Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่ 6 การพยาบาลผู้คลอดที่มีความผิดปกติเกี่ยวกับปัจจัยการคลอด,…
บทที่ 6 การพยาบาลผู้คลอดที่มีความผิดปกติเกี่ยวกับปัจจัยการคลอด
การคลอดยาก (Dystocia)
การแบ่งลักษณะการคลอดยาก
Prolongation disorder
ความผิดปกติเนื่องจาก Latent phase ยาวนาน
ครรภ์แรกยาวนานกว่า 20 ชัวโมง
ครรภ์หลังยาวนานกว่า 14 ชั่วโมง
Protraction disorder
ความผิดปกติในระยะ active phase
Protracted active phase dilatation
ครรภ์แรกช้ากว่า 1.2 cms,./hr
ครรภ์หลังชา้ กว่า 1.5 cms./hr
Protracted descent
ครรภ์แรกช้ากว่า 1 cms,./hr
ครรภ์หลังช้ากว่า 2 cms./hr
Arrest disorder
Prolonged deceleration phase
ระยะปากมดลูกเปิด 9 cm.-10 cm.
ครรภ์แรกนานกว่า 3 hr.
ครรภ์หลังนานกว่า 1 hr.
Secondary arrest of dilatation
มดลูกไม่เปิดขยายต่อนาน 2 hr.
Arrest of descent
ส่วนนำไม่เคลื่อนต่ำลงมาอีกนานกว่า 1 hr.
Failure of descent
ไม่มีการเคลื่อนต่ำของส่วนนําลงมาเลยในระยะ Deceleration phase
ความหมาย
ลักษณะของการคลอดที่ไม่ได้ดําเนินไปตามปกติ มีความก้าวหน้าของการคลอดล่าช้า
หรือ มีการหยุดชะงักของความก้าวหน้าในการคลอด
สาเหตุ
ความผิดปกติของแรง (abnormality of the powers)
แรงจากการหดรัดตัวของมดลูก
แรงเบ่ง
ความผิดปกติของหนทางคลอด (abnormality of the passage)
กระดูกเชิงการแคบหรือ ผิดสัดส่วน
ความผิดปกติของอวัยวะสืบพันธุ์
ความผิดปกติของทารก (abnormality involving the passenger )
ส่วนนำและท่าผิดปกติ
ทารกมีพัฒนาการผิดปกติ
ภาวะแทรกซ้อน
ต่อผู้คลอด
การติดเชื้อ (infection)
ผู้คลอดเหน็ดเหนื่อย อ่อนนเพลีย หมดแรง
ฝีเย็บบวมและฉีกขาดได้ง่าย
เสี่ยงต่อการเกิดอันตรายจากการทําสูติศาสตร์หตัถการต่างๆ ตกเลือดหลังคลอด
พื้นเชิงกรานยืดขยายเป็นเวลานาน ทําให้มดลูกเคลื่อนตาม
ต่อทารก
ทารกได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ (fetal distress )
ติดเชื้อ (infection)
อันตรายจากการคลอด
ภาวะทางจิตใจของผู้คลอด(Psychologicalfactor)
ประกอบด้วย
การคลอดนั้นเต็มไปด้วยอันตราย อาจถึงตายได้
การคลอดนั้นทําให้เกิดการเจ็บปวดรุนแรง
การรักษา
มารดาที่เจ็บปวดมากควรได้รับยาแก้ปวด
มารดาที่อ่อนนเพลียขาดน้ำควรได้รับสารน้ำอย่างเพียงพอ
มารดาที่มดลูกหดรัดตัวไม่ดีควรได้รับยากระตุ้นการหดรัดตัวของมดลูก
อันตรายต่อมารดาและทารก
ทําให้เกิดการคลอดยาวนาน
ทําให้การหดรัดตัวของมดลูกไม่ดี
