Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลผู้ป่วยโรคจิตเภท (Nursing Care for Person with Schizophrenia) -…
การพยาบาลผู้ป่วยโรคจิตเภท (Nursing Care for Person with Schizophrenia)
อาการหลงผิด (Delusion)
1.1 Persecutory delusions
เป็นลักษณะที่พบบ่อยที่สุด โดยหมายถึงลักษณะของอาการหลงผิด
ที่เชื่อว่าตนเองนั้นจะโดนปองร้าย ทำให้อับอาย หรือกลั่นแกล้งจากบุคคลอื่น ๆ
1.2 Referential delusions
หมายถึง อาการหลงผิดที่เชื่อว่า ท่าทาง คำพูดของบุคคลอื่น หรือ
สภาพแวดล้อมต่าง ๆ นั้นมีความหมายสื่อถึงตนเอง
1.3 Grandiose delusions หมายถึง อาการหลงผิดที่เชื่อว่าตนเองมีความสามารถเหนือกว่าผู้อื่น
อย่างมาก หรือเป็นคนสำคัญและมีชื่อเสียงอย่างมาก
1.4 Erotomanic delusions หมายถึง อาการหลงผิดที่เชื่อว่ามีผู้อื่นมาหลงรักตนเอง
1.5 Nihilistic delusions หมายถึง อาการหลงผิดที่เชื่อว่ามีสิ่งเลวร้ายหรือหายนะนั้นได้เกิดขึ้น กับ
ตัวเอง หรือจะต้องเกิดขึ้นกับตัวเอง
1.6 Jealousy delusions หมายถึง อาการหลงผิดที่เชื่อว่าคู่ครองนอกใจ
1.7 Somatic delusions หมายถึง อาการหลงผิดที่มีเนื้อหาเจาะจงกับอาการทางร่างกายหรือ
อวัยวะใดๆ
1.8 Thought withdrawal หมายถึง อาการหลงผิดที่เชื่อว่าความคิดของตนเองนั้นถูกทำให้หายไป
โดยพลังอำนาจบางอย่าง เช่น อำนาจสวรรค์ดูดความคิดให้หายไป
1.9 Thought insertion หมายถึง อาการหลงผิดที่เชื่อว่ามีพลังอำนาจบางอย่างใส่ความคิดที่ไม่ใช่
ของตนเองเข้ามา เช่น มนุษย์ต่างดาวใส่ความคิดเข้ามาให้กระพริบตา
1.10 Thought Controlled หมายถึง อาการหลงผิดที่เชื่อว่าพลังอำนาจบางอย่างควบคุม
ความคิด และบงการให้ตนเคลื่อนไหวหรือคิดตามนั้น
อาการประสาทหลอน (Hallucination)
หมายถึง ระบบประสาทใดๆที่เกิดขึ้นโดยไม่มีสิ่งเร้า(external Stimuli)มีอาการหลอนไม่สามารถควบคุมอาการหลอนนั้นได้
อาการหลอนสามารถเกิดได้กับทุกระบบประสาทสัมผัส แต่ในกลุ่มโรคจิตเภทนั้นจะพบอาการหลอนเป็นหูแว่ว (auditory hallucination) ได้บ่อยที่สุด
โดยหูแว่วมักมีลักษณะเป็นคำพูด (voice) ของบุคคลอื่น (third person) คำพูดในหูแว่วอาจมีเนื้อหาด่าทอ (voice Cursing) ข่มขู่ (voice threatening) สั่งหรือบงการ (voice commanding) พูดคุยกันเอง (voice discussing)หรือพูดพาดพิงโดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับผู้ป่วย (voice commenting)
Cursing) ข่มขู่ (voice threatening) สั่งหรือบงการ (voice commanding) พูดคุยกันเอง (voice discussing)
หรือพูดพาดพิงโดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับผู้ป่วย (voice commenting)
รับรู้ว่ผิดปกติของประสาททั้ง5 คือ หู ตา กลิ่น รส
ดังนี้
2.1 ประสาทหลอนทางหู (auditory hallucination)
