Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่6Dystocia - Coggle Diagram
บทที่6Dystocia
สาเหตุ
แรง(Power)
ชนิด
-
- การหดรัดตัวของมดลูกน้อยกว่าปกติ( Hypotonic uterine dysfunction)
สาเหตุ
- ผู้คลอดที่ผ่านการคลอดมาหลายครั้ง
- กระเพาะปัสสาวะหรืออุจจาระเต็ม
- ขาดการกระตุ้น ที่ปากมดลูก พบได้ในรายที่มีส่วนนำไม่กระชับกับปากมดลูก หรือพื้นเชิงกราน
- มีความผิดปกติของมดลูก เช่น double uterus, myoma uteri
- มดลูกมีการยืดขยายมากกว่าปกติในรายตั้งครรภแ์ฝด หรือแฝดน้ำ
- การได้รับบยาแก้ปวดหรือยาระงับความรู้สึกมากเกินไป หรือได้รับก่อนเวลาอันควร
- ร้อยละ 50 ไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริง
อันตราย
ต่อผู้คลอด
-
- การตายของผู้คลอด ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการเจ็บครรภ์คลอดยาวนาน ทำให้เกิดการเสียเลือดเนื่องจากการหดรัดตัวของมดลูกไม่ดีการติดเชื้อและอันตรายที่ได้รับจากการทำสูติศาสตร์หัตถการ
ต่อทารก
1.โดยปกติการหดรัดตัวของมดลูกที่น้อยกว่าปกติ ไม่มีผลทำให้ทารกขาดออกซิเจน นอกจากมีการคลอดยาวนาน และผู้คลอดอยู่ในสภาพคับขัน จึงจะส่งผลให้ทารกได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ (fetal distress)
- ติดเชื้อเมื่อผู้คลอดติดเชื้อโดยเฉพาะการอักเสบของเยื่อหุ้มทารก( chorioamnionitis) ซึ่งเป็นผลจากการคลอดยาวนาน
การรักษา
-
-
-
5.ประเมินและตรวจให้แน่ชัดว่าไม่มีการผิดสัดส่วนระหว่างขนาดของทารกและช่องเชิงกราน มิฉะนั้นอาจเกิดอันตราย เช่น มดลูกแตกได้ถ้าผู้คลอได้ oxytocin เพื่อกระตุ้นการหดรัดตัวของมดลูก
-
-
อันตราย
ต่อผู้คลอด
ทำให้ไม่สามารถคลอดได้เองทางช่องคลอดตามธรรมชาติ ต้องใช้วิธีทางสูติศาสตร์หัตถการ ทำให้เกิดอันตรายจากการทำสูติศาสตร์หัตถการ
-
การรักษา
1.เนื่องงจากสาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการใช้ยาระงับหรือยาชามากเกินไปเพื่อลดความเจ็บปวด ดังนั้นการเลือกใช้ชนิดของยาชาและเวลาที่ใช้อย่างเหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญ
2.เมื่อสภาพการต่างๆเหมาะสมอาจใช้สูติศาสตร์หัตถการช่วยคลอด เช่น คลอดด้วยคีม เครื่องดูด สุญญากาศ หรือผ่าท้องทำคลอด
3.สอนวิธีการเบ่งที่ถูกต้อง คือ เมื่อมีการหดรัดตัวของมดลูกและปากมดลูกเปิดหมดแล้ว ให้ผู้คลอดสูดหายใจเข้าเต็มที่ลึกๆปิ ดช่องสายเสียง(glottis)และเกร็งกล้ามเนื้อหน้าท้องอย่างแรง ทำซ้ำเช่นนี้เพื่อให้มีความดันในช่องท้องเพิ่มขึ้น ตลอดเลาที่มดลูกหดรัดตัว
-
Passenger
- ความผิดปกติเนื่องจากกระดูกเชิงกรานแคบหรือผิดสัดส่วน(pelvic contraction)
เชิงกรานในระดับช่องเข้า ช่องกลาง หรือช่องออก มีเส้นผ่าศูนย์กลางแคบที่ส่วนใดส่วนหนึ่งหรือหลายส่วน โดยมีขนาดสั้นกว่าเกณฑ์ปกติ 1 cm หรือมากกว่า ทำให้ทารกที่มีขนาดปกติคลอดยาก หรือคลอดไม่ได้
-
สาเหตุของเชิงกรานแคบ
1.การเจริญเติบโตผิดปกติ ซึ่งอาจเกิดจากได้รับอาหารไม่เพียงพอท าให้เชิงกรานมีรูปร่างปกติ (gynaecoid) แต่มีขนาดเล็ก หรือเชิงกรานผิดปกติไปเป็ นชนิดรูปหัวใจ (android) รูปไข่ตั้ง(anthropoid) หรือ เชิงกรานรูปไต (platypelloid) หรือมีการเจริญเติบโตของกระดูก sacrum ผิดปกติ
-
-
-
-
-
อันตราย
ต่อผู้คลอด
1.เกิดการคลอดยาวนานและคลอดยากจากความผิดปกติในการเปิดขยายของปากมดลูก เนื่องจากศีรษะทารกไม่สามารถengageได้
-
3.ในรายที่มดลูกหดรัดตัวดี แต่ส่วนของหัวเด็กไม่สามารถเคลื่อนลงสู่ช่องเชิงกรานได้ จะทำให้กลา้มเน้ือมดลูกส่วนล่าง(lower uterine segment) บางลงเรื่อยๆทำให้เกิดลักษณะการหดรัดตัวชนิดวงแหวน(pathological retraction ring) ถ้าไม่ได้รับการช่วยเหลือก็อาจท าให้เกิดมดลูกแตกได้
4.เกิดการตายของเน้ือเยื่อ(necrosis of maternal tissue) บริเวณที่ศีรษะทารกกดอยู่นานและทำให้เกิดการทะลุจากช่องคลอดไปยังอวัยวะข้างเคียง
-
-
การรักษา
1.เนื่องจากมักพบว่ามีการหดรัดตัวของมดลูกไม่แรงพอร่วมด้วยบ่อยให้ปวดหรือยาระงับความรู้สึกควรให้ในเวลาที่เหมาะสม
- ไม่ควรใช้ oxytocin หรือระมัดระวังในการใช้อย่างมาก เพราะอาจทำให้มดลูกแตกได้
- ถ้าการแคบอยู่ในระดับที่ไม่มากนัก การช่วยคลอดด้วยเครื่องดูดสุญญากาศจะปลอดภัยกว่าการช่วยคลอดด้วยคีม
-
- ความผิดปกติของอวัยวะสืบพันธุ์( abnormality of reproductive tract)
-
ความผิดปกติของช่องคลอด
-
-
3.เนื้องอกเช่น Gartner’s duct cyst,fibroma
-
-
ความผิดปกติของรังไข่
เนื้องอกรังไข่อาจทำใหเ้กิดการคลอดติดขัดได้ถ้าก้อนเนื้องอกนั้นลงมาอยู่ในอุ้งเชิงกราน การรักษา
ทำ โดยการผ่าตัดคลอดทางหน้าท้องร่วมกับการตัดเนื้องอกรังไข่ออกไปพร้อมกัน
-
Psychological
เนื่องมาจากสภาวะจิตใจที่มีความหวาดกลัว วิตกกังวลต่อการคลอด ซึ่งเป็นผลมาจากประสบการณ์ที่ผ่านมาจากการได้รับรู้ในการอ่าน ฟัง หรือพบเห็นเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ละการคลอด
-
-
-