สาเหตุ
มีประสบการณ์ทีไม่ดีในการคลอดที่ผ่านมา
การรับรู้ต่อปัญหาของตนเองไม่ถูกต้อง
รูปแบบการเผชิญปัญหาไม่เหมาะสม
ความผิดปกติของทารก (abnormality involving the passenger )
ท่าและส่วนนำผิดปกติ
สาเหตุ
ศีรษะทารกอยู่ในทรงเงย (deflexion attitude)
ผนังหน้าท้องของผู้คลอดหย่อนมดลูกและทารกเอนมาด้านหน้า
ศีรษะทารกไม่กระชับกับพื้นเชิงกราน
มดลูกหดรัดตัวไม่ดีหรือแรงเบ่งน้อย
มีสิ่งขัดขวางการหมุนของศีรษะทารก
เชิงกรานรูปหัวใจ (android) หรือ รูปไข่ตั้ง (anthropoid)
การดำเนินการคลอดท่า ROP
ท้ายทอยหมุนไปข้างหน้า 135 องศา
ท้ายทอยหมุนไปข้างหน้า 45 องศา
ท้ายทอยหมุนไปข้างหลัง 45 องศา
กรณีไม่สามารถหมุนได้
การใช้มืออหมุนศีรษะทารก
การใช้เครื่องดูดสุญญากาศช่วยคลอด
การใช้คีมคีลแลนด์ (Kieland forceps)
การผ่าตัดเอาทารกออกทางหน้าท้อง
ท่าท้ายทอยคงอยู่หลัง OPP
สาเหตุ
มีสิ่งกีดขวางการหมุนของท้ายทอยไปข้างหน้า
เชิงกรานรูปหัวใจและรูปไข่ตั้ง
ศีรษะทารกเล็กหรือใหญ่กว่าปกติ
พื้นเชิงกรานหย่อนผิดปกติ
การดำเนินการคลอด
ศีรษะทารกอยู่ในทรงคว่ำเต็มที (full flexion of head)
ศีรษะทารกอยู่ในทรงเงยเล็กน้อย (mild deflexion of the head)
ท่าท้ายทอยคงอยู่ข้าง
สาเหตุ
การหดรัดตัวของมดลูกไม่ดีในระยะหลัง
เส้นผ่าศูนย์กลางขวางแคบกว่าปกติใน android pelvis
อันตรายต่อผู้คลอดและทารก
ผู้คลอดมีอาการปวดบริเวณหลังและเอวมาก
ผู้คลอดมีลมเบ่งเกิดขึ้นในระยะที่ปากมดลูกเปิดน้อย
ผนังช่องคลอดด้านหลังและฝีเย็บมีการยืดขยายและฉีกขาดมาก
ทารกมีโอกาสขาดออกซิเจนจากการคลอดยาวนาน
ปากมดลูกบวมช้ำและอาจฉีกขาดได้
การรักษา
ติดตามความก้าวหน้าของการคลอดและติดตามอาการของผู้คลอดและทารกในครรภ์อย่างใกล้ชิด
ถ้าไม่พบเหตุที่ทําให้เป็นอันตรายต่อการคลอดทางช่องคลอดให้เฝ้าดูการเจ็บครรภ์คลอดอย่างใกล้ชิด
ให้สารละลายเด็กซ์โทรส 10% ทางหลอดเลือดดํา
ให้ยาลดอาการเจ็บครรภ์และยาระงับประสาท
ปากมดลูกเปิดช้าถ้าเป็นผลจากการหดรัดตัวของมดลูกไม่ดีต้องให้ออกซิโทซินหยดเข้าทางหลอดเลือดดํา
ถ้าพบเหตุที่ทําให้คลอดทางช่องคลอดไม่ได้ ต้องทําผ่าตัดเอาทารกออกทางหน้าท้อง
7.ถ้าสามารถให้คลอดทางช่องคลอดได้ทำได้ดังนี้
รอคอยให้คลอดเองทางช่องคลอดตามธรรมชาติ
ใช้คีมช่วยคลอดในท่า posterior position
ใช้คีมช่วยหมุนเป็นท่า occiput anterior แล้วทําคลอด
ใช้มือช่วยหมุน (manual rotation) เป็นท่า occiput anterior แล้วใช้คีมช่วยคลอด
ความผิดปกติเกี่ยวกับทรง
