่คาสายสวนปัสสาวะไว้ โดยใช้น้ำยาฆ่าเชื้อทำความสะอาดปลายองคชาตวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น
ดูแลให้ถุงปัสสาวะอยู่ต่ำกว่ากระเพาะปัสสาวะ และเป็นระบบปิดเสมอ
ทำความสะอาดให้เด็กภายหลังการถ่ายอุจจาระทุกครั้ง เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
หลังเอาสายสวนปัสสาวะออก
ให้สังเกตปริมาณปัสสาวะ ลักษณะการถ่าย
ปัสสาวะเป็นลำพุ่งดีหรือไม่ ปัสสาวะปกติเป็นสีขาวอ่อน ๆ
สังเกตว่าการถ่ายปัสสาวะออกลำบากหรือไม่ เพราะอาจจะมีการตีบต้นของท่อปัสสาวะ ให้กลับมาตรวจทันที
นางสาวปุณยาพร เงาฉาย เลขที่75 รุ่นที่36/1
รหัสนักศึกษา612001076