2.2 ประสาทหลอนทางการสัมผัส (tactile hallucination)
2.3 ประสาทหลอนทางลิ้น(gustatory hallucination)
2.4 ประสาทหลอนทางตา (visual hallucination)
2.5 ประสาทหลอนทางจมูก (olfactory hallucination)
กระบวนความคิดเเละภาษายุ่งเหยิงไม่เป็นระเบียบ(Disorganized thinking/speech)
ผู้ตรวจจะสังเกตได้จากคำพูด (speech) ระหว่างการสัมภาษณ์ เช่น ผู้ป่วยตอบไม่ตรงค าถาม (irrelevant) หรือ มีการพูดเปลี่ยนเรื่องไปเรื่อย (loose association)ตลอดการสัมภาษณ์เป็นต้น
หากความยุ่งเหยิงเเละไม่เป็นระเบียบกระบวนความคิดนั้นรุนเเรงมากอาจทำให้ผู้ป่วยไม่รู้เรื่อง(incoherent)
ใช้คำที่มีความหมายแต่ไม่เกี่ยวข้องกันมาเรียงประโยค (word salad)
พฤติกรรมการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติหรือยุ่งเหยิงไม่เป็นระเบียบ (Grossly disorganized or
abnormal motor behavior)
อาการสามารถแสดงออกได้ในหลายรูปแบบ อาจจะเป็นพฤติกรรมที่เอาแต่ใจเหมือนเด็กซึ่งไม่เหมาะสมกับอายุอย่างมาก หรืออาจแสดงออกเป็นพฤติกรรมกระวนกระวายบางครั้งออกเป็นพฤติกรรม catatonia
อาการด้านลบ (Negative symptoms)
เป็นอาการที่พบได้บ่อยในโรคจิตเภท แต่จะพบไม่บ่อยในโรคจิตชนิดอื่นๆโดยอาการด้านลบที่
พบได้บ่อย
การเเสดงอารมย์ที่ลดลงง (Decreased emotional expression)ซึ่งสังเกตจากการแสดงออกทางสีหน้าสำเนียงขึ้นลงของเสียง
เเรงกระตุ้นที่ลดลง (Avolition/Amotivation)
ปริมาณการพูดที่ลดลง (Alogia)
การมีความสุขจากกิจกรรมต่าง ๆ ที่เคยชอบหรือสนใจลดลง (Anhedonia)
การเข้าสังคมที่ลดลง (Asociality)
ระบาดวิทยา
ร้อยละ 0.5-1.2 ของ ประชากรทั้งหมด
เพศชายมักจะมีอาการเริ่มต้นเร็วกว่าเพศหญิง โดยเพศชายจะมีอายุเฉลี่ยที่เริ่มมีอาการคือ 18 ปี
เพศหญิงจะมีอายุเฉลี่ยที่เริ่มมีอาการคือ 25 ปี
ผปู้่วยโรคจิตส่วนมาก (ประมาณร้อยละ 80) จะเริ่มมีอาการหลังจากอายุ 10 ปีและก่อนอาย 45 ปี
ดังนั้นหากผู้ป่วยมีอาการโรคจิตซึ่งเข้าเกณฑ์ของโรคจิตเภทครั้งแรกหลังจากที่อายุมากกว่า 45-50 ปี แพทย์ ควรวนิิจฉัยแยก ออกจากสาเหตุทางกายอื่น ๆ เช่น โรคของประสาทพทุธิปัญญา (neurocognitive disorders) เป็นต้น
ส่วนใหญ่มักจะพบในเพศชายที่มักจะแสดงอาการเริ่มเร็วกว่าเพศหญิง ส าหรับอาการแสดงเริ่มต้นของโรคจิตเภทส่วนมากมกัจะแสดง อาการก่อนอาย ุ45 ปี (National Institute of Mental Health, 2014)
สาเหตุ
ความผิดปกติระดับโครงสร้างของสมอง
ความผิดปกติระดับจุลภาคและระดับการทำงานของสารสื่อประสาท
ปัจจยัทางพนัธุกรรมกม็ีส่วนในการทำให้เกิดโรค
ปัจจัยที่เกิดขึ้นระหว่างต้ังครรภ์ (perinatal factors)
ปัจจยักระตุ้น (ความสัมพนัธ์ในครอบครัวไม่ดี เช่น ความสัมพนัธ์ในรูปแบบพูดอย่างแต่ให้ทา อย่าง (double-bind) และความสัมพนัธ์ทใ่ีช้อารมณ์รุนแรง (expressed emotion)