การรักษา
ถ้าพบเป็นท่าคางหมุนไปทางด้านหลังและอัดแน่นที่ผนังด้านหลังบริเวณ sacrum แสดงถึงภาวะ CPD ควรผ่าตัดเอาทารกออกทางหน้าท้อง
ถ้าไม่มี CPD มดลูกหดรัดตัวดีคางหมุนไปทางด้านหน้าและความก้าวหน้าของการคลอดดีสามารถให้คลอดทางช่องคลอดได้
อันตราย
ต่อทารก
ทารกที่คลอดในท่าหน้าใบหน้าจะบวมช้ำ โดยเฉพาะบริเวณปาก
จะพบสายสะดือพลัดต่ำ
ต่อผู้คลอด
การหมุนภายในจะช้ากว่าปกติ
ฝีเย็บจะขาดมากกว่าปกติ
เนื่องจากใบหน้าของทารกไม่กลมเรียบจึงไม่กระชับส่วนล่างของมดลูกการหดรัด
ท่าหน้า (Face presentation )
สาเหตุ
มีความผิดปกติของทารกในครรภ์
แกนของมดลูกผิดปกติเช่น หมุนไปทางขวามาก
ทารกไม่มีกะโหลก
หญิงที่เคยคลอดบุตรมาหลายครั้งและมีการหย่อนยานของผนังหน้าท้อง
ทารกตัวใหญ่
กระดูกเชิงกรานแคบพบบ่อยที่สุด
ท่าหน้าผาก(Browpresentation)
การรักษา
ถ้าศีรษะทารกเล็กและเชิงกรานใหญ่อาจทดลองปรับศีรษะทารก
ถ้าทารกมีขนาดปกติหรือใหญ่กว่าปกติให้ผ่าตัดเอาทารกออกทางหน้าท้องไม่ควรให้ตคลอดทางช่องคลอด
อันตรายต่อผู้คลอดและทารก
มดลูกแตกได้
เกิดการคลอดติดขัด
ทารกเสียชีวิต จากการขาดออกซิเจน
สาเหตุ
มีเนื้องอกของมดลูกส่วนล่าง
มีความผิดปกติของศีรษะทารก
สายสะดือพันคอทารก
รกเกาะต่ำ
เชิงกรานผู้คลอดเล็กกว่าขนาดศีรษะทารก
ความผิดปกติเกี่ยวกับส่วนนำ
การรักษา
ในรายที่ผู้คลอดไม่ได้รับการดูแลมาก่อนปล่อยจนทารกลงมาอัดแน่นในช่องเชิงกรานทําผ่าตัดเอาทารกออกทางหน้า
ในระยะคลอดถ้าถุงน้ำยังไม่แตกอาจหมุนกลับทารกให้อยู่ในท่าศีรษะแล้วเจาะถุงน้ำคร่ำ
ในระยะตั้งครรภ์ถ้าตรวจพบท่าขวางเมื่ออายุครรภ์ 32-36 สัปดาห์แพทย์จะทําการหมุนกลับท่าทารกภายนอก
อันตราย
ต่อทารก
ทารกตายในครรภ์
ต่อผู้คลอด
ถ้าต้องผ่าตัดเอาทารกออกทางหน้าท้องเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนจากการทําผ่าตัด
มดลูกแตก
ติดเชื้อ
สาเหตุ
คลอดก่อนกำหนด
เชิงกรานแคบ
มดลูกผิดปกติ
รกเกาะต่ำ
พบในผู้คลอดครรภ์หลังได้บ่อยกว่าครรภ์แรก
ประกอบด้วย
ท่าขวาง (Shoulder Presentation Acronion หรอื Presentation)
ทารกท่าก้น (Breech Presentation)
ความผิดปกติของหนทางคลอด (abnormality of the passage)
แบ่งออกเป็น 2 ชนิด
ความผิดปกติเนื่องจากกระดูกเชิงกรานแคบหรือ ผิดสัดส่วน
ความผิดปกติของอวัยวะสืบพันธ์ุ
จำแนกได้ 3ชนิด
เชิงกรานแคบที่ช่องเข้า (inlet contraction)
เส้นผ่าศูนย์กลางขวางน้อยกว่า 12 ซม
เส้นผ่าศูนยก์ ลางหน้าหลังน้อยกว่า 10 ชม.
เชิงกรานแคบที่ช่องงกลาง (midpelvic contraction)
ระยะระหว่าง ischial spine ทั้งสองข้างน้อยกว่า 9.5 ซม .
เชิงกรานแคบที่ช่องออก (outlet contraction)
ระยะระหว่าง ischial tuberosity น้อยกว่า 8 ซม .
pubic arch แคบกว่า ปกติ
กระดูกเชิงกรานแคบ
สาเหตุ
การเจริญเติบโตผิดปกติซึ่งอาจเกิดจากได้รับอาหารไม่เพียงพอ
ฮอร์โมนเพศหญิงไม่สมบูรณ์ทําใหัลักษณะของเชิงกรานไม่เป็นไปตามปกติ
กระดูกเชิงกรานแตกหรือร้าวจากอุบัติเหตุ
โรคกระดูกเช่น โรคกระดูกอ่อน (ricket) วัณโรคที่กระดูกเชิงกราน
ความพิการจากกระดูกสันหลังหรือขามาแต่ในวัยเด็ก
เชิงกรานเจริญไม่เต็มที
ต่อผู้คลอด
เกิดการคลอดยาวนานและคลอดยากจากความผิดปกติในการเปิดขยายของปากมดลูก
ถุงน้ำทูนหัวแตกก่อนเวลา
ทําให้เกิดมดลูกแตกได้
เกิดการตายของเนื้อเยื่อ (necrosis of maternal tissue)
การช่วยคลอดโดยใช้คีมหรือเครื่องดูดสุญญากาศทําได้ยาก
ต่อทารก
เกิดสายสะดือย้อยได้ง่าย
เลือดออกในกะโหลกศีรษะเนื่องจากกระดูกศีรษะมีการเกยกันมาก
เกิดอันตรายกับศีรษะทารกและระบบประสาทส่วนกลาง
เกิดการติดเชื้อ
ทําให้กะโหลกศีรษะทารกผิดรูปหรือแตกหักจากการถูกกด
การรักษา
1.การพิจารณาให้ยาระงับปวดหรือยาระงับความรู้สึกควรให้ในเวลาที่เหมาะสม
ไม่ควรใช้ Oxytocin หรือ ระมัดระวังในการใช้อย่างมาก
ถ้าการแคบอยู่ในระดับที่ไม่มากนักการช่วยคลอดด้วยเครื่องดูดสุญญากาศจะปลอดภัยกว่าการช่วยคลอดด้วยคีม
ผ่าตัดเอาทารกออกทางหน้าท้องเมื่อมีปัจจัยอื่นที่ไม่ดีร่วมด้วย
การไม่ได้สัดส่วนของศีรษะทารกกับช่องเชิงกราน (CPD)
การประเมินภาวะ CPD
ประวัติ เช่น เคยได้รับอุบัติเหตุที่กระดูกเชิงกราน
ในรายที่สงสัยว่าเกิดภาวะ CPD ควรส่งพบแพทย์เพื่อตรวจทางหน้าท้องตรวจภายในหรือ ถ่าย x ray หรือ ตรวจด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง
ผู้คลอดเตรียมกว่า 140 เซนติเมตรหรือ เดินผิดปกติ
อันตรายต่อผู้คลอดและทารก
จากการคลอดยาวนานทําให้ผู้คลอดอ่อนเพลีย เกิดภาวะขาดน้ำและภาวะคีโตซิส เกิดการติดเชื้อ
ถุงนาทูนหัวแตกก่อนเวลาทําให้ทำรกเกิดการติดเชื้อหรือ มีสายสะดือย้อยได้
การคลอดติดขัด: มดลูกมีลักษณะใกล้แตกถ้าไม่ได้รับการดูแลรักษามดลูกแตกได้
การรักษา
ถ้าเกิด CPD ชัดเจนผ่าตัดเอาทารกออกทางหน้าท้อง
สงสัยมี CPD (Borderline disproportion) ทดลองคลอด (Trial of labour)
ข้อห้ามของการทดลองคลอด
ทารกอยู่ในท่าหรือทรงผิดปกติเช่น ท่าก้นท่าหน้าหรือท่าหน้าผาก
เคยผ่าตัดที่มดลูก
ผู้คลอดครรภ์แรกและอายุมาก
มีโรคร่วมกับการตั้งครรภ์ เช่น โรคหัวใจเบาหวานความดันโลหติ สูงจากการตั้งครรภ์
ผู้คลอดมีประวัติมีบุตรยากคลอดยากและทารกตายคลอด
เชิงกรานช่องออกแคบกว่าปกติและทารกครบกําหนด
ความผิดปกติของอวัยวะสืบพันธุ์
ความผิดปกติของปากช่องคลอด
1.ปากช่องคลอดตีบแคบ
2.การแข็งตึงของฝีเย็บ (rigid perineum)
3.การอักเสบหรือเนื้องอก
ความผิดปกติของช่องคลอด
1.ช่องคลอดตีบ
2.เนื้อกันในช่องคลอดกันตลอดแนว
3.เนื้องอก
ความผิดปกติของปากมดลูก
1.ปากมดลูกตีบ
2.ปากมดลูกแข็ง
3.มะเร็งปากมดลูก
ความผิดปกติของมดลูก
1.มดลูกคว่ำหน้า (anteflexion)
2.มดลูกคว่ำหลัง (retroflexion)
3.มดลูกหย่อนขณะตั้งครรภ์
4.เนื้องอกมดลูก
ความผิดปกติของรังไข่
เนื้องอกรังไข่
ความผิดปกติของแรง (abnormality of the powers)
ความหมาย
แรงที่เกิดจากการหดรัดตัวของกล้าม เนื้อมดลูกและแรงเบ่งของผู้คลออด
การจำแนกความผิดปกติของแรง
การหดรัดตัวของมดลูกมากกว่าปกติ (Hypertonic uterinedysfunction)
การหดรัด ตัวของมดลูกมากกว่าปกติ (Hypertonic uterinedysfunction)
สาเหตุ
ร้อยละ 50 ไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริง
ขนาดของทารกและช่องเชิงกรานของผู้คลอดไม่ได้สัดส่วน
ส่วนนําของทารกผิดปกติ (Malpresentation) หรอื อยู่ในท่าผิดปกติ (Malposition)
ได้รับยากระตุ้นการหดรัดตัวของมดลูกไม่ถูกวิธี
อันตราย
ต่อผู้คลอด
ร่างกายอ่อนเพลียเกิดภาวะขาดน้ำ
เกิดการติดเชื้อในถุงน้ำคร่ำ เนื่องจากถุงน้ำคร่ำแตกก่อนคลอดเป็นเวลานาน
มดลูกแตกทําให้เสียเลือดมากและอาจเสียชีวิตได้
เกิดการตกเลือดหลังคลอด
เจ็บปวดมากเนื่องจากเซลล์กล้ามเนื้อของมดลูกขาดออกซิเจน
ต่อทารก
เกิดภาวะขาดออกซิเจน (Fetal distress)
เกิดการติดเชื้อถ้าถุงน้ำคร่ำแตกนานเกิน 24 ชั่วโมง
ศีรษะทารกถูกกดนานอาจมีเลือดออกที่ใต้เยื่อบุกะโหลกศีรษะ
การรักษา
ให้ยานอนหลับและยาระงับปวด
ถ้ามีภาวะ fetal distress ต้องรีบผ่าตัดคลอดทางหน้าท้อง
การหดรัดตัวของมดลูกน้อยกว่าปกติ(Hypotonic uterinedysfunction)
สาเหตุ
ร้อยละ 50 ไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริง
การได้รับยาแก้ปวดหรือยาระงับความรู้สึกมากเกินไปหรือได้รับก่อนเวลาอันควร
มดลูกมีการยืดขยายมากกว่าปกติในรายตังครรภ์แฝดหรือแฝดน้ำ
มีความผิดปกติของมดลูกเช่น double uterus, myoma uteri
ขาดการกระตุ้นที่ปากมดลูกพบได้ในรายที่มีส่วนนําไม่กระชับกับปากมดลูกหรือพื้นเชิงกราน
กระเพาะปัสสาวะหรือ อุจจาระเต็ม
ผู้คลอดที่ผ่านการคลอดมาหลายครั้ง:
อันตราย
ต่อผู้คลอด
ผู้คลอดเหน็ดเหนื่อยอ่อนเพลียหมดแรง
การตายของผู้คลอดส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการเจ็บครรภ์คลอดยาวนาน
ต่อทารก
โดยปกติการหดรัดตัวของมดลูกที่น้อยกว่าปกติไม่มีผลทําให้ทารกขาดออกซิเจน
ติดเชื้อเมื่อผู้คลอดติดเชื้อโดยเฉพาะการอักเสบของเยื่อหุ้มทารก (chorioamnionitis)
การรักษา
การให้สารนาที่เพียงพอเพื่อแก้ไขภาวะขาดน้ำของผู้คลอด
ให้ยาระงับปวดในขนาดที่เพียงพอและเหมาะสม
ประเมินและตรวจให้แน่ชัดว่าไม่มีการผิดสัดส่วนระหว่างขนาดของทารกและช่องเชิงกราน
ตรวจดูว่ามีปสสาวะคั่งค้างในกระเพาะปัสสาวะจนเต็มหรือไม่
ให้การประคับประคองจิตใจให้กำลังใจ
ถ้าถุงน้ำคร่ำไม่แตกหรือควรเจาะถุงน้ำคร่ำ
ความผิดปกติแรงเบ่ง
สาเหตุ
การที่ผู้คลอดได้รับยาแก้ปวดในปริมาณมาก
ความอ่อนเพลียหรือการเจ็บครรภ์คลอดยาวนาน
เหนื่อยล้าจากการได้รับน้ำไม่เพียงพอได้รับอาหารไม่เพียงพอ
อันตราย
ต่อผู้คลอด
ทําให้ไม่สามารถคลอดได้เองทางช่องคลอด
ต้องใช้วิธีทางสูติศาสตร์หัถถการ
ต่อทารก
ทารกขาดออกซิเจนเนื่องจากใช้เวลาเบ่งยาวนาน
การรักษา
การเลือกใช้ชนิดของยาชาและเวลาที่จะใช้อย่างเหมาะสม
เครื่องมือสภาพการต่างๆเหมาะสมอาจใช้สูติศาสตร์หัตถการช่วยคลอดเช่นคลอดด้วยคีมเครื่องดูดสุญญากาศหรือผ่าท้องทําคลอด
สอนวิธีการเบ่งที่ถูกต้อง
นางสาวธิดารัตน์ ภูพานทอง รหัส 602701034